One2car.com
แอปพลิเคชัน One2Car
ทำนายราคารถของคุณ
4.5
21,133

รีวิว Tesla Model 3 มือสอง ดีไหม เลือกรุ่นไหนดี

เรื่องเด่น

รีวิว Tesla Model 3 มือสอง ดีไหม เลือกรุ่นไหนดี

รถยนต์ไฟฟ้าที่ดีที่สุดอย่าง Tesla Model 3 ที่หลายๆ คนใฝ่ฝันอยากจะครอบครอง ขับดีอย่างที่เขาว่ากันจริงหรือไม่? แล้วรุ่นไหนเหมาะกับการขับขี่แบบไหน? วันนี้มาอ่านกันครับ!


ทำความรู้จักกับ Tesla Model 3

ทำความรู้จักกับ Tesla Model 3

หลายคนที่กำลังทำความรู้จักรถยนต์ไฟฟ้า 100% ก็คงจะรู้จัก Tesla Model 3 จากค่าย Tesla มาก่อนเป็นแน่ นั่นก็เพราะว่า Tesla เป็นค่ายแรกๆ ที่มีการทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอย่างจริงจังโดยเฉพาะกับรุ่น Model 3 ที่ต้องบอกว่าได้รับความนิยมไปทั่วโลกเลยทีเดียว

โดย Tesla Model 3 จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่มาในบอดี้แบบ Sedan พิกัดของตัวรถอยู่ที่ D-Segment ขนาดประมาณพอๆ กับ BMW Series 3, Mercedes-Benz C-Class, Toyota Camry และ Honda Accord โดยจะมีมิติตัวถังอยู่ที่

  • ยาว 4,694 x กว้าง 1,849 x สูง 1,443 มม.
  • ระยะฐานล้อ 2,875 มม.
  • ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน 0.23 (โคตรลู่ลม!)
  • เป็นรถ Sedan แบบ 5 ที่นั่ง
  • ที่เก็บสัมภาระรวมกันทั้งหน้าและหลัง 424 ลิตร

สมรรถนะและอัตราเร่งของ Tesla Model 3

สมรรถนะและอัตราเร่งของ Tesla Model 3

ด้านสมรรถนะต้องแบ่งออกไปตามรุ่นย่อยของเขา ซึ่งมีทั้งหมด 3 รุ่น คือ Standard Range, Long Range และ Performance

  • Tesla Model 3 Standard Range ใช้มอเตอร์ซิงโครนัส กระแสสลับ 1 มอเตอร์ 283 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร ระยะทางขับขี่สูงสุด/1 การชาร์จ มาตรฐาน NEDC อยู่ที่ 559 กิโลเมตร ระบบขับเคลื่อน RWD ขับเคลื่อนล้อหลัง ทำ 0-100 ในเวลา 6.1 วินาที ความเร็วสูงสุด 225 กม./ชม.

  • Tesla Model 3 Long Range ใช้มอเตอร์ซิงโครนัส กระแสสลับ 2 มอเตอร์ 441 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 493 นิวตันเมตร ระยะทางขับขี่สูงสุด/1 การชาร์จ มาตรฐาน NEDC อยู่ที่ 681 กิโลเมตร ระบบขับเคลื่อน AWD ขับเคลื่อน 4 ล้อ ทำ 0-100 ในเวลา 4.4 วินาที ความเร็วสูงสุด 233 กม./ชม.

  • Tesla Model 3 Performance ใช้มอเตอร์ซิงโครนัส กระแสสลับ 2 มอเตอร์ 562 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 660 นิวตันเมตร ระยะทางขับขี่สูงสุด/1 การชาร์จ มาตรฐาน NEDC อยู่ที่ 608 กิโลเมตร ระบบขับเคลื่อน AWD ขับเคลื่อน 4 ล้อ ทำ 0-100 ใน 3.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 261 กม./ชม.

อ่านเพิ่มเติม : ระบบขับเคลื่อนรถยนต์แบบ FWD RWD AWD และ 4WD คืออะไร แตกต่างกันไหม

ตัวถังและแบตเตอรีของ Tesla Model 3

ตัวถังและแบตเตอรีของ Tesla Model 3

โครงสร้างตัวถังของ Tesla Model 3 เน้นไปที่ความปลอดภัยเป็นหลัก ถูกออกแบบให้ชิ้นส่วนต่างๆ สามารถกระจายแรงกระแทกได้อย่างดี การันตีความปลอดภัยระดับ 5 ดาว จากสถาบันทดสอบความปลอดภัยแทบทุกสำนัก ไม่ว่าจะเป็นมาตรฐานยุโรป หรือมาตรฐานสหรัฐอเมริกา ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความเคี่ยว Tesla Model 3 ก็สอบผ่านระดับ 5 ดาวทั้งหมด

สิ่งที่ขึ้นชื่อของ Tesla นอกจากโครงสร้างตัวถังที่ยอดเยี่ยมแล้วอีกอย่างก็คือแบตเตอรีที่เป็นแบบ Cell to Chassis คือ การออกแบบโดยเอาพื้นของห้องโดยสารออกแล้วใช้แบตเตอรี่เป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างรถแทน โดยออกแบบให้ผสานเข้ากับคานและส่วนอื่นๆ ของห้องโดยสาร

รีวิว Tesla Model 3

ข้อดีของ Cell to Chassis คือทำให้ผลิตได้ง่ายมากขึ้นและทำเวลาผลิตได้เร็วขึ้น เป็นการลดต้นทุนอื่นๆ ทำให้ราคารถออกมาดีขึ้น และตัวถังจะมีความแข็งแรง มั่นคง และ มีความบาลานซ์มากกว่ารถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้รูปแบบอื่นๆ ด้วย แต่ประเด็นคือมันจะทำให้การถอดเปลี่ยนแบตเตอรีนั้นทำได้ยากมากเลยแหละ บางกรณีอยากจะเปลี่ยนแค่แบตแต่ก็อาจต้องเปลี่ยนทั้งตัวถังเลยทีเดียว

ระยะทางที่ Tesla Model 3 วิ่งได้

โดยทั้ง 3 รุ่นจะใช้แบตเตอรีลิเธียมไอออน ระบายความร้อนด้วยน้ำ แรงดันไฟฟ้า 350V เหมือนกัน แต่จะมีพลังงานไฟฟ้าทั้งหมด (kWh), รองรับการชาร์จ AC Type 2 (kW) และ รองรับการชาร์จ DC CCS 2 (kW) ต่างกัน

  • พลังงานไฟฟ้าทั้งหมด (kWh) รุ่น Standard Range 55 kWh รุ่น Long Range 75 kWh และ รุ่น Performance 82 kWh
  • รองรับการชาร์จ AC Type 2 (kW) รุ่น Standard Range 7.6 kW รุ่น Long Range 11.5 kW และรุ่น Performance 11.5 kW
  • รองรับการชาร์จ DC CCS 2 (kW) รุ่น Standard Range 170 kW รุ่น Long Range 250 kW และรุ่น Performance 250 kW

ถ้ามองที่แบตเตอรีและการรองรับการชาร์จก็ค่อนข้างชัดเจนเลยว่าทั้ง 3 รุ่นนี้จะเหมาะกับการขับขี่ที่แตกต่างกัน รุ่นเริ่มต้นขับในเมือง รุ่นกลางขับขี่ต่างจังหวัดใกล้ๆ รุ่นท็อปขับขี่ได้แบบครอบคลุมไปถึงการขับขี่ท่องเที่ยวทางไกล แต่ทั้งนี้แล้วเรื่องช่วงล่างล่ะ? จะเหมาะกับการขับขี่รูปแบบที่เราพูดไว้หรือเปล่า?

อ่านเพิ่มเติม : แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าเสื่อม อาการเป็นยังไง พร้อมวิธียืดอายุการใช้งาน

ช่วงล่างและความรู้สึกในการขับขี่ Tesla Model 3

ช่วงล่างและความรู้สึกในการขับขี่ Tesla Model 3

คำแรกที่จะหลุดออกมาจากปากเลยเมื่อลองขับ Tesla Model 3 “แข็งมาก!” แต่ว่ามันเป็นความรู้สึกที่แข็งแบบกำลังดีนั่งสบาย ไม่ใช่ว่าจะแข็งจนกระแทกเด้งดึ๋งดั๋งอะไรเหมือนรถกระบะ ความรู้สึกที่ได้มันแอบคล้ายกับรถยุโรปอย่าง BMW มากกว่า มีกลิ่นอายความสปอร์ตและความมั่นคง ถ้าเป็นรถญี่ปุ่นความรู้จะคล้ายๆ กับ Mazda แต่ Mazda อาจจะนุ่มกว่าหน่อย

โดยช่วงล่างของ Tesla Model 3 จะใช้ช่วงล่างด้านหน้าแบบ Double Wishbone ช่วงล่างด้านหลังเป็นแบบ Multi-link ใช้พวงมาลัยไฟฟ้าเป็นแบบแปรผัน Speed Sensitive Power Steering ส่วนระบบเบรคเป็นดิสก์เบรคทั้งหน้าและหลังพร้อมครีบระบายความร้อน

ขนาดล้อและยางของแต่ละรุ่นย่อย

  • Standard Range ล้อ 18 นิ้ว ขนาดยาง 235/45 R18
  • Long Range ล้อ 19 นิ้ว ขนาดยาง 235/40 R19
  • Performance ล้อ 20 นิ้ว ขนาดยาง 235/35 R20

ถ้าดูจากช่วงล่างแล้วทุกคนก็อาจจะคิดว่าเออมันต้องนุ่มแน่นแน่ๆ เพราะช่วงล่างแบบนี้ก็อยู่ในรถ Sedan ขนาด D-Segment แทบจะทุกรุ่น แต่ว่าไม่เลยครับ เรื่องความรู้สึกในการขับขี่นั้นขึ้นอยู่กับการปรับแต่งช่วงล่างของค่ายล้วนๆ ซึ่ง Tesla Model 3 จะออกไปในทางคล้ายๆ BMW คือ มีความแข็งๆ แน่นนิดหน่อย

ช่วงล่างและความรู้สึกในการขับขี่ Tesla Model 3

ประเด็นคือ BMW เวลาขับที่ความเร็วสูงจะให้ความรู้สึกที่แน่นเฟิร์ม เอาถนนอยู่ แต่ Tesla Model 3 เมื่อขับที่ความเร็วสูงมากๆ บวกกับถนนเมืองไทยที่พื้นผิวยอดเยี่ยมไปเลยมันกลับให้ความรู้สึกที่แข็งๆ สะเทือนนิดหน่อยอาจเป็นเพราะล้อที่ใหญ่และยางบางด้วยส่วนหนึ่ง แต่ก็กลับมั่นคงเหมือนขับแล้วลอยวาร์ปซึ่งส่วนหนึ่งก็เป็นผลจากตัวถังที่ดีและค่าแรงเสียดทานที่ต่ำ แสดงว่ามันเหมาะกับการขับทุกแบบยกเว้นการซิ่งด้วยความเร็วสูง อันตราย!

ช่วงล่างของแต่ละรุ่นย่อยจะเป็นแบบเดียวกันทั้งหมด สำหรับล็อตที่จำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการซึ่งเป็นการนำเข้าจากประเทศจีนจะมีความรู้สึกเหมือนกับที่เรากล่าวไปทั้งหมด แต่ว่าล็อตที่เป็นเกรมาร์เก็ตหรือที่เราจะพบเจอกันในตลาดมือสองส่วนใหญ่จะเป็นแบบยุโรป จะให้ความรู้สึกต่างกันนิดหน่อย ตรงที่แบบยุโรปจะมีความแน่นความแข็งที่มากกว่า คล้าย BMW มากๆ สายรถยุโรปน่าจะชอบครับ

Tesla Model 3 มือสอง รุ่นไหนดี?

Tesla Model 3 มือสอง รุ่นไหนดี?

ด้วยความที่ว่าช่วงล่างและฟังก์ชั่นภายในนั้นเหมือนกันก็ต้องมาดูที่ระยะทางและขนาดแบตเตอรีเป็นหลัก ส่วนเรื่องออปชันก็แล้วแต่ว่า Tesla Model 3 มือสอง แต่ละคันนั้นผ่านการซื้อออปชันเสริมอะไรมาบ้าง โดยหลักๆ แล้วรุ่นเริ่มต้นก็จะเหมาะกับการขับขี่ในเมืองเป็นหลัก รุ่นกลางก็จะเหมาะกับผู้ที่ขับเดินทางท่องเที่ยวต่างจังหวัดใกล้ๆ และ รุ่นท็อปก็จะเหมาะกับคนที่ชอบเดินทางท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ ใช้ได้แบบครอบคลุม

แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนกังวลใจเกี่ยวกับการซื้อ Tesla มือสอง นั่นก็เป็นเพราะราคาที่สูงกว่ามือ 1 ที่จำหน่ายโดยศูนย์ นั่นก็เป็นเพราะว่าส่วนใหญ่แล้ว Tesla มือสอง รวมถึง Tesla Model 3 มือสอง เป็นล็อตยุโรป หรือพูดง่ายๆ ก็คือล็อตเกรมาร์เก็ตก่อนที่จะมีการนำเข้ามาจัดจำหน่ายไทยอย่างเป็นทางการ

เพราะฉะนั้นแล้วการซื้อ Tesla Model 3 มือสอง ก็จะได้ความรู้สึกในการขับขี่ที่แตกต่างกันออกไปกับมือ 1 จากศูนย์ แน่นอนว่าเรื่องช่วงล่างเองก็จะได้ความแข็งและความเฟิร์มที่มากกว่าแบบที่เราพอจะสัมผัสได้ และเรื่องของความรู้สึกที่เราสามารถพูดได้ว่า Tesla ของเราไม่ใช่ล็อตจากจีนนะ เป็นสเปคยุโรป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็มีข้อเสียอยู่ด้วย

อ่านเพิ่มเติม : 10 ข้อดี-ข้อเสีย รถยนต์ไฟฟ้า อย่าเพิ่งซื้อถ้ายังไม่รู้สิ่งนี้

Tesla Model 3 มือสอง รุ่นไหนดี?

ข้อเสียของการซื้อ Tesla มือสอง คือการที่ระบบบางระบบของ Tesla อาจจะทำงานได้ไม่เต็มที่ เช่น Autopilot อาจจะทำงานได้ 80% ที่หรือไม่ดีเท่าที่ควร หรือ ฟังก์ชันบางอย่างอาจไม่รองรับเมืองใช้งานในประเทศไทย ซึ่งปัญหาแบบนี้ไม่ได้เป็นแค่รถยนต์ไฟฟ้าที่มีการนำเข้าโดยเกรมาร์เก็ต แต่รถยนต์เครื่องสันดาปในอดีตก็เป็นเช่นกัน เช่น วิทยุไม่สามารถรองรับคลื่นความถี่หรือไม่สามารถใช้แผนที่ได้ เป็นต้น

อย่างไรก็ตามการซื้อ Tesla Model 3 มือสอง อาจจะดูเป็นเรื่องที่ทำใจได้ยาก แต่ถ้าใครที่ชอบความรู้สึกในการขับขี่ของช่วงล่างที่ให้ความสปอร์ตเหมือนรถยุโรปชื่อดังอย่างแท้จริงคุณอาจจะชอบเขาก็ได้ และที่สำคัญก็คือ Tesla ในไทยก็เริ่มมีการปรับโฉมแล้ว ถ้าใครที่รู้สึกว่า Model 3 ตัวเก่าแบบล็อตแรกๆ มันสวยกว่า การซื้อแบบมือสองก็เป็นทางเลือกที่ยังโอเคครับ

รายละเอียดอุปกรณ์พื้นฐานของ Tesla Model 3

รายละเอียดอุปกรณ์พื้นฐานของ Tesla Model 3

รุ่นเริ่มต้น Standard Range และ Long Range AWD

  • ไฟหน้าแบบ LED
  • ไฟท้ายแบบ LED
  • ล้อ Aero ขนาด 18 นิ้ว (รุ่น Rear Wheel Drive)
  • ยาง ขนาด 235/45 R18 (รุ่น Rear Wheel Drive)
  • ล้อ Sport ขนาด 19 นิ้ว (รุ่น Long Range AWD)
  • ยาง ขนาด 235/40 R19 (รุ่น Long Range AWD)
  • หลังคากระจก Panoramic Roof แบบเต็มบาน พร้อมฟิล์มป้องกันรังสี UV และรังสีอินฟราเรด
  • หน้าจอกลางระบบสัมผัส Touch Screen ขนาด 15 นิ้ว
  • ระบบแสดงภาพสภาพแวดล้อมการขับขี่แบบ Real-time
  • แท่นชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย 2 ตำแหน่ง
  • ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยวัสดุหนัง Vegan
  • ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมกรองอากาศ HEPA
  • ฟังก์ชั่น Pre-conditioning ทำให้ห้องโดยสารอุ่นขึ้นโดยอัตโนมัติ และเตรียมพร้อมแบตเตอรี่
  • ระบบเสียงแบบ Premium พร้อมลำโพง 13 ตำแหน่ง รวม SubWoofer 1 ตัว และ Amp 2 ตัว
  • ระบบเสียงแบบสมจริง
  • ระบบเล่นเพลงและสื่อผ่าน Bluetooth
  • ช่อง USB-A ในช่องเก็บของ พร้อมอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบพกพาขนาด 128 GB
  • เบาะนั่งคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้า
  • เบาะนั่งคู่หน้าและเบาะนั่งด้านหลัง พร้อมระบบอุ่นเบาะ
  • พวงมาลัยพร้อมระบบอุ่นพวงมาลัย 
  • พรมปูพื้นภายในห้องโดยสาร
  • กระจกมองข้างแบบตัดแสงอัตโนมัติ 
  • กระจกมองข้างแบบพับไฟฟ้า 
  • กระจกมองข้างแบบทำความร้อนอัตโนมัติ
  • โปรไฟล์ผู้ขับขี่แบบกำหนดเอง
  • คอนโซลกลางพร้อมที่เก็บของ
  • ช่อง USB-C จำนวน 4 ตำแหน่ง

อุปกรณ์เสริมที่สามารถซื้อเพิ่มได้ใน Tesla Model 3

  • ระบบขับขี่อัตโนมัติ Autopilot แบบยกระดับ (EAP) +122,000 บาท ประกอบด้วย
  • ระบบเปลี่ยนช่องจราจรอัตโนมัติ
  • ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ Autopark
  • ระบบช่วยหาช่องจอด Smart Summon
  • ระบบขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบ Full Autopilot (FSD) +244,000 บาท ประกอบด้วย
  • ระบบขับขี่อัตโนมัติบนทางหลวง พร้อม Cruise Control แบบปรับตามสภาพจราจร (TACC) พร้อม Autosteer แซงรถที่ขับช้า
  • ระบบเปลี่ยนช่องจราจรอัตโนมัติ
  • ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ Autopark
  • ระบบช่วยหาช่องจอด Smart Summon
  • ระบบควบคุมการขับขี่ตามสัญญาณไฟจราจรและป้ายหยุด
  • ระบบคอมพิวเตอร์สำหรับขับอัตโนมัติเต็มรูปแบบ อัปเดตซอฟต์แวร์อัตโนมัติผ่านทางดาวเทียม

อุปกรณ์มาตรฐานเพิ่มขึ้นในรุ่น Performance

  • ล้ออัลลอย ขนาด 20 นิ้ว ลาย Uberturbine Wheels
  • ยาง ขนาด 235/35 R20
  • โหมดการขับขี่ Track Mode
  • ปรับการกระจายกำลังหน้าหลัง Handling Balanced ตั้งแต่ 100 : 0 จนถึง 0 : 100
  • ปรับระดับการช่วยเหลือของระบบ Stability Assist
  • ปรับระดับการหน่วงไฟกลับ Regenerative Braking ตั้ง 0 – 100%
  • เพิ่มหน้าจอแสดงอุณหภูมิยาง เบรก มอเตอร์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่
  • เพิ่มหน้าจอ G-Meter
  • ระบบห้ามล้อแบบ Performance Brake
  • ขยายขนาดจานเบรกคู่หน้า จาก 320 เป็น 355 มิลลิเมตร
  • สปอยเลอร์หลังแบบ Carbon Fiber
  • แป้นเบรกและแป้นคันเร่งแบบ Aluminum Alloy 

อ่านเพิ่มเติม

รีวิว Tesla Model 3 มือสอง

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง one2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com



Pakkawat Unchalee

Pakkawat Unchalee

Content Writer

เริ่มต้นจากการเป็นนักเขียนแห่งวงการจักรยานระดับไฮเอนด์ สู่การเป็นนักเขียนของเว็บไซต์รถยนต์มือสองอันดับหนึ่งอย่าง one2car ถึงแม้จะมีความถนัดเรื่องจักรยานระดับไฮเอนด์เป็นพิเศษ แต่เรื่องรถยนต์ก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน หวังว่าทุกท่านจะเพลิดเพลินไปกับบทความที่ถูกเขียนโดยการจิ้มแป้นพิมพ์ของผมครับ


ข่าวฟีเจอร์

แนวโน้มรถยนต์ไฟฟ้า ‘ยังไงก็รอด’ ปี 2567 ต้นทุนแบตถูกลง 50%

แนวโน้มรถยนต์ไฟฟ้า ‘ยังไงก็รอด’ ปี 2567 ต้นทุนแบตถูกลง 50%

เรื่องเด่น
เจาะแนวโน้มรถยนต์ไฟฟ้า EV จะกลายเป็นรถยนต์แห่งอนาคตจริงหรือไม่ ? ปฏิวัติการขนส่งได้อย่างไร เคลียร์ความสงสัยได้ในบทความนี้ผ่าแนวโน้มอนาคตยานยนต์ไฟฟ้า ...
ในยุคของรถยนต์ไฟฟ้า รถสันดาปมือสองจะตายจากเราไปหรือไม่?

ในยุคของรถยนต์ไฟฟ้า รถสันดาปมือสองจะตายจากเราไปหรือไม่?

เรื่องเด่น
เมื่อรถยนต์ไฟฟ้ากำลังกลายเป็นกระแสหลักในประเทศไทย ด้วยราคาที่เข้าถึงง่ายพร้อมออปชั่นล้นๆ ก็ทำให้เกิดคำถามว่า ...
ฤกษ์ออกรถ เมษายน 2567 ตามวันเกิด พร้อมเวลาล้อหมุน

ฤกษ์ออกรถ เมษายน 2567 ตามวันเกิด พร้อมเวลาล้อหมุน

เรื่องเด่น
มาแล้ว! ฤกษ์ออกรถ เมษายน 2567 ใครยังไม่มีฤกษ์รับรถ รีบเข้ามา! ซินแสดูให้จริง อยากรู้เกิดวันนี้ควรออกรถวันเวลาไหนก็ย่อมได้ฤกษ์รับรถเดือนเมษายน ...

เเสดงความคิดเห็น

app-icon
app-icon
app-icon
ดูรถในฝันของคุณในแอป
ดาวน์โหลดแอปตอนนี้