One2car.com
One2car.com App
Predict the Price of Your Vehicle
4.5
21,133
Get

ORA 07 กับ Toyota Camry มือสอง คันไหนน่าซื้อในช่วงนี้

Car Guides

ORA 07 กับ Toyota Camry มือสอง คันไหนน่าซื้อในช่วงนี้

ORA 07 น้องๆ Porsche Panamera เวอร์ชันไฟฟ้าเปิดราคามาได้น่าสนใจ แต่ทว่าเจ้าพ่อ D-Segment อย่าง Toyota Camry มือสอง ราคาเร้าใจมาก แบบนี้เลือกคันไหนดีนะ?


ORA 07 กับ Toyota Camry เลือกคันไหนดี?

ORA 07 กับ Toyota Camry เลือกคันไหนดี?

ORA 07 กับ Toyota Camry เลือกคันไหนดี?

ก่อนอื่นเราต้องบอกว่าการเปรียบเทียบครั้งนี้คือการเปรียบเทียบแบบข้ามสายพันธุ์เลยนะครับ เพราะ ORA 07 คือรถยนต์ไฟฟ้าแบบ 100% แต่ทว่า Toyota Camry เจ้าพ่อ D-Segment ของเราเป็นรถยนต์เครื่องสันดาป แน่นอนว่าเขาก็จะมีข้อได้เปรียบเสียเปรียบแตกต่างกันออกไป และรถยนต์ไฟฟ้าย่อมได้เปรียบเรื่องออปชันและฟังก์ชันมากว่าอยู่แล้ว เราจึงขอเทียบกันแค่เรื่องที่สองคันนี้สู้กันได้

ที่เราอยากหยิบยก ORA 07 มาเทียบกับ Toyota Camry มือสอง ก็เพราะว่าในตอนที่ Camry เปิดตัวใหม่ๆ เขามีราคาสูงถึง 1.475 ล้านบาท (นี่แค่ตัวเริ่มต้นนะเนี่ย) ผู้ใช้งานส่วนใหญ่ก็ชอบและอยากซื้อนะ แต่ก็จะกุมขมับกับราคานิดหน่อย ปัจจุบัน ORA 07 ราคาเริ่มต้นที่ 1.299-1.499 ล้านบาท มันก็สร้างเสียงฮือฮาได้ไม่น้อยเลยสำหรับการเป็นรถยนต์ไฟฟ้า D-Segment สุดหรูหรา

แต่ทาง Camry รถที่ชาวไทยส่วนใหญ่ยกให้เป็นรถผู้บริหารอันดับ 1 ก็ราคามือสองนั้นลงมาอยู่ที่ 7 แสนต้นๆ เท่านั้นเอง ซึ่งราคานี้มันก็น่าสนใจไม่แพ้กับราคาของ ORA 07 เลย แม้ฟังก์ชันลูกเล่นอาจสู้รถยนต์ไฟฟ้าไม่ได้ก็ตาม แต่อย่างอื่นก็สู้ได้และมีเหตุผลที่ทำให้เขาน่าซื้ออยู่ครับ แล้วคุณคิดว่าคันไหนจะสนใจ? มาตัดสินใจไปพร้อมๆ กันเลยดีกว่า

ORA 07 กับ Toyota Camry ไซซ์ต่างกันมากไหม?

ORA 07 กับ Toyota Camry ไซซ์ต่างกันมากไหม?

ORA 07 กับ Toyota Camry ไซซ์ต่างกันมากไหม?

ก่อนอื่นเราขอย้ำอีกครั้งว่า ORA 07 และ Toyota Camry เป็นรถยนต์ Sedan ไซซ์ D-Segment ทั้งคู่ แต่จะถูกออกแบบให้เป็นรถเก๋งที่มีสไตล์แตกต่างกัน Toyota Camry จะเป็นรถเก๋งขนาดใหญ่แบบทรงที่เราคุ้นเคยกันดี แต่ ORA 07 จะเป็นทรงสไตล์ท้ายลาด

  • มิติตัวถัง ORA 07 กว้าง 1,862 x ยาว 4,871 x สูง 1,500 มม. ระยะฐานล้อ 2,870 มม.
  • มิติตัวถัง Toyota Camry กว้าง 1,840 x ยาว 4,885 x สูง 1,445 มม. ระยะฐานล้อ 2,825 มม.

จากขนาดของรถทั้งสองคันจะเห็นได้ว่า ORA 07 นั้นใหญ่โตกว่า Toyota Camry เพียงเล็กน้อย โดยจะ กว้างกว่า 22 มม. สั้นว่า 14 มม. สูงกว่า 55 มม. และ ระยะฐานล้อกว้างกว่า 45 มม. ซึ่งถ้าหากดูจากข้อมูลชุดนี้ประกอบกับตัวรถและการลองขับ ลองเอามาเทียบๆ กันดู จากจุดนี้ทั้งสองคันจะมีข้อดีข้อเสียต่างกันครับ

ภายในของ ORA 07 กับ Toyota Camry

ภายในของ ORA 07 กับ Toyota Camry

ความกว้างที่มากกว่าของ ORA 07 เพียงเล็กน้อยไม่ได้ทำให้มันรู้สึกว่าภายในกว้างขวางนั่งสบายกว่า Toyota Camry แต่อย่างใด

การออกแบบคอนโซลตรงกลางที่เป็นปุ่มควบคุมต่างๆ มันเอียงสูงขึ้นไปทางหน้าจอกลางทำให้มันไม่ได้รู้สึกโล่งแต่กลับรู้สึกเป็นค็อกพิทแบ่งซ้ายขวา แต่ก็แอบมีข้อดีตรงที่มันทำให้การใช้งานปุ่มฟังก์ชันต่างๆ ทำให้ใช้งานได้อย่างง่ายดาย และทำให้เรารู้สึกปลอดภัยตอนนั่งแถวหน้า

ภายในของ ORA 07 กับ Toyota Camry

ตัดภาพมาที่ภายในของ Toyota Camry ที่แคบกว่าแต่มีการจัดวางตำแหน่งภายในที่ดีกว่า

ตรงคอนโซลกลางจะยื่นออกมาเพียงเล็กน้อย และบริเวณเกียร์และปุ่มฟังก์ชันบางอย่างจะอยู่ต่ำลงมา ทำให้บริเวณเบาะแถวหน้ามันรู้สึกโล่งสบายมากกว่า ซึ่งปุ่มควบคุมต่างๆ ที่อยู่บริเวณเกียร์ก็ไม่ใช่ปุ่มที่เราใช้บ่อยมาก นั่นแปลว่าการนำปุ่มบางอย่างไว้ตรงนี้ก็แทบไม่ได้มีผลเสียอะไรเลย แค่วัสดุภายในมันสู้ ORA 07 ไม่ได้เฉยๆ

ภายในของ ORA 07 กับ Toyota Camry

สุดท้ายคือถึงแม้ว่า Toyota Camry จะยาวกว่าเพียง 14 มม. ซึ่งถือว่าไม่ได้ยาวกว่ามากมายเลย แต่ด้วยการจัดวางตำแหน่งภายในที่ดีกว่ามันทำให้เบาะผู้โดยสารตอนหลังของ Camry มีพื้นที่วางขาเยอะกว่านิดหน่อยแต่สบายกว่าอย่างชัดเจน องศาของเบาะหลังนั่งสบายกว่า ORA 07 ที่มีเบาะด้านหลังชันตรงๆ ไปนิดหน่อย แต่ตัวเบาะของ ORA 07 กระชับสรีระมากกว่า เด่นด้อยคนละแบบ

อ่านเพิ่มเติม

ภายในของ ORA 07 กับ Toyota Camry

ถึงแม้ว่า Toyota Camry จะยาวกว่าเล็กน้อย แต่อย่างที่บอกไปการจัดวางเขาทำได้ดีจุดนี้มันส่งผลให้ห้องเก็บสัมภาระด้านหลังของ Toyota Camry มีความลึกมากกว่า จุได้ 399 ลิตร ต่างจาก ORA 07 ที่จะตื้นๆ แต่กว้าง จุได้ 228 ลิตร พับเบาะจะเพิ่มเป็น 858 ลิตร

“แต่ถ้าพับเบาะก็จะแบกเพื่อนไปเที่ยวไม่ได้ แต่ Camry แบกเพื่อนไปเที่ยวได้โดยที่มีพื้นที่เก็บของเยอะกว่า อันนี้ก็น่าคิด ปกติเราไปเที่ยวกับเพื่อนๆ สัมภาระเยอะ Camry ไม่ต้องพับเบาะก็อาจจะยัดของพอ แต่ถ้าจะขิงกันด้วยการพับเบาะแล้วมีพื้นที่เก็บของเยอะกว่า Toyota Camry ก็ทำได้นะ!”

อ่านเพิ่มเติม : รถพับเบาะได้ แม่ค้าขนของสะดวกเว่อร์

ขุมพลังของ ORA 07 กับ Toyota Camry

ขุมพลังของ ORA 07 กับ Toyota Camry

ในส่วนของ ORA 07 จะมี 2 รุ่น คือ LONG RANGE และรุ่น PERFORMANCE 

  • ORA 07 Long Range จะใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัว ให้พละกำลัง 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 340 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ Ternary Lithium-ion (NMC) ขนาด 83.5 kWh ขับเคลื่อนล้อหน้า FWD ชาร์จเต็มวิ่งไกล 640 กิโลเมตร
  • ORA 07 Performance AWD จะใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้พละกำลัง 408 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 680 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ Ternary Lithium-ion (NMC) ขนาด 83.5 kWh ขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD ชาร์จเต็มวิ่งไกล 550 กิโลเมตร

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : รีวิว ORA 07

ขุมพลังของ ORA 07 กับ Toyota Camry

ส่วนในด้านของ Toyota Camry จะใช้เครื่องยนต์สันดาปมีทั้งหมด 3 แบบ ซึ่งทุกรุ่นจะเป็นขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า FWD ทั้งหมด แบ่งได้ดังนี้

  • เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ รหัส 6AR-FSE ขนาด 2.0 ลิตร VVT-iw & D-4S กำลังสูงสุด 169 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 199 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด
  • เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ รหัส A25A-FKS ขนาด 2.5 ลิตร วาล์วแปรผันอัจฉริยะไฟฟ้า VVT-ie กำลังสูงสุด 208 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 252 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด
  • เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ (Hybrid) รหัส A25A-FXS ขนาด 2.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 178 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 221 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 120 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 202 นิวตันเมตร เมื่อเครื่องยนต์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า จะได้พละกำลังสูงสุดรวม 211 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ E-CVT แบตเตอรี Nickel metal Hydride (Ni-MH)

อ่านเพิ่มเติม : ค่าบำรุงรักษาเครื่องยนต์รถไฮบริด สูงอย่างที่เขาบอกจริงเหรอ?

ORA 07 กับ Toyota Camry คันไหนน่าขับ?

ORA 07 กับ Toyota Camry คันไหนน่าขับ?

ก่อนอื่นขอบอกก่อนว่ารถยนต์ไฟฟ้ากับรถยนต์เครื่องสันดาปมันคนละเรื่องกันเลย สำหรับความรู้สึกในการขับขี่ จุดที่จะเทียบความรู้สึกได้ชัดเจนที่สุดก็คือเรื่องของช่วงล่างต่างหาก แต่ว่าการเป็นรถยนต์เครื่องสันดาบและรถยนต์ไฟฟ้ามันก็มีข้อได้เปรียบและเสียเปรียบอยู่

ด้านพละกำลังถ้าจะนำ Toyota Camry ตัวท็อปมาเทียบกับ ORA 07 ตัวท็อป ต้องบอกว่าเทียบไม่ได้รถยนต์ไฟฟ้ามันแรงมาก สงสัยอยากดีดตัวหนีรถสันดาป ก็แบบเหม็นควันอ่ะ ด้านพละกำลัง Camry ตัวท็อปจะมีแรงม้าเหนือกว่า ORA 07 ตัวเริ่มต้นที่ 17 แรงม้า แต่ถ้าเอาไปเทียบกับ ORA 07 ตัวท็อปบอกเลยว่า Camy น้ำตาซึม

ความรู้สึกในการขับขี่ต่างกันอย่างชัดเจนระหว่างตัวท็อปของ Toyota Camry และ ORA 07 เนื่องจากน้ำหนักของรถยนต์สันดาปที่มีเครื่องยนต์วางหน้าความบาลานซ์มันจะสู้รถยนต์ไฟฟ้าที่ทุกอย่างอยู่ใต้ท้องรถไม่ได้ รถยนต์ไฟฟ้าได้ความบาลานซ์ที่มากกว่าอยู่แล้ว แต่ความรู้สึกในการนั่งโดยสารจะต่างกัน

อ่านเพิ่มเติม : เครื่อง NA คืออะไร ต่างจาก Turbo ยังไง เลือกแบบไหนดี

ORA 07 กับ Toyota Camry คันไหนน่าขับ?

ORA 07 จะได้ความนุ่มแต่ไม่ถึงกับนุ่มนวลเหมือน Toyota Camry จะมีความเฟิร์มๆ คล้ายรถยุโรปนิดๆ ด้วย นั่นก็เพราะว่าเขามีการปรับแต่งให้รองรับกับพละกำลังที่สูงมากของ ORA 07 รุ่นท็อปที่ใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD มีความเเรงเหยียบแล้วมาเลยเร็วทันใจ เป็นรถยนต์ที่เน้นใช้งานในชีวิตประจำวันจริงๆ และใช้ซิ่งได้ ก็คือใช้งานสบายๆ 60% อีก 40% ก็ถ้าอยากซิ่งก็จัดโลด

อ่านเพิ่มเติม : รวมรถยนต์ไฟฟ้า EV มือสอง ราคาถูก น่าซื้อที่สุดในปี 2023

ORA 07 กับ Toyota Camry คันไหนน่าขับ?

Toyota Camry จะได้เรื่องของความนุ่มเงียบ แบบสบายจริงๆ ทุกจุดใน Camry คือรถยนต์ผู้บริหารอย่างแท้จริง แต่เรื่องพละกำลังแม้จะเป็นรุ่นท็อปแต่ก็ยังด้อยกว่า ORA 07 แต่สิ่งที่ได้มากกว่าคือเรื่องของความนุ่มนวลอย่างต่อเนื่อง เขาไม่ใช้รถยนต์ที่แรงหวือหว่าแต่เป็นรถยนต์ที่ค่อยๆ ขับ ค่อยๆ เร็วขึ้นอย่าสมูท เน้นใช้งานจริงแบบ 100% ช่วงล่างเองก็ไม่ได้นุ่มจนย้วย ถือว่าดีที่สุดในรถใช้งานของ Toyota

อะไรที่ Toyota Camry สู้ ORA 07 ได้จริง

อะไรที่ Toyota Camry สู้ ORA 07 ได้จริง

ถ้าพูดถึงการดีไซน์ตัวรถ Toyota Camry กับ ORA 07 อาจจะสูสีกัน แต่ก็แล้วแต่คนชอบด้วยนะว่าชอบหน้าตาแบบน่ารักหรูๆ หรือชอบแบบสปอร์ตสมาร์ทๆ แบบผู้บริหาร ภายในและออปชันฟังก์ชันเราจะไม่พูดถึงกันในบทความนี้ครับ เพราะ Toyota Camry สู้ไม่ได้เลย ORA 07 เหนือกว่า แต่ Toyota Camry ก็ให้ฟังก์ชันทุกอย่างมาครบจบและเพียงพอต่อการใช้งานแล้ว

อ่านเพิ่มเติม : Toyota Camry มือสอง รถเก๋งอันดับ 2 ในไทย ดีจริงไหม? (รีวิว)

สิ่งที่ Toyota Camry สู้ ORA 07 ได้แน่ๆ คือเรื่องของระยะทางการวิ่ง เพราะ Camry ตัว Hybrid เติมน้ำมันเต็มถังวิ่งได้ไกลถึง 1,250 กม. ให้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ 25 กม./ล. (ในทุกรูปแบบการขับขี่) เรียกได้ว่าเติมเต็มถังขับได้ตั้งแต่เชียงรายลงมาถึงชุมพรเลยทีเดียว

อ่านเพิ่มเติม : Plug in Hybrid คืออะไร ต่างจากรถไฮบริดทั่วไปอย่างไร?

แต่ทาง ORA 07 ตัวท็อปทำระยะทางการวิ่งต่อการชาร์จได้เพียง 550 กม. (อาจมีลดลงกว่านั้นอีกนะถ้าขับแบบคะนองเท้า) ซึ่งแน่นอนว่าแม้ระยะทางจะทำได้น้อยกว่า Toyota Camry แต่ก็มีข้อดีตรงทีการชาร์จไฟ 1 ครั้งใช้เงินแค่หลักร้อย แปลว่าถ้าอยากจะวิ่งให้ได้เป็นพันกิโลฯ ก็เสียเงินไม่ถึงพันแน่นอน แต่ Camry เล่นไปราวๆ 1,600 - 1,800 บาทได้ แปลว่าเรื่องค่าใช้จ่ายทาง ORA 07 ยังไงก็เหนือกว่า แต่ แต่ แต่!

ปัญหาการชาร์จที่ทำให้ ORA 07 พ่ายแพ้ Toyota Camry

ปัญหาการชาร์จที่ทำให้ ORA 07 พ่ายแพ้ Toyota Camry

เมื่อเราพูดถึงการชาร์จ เราก็ต้องมาดูที่ระยะทางด้วย แน่นอนว่าจุดชาร์จไฟในปัจจุบันนั้นครอบคลุมทั่วทั้งประเทศแล้วก็จริง แต่สิ่งที่มันเป็นปัญหาของรถยนต์ไฟฟ้าที่ทำให้ ORA 07 อาจจะแพ้ แต่เขาไม่ได้แพ้ที่ตัวเขาเอง แต่แพ้เพราะระบบชาร์จต่างหาก อ้าวทำไมเป็นอย่างนั้น เดี๋ยวผมเล่าให้ฟัง!

ปัญหาการชาร์จที่ทำให้ ORA 07 พ่ายแพ้ Toyota Camry

ก่อนอื่นเราตัดเรื่องค่าใช้จ่ายออกไปก่อนแล้วมาวัดกันที่ระยะทางและระยะเวลา

ถ้าจะพูดถึงเรื่องนี้เราต้องพูดถึงเรื่อง “เรื่องโครงข่ายการชาร์จไฟในประเทศไทย” ซึ่งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแทบจะทุกแห่งล้วนแล้วแต่ใช้ไฟฟ้าในระบบ Low Priority

ระบบ Low Priority คือ การใช้ไฟฟ้าสำหรับสถานีอัดประจุไฟฟ้าซึ่งมีความสำคัญเป็นลำดับรอง เมื่อเปรียบเทียบกับการใช้ไฟฟ้าเพื่อวัตถุประสงค์อื่นแล้วมันสามารถถูกควบคุม ปรับลด หรือ ตัดการใช้ไฟฟ้า ของสถานีอัดประจุไฟฟ้าได้เมื่อมีข้อจำกัดด้านความจุไฟฟ้าของระบบจำหน่ายไฟฟ้า เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อผู้ใช้ไฟฟ้ารายอื่นและรักษาความมั่นคงของระบบไฟฟ้า

อ่านเพิ่มเติม : สถานีชาร์จรถไฟฟ้าทั่วประเทศไทย (2566) มีที่ไหนบ้าง

ปัญหาการชาร์จที่ทำให้ ORA 07 พ่ายแพ้ Toyota Camry

หมายความว่าอะไร? มันหมายความว่า ถึงแม้ ORA 07 จะรองรับการชาร์จไฟแบบ DC Fast Charger (ชาร์จด่วน) ชาร์จ 80 kW เต็ม 100% ใช้เวลา 1 ชั่วโมง แต่ถ้าสถานีชาร์จถูกปรับลดกระแสไฟฟ้าเนื่องด้วยเหตุผลหลายๆ อย่าง

ถึง ORA 07 จะรองรับการชาร์จเร็วแค่ไหน แต่ถ้ากระแสไฟมันถูกปรับลดลงเหลือ 30 kW หรือต่ำกว่านั้น มันก็ชาร์จได้แค่นั้น มันจึงทำให้การชาร์จเร็จจากปกติ 1 ชม. ก็ทวีคูณขึ้นไปเป็น 2-3 ชั่วโมงได้

ซึ่งปัญหามันก็ไม่ได้มีแค่นี้ ปัญหาต่อมาคือเรื่องหัวชาร์จ 1 ตู้จะมีหัวชาร์จ DC เพียง 2 หัวเท่านั้น ซึ่งการเดินทางไกลใครๆ ก็อยากใช้หัวชาร์จ DC เพราะมันชาร์จเร็ว ถ้าใช้ AC นี่ ORA 07 เล่นไป 7 ชั่วโมงเลยนะกว่าจะ 100% เมื่อมีแต่คนอยากใช้หัว DC แน่นอนว่าต้องต่อคิวใช้ถ้าไม่ได้จองผ่านระบบ ซึ่งการจองก็ต้องมีการวางแผนคำนวนระยะทางและเวลาที่จะมาถึงจุดชาร์จอีก

ถ้าขับขี่ในเมืองผมมองว่า Toyota Camry และ ORA 07 ดีเสียกันคนละแบบแล้วแต่ว่าใครจะเลือกและชื่นชอบแบบไหน แต่ถ้าเป็นเรื่องการขับขี่ทางไกล และ ช่วงเทศกาล ผมมองว่า Toyota Camry ชนะขาดรอย

อ่านเพิ่มเติม : รู้หรือไม่? รถยนต์ไฟฟ้า ไม่ใช่ทางเลือกเดียวในการประหยัดน้ำมัน

ปัญหาการชาร์จที่ทำให้ ORA 07 พ่ายแพ้ Toyota Camry

ถ้าเราขับจากเชียงรายไปชุมพร ระยะทาง 1,236 กม. ใช้เวลาเดินทาง 16.41 ชม. (อ้างอิงจาก Google Map) Toyota Camry เติมนำมันครั้งเดียววิ่งได้ยาวๆ ถ้าไม่แวะนอนระหว่างทาง แต่ถ้าขับ ORA 07 คุณต้องแวะชาร์จไฟแน่ๆ 2-3 ครั้ง ครั้งละ 1 ชั่วโมง นั่นหมายความว่าถ้าคุณขับ ORA 07 คุณจะต้องบวกเวลาการเดินทางเพิ่มไปได้เลย ถึงจุดหมายช้าแน่ๆ ไม่เสียเงินเติมน้ำมันแต่เสียเวลาเพิ่มขึ้นแน่นอน

ยิ่งไปกว่านั้นถ้าเป็นช่วงเทศกาลหรือบริเวณจุดชาร์จมีการใช้ไฟฟ้าเยอะ มีคนต่อคิวชาร์จเยอะ คุณจะต้องเจอกับการปรับลดกำลังไฟของจุดชาร์จแน่ๆ หมายความว่าในการแวะชาร์จแต่ละครั้งต้องบวกเวลาเดินทางเพิ่มไปได้เลยครั้งละ 2 ชั่วโมง (ไม่รวมเวลาต่อคิวชาร์จ)

แปลว่าการเดินทางไกลสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าตอนนี้จะยากเย็นนิดๆ แต่ถ้าช่วงเทศกาลคือยากเย็นมาก! แต่ถ้าขับขี่ในเมืองหรือต่างจังหวัดใกล้ๆ กรุงเทพฯ - หัวหิน หรือในระยะทางที่เขาทำได้ยังไงรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง ORA 07 ก็กินขาด! ใช้งานได้สบายๆ

อ่านเพิ่มเติม : 10 ข้อดี-ข้อเสีย รถยนต์ไฟฟ้า อย่าเพิ่งซื้อถ้ายังไม่รู้สิ่งนี้

สรุป ORA 07 และ Toyota Camry มือสอง คันไหนน่าซื้อ?

สรุป ORA 07 และ Toyota Camry มือสอง คันไหนน่าซื้อ?

จะให้ชี้จัดเจนเลยว่าคันไหนน่าซื้อมันก็ไม่ได้ครับ เพราะว่ารถยนต์ทั้งสองคันนี้เป็นระยนต์ต่างระบบกัน ORA 07 เป็นรถยนต์ไฟฟ้า Toyota Camry เป็นรถยนต์เครื่องสันดาป ซึ่งแน่นอนว่าทั้งสองคันจะมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันอีกเยอะมาก แต่เรื่องหลักๆ คือสิ่งที่เราเล่ามาก่อนหน้านี้

สิ่งที่ทำให้แต่ละรุ่นชนะ ระหว่าง ORA 07 และ Toyota Camry

สิ่งที่ทำให้แต่ละรุ่นชนะ ระหว่าง ORA 07 และ Toyota Camry

ORA 07 - ออปชันเยอะ ฟังก์ชันแน่น ล้ำสมัย ดีไซน์สวย มือหนึ่งราคาดี เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ตอบโจทย์ทั้งซิ่งและใช้งาน ช่วยคุณประหยัดเงินได้เยอะ ใช้งานได้ยาวๆ เสื่อมน้อยกว่ารถสันดาป นอนในรถได้ไม่เหม็นควัน 

Toyota Camry - ประหยัดน้ำมันมากวิ่งทางไกลสบายใจ นั่งสบายทุกตำแหน่ง กว้างขวาง ฟังก์ชันและออปชันเพียงพอ ศูนย์บริการเยอะและครอบคลุม ค่าซ่อมไม่แพงช่างที่ไหนก็ซ่อมได้

สิ่งที่ทำให้แต่ละรุ่นชนะ ระหว่าง ORA 07 และ Toyota Camry

ส่วนตัวแล้วผมคิดว่าเราควรต้องดูจากการใช้งานของเราเป็นหลักมากกว่า ถ้าเราเป็นคนชอบเดินทางท่องเที่ยวหรือเดินทางไกลและอยากได้ความสบาย หรือ อาจจะมีการใช้งานในชีวิตประจำวันบ่อยๆ ผมมองว่า Toyota Camry มือสอง เป็นทางเลือกทีดีมากในตอนนี้เพราะราคาเริ่มต้นอยู่หลักแสนทั้งที่เป็นรถปีใหม่

แต่ถ้าเราเน้นใช้งานในชีวิตประจำวันแบบจริงจังเลยต้องขับรถในทุกๆ วัน แต่เราไม่ได้ท่องเที่ยวต่างจังหวัดบ่อย หรือาจจะไปเที่ยวต่างจังหวัดบ่อยแต่ไม่ได้ไปไกลมาก ผมก็มองว่า ORA 07 เป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยในการเลือกเซฟค่าใช้จ่ายในระยะยาวครับ

สิ่งที่ทำให้แต่ละรุ่นชนะ ระหว่าง ORA 07 และ Toyota Camry

ใครที่สนใจมองหา Toyota Camry โฉมปี 2018-2023 คุณสามารถเลือกดูคันที่สนใจได้ที่ด้านล่างนี้เลย ส่วนตัวผมเชียร์ตัว Hybrid ครับ ถ้าอยากสู้กับรถยนต์ไฟฟ้าได้แบบสูสี (ไม่นับเรื่องความแรงนะ)

สุดท้ายแล้วเราอยากจะบอกว่านี่เป็นแค่ความคิดเห็นส่วนหนึ่งจากผู้เขียนเท่านั้น ความชอบของแต่ละคนนั้นต่างกัน สุดท้ายท้ายสุดก็ต้องตัดสินใจเลือกจากความชอบ ความจำเป็นในการใช้งาน และ ความต้องการใช้ จริงๆ ไม่ว่าคุณจะเลือกคันไหนสุดท้ายแล้วรถที่ดีที่สุดก็คือรถที่คุณชอบและเลือกที่จะใช้ครับ

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง one2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com



Pakkawat Unchalee

Pakkawat Unchalee

Content Writer

เริ่มต้นจากการเป็นนักเขียนแห่งวงการจักรยานระดับไฮเอนด์ สู่การเป็นนักเขียนของเว็บไซต์รถยนต์มือสองอันดับหนึ่งอย่าง one2car ถึงแม้จะมีความถนัดเรื่องจักรยานระดับไฮเอนด์เป็นพิเศษ แต่เรื่องรถยนต์ก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน หวังว่าทุกท่านจะเพลิดเพลินไปกับบทความที่ถูกเขียนโดยการจิ้มแป้นพิมพ์ของผมครับ


Featured

แนวโน้มรถยนต์ไฟฟ้า ‘ยังไงก็รอด’ ปี 2567 ต้นทุนแบตถูกลง 50%

แนวโน้มรถยนต์ไฟฟ้า ‘ยังไงก็รอด’ ปี 2567 ต้นทุนแบตถูกลง 50%

Car Guides
เจาะแนวโน้มรถยนต์ไฟฟ้า EV จะกลายเป็นรถยนต์แห่งอนาคตจริงหรือไม่ ? ปฏิวัติการขนส่งได้อย่างไร เคลียร์ความสงสัยได้ในบทความนี้ผ่าแนวโน้มอนาคตยานยนต์ไฟฟ้า ...
ในยุคของรถยนต์ไฟฟ้า รถสันดาปมือสองจะตายจากเราไปหรือไม่?

ในยุคของรถยนต์ไฟฟ้า รถสันดาปมือสองจะตายจากเราไปหรือไม่?

Car Guides
เมื่อรถยนต์ไฟฟ้ากำลังกลายเป็นกระแสหลักในประเทศไทย ด้วยราคาที่เข้าถึงง่ายพร้อมออปชั่นล้นๆ ก็ทำให้เกิดคำถามว่า ...
ฤกษ์ออกรถ เมษายน 2567 ตามวันเกิด พร้อมเวลาล้อหมุน

ฤกษ์ออกรถ เมษายน 2567 ตามวันเกิด พร้อมเวลาล้อหมุน

Car Guides
มาแล้ว! ฤกษ์ออกรถ เมษายน 2567 ใครยังไม่มีฤกษ์รับรถ รีบเข้ามา! ซินแสดูให้จริง อยากรู้เกิดวันนี้ควรออกรถวันเวลาไหนก็ย่อมได้ฤกษ์รับรถเดือนเมษายน ...

Comments

app-icon
app-icon
app-icon
View your Dream Cars
in the App
Download App Now