ค่าบำรุงรักษาเครื่องยนต์รถไฮบริด สูงอย่างที่เขาบอกจริงเหรอ?

ใครที่อยากรู้ว่าค่าบำรุงรักษารถยนต์ไฮบริด ราคาอยู่ที่เท่าไหร่ ถูกกว่ารถน้ำมันเยอะมั้ย ต้องมาส่องที่นี่ เรารวมค่าบำรุงรักษาตามระยะทางมาให้แล้ว

รถยนต์ไฮบริดคืออะไร

รถยนต์ Hybrid มีกี่ประเภท

ระบบไฮบริดมี 2 ประเภทหลักๆ ได้แก่

• แบบ Full Hybrid มีกำลังขับทางไฟฟ้าได้ถึง 100% 
• แบบ Mild Hybrid สามารถส่งกำลังแบบไฮบริดที่มีสัดส่วนกำลังขับโดยเครื่องยนต์ ไม่เกิน 40%

รถยนต์ไฮบริด (HEV) ในประเทศไทย มีรุ่นไหนบ้าง

ตัวอย่างรถยนต์ไฮบริด ที่เข้ามาทำตลาดอยู่ในประเทศไทย ได้แก่ Toyota Altis Hybrid, Toyota C-HR Hybrid, Honda CR-V Hybrid e:HEV, Honda Accord Hybrid, Nissan Kicks e-POWER, Nissan X-trail, Mercedes-Benz C 300 e AMG Dynamic,BMW 745Le xDrive M Sport เป็นต้น

ความคุ้มค่าของเครื่องยนต์ไฮบริด

ในอดีตเทคโนโลยีไฮบริดยังคงถูกตั้งคำถามเรื่องความทนทานและการบำรุงรักษาว่าจะมีอายุการใช้งานมากน้อยแค่ไหน และหลังหมดประกันจะโดนค่าซ่อมแบบหนักหน่วงหรือไม่ ทำให้รถยนต์ไฮบริดมือสองไม่เป็นที่ยอมรับเท่าไหร่นัก ราคาขายต่อก็ตกลง เพราะคนส่วนใหญ่ยังไม่มั่นใจในเทคโนโลยีไฮบริด จึงหันไปหารุ่นรองท็อปกันมากกว่า

แต่ปัจจุบันมีงานวิจัยรองรับแล้วว่า แบตเตอรี่รถยนต์ไฮบริด สามารถใช้ได้นานสูงสุดถึง 400,000 กม. โดยไม่เสื่อมประสิทธิภาพ และเวลาผ่านไป แบตเตอรี่รถยนต์ไฮบริดจะยิ่งแพร่หลายมากขึ้น ทำให้ตัวแบตและการบำรุงรักษาถูกลงไปด้วย

อีกทั้งยังได้รับการพัฒนาระบบระบายความร้อนให้ดียิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มอายุการใช้งานให้ยาวนานกว่าเดิม ที่สำคัญรถยนต์ไฮบริดรุ่นยอดนิยมอย่าง Toyota C-HR ราคาแบตเตอรีอยู่ที่ 61,500 บาท เท่านั้น!
ค่าบำรุงรักษาเครื่องยนต์ไฮบริด แพงจริงไหม

ความจริงแล้ว ค่าบำรุงรักษาเครื่องยนต์ของรถยนต์ไฮบริดราคาใกล้เคียงกับรถยนต์ระบบน้ำมันทั่วไปเลยด้วยซ้ำ เช่น แบรนด์ Toyota ในระยะ 100,000 กิโลเมตร มีส่วนต่างที่รถยนต์ไฮบริดต้องจ่ายมากกว่าอยู่ที่ 1,150 บาทเท่านั้น นอกจากจะประหยัดน้ำมันแล้ว ยังประหยัดค่าบำรุงรักษาก็ไม่ได้สูงอย่างที่คิด

ข้อดี-ข้อเสีย ของรถยนต์ไฮบริด

ข้อดี

1. ราคาขายต่อตกลงเพียงแค่ 25%

หลังจากใช้รถครบ 5 ปี แล้วอยากเปลี่ยนรถใหม่ สามารถนำไปขายต่อได้ที่ศูนย์โตโยต้าชัวร์ จะได้ราคาดีที่สุด เพราะราคาขายต่อจะลดจากราคามือหนึ่ง เพียง 25-27% เท่านั้น และทางโตโยต้าชัวร์ จะชดเชยส่วนต่างจากราคาที่ขายต่อให้ที่ 2% จะได้เงินประมาณสองหมื่นบาทเป็นค่าขนมอีกด้วย

2. ประะหยัดน้ำมันได้ระหว่าง 10-50%

ด้วยพลังขับเคลื่อนจากมอเตอร์ไฟฟ้า (มีตัวเลขประหยัดมาตรฐานที่ 20 กิโลเมตรต่อลิตรในทุกสภาวะ)

3. เครื่องจะเงียบเมื่อใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่

ไม่มีเสียงเครื่องยนต์ดังๆ ให้กวนใจและป้องกันเสียงจากภายนอกได้ค่อนข้างดี

4. ช่วยลดมลพิษทางอากาศ

เพราะใช้ระบบไฟฟ้า จึงเป็นมิตรกับเสิ่งแวดล้อม รูปแบบการทำงานจะสลับกันไปมา ทำให้ช่วยลดมลภาวะทางอากาศได้เป็นอย่างดี

ข้อเสีย

1. รถไฮบริดมักจะอยู่ในรุ่นท๊อป จึงค่อยข้างหายาก

รถยนต์ไฮบริดจะหายากกว่ารถยนต์สันดาปทั่วไป เพราะส่วนใหญ่จะใส่มาไว้ในรุ่นท๊อป เป็นวิธีการทำตลาดโดยใส่ฟังก์ชั่นที่ครบครัน เพื่อดึงดูดให้เข้ามาให้ใช้ไฮบริด

2. ราคาแรงไม่มีตก

รถยนต์ไฮบริดนอกจากจะหายากแล้ว สิ่งที่คนถวิลหาอีกนั่นก็คือ รถมือสองราคาดี ซึ่งส่วนใหญ่รถยนต์ไฮบริดยังคงมีราคาที่สูง และยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลง

3. ระบบไฮบริดมักจะอยู่ในรถเอนกประสงค์เป็นหลัก

รถไฮบริดมักจะอยู่ในรถเอนกประกสงค์ ไม่มีในระกระบะ รถตู้ หรือรถที่ใช้ในเชิงภาณิชย์

รถยนต์ไฮบริดเหมาะกับใคร

เหมาะกับคนที่กำลังมองหารถที่ประหยัดน้ำมันในระดับ 20+ กม./ต่อลิตร รถยนต์ไฮบริดคือทางเลือกที่ดีที่สุด ก่อนที่จะขยับไปใช้รถยนต์ไฟฟ้า ถึงแม้ว่าจะประหยัดสู้รถไฟฟ้าไม่ได้ แต่ประหยัดกว่ารถเครื่องยนต์ดีเซลและเบนซิน ระดับ 1.5 ลิตรขึ้นไปแน่นอน 

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ไปกับ Autospinn

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน ทั้ง รถบ้านเจ้าของขายเอง หรือรถจากทางเต็นท์ที่เชื่อถือได้