เครื่อง NA คืออะไร ต่างจาก Turbo ยังไง เลือกแบบไหนดี

เชื่อว่าทุกคนที่เริ่มต้นเข้าสู่วงการรถซิ่งหรือรถ JDM ก็จะเคยได้ยินเขาพูดๆ กันว่า เครื่อง NA สิดีกว่าขับสนุก หรือไม่ก็ เครื่อง Turbo สิเร็วเเรงหลังติดเบาะ เครื่อง NA และเครื่อง Turbo นั้นคืออะไร ต่างกันไหมมาทำความรู้จักกัน

เครื่อง NA คืออะไร?

เครื่อง NA ที่จริงแล้วคือคำย่อที่ใช้เรียกประเภทชื่อเครื่องยนต์ ซึ่ง "เครื่อง N/A" หรือ "เครื่อง NA" หรือ "เครื่อง N.A." อะไรก็ตามแต่ จะเป็นตัวย่อมาจากคำว่า “Naturally Aspried Engine” หรือก็คือเครื่องยนต์ที่ดูดอากาศแบบธรรมชาติ ไม่มีอุปกรณ์ช่วยในการอัดอากาศ ส่วนใหญ่รถยนต์ในปัจจุบันก็เป็นเครื่องยนต์ประเภทนี้เกือบทั้งสิ้น

พูดง่ายๆ ว่าเครื่อง NA ก็คือเครื่องยนต์สันดาปธรรมดาๆ นี่แหละ แต่ปัจจุบันเครื่อง NA เดิมๆ ในรถบางรุ่นก็ไม่ธรรมดา เผลอๆ แรงมากกว่าเครื่อง Turbo ด้วยซ้ำไป แต่สิ่งที่ทุกคนมักจะคิดว่าเครื่อง NA มันอืด หลักๆ ก็เป็นเพราะช่วงต้นมันทำอัตราเร่งได้ไม่ค่อยเร้าใจ แต่ในช่วงกลางถึงปลายรับรองว่ากำลังดี ยิ่งจูนดีๆ แล้วด้วยบอกเลยว่าสับคู่กับเกียร์ MT และลากรอบสูงสนุกมาก โดยเฉพาะเครื่อง K20A VTEC ของ Honda ที่ทำมาเพื่อให้ลากรอบได้สนุกๆ

โดยมีวิวัฒนาการของเครื่อง NA นั้นจะมาจากในเครื่องจักรไอน้ำในอดีต และก็มีการปรับปรุงโดยวิศวกรเรื่อยมาจนเป็นการผสมน้ำมันกับอากาศและเปลี่ยนมาจากการใช้คาร์บูเรเตอร์มาเป็นหัวฉีดแทน ส่วนระบบวาล์วเริ่มจากพอร์ตข้างแบบ 2 จังหวะ จากนั้นก็เปลี่ยนมาเป็นวาล์วตะเกียบ OHV เรื่อยมาจนถึงวาล์วบนฝาสูบ OHC ในปัจจุบัน

ข้อดีของเครื่อง NA

มีค่าบำรุงรักษาที่ถูกมาก การปรับแต่งทำได้ง่าย อยากจะแรงก็โมเพิ่มง่ายมาก จูนเครื่องง่าย มีต้นทุนการผลิตต่ำมาก มีความทนทานสูงเพราะชิ้นส่วนน้อยกว่า น้ำหนักเบากว่าเครื่องแบบอื่น จูนแล้วจะขับสนุกมาก เครื่องยนต์มีสเน่ห์เป็นของตัวเองในการขับลากรอบแบบกวาดรอบเครื่อง

ข้อเสียของเครื่อง NA

ประสิทธิภาพส่วนใหญ่ด้อยกว่าเครื่องอื่นเป็นทุนเดิม (นอกจากจะจูนและทำเพิ่ม) เครื่อง NA จะใช้เงินในการปรับจูนมากกว่าเครื่องอื่น ปรับจูนได้ไม่เยอะเท่าเครื่องแบบอื่นแต่ก็แรงได้เหมือนกัน อัตราเร่งช่วงออกตัวไม่ค่อยแรงเน้นช่วงกลางและช่วงปลาย

เครื่อง Turbo คืออะไร?

เครื่อง Turbo หรือเรียกเต็มๆ ว่า “Turbo Charg Engine” เป็นเครื่องยนต์ที่ใช้ระบบอัดอากาศเข้าสู่ห้องเผาไหม้ โดยนำพลังงานความร้อนจากการขยายตัวของไอเสียไปหมุนกังหันเทอร์ไบน์เพื่อดูดเอาไอดีเข้าไปให้ห้องเผาไหม้ ซึ่งทำให้มวลอากาศหนาแน่นกว่า ทำให้ได้กำลังที่มากกว่าเมื่อมีการจุดระเบิด

สังเกตง่ายๆ คือเครื่อง Turbo ทุกเครื่องจะมีแผงอินเตอร์คูลเลอร์อยู่ที่ด้านหลังกระจังหน้ารถ เพราะเป็นระบบทำความเย็นในกับระบบเทอร์โบ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคันที่จะวางอินเตอร์คูลเลอร์ไว้ที่ด้านหน้า เพราะ Subaru Impreza หรือ Subaru WRX นั้นมีการวางอินเตอร์คูลเลอร์นอนไว้ที่ด้านบนเครื่องยนต์ใต้ฝากระโปรงเครื่อง เพราะฉะนั้นขอแค่ดูว่ามีอินเตอร์คูลเลอร์ไหมก็พอ ถ้ามีก็นั่นแหละเครื่อง Turbo แน่นอน

เครื่อง Turbo นั้นจะเด่นในเครื่องของอัตราเร่งที่ดีมาก ให้อัตราเร่งที่สนุกเร้าใจ ทันใจสายกระทืบแป้นคันเร่งสุดๆ ทั้งการขับในเมืองและการขับทางไกล สายซิ่งสมัยนี้ก็ต้องถูกใจเครื่อง Turbo อยู่แล้วเพราะมันออกตัวดีกว่า แล้วพุ่งหลังติดเบาะ แรงแบบกระตุกจิตกระชากใจไปเลย

ถึงแม้ว่าช่วงกลางถึงปลายจะเจออาการเทอร์โบแลคเข้าไปทำให้ก็อาจจะเหงาๆ บ้าง แต่ก็ต้องบอกว่าเครื่อง Turbo เดิมๆ นั้นขับสนุกไม่แพ้เครื่อง NA ที่จูนแบบเต็มพิกัดแน่นอน

ข้อดีของเครื่องยนต์ Turbo

เครื่อง Turbo มีความประหยัดน้ำมันมากกว่าเพราะขนาดเครื่องยนต์ที่เล็กลง กระบอกสูบและห้องเผาไหม้ก็เล็กลงด้วย การจ่ายน้ำมันแต่ละครั้งก็จะมีปริมาณน้อยลงตามไปด้วยแต่กลับได้กำลังเยอะกว่า สามารถปรับจูนได้ง่ายกว่า เช่น การปรับบูสเทอร์โบเพื่อให้เหมาะกับลักษณะการขับขี่มากขึ้น แรงบิดและอัตราเร่งดีเป็นผลมาจากเทอร์โบ เป็นเครื่องยนต์ที่รักษ์โลกเพราะการเผาไหม้ค่อนข้างสมบูรณ์

ข้อเสียของเครื่องยนต์ Turbo

ถ้าคุณเป็นคนเท้าหนักเครื่อง Turbo จะพังง่ายมากและมันจะไม่ประหยัดน้ำมันเลยสักนิด อีกทั้งเครื่องเทอร์โบยังมีปัญหาเรื่องความร้อนสะสมสูงได้ง่ายมากกว่าเครื่อง NA พูดง่ายๆ ว่าขับขี่เร้าใจแต่ยังไงก็ต้องขับแบบรู้ขีดจำกัด อีกเรื่องก็คือเครื่อง Turbo ใช้งบประมาณในการเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องสูงมาก ค่าซ่อมบำรุงก็สูงเช่นกัน เนื่องจากตัวระบบของเครื่องยนต์เทอร์โบมีรายละเอียดยิบย่อยเยอะ

เครื่องยนต์แบบไหนดีกว่ากัน?

ส่วนตัวแล้วผู้เขียนมองว่าเครื่องยนต์แต่ละแบบมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวแตกต่างกัน หากอยากได้เครื่องที่เบาและมีความทนทานสูง ชอบขับสนุกๆ ลากรอบกวาดรอบเครื่องแบบสายซิ่งสมัยก่อน เครื่องยนต์แบบ NA จะขับสนุกมากถ้าเป็นเกียร์ MT แต่สำหรับเกียร์ AT ก็ต้องบอกว่ามันไม่ได้สนุกเท่า

สำหรับสายซิ่งสมัยใหม่เครื่อง Turbo ย่อมตอบโจทย์มากกว่าเพราะให้อัตราเร่งที่สนุกและสะใจ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็อาจจะได้แค่ช่วงต้น แต่ช่วงกลางและปลายอาจจะไม่ได้สนุกเท่าช่วงแรกๆ แถมยังมีอาการเทอร์โบแลคด้วย (ถ้าทำเครื่องเพิ่มจะช่วยได้เยอะ) แต่มันก็ถือว่าเป็นเครื่องที่ให้อัตราเร่งที่ยอดเยี่ยมเลยทีเดียว

ส่วนการใช้งานในชีวิตประจำวันแน่นอนว่าเครื่อง NA อาจจะดีมากกว่าเพราะว่ามีความทนทานมากกว่า ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงเบามือกว่า ซ่อมง่ายกว่า แต่การใช้เครื่อง Turbo ในชีวิตประจำวันก็ดีเช่นกัน เพราะเวลาเราออกตัวเราจะได้กำลังการออกตัวที่ดีไม่ตื้อๆ อืดๆ เหมือนเครื่อง NA แต่ถ้าขับทางไกลแบบปกติเครื่อง NA จะขับสบายกว่า ในส่วนเครื่อง Turbo จะได้เรื่องความเร้าใจและเร่งความเร็วได้ทันใจมากกว่า

ผมมองว่าทั้งเครื่อง NA และ เครื่อง Turbo เป็นเครื่องที่ขับดีพอๆ กันแต่ให้ความรู้สึกที่ต่างกัน เป็นไปได้ก็คงอยากจะได้รถยนต์ 2 คันที่มีเครื่องยนต์ต่างกัน อย่างเช่นมี Honda Civic Type R FL5 เครื่อง K20C สักคันเอาไว้ขับซิ่งๆ ในชีวิตประจำวัน และ มี Honda CR-V สักคันเอาไว้ขับเรื่อยๆ ชิลล์ๆ เป็นรถครอบครัวเวลาเดินทางไกล เรื่องของเครื่องยนต์เป็นเรื่องของความชอบและความรู้สึกในการขับขี่ล้วนๆ ใครจะชอบแบบไหนมากกว่าก็ไม่ผิดเลยครับผม

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง one2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com