รีวิว ORA 07 (Grand Cat) ดีไหม ควรข้ามไป BYD Seal รึเปล่า?

มาแล้ว ORA 07 หรือ ORA Grand Cat น้องแมวในเวอร์ชันที่โตเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแบบสง่างาม มาดูกันว่าน้องแมวตัวนี้จะน่าซื้อไหมถ้าเเข่งกับเจ้าแมวน้ำ BYD Seal

ทำความรู้จักกับ ORA 07 หรือ ORA Grand Cat

น้องแมวตัวใหม่จากค่าย GWM คันนี้คือ ORA 07 (ชื่อเรียกในประเทศไทย) หรือที่เราคุ้นหูกันในชื่อ ORA Grand Cat น้องเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มีสมรรถนะสูงและถือว่าเป็นรุ่นเรือธงที่ทาง GWM ตั้งเป้าไว้ว่ามันจะกลายเป็นรถยอดนิยมของหนุ่มสาวชาวไทยเช่นเดียวกับ ORA Good Cat ที่ทำตลาดมาก่อน

"ความโดดเด่นของ ORA 07 คือ น้องเป็นแมวที่เติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่ไฮโซหรูหราเป็นแน่แท้ เพราะดีไซน์ตัวรถทั้งภายนอกภายในต้องบอกว่ายุโร๊ปปปปปปปปป ยุโรปปปปปปปปป สวยหรูและมีสเน่ห์มาก"

โดยตัวรถของน้องแมว ORA 07 จะอยู่ในพิกัด D-Segment ซึ่งแน่นอนว่าเขาต้องมาชนกับแมวน้ำตัวดุ BYD Seal ที่เข้ามาทำให้ตลาดรถเก๋งขนาดใหญ่ให้แตกตื่นไปก่อนแล้ว และ Changan Deepal L07 ที่เปิดตัวเปิดใจเปิดราคาพร้อมกันในงาน Motor Expo 2023 ในด้านรถสันดาปเองก็ต้องมาสู้กับเจ้าตลาดอย่าง Honda Accord และ Toyota Camry ที่จะมาในปีหน้าอย่างแน่แท้

อ่านเพิ่มเติม : รีวิว ALL NEW HONDA ACCORD 2023 ดีหรือเปล่า?

มิติตัวถังของ ORA 07

สำหรับ ORA 07 มาพร้อมกับมิติตัวถังขนาดใหญ่พิกัด D-Segment มีการออกแบบให้มีความโค้งมนหรูหราในทุกสัดส่วน นั่นจึงทำให้ตัวรถในภาพหรือคันจริงดูมีมิติและอาจจะดูใหญ่มากกว่าปกติ ซึ่งมิติตัวถังจะมีขนาดอยู่ที่

• ความยาวตัวรถ 4,871 มม.
• ความกว้าง 1,862 มม.
• ความสูง 1,500 มม.
• ระยะฐานล้อ 2,870 มม.
• Ground Clearance อยู่ที่ 125 มม.
• น้ำหนักตัวถัง 2,115 กก.

ถ้าหากเรามาลองเทียบกับคู่แข่งทางตรงของเขาที่ทำตลาดในไทยอย่าง Deepal L07 และ BYD Seal ในด้านมิติตัวถัง ความกว้าง ยาว สูง และ ระยะฐานล้อ จะได้ดังนี้

• ORA 07 : 1,862 x 4,871 x 1,500 มม. ระยะฐานล้อ 2,870 มม.
• BYD Seal : 1,875 x 4,800 x 1,460 มม. ระยะฐานล้อ 2,920 มม.
• Deepal L07 : 1,890 x 4,820 x 1,480 มม. ระยะฐานล้อ 2,900 มม.

จะเห็นได้ว่ารถยนต์ไฟฟ้าที่มาจากจีน Deepal L07 จะกว้างขวางกว่านิดหน่อย ส่วน ORA 07 จะขนาดพอๆ กับ BYD Seal ซึ่งจะเล็กกว่าแค่หลักสิบมิล

ถ้าใครที่เคยได้สัมผัส BYD Seal มาแล้วอาจรู้สึกว่ามันดูเล็กหรับรถไซซ์นี้ แต่ไม่จริงเลย มันคือการออกแบบต่างหาก ซึ่งเจ้า ORA 07 เองก็เป็นเช่นนั้น ถึงขนาดตัวจะดูเล็กกว่าแต่ว่าการออกแบบภายนอกภายในก็ทำให้มันดูตัวใหญ่มากเลยทีเดียว

ขุมพลังของ ORA 07

ORA 07 มาพร้อมกับ 2 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น LONG RANGE และรุ่น PERFORMANCE ซึ่งแน่นอนว่าถ้ามองจากภายนอกอาจจะไม่แตกต่างอะไรกันมาก ถ้าไม่สังเกตดีๆ อาจแยกน้องแมวทั้งสองรุ่นนี้ไม่ออกเลยจากภายนอกและภายใน แต่สิ่งที่แต่ต่างกันก็คือเรื่องความแรง ระยะทาง และออปชันภายนอกบางจุด เช่น ล้อ และ สปอยเลอร์หลัง เป็นต้น

ด้านขุมพลังทั้งสองรุ่นจะเป็นดังนี้

• ORA 07 Long Range จะใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัว ให้พละกำลัง 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 340 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ Ternary Lithium-ion (NMC) ขนาด 83.5 kWh ขับเคลื่อนล้อหน้า ชาร์จเต็มวิ่งไกล 640 กิโลเมตร
• ORA 07 Performance AWD จะใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้พละกำลัง 408 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 680 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ Ternary Lithium-ion (NMC) ขนาด 83.5 kWh ขับเคลื่อน 4 ล้อ ชาร์จเต็มวิ่งไกล 550 กิโลเมตร

ระบบชาร์จ หัวชาร์จ Type 2 / CCS Combo กระแสสลับ AC รองรับการชาร์จสูงสุด 11 kW จาก 0-100% ใน 7 ชั่วโมง 45 นาที ชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC Fast Charger รองรับการชาร์จสูงสุด 80 kW ใช้เวลา 1 ชั่วโมง

ซึ่งถ้าหากดูจากรายละเอียดของมอเตอร์ของ ORA 07 จะรู้เลยว่าชื่อรุ่นเขาบ่งบอกถึงการใช้งานแล้ว Long Range คือเน้นวิ่งในเมืองและทางไกลสบายๆ ส่วน Performance เน้นแรงและใช้งานได้ครอบคลุม

ORA 07 Long Range vs Performance สเปกต่างกันยังไง

ORA 07 Long Range vs Performance ออปชันต่างกันตรงไหนบ้าง

ออปชันที่ ORA 07 Long Range กับ ORA 07 Performance แตกต่างกัน คือ

ORA 07 Long Range

• มีเซนเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด หลัง 4 จุด
• ใช้ลำโพงธรรมดา 11 จุด

ORA 07 Performance

• มีเซนเซอร์กะระยะหน้า 6 จุด หลัง 6 จุด
• ใช้ลำโพง Infinity® คุณภาพสูง 11 จุด
• มีระบบ Memory Seat และ Welcome Seat
• มีระบบระบายอากาศเบาะคู่หน้า
• มีระบบเบาะนวดไฟฟ้า
• มีระบบฆ่าเชื้อในห้องโดยสารด้วยแสงยูวี
• มีจอแสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกหน้า (Head-up display)
• มีฟังก์ชันประตูท้ายแบบเตะเปิดระบบไฟฟ้า
• มีสปอยเลอร์หลังไฟฟ้า
• มีระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบ
• มีระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ

อ่านเพิ่มเติม : แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ใช้ได้กี่ปี มีกี่ประเภท

บอกเลยว่าแค่ตัวเริ่มต้นก็แรงแล้ว แต่ตัว Performance นั้นแรงกว่า แต่ในระดับความแรงขนาดนี้ก็ต้องมาดูกันที่ช่วงล่างแล้วว่าเขาจะเอาถนนอยู่มากน้อยแค่ไหน

อ่านเพิ่มเติม : ระบบขับเคลื่อนรถยนต์แบบ FWD RWD AWD และ 4WD คืออะไร แตกต่างกันไหม

ORA 07 ขับดีไหม น่าซื้อกว่า BYD Seal หรือเปล่า?

ถ้าถามว่า ORA 07 นั้นขับดีไหมก็ต้องบอกว่ามันขับดีมากเป็นทุนเดิม (ขับใช้งานนะ) เป็นรถแรงที่เน้นใช้งานในชีวิตประจำวันอย่างแท้จริงเลย แต่ถ้าถามว่าเมื่อนำมาเทียบกับ BYD Seal ที่เข้ามาทำตลาดก่อนจะสู้ได้ไหม น่าซื้อกว่าหรือจะข้ามไป BYD Seal ดี

ต้องบอกก่อนว่า BYD Seal นั้นมีทั้งหมด 3 รุ่น สำหรับรุ่นเริ่มต้นและรุ่นกลางช่วงล่างจะให้ความรู้สึกที่ติดนุ่มเหมือนกันแต่ก็มีแอบหนึบๆ แต่สำหรับรุ่นท็อปของ Seal จะปรับแต่งมาให้มีกลิ่นอายความสปอร์ตเป็นแบบเฟิร์มๆ แข็งๆ เพื่อรองรับความแรงของเขา

อ่านเพิ่มเติม : รีวิว BYD Seal ดีและด้อยกว่า Tesla Model 3 ตรงไหนบ้าง?

ถ้าจะลองเทียบก็ต้องบอกว่าเหมือน BYD Seal ตัวท็อป และ ORA 07 ตัวท็อป จะให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันเลย ตัวท็อปของ ORA 07 จะให้ความรู้สึกในการขับขี่ที่นุ่มๆ เรียกได้ว่านุ่มเน้นใช้งานของจริง แต่ไม่ได้นุ่มนวลขนาดเท่า Toyota Camry

อ่านเพิ่มเติม : Toyota Camry มือสอง รถเก๋งอันดับ 2 ในไทย ดีจริงไหม? (รีวิว)

"เหมือนว่า ORA 07 จะมีกลิ่นอายความสปอร์ตแอบแฝงอยู่ด้วย ฟิลลิ่งประมาณว่าความรู้สึกที่ได้อยู่กึ่งกลางระหว่าง BYD Seal ตัวท็อป และ ตัวเริ่มต้น"

ในการขับขี่จริง ORA 07 จะให้ความนุ่มนวลมากในชีวิตประจำวัน แต่ถ้าเราซิ่งมันก็จะมีความเฟิร์มของช่วงล่างที่ดีด้วยในระดับหนึ่ง พูดง่ายๆ ว่า ขับขี่ทั่วไปได้ดีกว่าในระดับ 60% ส่วนการซิ่งก็มีความเฟิร์มๆ แบบติดนุ่มแต่ก็เอาอยู่อีก 40% ถึงแม้ว่าช่วงล่างเขาด้านหน้าจะเป็นแม็กเฟอร์สันสตรัทและด้านหลังเป็นมัลลิลิงค์เหมือนกับคู่แข่งก็ตามแต่ความรู้สึกต่างกันเลย ORA 07 นุ่มกว่าเห็นๆ

แต่ถ้าถามว่าน่าซื้อกว่า BYD Seal หรือไม่ ก็ต้องบอกว่าเรื่องนี้แล้วแต่คนชอบ มันเหมือนกับที่แต่ก่อนเราเทียบกันระหว่าง Camry และ Accord เลย ถ้าชอบซิ่งๆ นุ่มเฟิร์มก็ Accord แต่ถ้าชอบนุ่มนวลขับสบายดูดีก็ Camry

ซึ่งเราจะบอกว่าเคสนี้ BYD Seal ก็เปรียบเหมือน Honda Accord และ ORA 07 ก็เปรียบเหมือน Toyota Camry ครับ แล้วแต่คนชอบจริงๆ แต่ส่วนตัวมองว่าถ้าเน้นใช้งานทั่วไปคือน่าซื้อ นุ่มนวลสวยหรู ดูดีเลยแหละ!

อ่านเพิ่มเติม : รีวิว Honda Accord มือสอง ดีไหม รุ่นไหนน่าซื้อบ้าง

การออกแบบของ ORA 07

การออกแบบของ ORA 07 จะออกไปในสไตล์รถยุโรปที่มีความเรโทรนิดๆ มีความสวยหรูดูแพง ตัวจริงยิ่งสวยมาก แค่ถ่ายรูปไม่ค่อยขึ้นเท่านั้นเองอยากให้ได้เห็นตัวจริงกันก่อน เขาเป็นรถยนต์ไฟฟ้าสปอร์ตคูเป้ที่ออกแบบและถือกำเนิดขึ้นเพื่อสร้างกระแสความนิยมในหมู่ผู้บริโภคยุคใหม่ที่ชื่นชอบความโดดเด่น มีสไตล์ โดยรวมต้องบอกว่านี่มัน Porsche Panamera แดนมังกรเลย แต่ก็ไม่ได้เหมือนแบบ 100% นะเออ

ORA 07 เป็นรถ Sedan ไฟฟ้าที่สร้างมาด้วยรูปร่างซูเปอร์สตรีมไลน์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการไหลของน้ำที่มีความงดงามตามปรากฏการณ์ธรรมชาติ “การไหลแบบลามินาร์” ซึ่งเมื่อน้ำนิ่งแล้วพบกับก้อนกรวดหินในลำธาร มันจะไม่เกิดการชนกัน แต่จะโอบอุ้มหินเหล่านั้นด้วยความอ่อนโยนและนุ่มนวล และยังมีการออกแบบตามหลักการแอโรไดนามิคของซูเปอร์คาร์เพื่อเพิ่มเเรงกดให้ตัวรถในย่านความเร็วสูงด้วย

อ่านเพิ่มเติม : ประเภทรถยนต์ มีอะไรบ้าง แตกต่างกันอย่างไร

จุดที่น่าสนใจของภายนอกก็คือเรื่องของกระจกทั้ง 4 บานจะเป็นแบบไร้กรอบเพิ่มความพรีเมียม มือเปิดประตูแบบซ่อนเรียบไปกับรถ หลังคาแก้วแบบพาโนรามิคขนาดใหญตั้งแต่ด้านหน้าจรดท้ายทำให้ภายในห้องโดยสารปลอดโปร่งและทำให้ตัวรถภายนอกดูหรูหราขึ้น อีกทั้งยังเด่นที่สปอยเลอร์ไฟฟ้าพร้อมฟังก์ชันเปิดปิดอัตโนมัติได้เมื่อความเร็วถึง 70 กิโลเมตรต่อ (ในรุ่นท็อป) และท้ายดีไซน์แบบ Slip-Back

ส่วนภายในก็ต้องบอกว่ามีความกว้างขวางนั่งสบาย นั่งแล้วรู้สึกปลอดโปรงทัศนวิสัยดี ทั้งๆ ที่ขนาดตัวเล็กกว่า BYD Seal นิดหน่อยแต่โดยรวมการจัดวางและการออกแบบภายในทำได้ดีเยี่ยม ดูแล้วรู้เลยว่าคำนึงถึงการขับขี่ที่สะดวกสบายในชีวิตประจำวันอย่างแท้จริง

การตกแต่งภายในเป็นแบบเรโทรที่แฝงความลักซ์ชัวรี มีการออกแบบจุดต่างๆ ให้มีกลิ่นอายความสปอร์ตแต่ยังมีความน่ารัก มีการผสมผสานระหว่างเส้นโค้งและเหลี่ยมมุมได้อย่างสมบูรณ์ พร้อมมอบความสุนทรีย์ในทุกช่วงเวลาการขับขี่ด้วยลำโพง Infinity และการตกแต่งห้องโดยสารด้วย Ambient Light และวัสดุสีเงิน ดำ และน้ำตาล (Silver, Black, Brown)

ด้านหน้ามีการเชื่อมต่อของหน้าจอทั้ง 3 ช่วยให้เข้าถึงข้อมูลได้ง่ายมาก หน้าจอกลางแบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว รองรับได้ทั้ง Apple CarPlay, Android Auto, MP5, Bluetooth, ระบบนำทาง และแสดงข้อมูลการขับขี่ต่างๆ หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบดิจิทัลขนาด 10.25 นิ้ว หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกด้านหน้า (Head-up display)

ที่สำคัญเลยก็คือสำหรับผู้ที่กำลังจะหันมาใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าหรือเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าแล้วก็จะรู้สึกหงุดหงิดตรงที่ว่าทำไมฟังก์ชันการควบคุมต่างๆ มันต้องอยู่ในจอหมดเลย ORA 07 เค้ามีการย้ายการควบคุมฟังก์ชันออกมาไว้ในส่วนคอนโซลกลางแล้ว ซึ่งมันทำให้การใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าคันนี้เป็นไปได้อย่างง่ายดายและไม่ต้องปรับตัวเยอะเลย

พื้นที่นั่งด้านหลังมีความนุ่มสบายและกว้างขวาง ตัวเบาะคู่หน้าทรงจะเป็นแบบสปอร์ต แต่เบาะด้านหลังจะเน้นความสบายแต่มีความกระชับรับกับแผ่นหลังได้ดี รวมถึงยังมีแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลังพร้อมช่องชาร์จด้วย

"ข้อดีคือด้านบนเป็นกระจกให้ความโล่งสบาย กระจกประตูใหญ่จนสบายเกิ๊น แต่ทว่า! ด้านหลังนั่งแล้วหัวร้อน! เพราะเป็นกระจกทั้งหลังคาและเป็นแบบลาดลงท้ายด้วย!"

อ่านเพิ่มเติม : ประโยชน์ของหลังคา ซันรูฟ มีอะไรบ้างมาทำความเข้าใจกัน

แต่เรื่องระบบความบันเทิงต้องบอกว่าเยี่ยมเลย มาพร้อมลำโพง Infinity จำนวน 11 ตัว ระบบแอมพลิฟายเออร์อิสระ และระบบปรับระดับเสียงอัตโนมัติ ตามความเร็วรถ ให้คุณภาพเสียงระดับสูง เพิ่มความสนุกในทุกการเดินทาง อยากบอกว่าเสียงดีมาก อีกทั้งยังมีไฟตกแต่งห้องโดยสารพร้อมฟังก์ชันแบบหลายสีและเป็นจังหวะเพื่อช่วยสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารให้เพลิดเพลินในทุกการขับขี่ด้วยครับ

ORA 07 ราคาเท่าไหร่?

• ORA 07 รุ่น LONG RANGE ราคา 1,299,000 บาท
• ORA 07 รุ่น PERFORMANCE ราคา 1,499,000 บาท

ORA 07 น่าซื้อหรือไม่

ถ้าถามถึงเรื่องความน่าซื้อต้องบอกว่าถ้าคุณเป็นคนที่ชอบความหรูหราทันสมัยแต่ก็แอบมีกลิ่นอายความร่วมสมัยร่วมอยู่ด้วย ORA 07 มันเป็นรถยนต์ที่น่าซื้อสุดๆ แต่ดูแล้วจะเหมาะกับผู้หญิงมากกว่า เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่เสริมภาพลักษณ์ความอู้ฟู่ดูแพงให้คุณได้ แต่สำหรับผู้ชายถ้าใช้ก็อาจจะดูเรียบร้อยน่ารักไปนิด จะต่างจาก Porsche Panamera ที่มีความหล่อสวยแบบ Unisex มากกว่า

อ่านเพิ่มเติม : 10 รถยนต์สำหรับผู้หญิง ราคาถูก 2023 เริ่มไม่เกิน 6 แสน

แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบความนุ่มนวล ขับง่าย ขับสบาย แอบแรงใช้ซิ่งได้ ผมมองว่า ORA 07 ตอบโจทย์นะ แต่ถ้าชอบความหล่อสปอร์ตผมมองว่าทางด้าน BYD Seal จะกินขาดมากกว่า ถ้าว่ากันด้วยเรื่องฟังก์ชันหรือออปชันต่างๆ คือให้มาล้นๆ เหมือนกันทั้งสองค่าย ขึ้นอยู่กับว่าคุณชอบคาเเล็กเตอร์รถแบบไหนมากกว่าครับ

ต้องบอกว่าการออกแบบภายในของ ORA 07 ทำออกมาให้ใช้งานได้สะดวกสบายมากกว่า BYD Seal นิดหน่อยนะ รู้สึกว่าตำแหน่งการจัดวางมันใช้งานง่ายอยู่ในองศาที่ดี อีกทั้งเรื่องการขับขี่การปรับโหมดเองบนพวงมาลัยก็มีปุ่มแยกออกมาให้เลยทำให้ใช้งานง่ายขึ้นไปอีก

ORA 07 มีกี่สี

สี ORA 07 ภายนอก มีทั้งหมด 3 สี

• สีขาว Jade Ice

• สีเทา Tourmaline Gray White

• สีม่วง Smoked Amethyst (เฉพาะรุ่น Performance)

สี ORA 07 ภายใน มีทั้งหมด 2 สี

• สีดำ Black

• สีน้ำตาล Brown (เฉพาะรุ่น Performance สีเทาและสีม่วง)

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง one2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com