ข่าวสาร ล่าสุด

เข้าใจความต่างระหว่างมาตรฐาน NEDC vs WLTP vs CLTC vs EPA

เวลาอ่านข้อมูลระยะวิ่งสูงสุดของรถยนต์ไฟฟ้าเรามักจะเห็น (NEDC), (WLTP), (CLTC) หรือ (EPA) ต่อท้ายคำว่ากิโลเมตร (kg) เสมอ

ยอมรับว่าเมื่อก่อนเราไม่ค่อยได้สนใจว่ามันคืออะไร เห็นข้อมูล XPeng G6 วิ่งได้ไกลถึง 755 กม. เห้ยแจ๋วอะ! มากกว่า Tesla Model Y ตั้ง 222 km. แหนะ สุดยอด . . . มาเพื่อปราบเทสล่าชัด ๆ

แต่พอเพื่อนบอกว่ามันมาตรฐานระยะทางมันคนละหน่วยกัน เทียบแบบนี้ไม่ได้ ต้องไปแปลงให้เป็นหน่วยเดียวกันก่อน ที่นี้รู้ซึ้งเลยว่ามองข้ามหน่วยพวกนี้ไม่ได้แล้ว ถึงกับรีบไปเสิร์ชข้อมูลเลยว่าแต่ละอันคืออะไร และถือโอกาสนี้มาเล่าให้ทุกคนฟังว่ามาตรฐาน NEDC vs WLTP vs CLTC vs EPA มันต่างกันอย่างไรบ้าง

มาตรฐาน NEDC คืออะไร

NEDC ย่อมาจาก New European Driving Cycle คือ มาตรฐานการทดสอบที่ใช้เพื่อประเมินระดับการปล่อยไอเสียของเครื่องยนต์และการประหยัดน้ำมันในรถยนต์

ค่านี้พัฒนาขึ้นในปี 1970 ถูกใช้ในยุโรปและจีนมานาน ปัจจุบันไม่นิยมใช้แล้วเพราะค่าที่วัดได้ต่ำกว่าการใช้งานจริง

เนื่องจากทดสอบภายใต้สถานการณ์การขับขี่ที่จำกัด และเป็นการจำลองการขับขี่บนถนนในเมืองและนอกเมืองเท่านั้น ไม่ได้ทดสอบการขับขี่บนทางหลวงและการหยุดนิ่งด้วย

นอกจากนี้ การทดสอบความเร็วเฉลี่ยยังมีแค่ 4 ช่วง คือ 11.2 km/h, 40 km/h, 56 km/h และ 75 km/h ซึ่งใช้ระยะเวลาทดสอบเพียง 118 วินาที รวมระยะทางที่ทดสอบทั้งหมดก็ 11.07 km. แถมยังทดสอบที่อุณหภูมิเดียวคือ 25 องศาเซลเซียส ความน่าเชื่อถือของมาตรฐาน NECD จึงน้อยกว่ามาตรฐานอื่น ๆ

มาตรฐาน WLTP คืออะไร

WLTP ย่อมาจาก Worldwide Harmonised Light Vehicle Test Procedure คือ มาตรฐานการวัดระยะทางในทวีปยุโรป

ค่านี้เริ่มใช้เมื่อปี 2017 แทน NEDC เนื่องจากให้ผลทดสอบที่แม่นยำกว่า 20-30% ตอนนี้หลายประเทศทั่วโลกเริ่มนำมาตรฐาน WLTP มาใช้แล้ว รวมถึงประเทศไทยด้วย

สำหรับวิธีวัดระยะทางของ WLTP เขาจะทดสอบการขับขี่บนถนนจริงเท่านั้น และทดสอบสถานการณ์การขับขี่ที่หลากหลายกว่า NECD จึงใช้ระยะเวลาทดสอบนานกว่า

นอกจากนี้ WLTP ยังทดสอบที่ความเร็วเฉลี่ยมากกว่า NEDC รวมถึงทดสอบในอุณหภูมิที่หลากหลาย ในขณะที่ NECD ทดสอบที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียสอย่างเดียว

ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ได้ข้อมูลที่ใกล้เคียงกับการใช้งานจริงมากกว่า NECD ขณะเดียวกันก็กระตุ้นให้ผู้ผลิตรถยนต์พัฒนารถยนต์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ปล่อยมลพิษน้อยลงไปในตัว

มาตรฐาน CLTC คืออะไร

CLTC ย่อมาจาก China Light-Duty Vehicle Test Cycle คือ มาตรฐานการทดสอบรถยนต์ในจีนโดยเฉพาะ โดยคำนึงถึงสภาพการใช้งานจริงในประเทศจีนเท่านั้น ยังไม่มีการนำมาตรฐานนี้ไปใช้ในประเทศอื่น ๆ

ส่วนค่าที่วัดได้จากมาตรฐาน CLTC จะสูงกว่า NEDC และต่ำกว่า WLTP แต่ความแม่นยำก็ยังไม่ต่างจาก NEDC เท่าไรนัก

จำลองการขับขี่จริงบนถนนในเมืองและนอกเมืองเหมือน NECD ทดสอบที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียสเหมือนกัน แบ่งเป็น 4 ช่วงเท่ากัน แต่คนละความเร็วเฉลี่ย

CLTC จะใช้ 15 km/h, 30 km/h, 45 km/h และ 60 km/h ใช้เวลาทดสอบรวม 1,800 วินาที

นอกจากนี้ ยังทดสอบรถยนต์ที่ความเร็วต่ำ กลาง สูง เป็นเวลา 30 นาที ในระยะทาง 14.5 km. จำกัดความเร็วในการทดสอบสูงสุดที่ 114 km/h รวมระยะทางที่ทดสอบทั้งหมด 48.3 กม.

ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีการทดสอบเบรกและการใช้พลังงานขณะรถจอดหยุดนิ่งด้วย

มาตรฐาน EPA คืออะไร

EPA ย่อมาจาก Environmental Protection Agency คือ มาตรฐานการทดสอบรถยนต์ที่ใช้ในประเทศสหรัฐอเมริกา หน่วยงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของสหรัฐอเมริกา (EPA) พัฒนามาตรฐานนี้ขึ้นมา ขั้นตอนการทดสอบจึงเข้มงวดมาก EPA เลยกลายเป็นมาตรฐานที่แม่นยำที่สุดนั่นเอง และรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายในอเมริกาทุกคันก็ต้องผ่านมาตรฐานนี้ด้วย

สำหรับค่าที่วัดได้จาก EPA ถือว่าใกล้เคียงกับ WLTP เพราะการทดสอบมีหลายรูปแบบ แต่ก่อนทดสอบทีมงานจะต้องชาร์จไฟรถ EV ให้เต็มแล้วทิ้งไว้ 1 คืน จากนั้นค่อยนำรถไปขึ้นไดโนเทสต์ แล้วทดสอบขับขี่จริงบนถนนในเมือง นอกเมือง ทางหลวง จนกว่าแบตจะหมด

เมื่อได้ระยะทางทดสอบมาแล้วจะต้องคูณ 0.7 เข้าไปด้วย เพื่อตัวเลขใกล้เคียงกับการใช้งานจริงมากที่สุด

สรุป : ตอนนี้มาตรฐานอะไรเหมาะสมที่สุด

เมื่อเรียงตามความแม่นยำ EPA > WLTP > CLTC > NEDC แต่ตอนนี้ EPA ถูกบังคับใช้ในอเมริกาเท่านั้น แถมรุ่นรถกับสเปกค่อนข้างต่างจากไทย ถ้ายึด WLTP น่าจะเหมาะกับเวลานี้ที่สุด เพราะรุ่นรถกับสเปกใกล้เคียงกับรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายในไทยมากกว่า

ดังนั้น หากคุณซื้อรถยนต์ไฟฟ้า แนะนำให้แปลงค่ามาเป็น WLTP ก่อน เพื่อให้รู้ระยะทางการวิ่งที่แม่นยำขึ้น ตอนนี้ก็ต้องยอมรับว่ารถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่มาจากจีน บางค่ายอย่าง MG, GWM, BYD, และ NETA ก็ยังใช้ NEDC อยู่ เพราะงั้นมาดูวิธีแปลงค่าจาก NEDC to WLTP กัน

วิธีแปลงค่า NEDC to WLTP

เอาตัวเลขตามมาตรฐาน NEDC หารด้วย 1.27 จะได้ระยะทางตามมาตรฐาน WLTP (มีโอกาสคลาดเคลื่อน 8%)

ตัวอย่าง NETA V วิ่งได้ไกลสุด 384 กม.(NEDC)

ดังนั้น 384 ÷ 1.27 ≈ 302 กม. (WLTP)

วิธีแปลงค่า CLTC to WLTP

หากจะต้องแปลง CLTC ให้เป็น WLTP เราต้องทำให้ CLTC เป็น NEDC ก่อน แล้วค่อย ÷ 1.27 เพื่อให้เป็น WLTP อีกที

1. แปลง CLTC to NEDC ก่อน

ตามแหล่งข่าวของจีน ถ้ารถยนต์ไฟฟ้าวิ่งได้ 484 กม. (NEDC) จะได้ระยะทาง 509 กม. (CLTC)

ถ้าอ้างอิงตามข้อมูลนี้ ระยะทางมาตรฐาน CLTC มากกว่า NEDC ที่ 25 กม. (คิดเป็น 4.9%)

ตัวอย่าง XPeng G6 Long Range วิ่งได้ไกล 755 กม. (CLTC)

เอา 755 - 4.9% ระยะทางการวิ่ง NEDC จะน้อยกว่า CLTC ≈ 37 กม. 

ดังนั้น 755 - 37 = 718 กม. (NEDC)

2. เอาระยะทาง NEDC ที่ได้ หารด้วย 1.27 เพื่อให้เป็น WLTP

718 กม. (NEDC) ÷ 1.27 = 565 กม. (WLTP) แต่อย่าลืมว่าเขาบอกคลาดเคลื่อนได้ 8%

3. เปลี่ยนเป็น EPA (ถ้าอยากลอง)

อ้างอิงจาก Short Specs เขาได้เขียนวิธีแปลงเป็นค่า EPA เอาไว้ โดย EPA = NEDC ÷ 1.428 (คลาดเคลื่อนได้ 11%)

ถ้า 718 กม. (NEDC) ก็จะวิ่งได้ 718 ÷ 1.428 ≈ 503 กม. (EPA)

สุดท้ายนี้ ไม่ว่าเราจะแปลงจาก NEDC to WLTP หรือ to CLTC หรือ to EPA ย่อมมีความคลาดเคลื่อนเสมอ ไม่มีอะไรเป๊ะมาตั้งแต่แรก มีแต่ใกล้เคียงเท่านั้น แม้ว่าจะบางมาตรฐานจะใกล้เคียงกับการใช้งานจริง แต่คำว่า “ใช้งานจริง” ของแต่ละคนย่อมแตกต่างกัน

ดังนั้น หากใครที่กำลังคิดจะซื้อรถยนต์ไฟฟ้า แนะนำให้ทุกท่านดูรีวิวก่อนว่ารถยนต์ไฟฟ้าคันนั้นวิ่งจริงได้ประมาณเท่าไร แนะนำให้ติดตาม YouTube ช่อง Autospinn Channel ที่นี่จะเทสต์รถ EV แต่ละรุ่นให้เห็นกับตา ทดสอบหลายรูปแบบการขับขี่ และวิ่งทางไกลให้รู้กันไปเลยว่าจริง ๆ ได้กี่กิโลเมตร ใกล้เคียงตามที่แบรนด์เคลมไว้หรือไม่

ตัวอย่างคลิปรีวิวรถยนต์ไฟฟ้าจาก Autospinn Channel

โหลดหรือยัง? แอป one2car - NEXT GEN! CAR APP

• Smart Search: หารถง่าย ฟังก์ชันครบ ข้อมูลชัด!

• Qualified Car: รถคุณภาพ ตรวจสภาพแล้ว พร้อมรายงานรถ

• Most Trusted Seller: คัดผู้ขายให้แล้ว ไม่ต้องกลัวมิจฉาชีพ

• Hot Deals: พบกับ Big Sale ลดแรงทุกเดือน!

• My Garage: ระบบผู้จัดการส่วนตัวให้รถคุณ ทุกเรื่องรถ จบในที่เดียว

• Car Tax Renawal: ต่อภาษีรถยนต์สะดวกกว่าที่เคย ไม่ต้องกลัวลืม

• Car Price: อยากขายรถแต่ไม่รู้ราคา เช็กเลย! รู้ผลใน 1 นาที ต้องการขายก็ทำได้เลย

• Car Financing: สินเชื่อรถมือสอง จัดไฟแนนซ์ง่ายกับ Partner ของเรา พร้อมข้อเสนอพิเศษ

• Car Insurance: เปรียบเทียบเบี้ย ต่อประกันรถยนต์ พร้อมดีลสุดพิเศษจากบริษัทชั้นนำ

• Extended Warranty: ประกันอะไหล่รถ หมดห่วงเรื่องอะไหล่รถมือสอง

• one2car Story: คลิปรีวิวรถจากคนขาย คอนเทนต์เกี่ยวกับยานยนต์

Apple Store : https://bit.ly/o2c_apple_store

Google Play Store : https://bit.ly/o2c_Google_Play_Store

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง one2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com

พูดถึงรถประหยัดน้ำมันก็คงจะหนีไม่พ้น รถ Hybrid แน่นอน วันนี้เรามาดูกันว่า 10 รถยนต์ Hybrid ในปี 2024 นี้ มีรุ่นไหนที่ยังน่าซื้อและน่าใช้งาน

รถ Hybrid คืออะไร มีกี่ประเภทกันแน่ ?

ก่อนจะพูดถึงรถ Hybrid เราต้องมาดูเรื่องระบบ Hybrid กันก่อน ระบบไฮบริด (Hybrid) คือ การผสานการทำงานของ 2 แหล่งพลังขับเคลื่อน เพื่อสมรรถนะที่ดีและตอบโจทย์ในทุกการขับขี่ ตั้งแต่การออกตัวไปจนถึงการใช้ความเร็วสูง ซึ่งข้อดีของระบบนี้คือจะได้เรื่องของการประหยัดน้ำมัน แต่ว่ารถ Hybird บางรุ่นก็เน้นไปที่การเค้นกำลังมากกว่า อย่างเช่น GWM Tank 500 เป็นต้น

เพราะฉะนั้น รถยนต์ไฮบริด (Hybrid) ก็คือ รถยนต์ที่ประกอบด้วยเครื่องยนต์สันดาปภายในที่ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าเสริมกำลังเพื่อทำการขับเคลื่อนของตัวรถยนต์

มีระบบ Regenerative Braking เพื่อใช้ในการกักเก็บพลังงานไฟฟ้าไปสู่แบตเตอรี ซึ่งทำให้ตัวรถมีประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนสูงขึ้น วิ่งได้ไกลขึ้น และสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงต่ำกว่ารถยนต์ปกติทั่วไป

รถยนต์ระบบไฮบริดมีกี่ประเภท

1. รถ Hybrid Electric Vehicle (HEV) = ไม่ต้องชาร์จไฟ มี Self-Charging จากการเบรกและชะลอ
2. รถ Plug-In Hybrid Electric Vehicle (PHEV) = ถ้าจะวิ่งด้วยไฟฟ้าต้องชาร์จไฟจากสถานีชาร์จรถไฟฟ้าหรือ EV Charger ที่บ้านสำรองเอาไว้

อ่านเพิ่มเติม : อักษรย่อ BEV PHEV HEV และ FCEV ในรถยนต์คืออะไร

รถยนต์ไฮบริดมือสอง 2024 มีรุ่นไหนน่าซื้อบ้าง ยี่ห้อไหนดีสุด

เอาล่ะ! ในที่นี้เราจะมาแนะนำรถยนต์ไฮบริดมือสองและ Plug in Hybrid 2024 มีรุ่นไหนน่าซื้อบ้าง มาดูกันกับ 10 รุ่นต่อไปนี้

1. Toyota Corolla Cross : รถ Hybrid ยอดฮิต

Toyota Corolla Cross เป็นรถไฮบริดอีก 1 รุ่นที่เข้าสู่ตลาดมือสองแล้วได้รับความนิยมสูงมาก ด้วยความครอบคลุม ความอเนกประสงค์ และความประหยัดขั้นสุดตามสไตล์ Toyota ก็ทำให้เขาขึ้นเเท่นเป็นรถยนต์ Hybrid ที่น่าซื้อเป็นอันดับต้นๆ ในปี 2024 สำหรับ one2car เลยก็ว่าได้

Toyota Corolla Cross Hybrid ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ รหัส 2ZR-FXE Atkinson cycle ขนาด 1.8 ลิตร VVT-i ให้กำลังสูงสุด 98 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 142 นิวตันเมตร

ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor แรงดันไฟฟ้า 600 โวลต์ ให้กำลังสูงสุด 72 แรงม้า แรงบิด 163 นิวตันเมตร แบตเตอรี่แบบ Nickel metal Hydride (Ni-MH) แรงดันไฟฟ้า 201.6 โวลต์ 28 Modules 6.5 Ah

รวมพละกำลังจากทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าจะให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติแบบ E-CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า รองรับน้ำมันสูงสุด E20 อัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 23.3 กิโลเมตร/ลิตร ซึ่งถือว่าประหยัดมากสำหรับรถยนต์ไซซ์นี้

Toyota Corolla Cross Hybrid มือสอง ราคาเท่าไหร่

• Toyota Corolla Cross 1.8 Hybrid Premium มือสอง ราคาเริ่มต้น 699,000 บาท
• Toyota Corolla Cross 1.8 Hybrid Premium Safety มือสอง ราคาเริ่มต้น 748,000 บาท
• Toyota Corolla Cross 1.8 Hybrid Premium Safety 60th Anniversary มือสอง ราคาเริ่มต้น 829,000 บาท
• Toyota Corolla Cross 1.8 Hybrid Premium Safety GR Sport มือสอง ราคาเริ่มต้น 893,000 บาท
• Toyota Corolla Cross 1.8 Hybrid Smart มือสอง เริ่มต้นที่ราคา 739,000 บาท

2. Honda City e:HEV รถ Hybrid คันเล็ก

Honda City เป็นรถ Eco Car ที่ได้รับความนิยมในทุกเจเนอเรชัน จากรถยนต์ Eco Car ที่มีความประหยัดมากอยู่แล้ว Honda City e:HEV ก็ประหยัดน้ำมันและมีประสิทธิภาพในการขับขี่ที่เหนือระดับขึ้นไปอีก และเป็นรถยนต์คันเล็กรุ่นแรกๆ ในไทยที่มาพร้อมกับระบบ Hybrid

Honda City e:HEV ใช้เครื่องยนต์รหัส LEB-MMD เบนซิน 4 สูบ Atkinson Cycle ขนาด 1.5 ลิตร พละกำลังสูงสุด 98 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 127 นิวตันเมตร

ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว พละกำลังสูงสุด 109 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 253 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ e-CVT ปล่อย CO2 ที่ 85g./km. แบตเตอรี่ Lithium-ion รองรับน้ำมันสูงสุด E20 อัตราสิ้นเปลือง 27.8 กม./ลิตร ถือว่าประหยัดมาก!

Honda City e:HEV มือสอง ราคาเท่าไหร่

• Honda City 1.5 e:HEV RS มือสอง เริ่มต้น 539,000 บาท

3. รถไฮบริดออปชันล้ำ MG VS HEV

รถยนต์ Crossover หน้าตาหล่อ พลังเยอะ ออปชันล้นๆ แต่ราคามือสองน่าซื้อมากทั้งๆ ที่ยังเป็นรถยนต์ปีใหม่มาก! ต้อง MG VS HEV เลยครับ คันนี้แรงด้วย สวยด้วย และประหยัดเอาเรื่อง ขับสนุกจนละทิ้งภาพจำ MG ยุคแรกๆ ไปเลย

MG VS HEV ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 109 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 142 นิวตันเมตร ทำงานผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวมกันทั้งระบบสูงสุด 177 แรงม้า

ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ E-CVT มีโหมดการขับขี่ให้เลือก 3 โหมด คือ Eco, Comfort และ Sport พร้อมกับโหมด (KERS) ที่เปลี่ยนพลังงานจลน์ขณะชะลอรถให้กลายเป็นไฟฟ้ากลับเข้าแบตเตอรี่ อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 24.4 กิโลเมตร/ลิตร

MG VS HEV มือสอง ราคาเท่าไหร่

• MG VS 1.5 HEV X มือสอง ราคาเริ่มต้น 639,007 บาท

4. Honda Accord : รถ Hybrid จอมพลัง

หลายคนมักจะคิดว่า Honda Accord มีแต่โฉมล่าสุด 2023 เท่านั้นที่เป็นเครื่องยนต์แบบ Hybrid แต่จริงๆ เขามีตั้งแต่รุ่นโฉมปี 2013 และ 2019 หรือสองโฉมก่อนหน้าเจนฯ ปัจจุบันแล้ว

แต่ทว่ารถ Hybrid ของ Honda แต่ก่อนจะไม่ได้ขึ้นชื่อเรื่องความประหยัดขั้นสุดเหมือนกับ Toyota แต่ว่าเขาก็มีความประหยัดอยู่พอสมควร แต่สิ่งที่ได้มากกว่าคู่แข่งที่เป็นรถ Hybrid ด้วยกันในเวลานั้นคือ “ความแรง” ครับ!

สำหรับ Honda Accord Hybrid 2019 ในรุ่น Hybrid และ Hybrid TECH จะติดตั้งเครื่องยนต์ไฮบริด ขนาด 2.0 ลิตร i-MMD (Sport Hybrid Intelligent Multi Mode Drive)

เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์ Atkinson-cycle i-VTEC 4 สูบ และมอเตอร์ไฟฟ้าจำนวน 2 ตัว ให้กำลังรวมสูงสุด 215 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ E-CVT และติดตั้งแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออน มีอัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 24.4 กม./ลิตร และปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 97 กรัมต่อกิโลเมตร

Honda Accord Hybrid มือสอง ราคาเท่าไหร่

• Honda Accord 2.0 e:HEV TECH มือสอง ราคาเริ่มต้น 1,099,000 บาท
• Honda Accord 2.0 Hybrid มือสอง ราคาเริ่มต้น 839,000 บาท
• Honda Accord 2.0 Hybrid i-VTEC มือสอง ราคาเริ่มต้น 460,000 บาท
• Honda Accord 2.0 Hybrid TECH มือสอง ราคาเริ่มต้น 854,000 บาท
• Honda Accord 2.0 Hybrid TECH i-VTEC มือสอง ราคาเริ่มต้น 425,000 บาท

5. Mitsubishi Outlander PHEV รถ SUV ไฮบริด

Mitsubishi Outlander PHEV เป็นรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดที่ในไทยเราไม่ค่อยได้เห็นกัน หลายคนเลยไม่รู้ว่าเขาเป็นรถยนต์แบบใด สำหรับรถยนต์คันนี้จะเป็นรถ SUV ไม่ใช่รถ PPV นะครับ

ซึ่ง Mitsubishi Outlander PHEV จะเป็นรถยนต์ SUV ขนาดใหญ่ ที่มาพร้อมกับขุมกำลังแบบ PHEV (สามารถชาร์จไฟได้) มีจุดเด่นที่ความสปอร์ต ความแรงดุดัน และความเป็นรถครอบครัวขนาดใหญ่ที่เน้นใช้งานอย่างแท้จริง เหมาะกับครอบครัวที่ชอบท่องเที่ยวมากที่สุดเลยก็ว่าได้

Mitsubishi Outlander PHEV มาพร้อมการทำงานร่วมกันของเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ MIVEC ขนาด 2.4 ลิตร กำลังสูงสุด 128 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 199 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า AC Synchronous Permanent Magnetic Motor 2 ตัว ด้านหน้า S61 กำลังสูงสุด 82 แรงม้า แรงบิด 137 นิวตันเมตร และ ด้านหลัง Y61 กำลังสูงสุด 95 แรงม้า แรงบิด 195 นิวตันเมตร

เมื่อเครื่องยนต์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า พละกำลังรวม 305 แรงม้า พวงด้วยแบตเตอรี่ Lithium-ion 300 volts ความจุ 13.8 kWh มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ซูเปอร์-ออลวีลล์คอนโทรล (S-AWC) มาพร้อมโหมดขับขี่ 3 แบบ โหมดอีวี โหมดไฮบริด และ โหมดพาราเรล ไฮบริด

Mitsubishi Outlander PHEV มือสอง ราคาเท่าไหร่

• Mitsubishi Outlander Phev 2.4 GT Premium 4WD มือสอง เริ่มต้น 1,088,000 บาท

6. Toyota Corolla Altis Hybrid สุดประหยัด

รถยนต์ Hybrid ที่ประหยัดมากๆ ก็คงหนีไม่พ้นค่าย Toyota แน่นอนว่าจะไม่มีเขาก็ไม่ได้เลยสำหรับ Toyota Corolla Altis ในรุ่น Hybrid ซึ่งทำอัตราสิ้นเปลืองได้อยู่ที่ 23 กม./ล.

โดย Toyota Corolla Altis Hybrid จะใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ รหัส 2ZR-FXE Atkinson cycle ขนาด 1.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 98 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 142 นิวตันเมตร

ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor แรงดันไฟฟ้า 600 โวลต์ ให้กำลังสูงสุด 72 แรงม้า แรงบิด 163 นิวตันเมตร แบตเตอรี่แบบ Nickel metal Hydride (Ni-MH) แรงดันไฟฟ้า 201.6 โวลต์ 28 Modules 6.5 Ah

ซึ่งถ้าหากรวมพละกำลังจากทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าแล้วจะให้กำลังสูงสุดที่ 122 แรงม้า มาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติแบบ E-CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า ก็จะทำใหขับขี่ได้แบบไหลลื่นและประหยัดมากเลยทีเดียวสำหรับรุ่นนี้

Toyota Corolla Altis Hybrid มือสอง ราคาเท่าไหร่

• Toyota Corolla Altis 1.8 Hybrid Entry มือสอง ราคาเริ่มต้น 579,000 บาท
• Toyota Corolla Altis 1.8 Hybrid GR Sport มือสอง ราคาเริ่มต้น 938,000 บาท
• Toyota Corolla Altis 1.8 Hybrid High มือสอง ราคาเริ่มต้น 550,000 บาท
• Toyota Corolla Altis 1.8 Hybrid Mid มือสอง ราคาเริ่มต้น 596,100 บาท
• Toyota Corolla Altis 1.8 Hybrid Premium มือสอง ราคาเริ่มต้น 698,000 บาท

7. Toyota C-HR Hybrid

รถยนต์โตโยต้าไฮบริดมือสองแบบ Crossover SUV ที่ช่วงล่างดีที่สุดเท่าที่รถยนต์ Toyota เคยมีมา คงหนีไม่พ้น Toyota CH-R สำหรับในรุ่น Hybrid ต้องบอกว่าเขาเป็นรถยนต์ที่ขับแบบไม่ต้องพยายามให้ประหยัดก็ประหยัดมากๆ เป็นรถยนต์ Hybrid ที่ยังน่าซื้ออยู่ในปี 2024 นี้

โดย Toyota CH-R HEV จะใช้เครื่องยนต์เบนซิน Hybrid รหัส 2ZR-FXE DOHC 4 สูบแถวเรียง DOHC Atkinson cycle 16 วาล์ว VVT-i ขนาด 1.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 98 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 142 นิวตันเมตร

ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor แรงดันไฟฟ้า 600 โวลต์ ให้กำลังสูงสุด 72 แรงม้า แรงบิด 163 นิวตันเมตร แบตเตอรี่แบบ Nickel metal Hydride (Ni-MH) แรงดันไฟฟ้า 201.6 โวลต์ 28 Modules 6.5 Ah

ซึ่งเมื่อรวมพละกำลังจากทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าจะให้กำลังสูงสุดที่ 122 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ แบบ E-CVT รองรับน้ำมันสูงสุด E20 ปล่อย CO2 100 g./km. อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยอยู่ที่ 23.3 กม./ล. ซึ่งถือว่าประหยัดเอาเรื่องสำหรับรถยนต์ไซซ์นี้และค่อนข้างมีน้ำหนักตัวเยอะ 

Toyota C-HR Hybrid มือสอง ราคาเท่าไหร่

• Toyota C-hr 1.8 HEV GR Sport มือสอง เริ่มต้น 965,000 บาท
• Toyota C-hr 1.8 HEV Premium Safety มือสอง เริ่มต้น 835,000 บาท
• Toyota C-hr 1.8 HV Hi มือสอง ราคาเริ่มต้น 540,000 บาท
• Toyota C-hr 1.8 HV Mid มือสอง ราคาเริ่มต้น 459,000 บาท
• Toyota C-hr 1.8 Hybrid มือสอง ราคาเริ่มต้น 588,000 บาท

8. Honda CR-V e:HEV รถไฮบริดรุ่นใหม่ น่าใช้

ต้องบอกก่อนว่าหลายๆ คนมักจะไม่รู้ว่า Honda CR-V จะมีเครื่องยนต์แบบ Hybrid ด้วย นั่นก็เพราะว่า Honda CR-V พึ่งจะมามีเครื่องยนต์แบบ Hybrid ในโฉมปัจจุบัน ซึ่งเป็นโฉมที่สวยลงตัวและแรงมาก เหมาะกับครอบครัวสายสปอร์ตอย่างแท้จริง

ซึ่งเจ้า Honda CR-V e:HEV จะใช้เครื่องยนต์รหัส LFC2 เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 2.0 ลิตร Direct-injection หัวฉีดมัลติพอยท์ PGM-FI กำลังสูงสุด 148 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 183 นิวตันเมตร

ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว กำลังสูงสุดของมอเตอร์ขับเคลื่อน 184 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 335 นิวตันเมตร พ่วงด้วยแบตเตอรี่ Lithium-ion ความจุ 1.06 kWh ขับเคลื่อน 4 ล้อ ส่งกำลังด้วยเกียร์ E-CVT มีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 20.8 กม./ล. พร้อมโหมดการขับขี่ 3 โหมด Sport Normal และ ECON

Honda CR-V e:HEV มือสอง ราคาเท่าไหร่

• Honda CR-V 2.0 e:HEV RS 4WD มือสอง ราคาเริ่มต้น 1,629,000 บาท

9. Honda Civic e:HEV รถเก๋งไฮบริดที่ควรซื้อ

เมื่อพูดถึงรถเก๋งยอดนิยมของเมืองไทยก็ต้องเป็น Honda Civic อยู่แล้ว ซึ่ง Honda Civic เองก็มีรุ่นย่อยที่เป็นระบบ Hybrid เช่นกัน ก็คือ Civic e:HEV แต่เราอยากบอกว่าจริงๆ แล้ว Honda Civic โฉม FB เองก็มีรุ่นย่อย Hybrid ด้วยนะรู้หรือเปล่า แต่วันนี้เรามาดูที่รุ่นปัจจุบันกันดีกว่าเพราะเขาหล่อจริง!

รถไฮบริด ฮอนด้า Honda Civic e:HEV ใช้เครื่องยนต์รหัส LFC2 เบนซิน 4 สูบ  DOHC 16 วาล์ว 2.0 ลิตร Direct Injection จุดระเบิดแบบ Atkinson Cycle กำลังสูงสุด 141 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 182 นิวตันเมตร รองรับน้ำมันสูงสุด Gasohol E20

เมื่อทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า AC Synchronous Permanent Magnet Electric Motor 2 ตัว ประกอบด้วยมอเตอร์ Generator และมอเตอร์ขับเคลื่อน พ่วงด้วยแบตเตอรี่ Lithium-ion จะให้พละกำลังสูงสุด 184 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 315 นิวตันเมตร อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 24.4 กม./ล. พร้อมโหมดการขับขี่ Drive Mode 3 รูปแบบ ได้แก่ ECON, NORMAL และ SPORT

Honda Civic e:HEV มือสอง ราคาเท่าไหร่

• Honda Civic 2.0 e:HEV EL+ มือสอง ราคาเริ่มต้น 938,000 บาท
• Honda Civic 2.0 e:HEV RS มือสอง ราคาเริ่มต้น 949,000 บาท

10. Nissan X-trail รถ SUV Hybrid ดี

Nissan X-trail Hybrid รถ SUV ขับเคลื่อน 4 ล้อ เครื่องยนต์ Hybrid ของดีค่าย Nissan ที่คนไทยไม่ค่อยพูดถึงกันตอนนี้ราคามือสองดีจนน่าครอบครองสักคัน เหมาะมากกับครอบครัวขนาดกลางที่ต้องการรถยนต์อเนกประสงค์ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์และให้อัตราสิ้นเปลืองที่ดีมากที่ 20.7 กม./ลิตร

Nissan X-trail Hybrid ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ รหัส MR20DD Hybrid ขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว Twin C-VTC กำลังสูงสุด 144 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 200 นิวตันเมตร

ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า Synchronous Electric Motor กำลังสูงสุด 41 แรงม้า แรงบิด 160 นิวตันเมตร และ แบตเตอรี่ Li-ion แรงดันไฟฟ้า 202 โวลต์ ความจุไฟฟ้า 887 วัตต์/ชั่วโมง

เมื่อทำงานร่วมกันรวมกำลังทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าจะได้กำลังสูงสุด 179 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ XTRONIC CVT 7 สปีด พร้อม Manual Mode (M-CVT) ขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมลุยทุกเมื่อ!

Nissan X-trail Hybrid มือสอง ราคาเท่าไหร่

• Nissan X-trail 2.0 E Hybrid มือสอง ราคาเริ่มต้น 414,000 บาท
• Nissan X-trail 2.0 S Hybrid มือสอง ราคาเริ่มต้น 437,000 บาท
• Nissan X-trail 2.0 V Hybrid 4WD มือสอง ราคาเริ่มต้น 374,000 บาท
• Nissan X-trail 2.0 VL Hybrid 4WD มือสอง ราคาเริ่มต้น 551,000 บาท

จริง ๆ Nissan Kicks ก็อาจเป็นไฮบริดนะ เพราะมี 2 ขุมพลังตามคำจำกัดความของรถยนต์ไฮบริด เพียงแต่คิกส์มีชื่อเรียกเฉพาะว่าเป็นรถ EV เพราะวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วน แต่ที่มาของพลังงานไฟฟ้าไม่ได้มาจากการชาร์จเหมือนรถไฟฟ้าทั่วไป เพราะมาจากการเติมน้ำมันแล้วใช้เครื่องยนต์ไฟปั่นไฟนั่นเอง

อ่านเพิ่มเติม Nissan Kicks e-Power รถที่เหมาะกับช่วงเปลี่ยนผ่านสู่รถไฟฟ้า 100%

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง one2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com