ซื้อ Revo รุ่นไหนดี ระหว่าง GR Sport กับ Rocco

บางท่านอาจลังเล ไม่รู้ว่าจะซื้อรุ่นไหนดี ระหว่าง Revo รุ่น GR Sport กับ Rocco เพราะทั้งคู่ก็มาพร้อมกับชุดแต่งที่ดูบึกบึน พร้อมลุย และราคาก็ไม่ต่างกันมากนัก

โดยทั้งสองรุ่นนี้ เป็นToyota Hilux Revo รุ่นพิเศษเหมือนกันทั้งคู่ โดยในรุ่น Rocco ตัวท็อปสุด ราคา 1,256,000 บาท ส่วน GR Sport ราคารุ่นท็อปสุด 1,299,000 บาท แม้การเปิดตัวของทั้งสองรุ่นนี้ จะต่างเวลากัน โดย Rocco เปิดตัวก่อน แต่ปัจจุบันทางโตโยต้าได้ปรับปรุงโฉมใหม่ ทำให้ทั้งสองรุ่นนี้ มีออปชันใกล้เคียงกัน

ภายนอกหากมองผิวเผินหน้าตาอาจดูคล้ายกัน แต่ถ้าสังเกตที่กระจัง และกันชน จะเห็นถึงความแตกต่าง โดยในรุ่น Rocco หน้าตาจะออกแนวดุดัน เข้มขรึม ออกแนวลุยๆ ส่วนในรุ่น GR Sport จะดูมีสีสันมากกว่าเพราะขอบกระจังหน้าเป็นสีเดียวกับตัวรถ และสร้างความแปลกตาด้วยการเปลี่ยนจากโลโก้สามห่วงไขว้ เป็นคำว่า TOYOTA ในส่วนของไฟหน้าจะเหมือนกัน คือ Bi-Beam LED พร้อมระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบปรับไฟหน้าสูง-ต่ำ อัตโนมัติ และระบบ Follow-me-home

ด้านข้างแตกต่างที่การเล่นสี ในรุ่น Rocco เป็นคิ้วซุ้มล้อสีดำ มีสติ๊กเกอร์ตกแต่งที่กระบะท้ายเล็กน้อย มือเปิดประตูสีเทาเข้ม กระจกมองข้างสีเทาเข้ม ส่วนในรุ่น GR Sport ใช้คิ้วซุ้มล้อสีเดียวกับตัวรถ มือเปิดประตูสีเดียวกับตัวรถ กระจกมองข้างสีดำเมทัลลิก และมีสติ๊กเกอร์ตกแต่งที่ดูเยอะกว่า ในส่วนของล้อแมกซ์ มีขนาด 18 นิ้วเท่ากัน แตกต่างกันที่ลาย

ในส่วนของกระจกมองข้าง ทั้งสองรุ่นนี้ จะได้กระจกมองข้างแบบปรับและพับเก็บด้วยไฟฟ้า มีไฟเลี้ยวในตัว พร้อมระบบ Welcome Light

สำหรับด้านท้าย ทั้งสองรุ่นจะได้ออปชันที่เหมือนกัน เช่น ไฟท้ายแบบ LED Light Guiding ระบบช่วยผ่อนแรงฝากระบะ บาร์หลัง แต่จะแตกต่างกันที่สี ในรุ่น Rocco เน้นสีเทาเข้ม ส่วนในรุ่น GR Sport เน้นสีดำเมทัลลิก

ภายในของทั้งสองรุ่น หลัก ๆ แล้วจะได้ออปชันที่เหมือนกัน แต่จะแตกต่างที่ชุดตกแต่ง ในรุ่น Rocco จะเน้นสีดำ เรียบง่าย ส่วนในรุ่น GR Sport ภายในจะดูซิ่ง ๆ หน่อย เน้นความสปอร์ตด้วยการเดินด้ายเย็บสีแดง แทบจะทั้งคัน พวงมาลัยหุ้มหนังสีดำสลับแดง ปักโลโก้ GR ที่หัวหมอน เรือนไมล์เฉพาะรุ่น GR ปุ่มสตาร์ท GR แผงคอนโซลและหัวเกียร์ สี Smoke silver

จุดเด่นของภายในของทั้งสองรุ่นนี้ที่มีเหมือนกันก็คือ ได้แอร์อัตโนมัติ แยกอิสระซ้าย-ขวา

สำหรับเครื่องยนต์ ในรุ่นท็อปสุดของทั้งสองรุ่นนี้ ใช้เครื่องยนต์เดียวกัน รหัส 1GD-FTV (High) 4 สูบ แถวเรียง 16 วาล์ว DOHC VN Turbo และ Intercooler ความจุกระบอกสูบ 2,755 ซีซี กำลังสูงสุด 204 แรงม้า ที่ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600 – 2,800 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อม Sequential Shift

แต่สิ่งที่แตกต่างกันคือ รุ่น GR Sport มีแป้น Paddle Shift หลังพวงมาลัย ในขณะที่รุ่น Rocco ไม่มี

ในส่วนของระบบช่วงล่าง ต่างกันอย่างชัดเจน ในรุ่น Rocco ระบบกันสะเทือนหน้าเป็นแบบอิสระปีกนกคู่ พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง ระบบกันสะเทือนหลังเป็นแบบแหนบซ้อน

ในขณะที่รุ่น GR Sport ระบบกันสะเทือนด้านหน้าเป็นแบบอิสระปีกนกคู่ พร้อมคอยล์สปริง เหล็กกันโคลง และช็อคแอบซอร์บเบอร์ แบบ Monotube ระบบกันสะเทือนด้านหลังเป็นแบบแหนบซ้อน พร้อมช็อคแอบซอร์บเบอร์ แบบ Monotube และยังได้คาลิปเปอร์คู่หน้าสีแดง และสัญลักษณ์ GR

ในส่วนของระบบความปลอดภัย ทั้งสองรุ่นได้ระบบความปลอดภัยที่เหมือนกัน ได้แก่

• ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (Pre-Collision System) 
• ระบบเตือนออกนอกเลนพร้อมหน่วงกลับอัตโนมัติ (Lane Departure Alert) 
• ระบบควบคุมและปรับความเร็วอัตโนมัติ (Dynamic Radar Cruise Control)
• กล้องมองรอบคัน (Panoramic View Monitor)
• ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (Blind Spot Monitor)
• ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
• ระบบป้องกันล้อล็อค ABS และระบบกระจายแรงเบรก EBD
• ระบบควบคุมการทรงตัว VSC
• ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี A-TRC
• ระบบควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย TSC
• ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC
• ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน DAC
• ระบบป้องกันการออกตัวฉุกเฉิน DSC
• ถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS คู่หน้า หัวเข่าด้านคนขับ ด้านข้าง และม่านด้านข้าง

สรุปโดยรวม

ในเรื่องของการดีไซน์ ก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนเลยครับ ถ้าชอบแบบเรียบ ๆ ดุดัน ก็เลือกรุ่น Rocco แต่ถ้าชอบความสดใหม่ เน้นความสปอร์ตของชุดแต่งของทั้งภายนอกและภายใน ก็เลือกเป็นรุ่น GR Sport แต่ถ้ามองที่ราคา ในรุ่น GR Sport แม้ราคาจะแพงกว่า 43,000 บาท แต่สิ่งที่คุณจะได้เพิ่มคือ Paddle Shift หลังพวงมาลัย ได้ระบบช่วงล่างที่เป็นโช้คอัพ Monotube ผมว่าก็ดูคุ้มค่ากว่าการที่เรานำไปใส่เพิ่มเอง

แต่สำหรับท่านใดที่สนใจ Toyota Fortuner มือสอง ราคาเบา ๆ ในเว็บไซต์ วันทูคาร์ มีให้เลือกมากมายหลายคันเลยล่ะครับ คลิกชมได้ตามลิงก์ด้านล่างนี้เลยครับ

• Toyota Fortuner โฉมปี 04 - 08 ราคาเริ่มต้น 3 แสนบาท
• Toyota Fortuner โฉมปี 08 - 11 ราคาเริ่มต้น 3.7 แสนบาท
• Toyota Fortuner โฉมปี 12 - 15 ราคาเริ่มต้น 4.5 แสนบาท
• Toyota Fortuner โฉมปี 15 - ปัจจุบัน ราคาเริ่มต้น 7.8 แสนบาท

​ติดตามข่าวรถยนต์ ราคารถยนต์ รีวิวรถยนต์ และจักรยานยนต์ทุกยี่ห้อ กับเรา Autospinn
แชร์ความคิดเห็นบนเว็บบอร์ด Autospinn คลิกเลย webboard.autospinn.com  
เช็คโปรโมชั่นรถใหม่ เช็คราคารถใหม่ ได้ที่นี่ 
ราคารถมือสอง ซื้อรถมือสอง ขายรถมือสอง เชิญได้เลยที่ one2car