Tesla Cybertruck กระบะไฟฟ้า 100% ความแข็งแกร่งจัดเต็ม

Tesla Cybertruck รถกระบะไฟฟ้า100% ใครที่กำลังสนใจรถกระบะไฟฟ้ารุ่นนี้บอกเลยว่าเตรียมลุ้นได้เลยเพราะข่าวลือจากหลายสำนักบอกว่าอาจจะเข้าไทยด้วยราคาเริ่มต้นประมาณ 2.1 ล้านบาท ถ้าอย่างงั้นวันนี้เรามาทำความรู้จักกับเจ้า Cybertruck กันก่อนดีกว่า

Tesla Cybertruck มีอะไรน่าสนใจ

หากใครที่ติดตามข่าวสารของเจ้ารถไฟฟ้า Tesla รุ่นนี้อยู่ ก็คงจะเคยเห็นหน้าตาของ Cybertruck กันมาบ้างแล้ว ซึ่งเจ้า Cybertruck นี้มาพร้อมกับ คอนเซ็ปต์ "อเนกประสงค์มากกว่ารถกระบะ และมีประสิทธิภาพสูงกว่ารถสปอร์ต" จึงทำให้หลายๆ คนสนใจเจ้ารถรุ่นนี้กันอย่างมาก

Cybertruck ถูกออกแบบมาให้แข็งแรงและทนทานพอที่จะไปได้ทุกที่ และทุกสภาพพื้นผิวถนน พร้อมรับมือกับทุกสิ่งด้วยระบบกันสะเทือนแบบถุงลมที่ปรับระดับได้อัตโนมัติด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ มีระยะการยุบตัวได้ถึง 305 มม. และมีระยะห่างระหว่างใต้ท้องรถกับพื้นถึง 432 มม.โดยตัวถังจะมีความแข็งแรงสูง เพราะทำมาจากเหล็กกล้ารีดเย็น ซึ่งจะมีความแข็งแกร่งมากกว่าตัวถังรถกระบะแบบเดิมถึง 30 เท่าเลยทีเดียว และกระจกความแข็งแรงสูงชนิดพิเศษของเทสลา ทำให้เกิดการยุบหรือความเสียหายจากการใช้งานปกติได้ยากนั่นเอง เรียกได้ว่าความแข็งแกร่งนั้นระดับกันกระสุนได้เลยละ

ขนาดตัวรถกระบะ Tesla Cybertruck

Tesla Cybertruck นั้นหากจะเทียบขนาดก็คงจะเทียบเท่ากับ Ford F-150 รถกระบะที่ได้รับความนิยมในสหรัฐอเมริกา โดยจะมีขนาด ความยาว x ความกว้าง x ความสูง อยู่ที่ 5,682.9 x 2,413.3 x 1,790.8 มม. มีความสูงใต้ท้องรถในโหมดยกสูงมากถึง 433 มม. เลยทีเดียว ถ้าจะเทียบกับรถที่วางจำหน่ายในบ้านเราก็ถือว่ามีขนาดที่ใหญ่กว่า Ford Ranger Raptor ซะอีก

ความแข็งแกร่งภายนอกของ Cybertruck

ในเรื่องของความแข็งแกร่งนั้นทาง Tesla ก็ถือว่าทำออกมาได้ยอดเยี่ยมเลยทีเดียว อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ว่าภายนอกของรถทำจากเหล็กกล้าไร้สนิม ที่จะมีความแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ ในส่วนของรอบด้านรถก็เป็นกระจกเกราะที่สามารถต้านทานแรงกระแทกของลูกเบสบอลได้ที่ความเร็ว 112 KM/H หรือลูกเห็บความรุนแรงระดับสี่ได้ ถือว่าแข็งแกร่งอย่างมาก

ส่วนตัวท้ายกระบะก็ยังสามารถรองรับน้ำหนักได้ถึง 1,134 กก. และลากจูงได้มากถึง 4,990 กก.พื้นกระบะ ทำจากวัสดุคอมโพสิตที่แข็งแรงเป็นพิเศษจึงทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้แผ่นรองพื้นกระบะเลย หากใครที่เป็นสายเที่ยวหรือบรรทุกของเยอะๆ เป็นประจำ Tesla Cybertruck ตอบโจทย์ได้อย่างดีแน่นอน เพราะหลังกระบะมีขนาด 4 x 8 ฟุต จุของได้สะใจแน่นอน

ซึ่งบอกได้เลยว่าแข็งแรงและทนทานพอที่จะไปได้ทุกที่ ที่สำคัญ Cybertruck ยังพร้อมรับมือกับทุกสิ่งเพราะมีระบบกันสะเทือนแบบถุงลมที่ปรับระดับได้อัตโนมัติด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ แถมช่วงล่างยังเป็น Dynamic Air Suspension หรือที่เรียกว่าถุงลมไฟฟ้า เพื่อทำให้รถสามารถปรับระดับสูง-ต่ำ ตามสภาพการขับขี่หรือพื้นถนนได้อย่างเหมาะสม

ไฟหน้ารถหรือ Light Bar ยังให้แสงสว่างได้ไกลออกไปถึง 480 เมตร ซึ่งไกลกว่าระยะ 5 สนามอเมริกันฟุตบอลต่อกันเลยทีเดียว

ภายในของ Tesla Cybertruck

สำหรับภายในได้ถูกออกมาเพื่อให้ดื่มด่ำไปกับห้องโดยสารกว้างขวางและทันสมัย อัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์ด้านเทคโนโลยีและความบันเทิงที่ล้ำยุค ประกอบด้วย

โรงหนังติดล้อ

หน้าจอสัมผัสแบบอินฟินิตี้ (หน้าจอสัมผัสไร้ขอบ) ขนาดใหญ่ 18.5” ที่ด้านหน้า และขนาด 9.4” ที่ด้านหลัง พร้อมอินเทอร์เฟซผู้ใช้ใหม่ทั้งหมด

เสียงอันเหนือชั้น

ไดนามิกของเสียงระดับสตูดิโอด้วยลำโพง 15 ตัว ลำโพงซับวูฟเฟอร์แบบเฉพาะ 2 ตัว และเครื่องขยายเสียงที่ติดตั้งแบบกระจาย

สามารถชาร์จไฟได้ทุกอย่าง

ภายในรถยังสามารถชาร์จโทรศัพท์ แล็ปท็อป หรือเครื่องมือต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วจากที่นั่งด้านหน้า เบาะหลัง หรือเตียงด้วยการชาร์จแบบไร้สายด้วย เต้ารับไฟฟ้า USB-C ขนาด 65W และ 120V/240V

แผ่นกรองโหมดป้องกันอาวุธชีวภาพ

ภายในยังมีแผ่นกรอง HEPA ซึ่งเป็นเกรดมาตรฐานเดียวกับโรงพยาบาลมาให้ในตัวรถด้วย ทำให้การปกป้องจากอนุภาคในอากาศได้ถึง 99.97% เลยทีเดียว

ภายในกว้างขวางนั่งสบาย

พื้นที่ภายในกว้างสามารถนั่งได้ 5 คน พร้อมมุมมองจากห้องโดยสารที่กว้างขวางผ่านหลังคากระจกรอบด้านที่มาในรูปแบบแบบพาโนรามิก ตัวกระจกยังกันเสียงช่วยทำให้ห้องโดยสารเงียบเหมือนอยู่ในอวกาศทำให้การนั่งภายในรถนั้นมีความสบาย ไม่อึดอัด

Cybertruck สามารถจ่ายไฟให้กับรถไฟฟ้าคันอื่นๆ ได้

ความพิเศษและเป็นจุดเด่นของรถไฟฟ้า Tesla รุ่นนี้ก็คือสามารถจ่ายไฟให้สิ่งต่างๆ ได้ รวมไปถึงจ่ายไฟให้รถไฟฟ้าคันอื่นๆ ได้ด้วยเช่นกัน เนื่องจาก Cybertruck ได้ผลิตออกมาให้มีระบบจ่ายไฟฟ้าสู่ภายนอกแบบ V2L ด้วยเต้ารับไฟฟ้าขนาด 120V และ 240V ทำให้สามารถจ่ายไฟฟ้าด้วยกำลังสูงสุดถึง 11.5 kW ซึ่งมากเพียงพอสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายๆ สิ่ง และยังมีกำลังไฟฟ้ามากพอที่จะใช้สำหรับชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าคันอื่นๆ ด้วยเหมือนกัน

Tesla Cybertruck มีกี่รุ่น

Cybertruck จะมีด้วยกันทั้งหมด 3 รุ่น ก็คือ ขับเคลื่อนล้อหลัง (Rear-Wheel Drive) , ขับเคลื่อน 4 ล้อ (Dual Motor AWD) และ Cyberbeast AWD

ขับเคลื่อนล้อหลัง (Rear-Wheel Drive)

• มอเตอร์เดี่ยว

• ขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง

• อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 6.5 วินาที

• วิ่งได้ไกลสุด 403 km.

ขับเคลื่อน 4 ล้อ (Dual Motor AWD)

• มอเตอร์คู่ 2 ตัว ขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD

• อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 4.1 วินาที

• Range วิ่งได้ไกลสุด 547 km.

• แบตเตอรี่ 800V Technology ขนาดความจุ 123 kWh

• รองรับการชาร์จ DC สูงสุด 250 kw

• รองรับการลากจูงสูงสุด 4,990 kg.

Cyberbeast AWD

• มอเตอร์ 3 ตัว 845 แรงม้า 13,959 นิวตันเมตร

• ขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD

• อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 2.6 วินาที

• Top Speed ความเร็วสูงสุด 209 km/h

• Range วิ่งได้ไกลสุด 515 km.

• แบตเตอรี่ 800V Technology ขนาดความจุ 123 kWh

• รองรับการชาร์จ DC สูงสุด 250 kw

• รองรับการลากจูงสูงสุด 4,990 kg.

Tesla Cybertruck กี่บาท

ในเรื่องของการวางขายในประเทศไทยนั้นยังคงเป็นที่น่าติดตามและลุ้นตามไปพร้อมๆ กัน แต่ก็อย่างที่บอกไปว่ามีหลายสำนักคิดว่าน่าจะนำเข้าไทยด้วยเช่นกันเพราะในเว็บของ Tesla Thailand ก็ได้มีการเผยข้อมูลออกมาแล้ว แถมยังมีการคาดเดาว่าจะมีการรับจองในรูปแบบของพวงมาลัยขวาเพื่อตีตลาดในประเทศไทยอีกด้วย สำหรับราคาเริ่มต้นของ Tesla Cybertruck ในสหรัฐอเมริกาจะอยู่ที่ประมาณ 60,900 - 99,990 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 2.1 - 3.5 ล้านบาท

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง one2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com