One2car.com
One2car.com App
Predict the Price of Your Vehicle
4.5
21,133
Get

รีวิว Toyota Prius มือสอง น่าเล่นไหม เมื่อเจน 5 ปี 2024 กำลังมา

Car Guides

รีวิว Toyota Prius มือสอง น่าเล่นไหม เมื่อเจน 5 ปี 2024 กำลังมา

Toyota Prius รถยนต์ Hybrid รุ่นแรกๆ ในประเทศไทยและเคยเป็นรถยนต์ที่ดีที่สุดของ Toyota ตอนนี้กำลังก้าวสู่เจนฯ 5 แล้ว มาดูกันว่าโฉมเก่ายังน่าเล่นอยู่ไหม


ทำความรู้จักกับ Toyota Prius

ทำความรู้จักกับ Toyota Prius

สำหรับ Toyota Prius ที่ประเทศเราคุ้นหน้าคุ้นตากันดีนั้น หลายคนอาจจะนึกว่านี่คือเจนเนอเรชันที่ 1 ความจริงแล้ว Toyota Prius โฉมปี 09-16 ที่ทำตลาดในบ้านเรา คือ เจเนอเรชันที่ 3 ครับ ไม่ใช่เจเนอเรชันที่ 1 แต่อย่างใด

ความจริงแล้ว Toyota Prius นั้นมีการวางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 1997 แล้ว หลังจากนั้นก็มีการขยายตลาดไปยังบางประเทศ เช่น อเมริกา, ออสเตรเรีย, อังกฤษ และ นิวซีเเลนด์ เป็นต้น ซึ่งแน่นอนว่าตั้งแต่เจนฯ 1 มา Toyota Prius ก็เป็นรถยนต์ Hybrid ตั้งแต่แรกเลย

ตอนนั้น Toyota ได้ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร มาพัฒนาวิธีการทำงานใหม่เป็นแบบ  Atkinson Cycle ซึ่งทำให้เครื่องสามารถจุดระเบิดและเผาไหม้ได้อย่างสมบูรณ์กว่าเดิม แต่ว่าในยุคนั้นการทำแบบนี้ยังไม่ได้รับความนิยมเท่าไหร่เพราะได้แรงน้อยมากในรอบต่ำรถก็จะอืดๆ หน่อยอ่ะนะ

แต่ทาง Toyota ก็แก้จุดนี้ด้วยการใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเข้ามาเสริม ทำให้มันตอบสนองได้ดีทุกช่วง ประหยัดน้ำมัน และ ปล่อยมลพิษน้อย นี่แหละคือจุดำกเนิดของรถยนต์ Hybrid อันเลื่องชื่อของ Toyota อย่าง Prius

ทำความรู้จักกับ Toyota Prius

รุ่นที่สร้างชื่อเสียงให้กับ Toyota Prius จริงๆ ไม่ใช่เจนฯ 1 แต่กลับเป็น เจนฯ 2 ที่ออกแบบทรวดทรงให้สวยและทันสมัยในสไตล์ท้ายลาด มีค่าสัมประสิทธิแรงเสียดทานเพียง 0.26 cd พร้อมกับเครื่องยนต์ 1.5 Hybrid ที่ให้พละกำลังเทียบเท่าเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร และมีการเปลี่ยนแบตฯ มาใช้เป็นแบบ Ni-MH ซึ่งทาง Toyota บอกว่าเราจะรับประกันแบตฯ ไปเลย 8 ปี เท่านั้นแหละตลาดแตกเลยสิครับ!

อ่านเพิ่มเติม : ค่าบำรุงรักษาเครื่องยนต์รถไฮบริด สูงอย่างที่เขาบอกจริงเหรอ?

ทำความรู้จักกับ Toyota Prius

นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ทั้งโลกได้รู้จัก Toyota Prius ในนามรถยนต์ผู้บุกเบิกระบบ Hybrid อย่างแท้จริง และแน่นอนว่าสำหรับประเทศไทยเองทาง Toyota ก็เห็นแววเห็นแนวขายแล้ว จึงได้มีการจัดจำหน่าย Toyota Prius เจเนอเรชันที่ 3 ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในปี 2010

ซึ่งในตอนนั้น ราคาของ Toyota Prius Gen 3 มือหนึ่ง แบ่งออกเป็น 3 รุ่นย่อย โดยมีรคาอยู่ที่

  • Toyota Prius 1.8L Top (White Pearl) 1,270,000 บาท
  • Toyota Prius 1.8L Top 1,260,000 บาท
  • Toyota Prius 1.8L Standard 1,190,000 บาท

อ่านเพิ่มเติม : Plug in Hybrid คืออะไร ต่างจากรถไฮบริดทั่วไปอย่างไร?

ขุมพลังของ Toyota Prius Gen 3

ขุมพลังของ Toyota Prius Gen 3

ในเจนฯ 3 ที่มีการทำตลาดในไทยนั้นก็เป็นรุ่นที่มีการปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์มาใหม่ด้วย จากเดิมที่ใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร Hybrid ก็มีการเปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร Hybrid แทน ทำให้มันขับดีขึ้นเยอะเลยทีเดียว

โดยเครื่องยนต์บล็อกใหม่นี้ที่ทาง Toyota ได้ปรับเปลี่ยนมาให้เจ้า Prius เจนฯ 3 ก็ทำให้มีแรงม้าและแรงบิดเยอะขึ้น และยังสามารถลดรอบการทำงานของเครื่องยนต์ได้ดีทำให้มันประหยัดน้ำมันได้มากขึ้นทั้งที่มีพละกำลังสูงขึ้น

ซึ่งเครื่องยนต์ที่ Prius Gen 3 ใช้คือ เครื่องยนต์รหัส 2ZR-FXE เบนซิน 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว VVT-i ให้พละกำลังสูงสุด 99 แรงม้า ที่ 5,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 142 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ผ่านมาตรฐาน EURO 4 และรองรับพลังงานทางเลือก E10

มีการใช้มอเตอร์ไฟฟ้าที่พัฒนามาเป็นพิเศษเพื่อทำให้ระบบเกียร์ทดกำลังมีขนาดเล็กลง น้ำหนักเบา สามารถรองรับการทำงานของเครื่องยนต์ที่มีกำลังสูงขึ้นได้ โดยใช้มอเตอร์ไฟฟ้าแบบซิงโครนัสแม่เหล็กถาวร ที่มีแรงดันไฟฟ้าสูงสุด 650 โวลต์ กำลังสูงสุด 82 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 207 นิวตันเมตร

ขุมพลังของ Toyota Prius Gen 3

อีกจุดเด่นเลยก็คือการใช้เกียร์ E-CVT ซึ่งให้การขับขี่ที่นุ่มนวลพร้อมระบบคันเกียร์ที่กลับคืนสู่ตำแหน่งกลางทุกครั้งได้โดยอัตโนมัติหลังการเข้าเกียร์ และมีเกียร์ทดกำลังเพื่อเพิ่มแรงบิดให้มอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้มีความนุ่มนวลในจังหวะการเปลี่ยนเกียร์ด้วย ซึ่งถ้าใครไม่เคยใช้ก็อาจจะงงๆ หน่อย แนะนำว่าให้ดูจอ MID ประกอบครับว่าอยูที่เกียร์ไหน

อ่านเพิ่มเติม : เกียร์ CVT คืออะไร ? และข้อดี-ข้อเสียมีอะไรบ้าง?

ตัวแบตเตอรี่ไฮบริดในรุ่นนี้ก็มีการเปลี่ยนรูปแบบใหม่มาใช้แบบ Ni-MH (Nickel-Metal Hydride) ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าทำให้แบตเตอรี่ Hybrid มีน้ำหนักเบา ทนทาน แต่ยังคงไว้ซึ่งการจ่ายพลังงานไฟฟ้าให้กับมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างดี

มีรูปโหมดการขับขี่ให้เลือก 3 โหมด

  • PWR Mode ระบบจสั่งให้มอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ทำงานร่มกันอย่างเต็มที่ เพื่อตอบสนองการขับขี่อย่างทันใจ
  • ECO Mode ระบบจะเลือกใช้กำลังในการขับเคลื่อนจากมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ให้เหมาะสมกับการขับขี่ โดยคำนึงถึงการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า
  • EV Mode ระบบจะใช้กำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว ทำให้การขับขี่ไม่มีเสียงรบกวนและเงียบสนิท

เรื่องอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันทาง Toyota ได้บอกว่า ถ้าวิ่งที่ความเร็วต่ำ ประมาณ 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง Prius จะประหยัดน้ำมันได้ถึง 47 กิโลเมตร/ลิตร เมื่อใช้ความเร็วแบบปกติในการเดินทาง Prius จะทำอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงได้ที่ประมาณ 26 กิโลเมตร/ลิตร ซึ่งสำหรับในช่วงปี 2010-2012 ถือว่าเป็นรถยนต์ที่ประหยัดน้ำมันมาก!

Toyota Prius น่าเล่นไหม?

Toyota Prius น่าเล่นไหม?

สำหรับ Toyota Prius ตัวเก่า หรือ Prius Gen 3 นั้น ทางผู้เขียนยังไม่ได้มีโอกาสในการลองขับขี่ แต่มีการสอบถามข้อมูลจากผู้ใช้งานจริงมาแบ่งปันให้ทุกคนได้ตัดสินใจไปพร้อมๆ กันครับ

โดยจากการสอบถามกับผู้ที่เคยใช้ Toyota Prius ในชีวิตประจำวัน ต้องบอกว่าในสมัยก่อนที่ Prius ได้เริ่มทำตลาดในประเทศไทย มันเป็นรถยนต์ที่ช่วงล่างดีที่สุดเท่าที่ Toyota เคยทำมาเลยสำหรับรถยนต์นั่งของเขา อีกทั้งยังเป็นรถยนต์ที่จุดกระแสรถ Hybrid ทำให้คนไทยได้รู้จักกับระบบ Hybrid และยังทำให้คนไทยต้องตาลุกวาวกับอัตราสิ้นเปลืองที่ทำได้อย่างยอดเยี่ยมด้วย

อ่านเพิ่มเติม : ถ้าเติมน้ำมันเต็มถัง รถจะวิ่งได้ไกลแค่ไหน

ดีไซน์ภายนอกของ Toyota Prius Gen 3

ดีไซน์ภายนอกของ Toyota Prius Gen 3

ในสมัยนั้น Toyota Prius เป็นรถยนต์ Hybrid ที่มีดีไซน์ค่อนข้างเรียบง่ายแต่ดูล้ำสมัยมาก มาจนถึงปัจจุบันที่จะมีข่าวว่าจะนำเข้า Prius Gen 5 มาจำหน่ายในไทย ตัว Gen 3 ก็ยังถือว่ายังสวยอยู่มากถ้าเทียบกับรถยนต์มือสองในปีเดียวกัน อีกทั้งบนหลังคายังมีแผง Solar Cell ด้วย จะล้ำไปไหน!

สิ่งที่ทำให้รถเก่าคันนี้มันสวยมาจนถึงปัจจุบันนั่นก็เป็นเพราะการออกแบบภายนอกที่ดี ดูน้อยแต่มาก มีความมินิมอลเรียบง่าย และมาเป็นในสไตล์ท้ายลาด คล้ายๆ กับ Changan L07 ที่เป็นสไตล์ Fastback อะไรประมาณนั้น

ซึ่งเส้นสายและสัดส่วนที่ลงตัวกับทรวดทรงแบบนี้มันก็ทำให้เจ้า Prius Gen 3 เป็นรถยนต์ที่สวยไม่ตกยุคเลย ถ้าซื้อมือสองตอนนี้ก็ยังถือว่าสวยไม่ตกยุคอยู่นะ เพราะมันค่อนข้างมินิมอลเลย แถมการออกแบบของตัวรถยังคำนึงถึงหลักอากาศพลศาสตร์ด้วย พูดง่ายๆ คือ ค่อนข้างลู่ลมเลยแหละ ก็เป็นส่วนช่วยที่ทำให้เขาประหยัดน้ำมันได้ดีขึ้น ค่าแรงเสียดทานอยู่ที่ 0.25 cd เท่านั้นเอง

ดีไซน์ภายนอกของ Toyota Prius Gen 3

เอกลักษณ์ของ Prius ถ้ามองจากด้านหน้าสิ่งที่ทำให้รู้ได้ทันทีว่ารถยนต์คันนี้คือ Prius สำหรับสมัยนั้นก็คงหนีไม่พ้นโลโก้ Toyota ที่มีขอบภายในสีฟ้า ซึ่งเป็นสิ่งที่สื่อถึงรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ Hybrid ของ Toyota และชุดโคมไฟหน้าทรงก้ามปูที่รับกับหน้าตาของเขาได้อย่างสวยงาม เมื่อดูรวมๆ กับชุดกระจังหน้าที่มีไฟตัดหมอกแนวตั้งก็ทำให้มันแอบมีกลิ่นอายความสปอร์ตอยู่บ้างด้วย

แต่ถ้าคุณขับตามหลังเขาดูออกแน่นอนว่าเป็น Prius Gen 3 เพราะการออกแบบท้ายที่เป็นเอกลักษณ์แบบนี้เมื่อสิบกว่าปีที่แล้วแทบจะไม่มีค่ายไหนทำสักเท่าไหร่ ท้ายที่ลาดลงและตัดตรงมันจึงกลายเป็นเอกลักษณ์ของ Prius ไปเลย มองด้านหน้าแอบดูสปอร์ต แต่พอมองที่ด้านหลังดันดูล้ำสมัยซะงั้นเลย ยิ่งถ้าเป็นสีขาวจะทำให้ตัดกับกระจกหลังและกระโปรงหลังที่เป็นสีดำได้สวยมาก

ดีไซน์ภายในของ Toyota Prius Gen 3

ดีไซน์ภายในของ Toyota Prius Gen 3

ภายในก็ต้องบอกว่าในสมัยนี้มันอาจดูเก่าไปหน่อย แต่ก็ยังดูมีความมินิมอลและน่าใช้อยู่ การออกแบบภายในสำหรับเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว Prius Gen 3 ถือว่าล้ำสมัยที่สุดในกลุ่มรถใช้งานทั่วไป แต่สำหรับปัจจุบันการมีปุ่มเยอะๆ ตรงคอนโซลกลางก็แอบทำให้เราคิดถึงโทรศัพท์ปุ่มกดอย่างพวก BB หรือ Nokia อะไรแบบนั้น มีหัวเกียร์ที่หน้าตาเหมือนคันโยกตู้คีบตุ๊กตาด้วยแฮะแต่ต้องบอกว่านั่นน่ะล้ำสมัยมากนะสำหรับ 10 กว่าปีก่อน อย่างกับผู้นำเทรนด์!

ไม่ได้ดูเก่าจนแย่สำหรับปัจจุบันนะ ยังถือว่าโอเคเลย ฟังก์ชันเยอะและเพียงพอต่อการใช้งาน แค่เราต้องกดๆ และจำว่าปุ่มไหนใช้งานกับระบบอะไรบ้าง มันไม่ได้ดูเก่าจนคลาสสิค การออกแบบชุดคอนโซลยังมีเส้นสายมีกลิ่นอายความสมัยใหม่อยู่ มันเลยทำให้ความรู้สึกครั้งแรกที่ได้เห็นนั้นคือ “ก็โอเคนะ” สำหรับรถปี 2010 กว่าๆ ก็ถือว่าเป็นรถเก่าที่การออกแบบภายในไม่ได้แย่เลย

ดีไซน์ภายในของ Toyota Prius Gen 3

ประเด็นก็คือถ้าคุณลองสังเกตดีๆ การออกแบบคอลโซลกลางแบบนี้ของ Toyota Prius Gen 3 ยังถือว่าไม่ตกยุคนะ สิ่งที่ทำให้มันดูตกยุคคือเรื่องของวัสดุและสีของวัสดุต่างหาก ถ้าลองดูดีๆ การออกแบบคอนโซลแบบนี้จะคล้ายคลึงกับรถยนต์ไฟฟ้าหลายๆ รุ่นในปัจจุบันด้วยนะ เช่น ORA 07 เป็นต้น แปลว่า Prius Gen 3 ในสมัยออกขายใหม่ๆ ก็เป็นรถที่ล้ำสมัยในทุกด้านจริงๆ

ดีไซน์ภายในของ Toyota Prius Gen 3

ความล้ำสมัยที่ยังไม่ตกยุคเลยก็คือเรื่องจอเรือนไมล์ที่ปกติแล้วจะอยู่บริเวณหลังพวงมาลัย แต่สำหรับ Prius Gen 3 นั้นถูกย้ายมาตรงกลางคอลโซลและมีขนาดค่อนข้างใหญ่ นอกจากจะบอกความเร็วแลว ยังใช้บอกถึงการทำงานของระบบต่างๆ ของตัวรถยนต์ได้อีกด้วย ซึ่งจอเป็นดิจิตอลนะเออ ล้ำสมัยไหมล่ะ

ดีไซน์ภายในของ Toyota Prius Gen 3

เรื่องการจัดตำแหน่งห้องโดยสาร ต้องยอมรับว่าสำหรับรถยนต์เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว Toyota Prius เป็นรถยนต์ที่จัดตำแหน่งได้ดี มีความนั่งสบายทุกตำแหน่ง ห้องโดยสารที่โปร่งโล่ง หลังคาที่สูงทำให้ผู้โดยสารตอนหลังไม่ได้รู้สึกอึดอัดในการนั่งด้านหลังที่ตัวรถเป็นรูปแบบท้ายลาด องศาเบาะหลังเอื้อต่อการนั่งโดยสารอย่างสบายใจเฉิบเลยทีเดียว เบาะนุ่มมาก!

ส่วนด้านหน้าเองก็มีความกว้างขวางและนั่งสบายเช่นกัน และด้วยการออกแบบคอนโซลตรงกลางที่ทำให้มันดูเป็นเหมือน Cockpit ก็ทำให้คนขับและผู้โดยสารด้านหน้ารู้สึกว่าได้อยู่ในเซฟโซนและรู้สึกปลอดภัยมากขึ้นด้วย ดูไปดูมาด้านหน้าก็แอบคล้ายยานอวกาศรุ่นเก่าๆ อยู่นะว่าไป ถือว่าเป็นรถยนต์ที่ออกแบบภายในได้ดีครับ

ความรู้สึกในการขับขี่ Toyota Prius

ความรู้สึกในการขับขี่ Toyota Prius

ขึ้นชื่อว่าเป็นรถยนต์ที่ช่วงล่างดีที่สุดของ Toyota ในสมัยนั้นก็ต้องขับดีแน่นอนอยู่แล้ว ช่วงล่างของ Toyota Prius ปรับแต่งออกมาได้อย่างนุ่มนวล เรียกได้ว่านุ่มสบายพอๆ กับ Toyota Camry ยุคนี้เลยก็ว่าได้ ตัวห้องโดยสารเก็บเสียงได้ในระดับที่เรียกว่าดีมากสำหรับรถยนต์เมื่อสิบว่าปีที่แล้ว

เมื่อช่วงล่างมีความนุ่มนวลและนั่งโดยสารสบาย ภายในที่กว้างขวาง การขับขี่ที่ต่อเนื่องแบบลื่นไหลสมูททุกช่วงเวลา มันก็ทำให้ Toyota Prius เป็นรถยนต์ที่ขับง่ายและขับสบายมาก อีกทั้งยังสามารถเก็บของได้เยอะอีกด้วย ถือว่าเป็นรถครอบครัวย่อมๆ เลยก็ยังได้สำหรับ Prius Gen 3

การเข้าโค้งทำได้ดีสำหรับรถยนต์ใช้งาน พวงมาลัยเบาและควบคุมรถได้ง่ายทำให้ขับแล้วไม่ค่อยเมื่อย เป็นรถที่เหมาะจะใช้งานได้ในทุกวัน ทั้งการเดินทางไกล การขับไปทำงาน หรือขับท่องเที่ยว Prius Gen 3 ก็มีความพร้อมสำหรับคุณ

ระบบความปลอดภัยของ Prius Gen 3

ระบบความปลอดภัยของ Prius Gen 3

สำหรับออปชันและระบบต่างๆ เองก็ต้องบอกว่า Prius Gen 3 เป็นรถเก่าก็จริง แต่ได้อะไรต่างๆ เหมือนรถใหม่ในปัจจุบันเลย เริ่มตั้งแต่กระจกมองข้าง Hydrophilic ที่ช่วยลดการเกาะตัวของหยดน้ำช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ขณะฝนตก มีระบบ Rain Sensor ที่ควบคุมการปัดน้ำฝนอัตโนมัติ สามารถปรับระดับความเร็วในการปัดให้สัมพันธ์กับความเร็วได้โดยอัตโนมัติ

มีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control มาให้ด้วยสำหรับผู้ที่ชอบเดินทางไกล กระจกมองหลัง EC Mirror ปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติและช่วยลดแสงสะท้อนจากไฟหน้าของรถคันหลัง เพิ่มความปลอดภัยขณะขับขี่เวลากลางคืนได้ด้วย อีกทั้งยังมีสัญญาณไฟเบรกแบบ Emergency Stop Lamps ซึ่งจะกะพริบเมื่อเบรกกะทันหัน

ในด้านการขับขี่ยังมีระบบควบคุมการทรงตัว VSC - Vehicle Stability Control ที่ทำงานร่วมกับ EPS - Electronic Power Steering ช่วยรักษาการทรงตัวของรถในทุกสภาพการขับขี่โดยการสั่งให้เครื่องยนต์ลดความเร็วอัตโนมัติ และควบคุมแรงดันน้ำมันเบรกทั้ง 4 ล้อ อย่างอิสระเพื่อรักษาการทรงตัวของรถให้สมดุลที่สุด

มีระบบกระจายแรงเบรก EBD - Electronic Brake-force Distribution ที่ทำให้ในทุกๆ การเบรกตัวระบบจะปรับแรงดันน้ำมันเบรกทั้ง 4 ล้อให้เหมาะสมกับน้ำหนักที่กดลงในแต่ละล้อเพื่อประสิทธิภาพการเบรกที่ดีขึ้น 

พร้อมกับมีระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC - Traction Control System ที่คอยควบคุมและป้องกันการลื่นไถลของล้อ เมื่อมีการเหยียบคันเร่งมากเกินไปขณะออกตัว หรือ การเร่งความเร็วแบบกะทันหันบนถนนลื่น และมีระบบป้องกันล้อล็อก ABS - Anti-lock Braking System สำหรับการเบรกแบบกะทันหันบนถนนที่เปียก ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถบังคับควบคุมทิศทางของรถได้ดีขึ้น

ระบบความปลอดภัยของ Prius Gen 3

ทางด้านโคตรสร้างตัวรถยนต์และระบบความปลอดภัยด้านใน Toyota Prius ยังมาพร้อมกับถุงลมนิรภัยเสริมความปลอดภัย 7 จุดรอบคัน ด้านหน้า 2 ตำแหน่ง ด้านข้าง 2 ตำแหน่ง ม่าน 2 ตำแหน่ง และ เข่าคนขับ 1 ตำแหน่ง และมีการใช้หมอนพิงหัวคู่หน้าแบบช่วยลดแรงกระแทกเมื่อเกิดการชนจากด้านหลัง หมอนพิงหัวจะปรับองศาอัตโนมัติเพื่อรองรับสรีระบริเวณคอทันที ช่วยลดโอกาสการบาดเจ็บที่กระดูกคอได้ด้วย

โครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบ GOA ของ Toyota Prius Gen 3 สามารถช่วยดูดซับแรงกระแทกได้อย่างดีเยี่ยม ใช้เทคโนโลยีเสริมความแข็งแรงให้กับบริเวณห้องโดยสารจากการชนทั้งด้านหน้าและด้านข้าง เพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซับและกระจายแรงกระแทก ช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ขับขี่และผู้โดยสารอย่างได้มีประสิทธิภาพ ถือว่าเป็นรถยนต์ที่ล้ำและปลอดภัยทั้งแต่โครงสร้างยันระบบต่างๆ เลย

Toyota Prius Gen 3 ยังน่าซื้ออยู่ไหม?

Toyota Prius Gen 3 ยังน่าซื้ออยู่ไหม?

หากถามว่าน่าซื้อไหม็ต้องบอกว่า Toyota Prius Gen 3 มือสอง ยังถือว่าเป็นรถยนต์ Hybrid ที่ยังน่าซื้ออยู่ในช่วงนี้ เพราะว่าเป็นช่วงที่ราคาพลังงานแพงมาก คนจึงกำลังให้ความสนใจกับรถยนต์ Hybrid มือสอง และ รถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้น Toyota Prius มือสองที่ราคาเร่มต้นแค่ 2 แสนนิดๆ ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ แต่ทว่าด้วยอายุของ Toyota Prius เจนฯ 3 ที่เกิน 10 ปี แน่นอนว่าเรื่องแบตเตอรีก็เป็นเรื่องที่ต้องระวัง

ในการเลือกซื้อ Toyota Prius Gen 3 มือสอง เรื่องสภาพภายนอก ภายใน ระบบต่างๆ และ เครื่องยนต์ ไม่ใช่ปัญหาเท่าไหร่ สิ่งที่ต้องระวังเลยก็คือเรื่องของ แบตเตอรี เพราะ Prius เป็นรถยนต์ Hybrid ซึ่งมีแบตเตอรีค่อยทำงานในการจ่ายไฟฟ้าเสริมกับพละกำลังจากเครื่องยนต์

ก่อนการซื้อ Toyota Prius Gen 3 จึงต้องมีการเช็คประวัติการเข้าศูนย์หรือการซ่อมบำรุงอย่างละเอียดมากกว่ารถยนต์มือสองรุ่นอื่นๆ ในปีนั้น เพราะแบตเตอรีรถยนต์ Hybrid นั้นมีอายุได้ไม่นานถึง 10 ปีแน่นอน หรือถ้าใช้ถนอมมากๆ ก็อาจจะเกินมาไม่มาก

อ่านเพิ่มเติม : วิธีดูรถมือสอง ก่อนซื้อต้องเช็กอะไรบ้าง (มืออาชีพสอนเอง)

Toyota Prius Gen 3 ยังน่าซื้ออยู่ไหม?

แน่นอนว่าเราควรเช็คว่า Prius คันที่เราจะซื้อได้รับการเซอร์วิสระบบไฮบริด หรือ มีการเปลี่ยนแบตเตอรีมาแล้วหรือยังด้วย ถ้าเปลี่ยนมาแล้วนี่อุ่นใจได้ แต่ถ้ายังคุณก็มีโอกาสได้จ่ายค่าเปลี่ยนแบตเตอรี Hybrid ของ Prius ในไม่ช้าแน่นอน ซึ่งบอกเลยว่าราคาโหดร้ายเอาเรื่อง

สิ่งที่น่าเป็นห่วงมีเเค่เรื่องนี้เรื่องเดียวเลยครับ ส่วนเรื่องอื่นๆ นั้น Prius เป็นรถยนต์ที่อึด ถึก ทน ผลิตออกมาได้ทนทานตามสไตล์รถยนต์ Toyota อยู่แล้ว จึงไม่น่าเป็นห่วงเท่าไหร่ การเซอร์วิสก็แค่เปลี่ยนอะไหล่ต่างๆ ตามระยะทางเท่านั้น ที่เหลือเรื่องการเลือกซื้อก็แล้วแต่ว่าทุกคนจะคิดว่าคุ้มกับสภาพที่ได้หรือไม่ แต่เน้นย้ำเลยว่าควรเช็คเรื่องเเบตเตอรีเป็นหลักเลยครับ

เรื่องอะไหล่แน่นอนว่ามันไม่แพงอยู่แล้ว แต่ถามว่ามีเพียงพอหรือไม่ก็ต้องบอกว่า Toyota Prius เป็นรถยนต์ที่เข้ามาทำตลาดของเราได้แค่เจเนอเรชันเดียวแต่ขายดี อะไหล่เชียงกงจึงยังพอหาได้ แต่ก็ไม่ได้มีล้นตลาดมากมายนัก แต่บางชิ้นก็สามารถใช้งานร่วมกับรถยนต์รุ่นอื่นๆ ของ Toyota ได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นก็หายห่วงไปได้เปราะนึง สรุปก็คือ ยังมีความน่าซื้ออยู่ แต่ต้องดูเรื่องเเบตเตอรีและระบบ Hybrid ให้รอบคอบครับ

Toyota Prius มือสอง ราคาเท่าไหร่?

Toyota Prius มือสอง ราคาเท่าไหร่?

สำหรับ Toyota Prius มือสอง ก็ต้องบอกว่ามีหลากหลายราคามากและมีหลากหลายรุ่นย่อยให้เลือกซื้อมาก ที่สำคัญคือราคาเริ่มต้นที่ 2 แสนต้นๆ เท่านั้น น่าซื้อสุดๆ โดยจะมีราคาดังนี้

Toyota Prius Gen 5 จำหน่ายไทย จะเป็นอย่างไร

Toyota Prius Gen 5 จำหน่ายไทย จะเป็นอย่างไร

ที่ประเทศญี่ปุ่น Toyota Prius Gen 5 ที่วางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นมาพร้อมการเปลี่ยนแปลงใหม่จากเดิม ในหลายๆ ด้านทั้งรูปลักษณ์ มิติตัวรตัวถัง รวมถึงขุมพลังที่ในเวอร์ชันใหม่ ซึ่งมีตัวเลือกทั้ง เครื่องยนต์ 1.8 และ 2.0 ลิตร ทั้งแบบ Hybrid (HEV) และ Plug in Hybrid (PHEV)  ซึ่ง Toyota เคลมว่าจะทั้งแรงและประหยัดกว่าเดิมเยอะ!

ซึ่งที่ผ่านมา Toyota ก็บอกแล้วว่าจะมีการทำตลาดใน Prius Gen 5 ในประเทศไทยอย่างแน่นอน แต่ว่าจะเป็นการนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นก่อน ในอนาคตจะมีการผลิตไทยหรือไม่นั้นก็ต้องรอลุ้นกันต่อไป ซึ่งสเปคที่คาดการว่าจะนำเข้ามาจำหน่ายก็คือรุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร HEV

Toyota Prius Gen 5 จำหน่ายไทย จะเป็นอย่างไร

โดยเจ้า Toyota Prius เจเนอเรชันที่ 5 นั้น จะคงเป็นรถยนต์นั่งขนาดกลาง ตัวถังแบบ Fastback เช่นเดิมเพิ่มเติมคือสวยหรูดูสปอร์ตมากขึ้น และจะถูกสร้าบนแพลตฟอร์ม TNGA (GA-C) เจนเนอเรชั่นที่ 2 โดยจะมีการออกแบบที่คล้ายคลึงกับ Toyota Crawn โดยเฉพาะส่วนหน้าและชุดไฟหน้า LED แบบ C-Shaped

ส่วนภายในห้องโดยสารจะมีพื้นที่กว้างขวางขึ้นกว่ารุ่นที่ผ่านมาเนื่องจากได้ขยายในส่วนระยะฐานล้อให้ยาวขึ้น และมาพร้อมการออกแบบที่แตกต่างจากรุ่นก่อนหน้าไปเลย โดยจะมีกลิ่นอายของ Toyota BZ4X ที่มาในคอนเสปต์ island architecture

Toyota Prius Gen 5 จำหน่ายไทย จะเป็นอย่างไร

แต่นี่ก็ยังคงเป็นแค่การคาดการณ์เท่านั้น เรื่องรายละเอียดการนำเข้าก็ต้องรอลุ้นอีกรอบว่าจะนำเข้ารุ่นย่อยใดเข้ามาขาย และจะมีราคาเท่าไหร่ ซึ่งแน่นอนว่าถ้าเป็นรุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร Hybrid จริงๆ อาจมีราคาสูงถึง 2 ล้านบาท เลยก็เป็นได้ ส่วนตัวแล้วผมมองว่าสำหรับ FC ค่าย Toyota ทุกคนต้องคิดถึง Prius และอยากใช้งาน Prius กันแน่นอน ตัวผมเองเห็นแล้วก็คิดว่ามันน่าใช้มากครับ

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง one2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com



Pakkawat Unchalee

Pakkawat Unchalee

Content Writer

เริ่มต้นจากการเป็นนักเขียนแห่งวงการจักรยานระดับไฮเอนด์ สู่การเป็นนักเขียนของเว็บไซต์รถยนต์มือสองอันดับหนึ่งอย่าง one2car ถึงแม้จะมีความถนัดเรื่องจักรยานระดับไฮเอนด์เป็นพิเศษ แต่เรื่องรถยนต์ก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน หวังว่าทุกท่านจะเพลิดเพลินไปกับบทความที่ถูกเขียนโดยการจิ้มแป้นพิมพ์ของผมครับ


Featured

แนวโน้มรถยนต์ไฟฟ้า ‘ยังไงก็รอด’ ปี 2567 ต้นทุนแบตถูกลง 50%

แนวโน้มรถยนต์ไฟฟ้า ‘ยังไงก็รอด’ ปี 2567 ต้นทุนแบตถูกลง 50%

Car Guides
เจาะแนวโน้มรถยนต์ไฟฟ้า EV จะกลายเป็นรถยนต์แห่งอนาคตจริงหรือไม่ ? ปฏิวัติการขนส่งได้อย่างไร เคลียร์ความสงสัยได้ในบทความนี้ผ่าแนวโน้มอนาคตยานยนต์ไฟฟ้า ...
ในยุคของรถยนต์ไฟฟ้า รถสันดาปมือสองจะตายจากเราไปหรือไม่?

ในยุคของรถยนต์ไฟฟ้า รถสันดาปมือสองจะตายจากเราไปหรือไม่?

Car Guides
เมื่อรถยนต์ไฟฟ้ากำลังกลายเป็นกระแสหลักในประเทศไทย ด้วยราคาที่เข้าถึงง่ายพร้อมออปชั่นล้นๆ ก็ทำให้เกิดคำถามว่า ...
ฤกษ์ออกรถ เมษายน 2567 ตามวันเกิด พร้อมเวลาล้อหมุน

ฤกษ์ออกรถ เมษายน 2567 ตามวันเกิด พร้อมเวลาล้อหมุน

Car Guides
มาแล้ว! ฤกษ์ออกรถ เมษายน 2567 ใครยังไม่มีฤกษ์รับรถ รีบเข้ามา! ซินแสดูให้จริง อยากรู้เกิดวันนี้ควรออกรถวันเวลาไหนก็ย่อมได้ฤกษ์รับรถเดือนเมษายน ...

Comments

app-icon
app-icon
app-icon
View your Dream Cars
in the App
Download App Now