One2car.com
แอปพลิเคชัน One2Car
ทำนายราคารถของคุณ
4.5
21,133

ป้ายจราจร มีกี่ประเภท มือใหม่รู้ไว้ก่อนออกถนนใหญ่

เรื่องเด่น

ป้ายจราจร มีกี่ประเภท มือใหม่รู้ไว้ก่อนออกถนนใหญ่

ใครที่กำลังจะทำใบขับขี่ใหม่ครั้งแรก แน่นอนว่าต้องศึกษาเรื่องป้ายจราจร เส้นจราจร แถบสีขอบฟุตบาท และกฎจราจรต่างๆ รวมถึงแนวข้อสอบใบขับขี่ 2566 แต่บทความนี้เรามาดูกันว่าป้ายจราจรมีกี่ประเภท และเส้นจราจรแต่ละแบบมีความหมายว่าอย่างไร

ป้ายจราจรมีกี่ประเภท

ป้ายจราจรในประเทศไทย มีกี่ประเภท?

หัวใจในการขับรถบนท้องถนนอีกหนึ่งอย่างก็คือป้ายจราจร หากขับรถโดยที่ไม่มองป้ายจราจรข้างทางเลยก็อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ ซึ่งในประเทศไทยนั้นป้ายจราจรจะมีด้วยกันทั้งหมด 3 ประเภทหลักๆ คือ

1. ป้ายบังคับ

ป้ายบังคับ คือ ป้ายจราจรที่มีความหมายเป็นการบังคับผู้ใช้เส้นทางให้ปฏิบัติตาม ไม่ว่าจะให้ผู้ขับขี่กระทำตามหรืองดเว้นการกระทำ หรือจำกัดการกระทำบางอย่าง ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด  เช่น ห้ามเลี้ยวซ้าย, ห้ามรถจักรยานยนต์, ห้ามจอดรถ เป็นต้น

ป้ายจราจร ป้ายบังคับสีแดง

ป้ายจราจรสีฟ้า สีน้ำเงิน คืออะไร

2. ป้ายเตือน

ป้ายเตือน คือ ป้ายที่เตือนให้ผู้ใช้เส้นทางทราบล่วงหน้าถึงสภาพทางข้างหน้า เพื่อระมัดระวังในการใช้เส้นทางมากขึ้น เช่น สัญญาณไฟ, ทางโค้งขวา, ทางตัดกัน เป็นต้น

ป้ายจราจรสีเหลือง ป้ายเตือนสีเหลือง

3. ป้ายแนะนำ

ป้ายแนะนำเป็นป้ายที่แนะนำถึงผู้ใช้เส้นทางให้ทราบ เช่น ระยะทาง เส้นทางที่ใช้ เพื่อเป็นประโยนช์แก่ผู้ขับขี่

ป้ายจราจรแนะนำสีฟ้า น้ำเงิน

ป้ายจราจรสีฟ้า คืออะไร?

ป้ายจราจรสีฟ้าหรือสีน้ำเงิน อยู่ในหมวดของป้ายแนะนำมีไว้เพื่อแนะนำข้อมูลการเดินทางให้กับผู้ขับขี่ ซึ่งจะให้ความรู้ ข่าวสาร หรือข้อมูลอื่นๆ อย่างเช่น ป้ายบอกทิศทาง บอกตำแหน่งหรือแสดงการใช้ทาง ป้ายแสดงข้อมูลข่าวสารและการบริการ เป็นต้น

ซึ่งจะพบเห็นป้ายจราจรสีฟ้าบนทางหลวงสัมปทาน ทางหลวงพิเศษที่เก็บค่าผ่านทาง และทางหลวงแผ่นดิน เพื่อแนะนำการเดินทางให้สะดวกสบายและง่ายต่อการสังเกตมากขึ้นนั่นเอง

ป้ายจราจรสีฟ้า คือ

ป้ายเตือนก่อสร้าง มีอะไรบ้าง?

ในส่วนของป้ายเตือนก่อสร้างนั้น ส่วนใหญ่ที่พบเห็นมากจะเป็นสีส้มหรือสีแดง ที่เป็นสีส้มหรือสีแดงนั้นเพื่อให้ผู้ขับขี่บนท้องถนนได้ระวัง ซึ่งในตอนกลางคืน สีส้มหรือสีแดงพอเวลาโดนไฟหน้ารถก็จะทำให้เห็นเด่นชัดเจน ป้ายเตือนก่อสร้างมาหลากหลายความหมาย เช่น ป้ายคนทำงาน ป้ายเครื่องจักรกำลังงาน รวมไปถึงป้ายเบี่ยงเบนการจราจร

ป้ายจราจรสีส้ม ป้ายเตือนสีส้ม

รู้หรือไม่

หากประสบอุบัติเหตุบนท้องถนนเพราะไม่มีป้ายเตือนหรือสัญญาณเตือนการก่อสร้างติดไว้ ทั้งติดไว้ล่วงหน้าหรือติดไว้ตรงบริเวณที่กำลังทำงาน ผู้เสียหาย เช่น ผู้ที่ประสบอุบัติเหตุ ญาติผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ สามารถฟ้องร้องผู้รับเหมาให้รับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นได้ เนื่องจากตามคำพิพากษาฎีกาที่ 1506/2516 ได้บรรยายไว้ว่า

“ผู้รับเหมาต้องจัดให้มีเครื่องหมาย ไม้กั้น หรือสิ่งประกอบอื่นๆ เพื่อความปลอดภัยแก่การจราจร” หากการที่ไม่ติดตั้งป้ายหรือเครื่องหมายเตือนผู้ขับขี่รถให้ทราบว่ามีการก่อสร้างซ่อมถนนอยู่ข้างหน้า เป็นเหตุส่วนหนึ่งให้เกิดอุบัติเหตุ ผู้รับเหมาต้องรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้น กรณีนี้ถือเป็นเรื่องที่ผู้รับเหมากระทำละเมิด ตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

สำหรับในเรื่องของการซ่อมรถนั้น ผู้เสียหายอาจซ่อมรถที่ได้รับความเสียหายไปก่อนได้ ถ้ามีความจำเป็นต้องใช้รถ ให้ถ่ายรูปรถและเก็บใบเสร็จค่าซ่อมเอาไว้เป็นหลักฐาน ถึงแม้ว่ารถของเราั้นจะมีประกันก็ตาม เพื่อให้เกิดความชัดเจนในมูลค่าความเสียหายเนื่องจากการกระทำละเมิดของผู้รับเหมา ที่จะใช้ในการเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้รับเหมา

ป้ายจราจรแต่ละสี มีความหมายว่าอะไรบ้าง?

ในท้องถนนนั้นป้ายจราจรมีให้เห็นอย่างมากเยอะแยะไปหมด แถมยังมีสีที่แตกต่างกันออกไปด้วย ซึ่งสีของแต่ละป้ายมีความหมายว่าอะไรบ้าง แตกต่างกันตรงไหน มาดูกัน

  • ป้ายจราจรสีแดง = หยุด หรือห้าม
  • ป้ายจราจรสีน้ำเงิน = บังคับให้ปฏิบัติ
  • ป้ายจราจรสีฟ้า = แนะนำข้อมูลการเดินทางให้กับผู้ขับขี่
  • ป้ายจราจรสีเขียว = แสดงสภาวะปลอดภัย เช่น ทางออกฉุกเฉิน ทางหนีไฟ
  • ป้ายจราจรสีเหลือง = ระวังอันตราย เช่น ทางผ่านที่มีอันตราย วัตถุไวไฟ
  • ป้ายจราจรสีส้ม = ระวังงานก่อสร้างข้างหน้า มักติดไว้ก่อนถึงเขตก่อสร้างประมาณ 100 เมตร

หากใครที่เป็นมือใหม่เพิ่งทำใบขับขี่ครั้งแรกก็ควรจะรู้ความหมายของป้ายจราจรแต่ละแบบเอาไว้ เผื่อเป็นความรู้ติดตัวและสามารถนำไปใช้กับข้อสอบใบขับขี่ได้ด้วยเช่นกัน

ความหมายของเส้นจราจรสีขาว

เส้นจราจรสีขาว คือ เส้นที่ใช้สำหรับถนนที่มีการจราจรไปในทิศทางเดียวกัน พูดให้เข้าใจง่าย คือ รถทุกคันวิ่งตรงไปข้างหน้าได้ทุกเลน ไม่มีรถสวนมา

  • เส้นทึบสีขาว หมายถึง ห้ามแซง และอย่าขับคร่อมเส้น

เส้นทึบสีขาว 

  • เส้นประสีขาว หมายถึง แซงได้ เมื่อด้านหน้าและด้านหลังอยู่ในระยะที่ปลอดภัย และอย่าขับคร่อมเส้น

เส้นประสีขาว

  • เส้นทึบตีคู่ขนานกับเส้นประ หมายถึง รถที่อยู่ฝั่งเส้นทึบห้ามแซง แต่รถที่อยู่ฝั่งเส้นประแซงได้

เส้นทึบขนานกับเส้นประ สีขาว

  • เส้นทึบสีขาวตีคู่ขนานกัน หมายถึง รถทั้งสองฝั่งห้ามแซงในเขตนี้

เส้นทึบสีขาวตีคู่ขนานกัน

  • เส้นก้างปลาสีขาว / สีเหลือง หมายถึง ห้ามขับรถล้ำเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าว เปรียบเสมือนเขตปลอดภัย มักตีไว้กลางถนนหรือริมด้านใดด้านหนึ่งของถนน

เส้นก้างปลาคือ

  • เส้นซิกแซกสีขาว หรือ เส้นหยักฟันปลา คือ เส้นจราจรเตือนว่าข้างหน้ามีทางม้าลาย

เส้นซิกแซก สลับฟันปลา

  • เครื่องหมายสามเหลี่ยมบนพื้นถนน หรือเครื่องหมายให้ทาง (Give way markings) หมายถึง ให้ขับรถช้าลง โดยให้รถและคนที่ขวางหน้าไปก่อน

เครื่องหมายสามเหลี่ยมบนพื้นถนน

  • เส้นแนวหยุด เป็นเส้นทึบแนวนอน มีความหมายว่าให้หยุดรถหรือจอดให้คนข้ามทางม้าลายไปก่อน

เส้นแนวหยุด

  • เส้นให้ทาง เป็นเส้นประแนวนอน มีความหมายว่าให้เราขับรถช้าลงและให้ทางแก่คนหรือรถที่ขวางหน้าไปก่อน

เส้นให้ทาง

  • เส้นชะลอความเร็ว คือ เส้นนูนที่ตีตามแนวนอนถี่ ๆ บนถนน เพื่อเตือนให้ผู้ขับระมัดระวังและลดความเร็ว

เส้นชะลอความเร็ว

  • เส้นขอบทาง หมายถึง ให้เราขับรถในช่องจราจรด้านขวาของเส้น โดยจะเป็นเส้นประสีขาวสั้น ๆ กว้าง 10 ซม. ยาว 30 ซม. เว้นระยะ 60 ซม.

เส้นชะลอความเร็ว

ความหมายของเส้นจราจรสีเหลือง

เส้นจราจรสีเหลือง คือ เส้นที่ใช้สำหรับถนนที่มีการจราจรในทิศตรงกันข้าม พูดง่าย ๆ คือ ฝั่งตรงข้ามทางขวาเป็นเลนที่มีรถวิ่งสวนมา

  • เส้นทึบสีเหลือง หมายถึง เป็นมุมอับสายตา ห้ามแซงรถคันหน้าเด็ดขาด อาจมีรถสวนมา

เส้นทึบสีเหลือง คือ

  • เส้นประสีเหลือง หมายถึง แซงได้ถ้าข้างหน้าปลอดภัย เมื่อแซงพ้นให้รีบกลับเข้ามาเลนของตัวเอง

เส้นประสีเหลือง คือ

  • เส้นทึบคู่สีเหลือง หมายถึง ห้ามผู้ขับขี่เปลี่ยนเลนหรือขึ้นแซงโดยเด็ดขาด

เส้นทึบคู่สีเหลือง

  • เส้นทึบสีเหลืองคู่กับเส้นประสีเหลือง หมายถึง รถที่อยู่ฝั่งเส้นทึบห้ามเปลี่ยนเลนหรือแซงเด็ดขาด ส่วนรถที่อยู่ฝั่งเส้นประสามารถเปลี่ยนเลนหรือแซงได้ถ้าเห็นว่าปลอดภัย

เส้นทึบสีเหลืองคู่กับเส้นประสีเหลือง

  • เส้นจราจรทะแยงสีเหลืองไขว้กัน ความหมายคือ เตือนว่าห้ามหยุดรถในพื้นที่ตรงนี้ ยกเว้นว่าจะเลี้ยวขวา

เส้นจราจรสีเหลืองตีทะแยงมุม

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com



ข่าวฟีเจอร์

โหรดังแนะ! ฤกษ์ออกรถ 2568 เคาะวันเงินปัง งานรุ่ง ชีวิตพุ่งแรง

โหรดังแนะ! ฤกษ์ออกรถ 2568 เคาะวันเงินปัง งานรุ่ง ชีวิตพุ่งแรง

ข่าววงการรถยนต์
one2car ร่วมกับ “อาจารย์วิช ธรรมสถิตบุณณ์” แนะนำ ฤกษ์ออกรถปี 2568 ครบทุกเดือน วันไหนมงคล เรียกทรัพย์ มารับฤกษ์ได้เลยออกรถวันไหนดีปี 2568 ซินแสเผย! ...
7 รถเก๋งประหยัดน้ำมัน ราคาถูก 2025 ลองขับแล้ว คุ้มสมชื่อ!

7 รถเก๋งประหยัดน้ำมัน ราคาถูก 2025 ลองขับแล้ว คุ้มสมชื่อ!

เรื่องเด่น
รถเก๋งรุ่นไหนประหยัดน้ำมัน คุ้มราคา น่าใช้ในปี 2568พูดถึงรถเก๋งประหยัดน้ำมัน หลายคนน่าจะนึกถึงรถเล็ก ไม่ก็ Eco car ...
Altis กับ Camry มือสอง คันไหนตอบโจทย์คุณมากกว่า

Altis กับ Camry มือสอง คันไหนตอบโจทย์คุณมากกว่า

เรื่องเด่น
Altis กับ Camry มือสอง คู่นี้เลือกไม่ยาก แต่ถ้าให้เลือกแค่คันเดียว จะเลือกคันไหนให้มันตอบโจทย์เราที่สุดล่ะ มาดูไปพร้อมๆ กันครับAltis กับ Camry ...
M-Flow จ่ายเงิน ไม่ลงทะเบียน ทำยังไง? ต้องจ่ายภายในกี่วัน?

M-Flow จ่ายเงิน ไม่ลงทะเบียน ทำยังไง? ต้องจ่ายภายในกี่วัน?

เรื่องเด่น
ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบขับรถไปต่างจังหวัดแน่นอนว่าคุณต้องเคยเจอ หรือ เคยผ่านด่าน M Flow มาแล้วบ้าง แต่สำหรับใครที่เผลอขับเข้าไปใน M Flow ...

เเสดงความคิดเห็น

app-icon
app-icon
app-icon
ดูรถในฝันของคุณในแอป
ดาวน์โหลดแอปตอนนี้