10 รถราคาถูกที่สุดในไทย ปี 2024 มีรุ่นไหนบ้าง

รถยนต์ยี่ห้อไหนราคาถูกที่สุดในปี 2024

รถยนต์ราคาถูก เป็นตัวเลือกที่ฮอตฮิตสำหรับคนไทย เพราะกลุ่มนี้เป็นได้ทั้งรถยนต์มินิมอล หรือรถยนต์คันเล็ก ซึ่งส่วนใหญ่เหมาะกับการเป็นรถสำหรับผู้หญิง และยังเป็นรถยนต์ประหยัดน้ำมันอีกด้วย เรียกได้ว่าครอบคลุมทุกความต้องการของคนส่วนใหญ่ แล้วรถราคาถูกในไทย 2024 มีรุ่นไหนบ้าง เราไปดูกันเลยครับ

1. Suzuki Celerio ราคาเริ่มต้น 338,000 บาท

“ซูซูกิ เซเลริโอ” คือรถราคาถูกที่สุดในไทยในปัจจุบัน ผ่อนสบาย เพราะราคาเริ่มเพียง 3 แสนต้นๆ เท่านั้น! มาพร้อมเครื่องยนต์ 3 สูบ 1.0 ลิตร 12 วาล์ว VVT 68 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 90 นิวตันเมตร รองรับน้ำมัน E20 อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 19-22 กิโลเมตรต่อลิตร

ทำงานคู่กับเกียร์ CVT โดยมีเกียร์ธรรมดา 5 speed ให้เลือกในรุ่นล่าง ระบบเบรกแบบหน้าดิสก์ หลังดรัม และ ช่วงล่างหน้าแม็กเฟอร์สันสตรัท หลังแบบทอร์ชั่นบีม ให้กับขับขี่ที่ดีพอสำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน จุดเด่นของ Suzuki Celerio คือห้องโดยสารที่กว้างขวางไม่อึดอัด  มีที่วางขาและระยะห่างระหว่างศรีษะและหลังคา 1 กำปั้น 

สนใจรถยนต์มือสอง Suzuki Celerio สามารถดูรถได้ที่ Suzuki Celerio มือสอง

2. Mitsubishi Mirage ราคาเริ่มต้น 474,000 บาท

“มิตซูบิชิ มิราจ” เป็นรถอีโคคาร์อีกรุ่นนึงที่ราคาถูกแบบสุดๆ เริ่มต้นเพียง 4 แสนบาท จุดเด่นของมิราจคือ สามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเข้ากับหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับแอปเปิล คาร์เพลย์ และระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และการเชื่อมต่อบลูทูธ คันเล็กกระทัดรัด หาที่จอดรถง่าย โดดเด่นเรื่องพื้นที่เก็บของจุกจิก

ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร ขับง่ายๆ สไตล์รถบ้าน ติดตั้งระบบความปลอดภัยในการขับขี่ที่สำคัญ เช่น  ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรงพร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว, ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะเมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็วเฉพาะด้านหน้า, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน, ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว, ระบบป้องกันการลื่นไถล 

สนใจรถยนต์มือสอง Mitsubishi Mirage สามารถดูรถได้ที่ Mitsubishi Mirage มือสอง

3. Mitsubishi Attrage ราคาเริ่มต้น 494,000 บาท

“มิตซูบิชิ แอททราจ” เป็นรถยนต์ราคาถูกที่น่าใช้อีกหนึ่งรุ่น ต่างกับมิราจตรงเครื่องยนต์ที่มีขนาด 1.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 78 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 100 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที รองรับน้ำมันเบนซินทุกประเภท ทำอัตราสิ้นเปลืองสูงสุด 20-23 กม./ลิตร ทำงานคู่กับระบบเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ เหมาะกับการขับขี่ในเมืองที่เน้นความคล่องตัว หาที่จอดง่าย เจอรถติดก็ไม่หวั่น สามารถขับขี่ได้ทุกวัน

มีจุดเด่นคือเป็นรถที่คล่องตัวทุกการขับขี่ ด้วยรัศมีวงเลี้ยงแคบถึง 4.8 เมตร รุ่น SMART มีสวิตช์ควบคุมที่พวงมาลัย สามารถวางสายรับสายโทรศัพท์และควบคุมเครื่องเสียงได้ 

สนใจรถยนต์มือสอง Mitsubishi Attrage สามารถดูรถได้ที่ Mitsubishi Attrage มือสอง

4. Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 515,000 บาท

“นิสสัน อัลเมร่า” เป็นรถเล็กราคาถูกที่มีขนาดเครื่องยนต์ 1.0 เทอร์โบ ถึงแม้ว่าจะเหยียบไม่ติดเท้าในช่วงความเร็วต้น แต่ความเร็วปลายถือว่าทำได้อย่างดีเยี่ยม มีจุดเด่นคืออัตราเร่งที่เหนือกว่า เพราะมีเครื่องยนต์เทอร์โบ คันเร่งเหยียบติดเท้า ทำความเร็วปลายได้ดี สามารถเร่งแซงได้เวลาใช้ความเร็วสูง 

มีฟังก์ชันช่วยเหลือการขับขี่ ทั้งกล้อง 360 องศา การแจ้งเตือนจุดมุมอับสายตา ระบบแจ้งเตือนกันชนรอบคัน เหมาะมากสำหรับมือใหม่หัดขับรถที่ยังต้องฝึกถอยจอด หน้าตาทันสมัย มีหน้าจอระบบสัมผัสที่เรียบง่าย ใช้งานสะดวก จึงเป็นรถคันแรกที่ครองใจหลายๆ คนในปี 2023

สนใจรถยนต์มือสอง Nissan Almera สามารถดูรถได้ที่ Nissan Almera มือสอง

5. MG3 ราคาเริ่มต้น 519,000 บาท

“เอ็มจี 3” คือรถยนต์คันเล็กจากแบรนด์ MG ที่มาแรงแซงทางโค้ง เพราะเป็นรถยนต์ราคาถูกแต่ติดตั้งเครื่องยนต์แบบเดียวกับรุ่นพี่อย่าง MG ZS ใช้เครื่องยนต์ ขนาด 1.5 ลิตร 1,498 ซีซี DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว VTi-TECH 112 แรงม้าที่ 6,000 รอบ เป็นรถเล็กรุ่นใหม่ที่เครื่องยนต์ใหญ่กว่าคู่แข่ง ทำให้รถรุ่นนี้น่าสนใจไม่น้อย

ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด พร้อม Manual Mode ขาดแต่แรงม้าแตกต่างกัน 3 ตัว มีเซนเซอร์ถอยหลัง 3 จุด พร้อมกล้องมองหลัง หน้าจอระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว และการเช็กข้อมูลรถผ่าน Smartphone  เช่น ปริมาณแบตเตอรี เกจ์วัดน้ำมัน ดูระดับน้ำมันและระยะทางคงเหลือที่สามารถวิ่งได้ เช็กตำแหน่งของรถยนต์ มีข้อความแจ้งเตือนเมื่อรถถูกสตาร์ตเครื่องยนต์ 

สนใจรถยนต์มือสอง MG 3 สามารถดูรถได้ที่ MG 3 มือสอง

6. Suzuki Ciaz ราคาเริ่มต้น 528,000 บาท

“ซูซูกิ เซียส” คือรถยนต์ราคาถูกที่อยู่ในเซ็กเมนต์เดียวกับรถยนต์อีโคาร์ แต่หน้าตาเหมือนรถยนต์ซีดานคันใหญ่ มีจุดเด่น คือ ห้องโดยสารที่กว้างขวาง มีแอร์หลัง 2 ช่อง ช่องจ่ายไฟ 12 V. ช่อง AUX ช่อง USB ที่วางแขนมีช่องใส่ขวดน้ำ 2 จุด พื้นที่ห้องโดยสารตอนหลังที่กว้างพอๆ กันกับ Honda Civic สามารถนั่งได้ถึง 3 คน

ระบบช่วยเหลือการขับขี่ คือ เซนเซอร์ถอยจอดแบบ 4 จุด มีปุ่ม Push Start ปุ่มเปิด-ปิด Park Sensor ปุ่มเปิด-ปิดไฟตัดหมอก ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ รหัส K12B 1,242 cc. เกียร์ระบบ CVT เดินหน้า 5 สปีด ถอยหลัง 1 สปีด 91 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 118 นิวตันเมตร ที่ 4,800 รอบต่อนาที 

สนใจรถยนต์มือสอง Suzuki Ciaz  สามารถดูรถได้ที่ Suzuki Ciaz มือสอง 

7. Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 546,000 บาท

“มาสด้า 2” มีข้อดีคือเป็นรถที่ไม่ตกรุ่น เพราะโฉมล่าสุดยังคงใช้มาอย่างยาวนาน มีการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์สไตล์รถยุโรป ทำให้รถรุ่นนี้มองนานๆ ก็ไม่น่าเบื่อ

มีขนาดเครื่องยนต์ให้เลือก 2 แบบ ได้แก่

• เบนซิน 1.3 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 93 แรงม้า ที่ 5,800 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 123 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ รองรับน้ำมันสูงสุด E20

• ดีเซล Skyactiv-D 4 สูบ 1.5 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ที่ 1,500 – 2,500 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า

Mazda 2 ขับเคลื่อนด้วยครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 1.5 ลิตร  และ เครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G ขนาด 1.3 ลิตร 

สนใจรถยนต์มือสอง Mazda 2 สามารถดูรถได้ที่ Mazda 2 มือสอง

8. Toyota Yaris ATIV ราคาเริ่มต้น 549,000 บาท

“โตโยต้า ยาริส เอทีฟ” คือรถยนต์ราคาถูกเพียงครึ่งล้านที่ให้ฟังก์ชันคุ้มค่าที่สุด ข้อเสียมีเพียงอย่างเดียวคือไม่ติดตั้งเทอร์โบมาให้ การขับขี่จึงสู้คู่แข่งไม่ได้ เหมาะกับคนขับรถในเมืองชิวๆ มากกว่า

มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.2 ลิตรเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือการขับขี่ที่กระฉับกระเฉงมากขึ้น และความเร็วปลายที่เก็บเสียงภายในห้องโดยสารได้เป็นอย่างเดียว เรื่องฟังก์ชันช่วยเหลือการขับขี่ก็ให้มาแบบจนเต็ม จุดเด่นที่สำคัญที่สุดคือ ให้ Adaptive Cruise Control ด้วย ทำให้ตลาดรถเล็กร้อนกันเป็นแถว 

สนใจรถยนต์มือสอง Toyota Yaris Ativ สามารถดูรถได้ที่ Toyota Yaris Ativ มือสอง

9. Toyota Yaris Hatchback ราคาเริ่มต้น 559,000 บาท

“โตโยต้า ยาริส” คือ รถแฮตช์แบ็กหรือรถยนต์ 5 ประตูที่จัดว่าดีในหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะความอเนกประสงค์ที่มากกว่าเพื่อน ทำให้เป็นรถที่อยู่ในสายตาของใครหลายๆ คน แม้จะทำอัตราเร่งตอนออกตัวได้ไม่ค่อยดีนัก แต่ในเรื่องการขับขี่ถือว่าสู้ค่ายอื่นได้แบบสบายๆ เพราะเน้นการขับขี่ในชีวิตประจำวันเป็นหลัก จึงตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าทุกเพศทุกวัย

จุดเด่นของยาริส คือ เครื่องยนต์ที่อึดถึกทน ใช้งานได้นานแบบสุดๆ ห้องโดยสารที่กว้างขวางทำให้ครองใจคนไทยมาอย่างยาวนาน ความอเนกประสงค์เหมาะสำหรับการโดยสารคนมากกว่าสิ่งของ แต่ความสัมภาระถือว่ามีเยอะเพียงพอสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันแล้ว จะไปจ่ายตลาดหรือขนของชิ้นใหญ่ๆ ก็สามารถทำได้

สนใจรถยนต์มือสอง Toyota Yaris Hatchback สามารถดูรถได้ที่ Toyota Yaris 5 ประตู มือสอง

10. Suzuki Swift ราคาเริ่มต้น 567,000 บาท

“ซูซูกิ สวิฟต์” คือรถเล็กราคาถูกที่ขับสนุกที่สุด ถึงแม้ว่าที่เก็บสัมภาระจะน้อยกว่าคู่แข่ง แต่การขับขี่ยืนหนึ่ง ช่วงล่างดีกว่าคู่แข่งทุกคน

มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร รหัส K12B ขนาด 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VVT ให้พละกำลังสูงสุด 83 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดที่ 108 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบต่อนาที ทำงานคู่กับเกียร์ CVT อัตราประหยัดน้ำมัน 20 กิโลเมตรต่อลิตร อีกหนึ่งจุดเด่นคือ หน้าจอมัลติมีเดียขนาด 8" ของเขา รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Apple CarPlay / Andriod Auto ด้วย

สนใจรถยนต์มือสอง Suzuki Swift สามารถดูรถได้ที่ Suzuki Swift มือสอง

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com