Subaru XV รถอเนกประสงค์สายลุย

Subaru ชื่อนี้ หลายคนคุ้นเคยกับภาพรถระดับ เวิลด์ แรลลี่ มันใจได้ในระบบช่วงล่างที่ดีพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่โดดเด่น พร้อมทั้งเครื่องยนต์ สูบนอน ที่ให้พละกำลังที่ดี ได้ถูกถ่ายทอดลงมาอยู่ในรถยนต์ที่ผลิตออกมาในทุกๆรุ่นของทาง ซูบารุ รวมถึง Subaru XV ใหม่อีกด้วย

Subaru XV จัดอยู่ในกลุ่มรถ Crossover ที่เรียกได้ว่าเป็นที่นิยมในตลาดโลกก็ว่าได้ รถอเนกประสงค์ถือว่ามีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง สำหรับSubaru XV ได้เปิดตัวขายมาพักใหญ่ๆแล้ว แต่ก็ยังคงได้รับความสนใจอยู่ ทางทีมงานจึงได้มีโอกาศทดสอบ สำหรับรุ่นย่อยของ Subaru XV มีด้วยกัน 2 รุ่น แต่สำหรับรถที่นำมาทดสอบนั้นเป็นรุ่นท็อป 2.0 I-P

เริ่มจากภายนอกด้วยหน้าตาที่มีความทันสมัยดู สปอร์ต รูปร่างภายนอกมีความเพียวกว่ารุ่นเดิมมาก งานดีไซน์ออกแบบใหม่หมดในสไตล์ DYNAMIC X SOLID ตั้งแต่ กระจังหน้ารูปทรงเหลี่ยมแบบเรขาคณิตพร้อมปีกกระจังหน้าซ้าย-ขวาเติมหรูด้วยคิ้วโครเมี่ยมประกบโลโก้ดาวลูกไก่ ไฟหน้าทรงตาเหยี่ยวโคมดำ Projector แบบ LED ชัดเจนในยามค่ำคืนตอนเข้าโค้งด้วยระบบไฟหน้าปรับตามทิศทางการเลี้ยว SRH โดยทิศทางของลำแสงไฟหน้าจะหมุนไปซ้าย-ขวา ตามการหมุนของพวงมาลัย พร้อม Day Time Running Light ในโคมเดียวกัน เพิ่มความปลอดภัยทั้งกลางวันและกลางคืน  ล้ออัลลอยสีทูโทนขนาด 17 นิ้ว 17 X 7’’ J พร้อมยาง 225/60 R 17 ไฟท้าย LED แบบรูปตัว C

All NEW Subaru XV ถูกสร้างขึ้นบนแพลทฟอร์มใหม่ ” SGP-Subaru Global Platform ” แนวคิดในการพัฒนาและปรับจูนช่วงล่างใหม่ “ Less Shake, Less Body Roll, and Way More Fun ” แบ่งออกมาเป็นจุดๆ ได้ดังนี้

-ช่วงล่างของรถ ยังใช้ด้านหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท และด้านหลัง เป็นแบบปีกนกคู่ดับเบิลวิชโบน

-วิธีการสร้างรถของ Subaru ยังเน้นการพัฒนาตัวถังที่แข็งแกร่งมากขึ้น ทีมวิศวกรกล่าวว่าพวกเขาพยายามทำให้     ความสามารถในการทนต่อแรงกระทำของตัวถัง (Body & Chassis Rigidity) เพิ่มขึ้นจากเดิม100% โดยแบ่งเป็น

-ความสามารถในการทนแรงบิดงอตัวถังจากด้านข้าง เพิ่มขึ้น 90%

-ความสามารถในการทนแรงบิดงอตัวถังตามยาว เพิ่มขึ้นจากเดิม 70%

-ความแข็งแกร่งของจุดยึดช่วงล่างด้านหน้าเพิ่มขึ้น 70% และความแข็งแรงของจุดยึดซับเฟรมหลังเพิ่มขึ้น 100%

มีการเปลี่ยนจุดยึดกันโคลงจากรุ่นเดิมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ดีขึ้นด้วย มิติตัวรถใหญ่ขึ้นเกือบทุกส่วน เมื่อเทียบกับรุ่น XV เจเนอเรชั่นที่แล้วพบว่า ความยาวเพิ่มขึ้น 15 มม. ความกว้างเพิ่มขึ้น 20 มม. แต่ความสูงยังเท่าเดิม

        ภายใน ตามแบบฉบับ ซูบารุ คือเรียบง่ายใช้งานได้จริง ดีไซน์ทั้งแผงคอนโซลหน้า แผงประตู ปรับสีสันด้วยโทนสีดำเข้ม เดินด้ายส้ม เบาะผ้าผสมด้วยหนังสีดำ เดินตะเข็บด้ายสีส้ม หน้าจอบน แสดงข้อมูลการขับขี่ ขนาด 6.3 นิ้ว หน้าจอกลาง ขนาด 8.0 นิ้ว ระบบสัมผัส Touchscreen พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง (ขึ้น-ลง-เข้า-ออก) แป้นเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Paddle Shift

เครื่องยนต์เบนซิน BOXER รหัส FB20 2.0 ลิตร เพิ่มระบบฉีดจ่ายนน้ำมันเชื้อเพลิงแบบตรง Direct Injection พร้อมระบบควบคุมวาล์วแบบแอคทีฟ (AVCS: ACTIVE VALVE CONTROL SYSTEM) ทั้งไอดี และไอเสีย พัฒนาขึ้นเพื่อช่วยเพิ่มแรงบิดช่วงรอบต่ำให้อัตราเร่งที่ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเพิ่มอัตราส่วนกำลังอัด เป็น12.5:1 จากเดิม 10.5:1 ทำให้กำลังมากขึ้นเป็น 156 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 196 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ระบบส่งกำลังยังเป็นเกียร์อัตโนมัติ Lineartronic CVT  7 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบสมมาตรตลอดเวลา Symmetrical all-wheel drive กระจายแรงบิดแบบอัตโนมัติเริ่มที่ล้อหน้า 60 % และ ล้อหลัง 40 % และมาปรับให้ล้อหน้ากับล้อหลังเท่ากันแบบ 50 % ช่วยในการยึดเกาะถนนให้ดียิ่งขึ้น

            ด้านการขับขี่สำหรับรถที่ใช้ในการทดสอบ Subaru XV ในครั้งนี้เรียกว่าผ่านมาหลายมือกันเลยทีเดียววิ่งกว่า 16,000 km ไปแล้ว แสดงให้เห็นถึงการใช้งานจริง สัมผัสแรกในห้องโดยสารตำแหน่งการนั่งมุมมองถือว่าโปร่งสบายตาด้วยความสูงของรถที่กำลังพอดี เส้นทางการทดสอบทั้งในเมืองและนอกเมือง การขับขี่ในเมืองคล่องตัว ด้วยขนาดที่กำลังพอดี การจอดในที่แคบก็มีกล้องมองหลังแสดงผล พร้อมเสียงเตือน อุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ สิ่งจำเป็นสำหรับผู้บริโภคสมัยนี้คือช่อง USB มีตรงช่องคอนโซนกลางและในก่องเก็บของ คอนโซลกลางก็มีเช่นกัน เดินทางออกนอกเมืองเส้นทางสุพรรณบุรี ใช้ความเร็วเพิ่มขึ้น สิ่งที่ชัดเจนสำหรับการปรับปรุงในระบบช่วงล่างให้ดีขึ้นนั้น คือ รถมีความนุ่มสบายในการขับ แต่ยังให้การเกาะถนนที่ดีด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่ปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม  การเก็บเสียงในห้องโดยสารทำได้ดีแม้ใช้ความเร็วสูง วิ่งทางยาวถนนปูนด้วยความเร็ว รถญีปุ่นส่วนใหญ่จะมีอาการกระเด่งกระดอน แต่ xv วิ่งได้อย่างนุ่มสบาย แม้ว่ารถจะผ่านการใช้งานมาระยะนึงแล้วก็ตาม การเร่งแซงถือว่าทำได้ดีจังหวะกดคันเร่งรอบเครื่องกวาดไปถึง 6,500 รอบ แต่ต้องจับจังหวะการแซงให้ดี เพราะแรงม้าที่เรียกออกมาได้จริงๆนั้นอยู่ในรอบที่สูง วิ่งไหลๆทำความเร็วได้ดีมาก จำนวนเกียร์ที่มีถึง 7 สปีด ช่วยในเรื่องการประหยัดน้ำมัน โดยรวมด้านการขับขี่นั้นไม่ต้องห่วง Subaru XV ทำได้ดีมาก

ด้านการขับขี่ในระบบ X-MODE จะทำหน้าที่ควบคุม เครื่องยนต์ ,เกียร์และระบบควบคุมการทรงตัว และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ภายใต้สภาพถนนที่แตกต่างกันทั้งทางโหด ทางลุย โคลน สารพัดรูปแบบ ทำให้มั่นใจได้เลยว่า ไปไหนกันแบบสุดขั้วกันเลยทีเดียว ทางทีมงานได้เคยทดสอบตอนเปิดตัวมาแล้วซึ่งเรียกว่ามีประสิทธิดีสุดในกลุ่มรถ Crossover กันเลยทีเดียว

 ระบบความปลอดภัย ที่มีให้มา

ระบบเบรก ABS / EBD / BA

ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว

ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน

ระบบป้องกันคันเร่งค้าง Brake Override System

ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB พร้อม Brake Hold

จุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX

ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง (คู่หน้า-ด้านข้าง-ม่านนิรภัย-หัวเข่า)

กล้องมองภาพขณะถอยจอด

เซนเซอร์กะระยะช่วยจอด ด้านหลัง

สรุปสำหรับ Subaru XV ต้องบอกเลยว่าไม่แปลกใจที่ ซูบารุจะขายดีในฝั่งยุโรปเพราะด้วยความโดดเด่นในการขับขี่นั้นเอง จุดเด่น ช่วงล่างที่ให้ความนุ่มนวลแต่ยังยึดเกาะถนนได้ดี ระบบ X-MODE ที่โดดเด่นกว่าคู่แข่ง จุดด่อย หน้าจอกลางแสงเข้าเยอะมากกลางวันมองไม่เห็น การออกแบบที่ดูเรียบๆอาจจะไม่ถูกใจผู้บริโภค(ภายใน) วัสดุบางชิ้นเสือมสภาพเร็วไป โดยรวมถือเป็นรถอีกหนึ่งคันที่ใครชอบในด้านการขับขี่ต้องได้ลอง ด้านคู่แข่งในตลาด toyota c-hr , honda hrv ,mazda cx-3 ซูบารุดีกว่าในด้านการขับขี่

สีตัวถังภายนอก มีให้เลือก 6 สี

สีขาว Pure White

สีเงิน Ice Silver Metallic

สีเทาเข้ม Dark Grey Metallic

สีดำ Crystal Black Silica

สีส้ม Sunshine Orange

สีน้ำเงินเข้ม Dark Blue Pearl

XV 2.0 i AWD                                           1,159,000 บาท

(รถทดสอบ) Subaru XV 2.0 i-P                 1,259,000 บาท

เช็คราคารถใหม่ และโปรโมชั่น ได้ที่นี่ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
มาร่วมแชร์ความเห็นของคุณบนเวบบอร์ด Autospinn คลิกที่นี่