ซื้อรถยนต์ไฟฟ้า EV ต้องเตรียมอะไรบ้าง ใช้งบเท่าไร

การซื้อรถยนต์ไฟฟ้าหรือ Electric Vehicle (EV) เป็นทางเลือกที่นิยมในปัจจุบัน เนื่องจากราคาน้ำมันที่ราคาสูง บวกกับความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้ผู้ใช้รถหลายๆ คนหันมามองรถไฟฟ้ามากขึ้น หากคุณกำลังมองหาที่จะซื้อรถ EV แต่ยังไม่รู้ว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง มาดูกันเลย

สิ่งที่คุณต้องรู้ก่อนซื้อรถไฟฟ้า EV

1. ข้อมูลรถไฟฟ้าที่จะซื้อ

ก่อนจะซื้อรถ EV คุณควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับระบบของรถไฟฟ้า รวมถึงข้อมูลต่างๆ ของรถ เช่น ช่วงราคา ระยะทางสูงสุดในการขับขี่ ประสิทธิภาพของพลังงาน ประเภทของ EV Charger และระบบออปชันอื่นๆ เพื่อให้รู้ว่ารถยนต์ไฟฟ้า EV คันนี้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคุณหรือไม่

2. งบที่ต้องจ่าย (ค่ารถ ประกัน ภาษี ค่าซ่อมบำรุง)

การซื้อรถ EV ต้องคำนึงถึงงบประมาณว่าเพียงพอสำหรับการใช้รถไฟฟ้าหรือไม่ เพราะนอกจากราคาซื้อของรถแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ตามมา เช่น

• ประกันรถยนต์ไฟฟ้า (สูงกว่ารถยนต์สันดาป) ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 27,000 - 90,000 บาท โดยประมาณ เนื่องจากมูลค่าของอะไหล่รถ EV มักมีราคาที่สูงกว่ารถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงหรือดีเซล เพราะการผลิตในตอนนี้ค่อนข้างน้อย
• ภาษีรถยนต์ไฟฟ้า (ถูกกว่ารถสันดาป) โดยตั้งแต่ 1 ต.ค. 65 ถึง 30 ก.ย. 68 ครม. มีมติลดภาษีรถยนต์ไฟฟ้า 80% ของอัตราที่กฎหมายกำหนด ถ้าเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ไม่เกิน 7 คน น้ำหนักไม่เกิน 1,500 กิโลกรัม จะเสียภาษีไม่เกิน 200 บาท
• ค่าตรวจสภาพรถ เนื่องจากรถ EV มีอุปกรณ์และระบบที่ซับซ้อน เช่น แบตเตอรีและระบบชาร์จ คุณอาจต้องมีค่าใช้จ่ายในการตรวจสภาพรถเพื่อให้มั่นใจว่ารถอยู่ในสภาพที่ดี
• ค่าบำรุงรักษา แน่นอนว่ารถยนต์ไฟฟ้ามีค่าบำรุงรักษาไม่จุกจิกเท่ารถสันดาป แต่ราคาแบตเตอรีค่อนข้างสูง มีตั้งแต่หมื่นปลาย ๆ จนถึงหลักแสนบาทขึ้นไป แต่แบตเตอรีลูกนึงอายุการใช้งานประมาณ 6-8 ปี แนะนำให้เฉลี่ยดูก่อนว่าต้องสำรองเงินค่าเปลี่ยนแบตเตอรีปีละกี่บาท)
• ค่าติดตั้ง EV Charger ที่บ้าน แล้วแต่ยี่ห้อ แนะนำให้เตรียมเงินไว้อย่างน้อย 50,000 บาท

ดังนั้น ควรคำนวณงบประมาณอย่างถี่ถ้วนและประเมินเบื้องต้นสำหรับความสามารถในการดูแลรักษารถยนต์ EV

3. ขั้นตอนการติดตั้ง EV Charger ในบ้าน

ในการซื้อรถไฟฟ้า EV สิ่งสำคัญที่คุณต้องเตรียม คือ การติดตั้ง EV Charger ในบ้าน โดยก่อนติดตั้ง EV Charger ควรเช็กปริมาณการใช้ไฟในบ้านร่วมกับเครื่องชาร์จไฟก่อนว่าระบบไฟฟ้าเดิมที่มีอยู่รองรับการใช้งานหรือไม่ ซึ่งบ้านที่เหมาะกับรถยนต์ไฟฟ้าควรมี

• มิเตอร์ไฟฟ้ามีขนาด 30(100)A 1P 2W หรือ 15(45)A 3P 4W ขึ้นไป หากต่ำกว่านี้ต้องทำเรื่องขอเพิ่มขนาดมิเตอร์ไฟฟ้า และและอาจต้องพิจารณาเดินระบบไฟฟ้าวงจร 2 (สายเมนไฟฟ้าเส้นที่ 2)
• สายไฟเมนขนาด 25 ตารางมิลลิเมตร เล็กกว่านี้ต้องเปลี่ยน!
• ตู้ Main Circuit Breaker (MCB) ต้องรองรับกระแสไฟได้สูงสุดไม่เกิน 100 แอมป์
• เครื่องตัดไฟรั่ว (Residual Current Device หรือ RDC) เพื่อตัดวงจรเมื่อมีค่ากระแสไฟฟ้าไหลเข้า-ออกไม่เท่ากัน
• เต้ารับสำหรับการติดตั้ง EV Charger ที่บ้าน และใช้สายดินหุ้มฉนวน มีขนาดไม่ต่ำกว่า 10 ตารางมิลลิเมตร ส่วนหลักดินควรมีขนาด 16 มิลลิเมตร ยาว 2.4 เมตร ตามมาตรฐาน
• มีที่จอดรถเป็นของตัวเอง อย่างน้อย 1 ช่องจอด และเหมาะกับความยาวของสายชาร์จ โดยส่วนใหญ่สายชาร์จจะไม่เกิน 5 เมตร

อย่างไรก็ตาม การติดตั้ง EV Charger ย่อมมีค่าใช้จ่ายตามมา ในส่วนของค่าเปลี่ยนมิเตอร์จะเริ่มต้นที่ 4,700 บาท (เปลี่ยนที่การไฟฟ้า)

ส่วนค่า EV Charger โดยทั่วไปราคาจะอยู่ที่ประมาณ 35,000 – 75,000 บาท ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นของ EV Charger นั้นๆ

4. สถานีชาร์จรถไฟฟ้า

ก่อนจะซื้อรถยนต์ไฟฟ้า ควรตรวจสอบสถานีชาร์จรถไฟฟ้าในพื้นที่ที่คุณต้องการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ชาร์จในที่ทำงาน เส้นทางที่เราใช้เดินทางบ่อย ๆ หรือสถานีชาร์จตามจังหวัดต่าง ๆ ที่เราต้องการไปว่าเพียงพอต่อการชาร์จหรือไม่

แม้เราจะทราบดีว่าปั๊ม ปตท. (EV Station PluZ) มีทั้งสถานีชาร์จรถไฟฟ้า ปตท. ภาคเหนือ, สถานีชาร์จรถไฟฟ้า ปตท. ภาคกลาง, สถานีชาร์จรถไฟฟ้า ปตท. ภาคอีสาน และสถานีชาร์จรถไฟฟ้า ปตท. ภาคใต้ แต่บางจังหวัดก็มีแค่ไม่กี่จุด แนะนำให้ดูของเจ้าอื่น ๆ เพิ่มเติม โดยเช็กได้ที่ สถานีชาร์จรถไฟฟ้าทั่วประเทศไทย มีที่ไหนบ้าง

5. ความคุ้มในเรื่องระยะทางการขับขี่

การที่เราจะซื้อรถไฟฟ้าหนึ่งคัน การคำนวณเรื่องระยะทางเป็นเรื่องที่สำคัญมาก รถ EV มีระยะทางการขับขี่ที่แตกต่างกันไปตามรุ่นและแบรนด์ และสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ รถที่ซื้อเพียงพอต่อความต้องการในการใช้งานประจำวันของคุณหรือไม่

ด้วยประโยชน์ที่มากมายที่รถ EV นำเสนอ เช่น การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ต่ำกว่ารถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงทั่วไป สิ่งที่ต้องระวังคือการเลือกรถที่เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณของคุณ การซื้อรถ EV เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าและสามารถช่วยเรื่องลดเรื่องค่าใช้จ่ายเรื่องน้ำมัน แล้วยังสามารถช่วยลดโลกร้อนไปในตัวอีกด้วย

รถไฟฟ้าดีนะครับ ผมยังชอบเลย แต่ผมอยากให้คุณเช็กให้ชัวร์ว่ามันตอบโจทย์คุณในตอนนี้หรือไม่ ลองอ่านบทความนี้เพิ่มเติมดูครับ >>> 10 ข้อดี-ข้อเสีย รถยนต์ไฟฟ้า อย่าเพิ่งซื้อถ้ายังไม่รู้สิ่งนี้

หากคุณต้องการซื้อรถไฟฟ้า EV มือสอง อ่านต่อได้ที่ รวมรถยนต์ไฟฟ้า EV มือสอง ราคาถูก น่าซื้อที่สุดในปีนี้

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง one2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com