หน้าแรก บทความ เรื่องเด่น เคล็ดลับ พาสัตว์เลี้ยงนั่งรถ เดินทางไกล ปลอดภัยหายห่วง เคล็ดลับ พาสัตว์เลี้ยงนั่งรถ เดินทางไกล ปลอดภัยหายห่วง เรื่องเด่น Ramon Khamphan | 20 November 2566 11:06 ใครเป็นเหล่าทาสกันบ้างรายงานตัวกันหน่อย วันนี้เรามีเคล็ดลับดีๆ ให้กับเหล่าทาสกับ เคล็ดลับ พาสัตว์เลี้ยงนั่งรถ เดินทางไกล หากทาสคนไหนที่อยากพาน้องๆ ไปเที่ยวต่างจังหวัดจะได้เตรียมตัวถูก เดินทางได้แบบสบายใจ บ้านไหนเป็นบ้างที่พอจะไปเที่ยวต่างจังหวัดหรือขับรถเดินทางไกลแต่ไม่สามารถเอาเหล่าน้องหมาน้องแมวไปได้ หากให้น้องอยู่บ้านตัวเดียวหรือนำไปฝากไว้กับคลินิกหรือที่รับฝากสัตว์เลี้ยง แน่นอนว่าจะต้องเกิดความกังวลใจจนทำให้ทริปนั้นอาจไม่สนุกได้ งั้นลองมาดูเคล็ดลับที่เรานำมาฝากกันดีกว่า จะได้พอน้องๆ นั่งรถไปกับเราได้ มาดูเลย พาหมานั่งรถทางไกล ไปต่างจังหวัด ต้องทำอย่างไรบ้าง 1.ฝึกความคุ้นเคยให้น้องหมากับรถ ก่อนออกเดินทางประมาณ 1-2 สัปดาห์ควรสร้างความคุ้นเคยให้กับน้องหมาของเรากับรถยนต์ที่จะนั่งก่อนจะดีที่สุด โดยการสร้างความคุ้นเคยนี้คือ การพาขึ้นไปนั่งเล่นบนรถบ่อยๆ (โดยไม่ต้องขับออกไป) หลังจากน้องคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมภายในรถแล้วก็ค่อยๆ ทำให้น้องหมาคุ้นชินในขณะที่รถติดเครื่องยนต์และค่อยๆ ชินกับการขับเคลื่อนของรถ 2.ตรวจสุขภาพน้องหมาก่อนออกเดินทาง พาน้องหมาไปตรวจสุขภาพก่อนออกเดินทางประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อนให้สัตวแพทย์ตรวจเช็กร่างกายน้องว่าแข็งแรงดีไหม พร้อมที่จะเดินทางไกลหรือไม่หากตรวจแล้วพบว่าน้องแข็งแรงดีก็พาน้องไปลุยกันเลย แต่ถ้าหากน้องสุขภาพไม่แข็งแรงเท่าไหร่นัก ก็ขอแนะนำว่าไม่ควรที่จะฝืนพาน้องไปด้วยเพราะอาจจะทำให้น้องร่างกายอ่อนล้าทำให้เป็นอันตรายต่อตัวน้องหมาได้นั่นเอง 3.งดให้น้องทานอาหารก่อนออกเดินทาง ก่อนออกเดินทาง 1 ชั่วโมง ควรให้น้องงดอาหารไปก่อน แต่สามารถทางน้ำได้เพียงเล็กน้อย เพราะหากน้องทานเยอะก่อนออกเดินทางก็จะทำให้น้องมีอาการเมารถและอาเจียนได้ 4.ใช้เข็มขัดคล้องให้เหมาะสมกับนิสัยของน้องหมา หากเป็นน้องหมาที่นิ่งๆ ไม่ซนมากเท่าไหร่ก็สามารถใช้สายจูงแบบเต็มตัวได้ซึ่งใช้ได้ทั้งสุนัขพันธุ์เล็กและพันธุ์ใหญ่เลย โดยการคล้องเข็มขัดนิรภัยเข้ากับห่วงสายจูงเท่านั้น การทำแบบนี้จะทำให้น้องนั่งอยู่กับที่ตรงนั้น แต่ต้องแน่ใจจริงๆ ว่าน้องหมาของเราไม่ดื้อไม่ซน หากน้องมีนิสัยดื้อ ซน อยู่ไม่นิ่ง ควรใช้สายจูงแบบ Zipline เพราะสายจูงประเภทนี้ถูกออกแบบให้มาใช้กับน้องหมาที่มีนิสัยซุกซน ชอบเคลื่อนไหว แถมยังช่วยดึงไม่ให้น้องเคลื่อนไหวมากเกินไป แต่ก็ยังสามารถเคลื่อนไหวได้สะดวกอยู่ สามารถใช้ได้ทั้งน้องหมาตัวเล็กและตัวใหญ่เลย 5.น้องหมาตัวเล็กใส่ตะกร้า หากน้องหมาตัวเล็กของเราขี้ตื่นก็ขอแนะนำให้นำน้องใส่ตะกร้าเอาไว้ น้องจะรู้สึกปลอดภัยขึ้นมาเพราะน้องจะเห็นแต่หน้าของเจ้าของที่นั่งเฝ้าไปด้วยนั่นเอง 6.จัดที่นั่งสำหรับน้องให้เหมาะสม โดยตำแหน่งที่นั่งที่เหมาะสมที่สุดสำหรับสัตว์เลี้ยงก็คือเบาะด้านหลัง เพราะทำให้น้องไม่สามารถไปรบกวนบริเวณคนขับได้ ซึ่งในปัจจุบันนี้ก็ได้มี Dog Car Seat สำหรับสุนัขหรือแมว ซึ่งหากน้องนั่งใน Dog Car Seat นี้จะช่วยไม่ให้ร่วงหล่นจากเบาะหากเบรกกะทันหันนั่นเองเพราะตัวที่นั่งสำหรับสัตว์เลี้ยงนี้จะมีสายนิรภัยอยู่ เหมาะอย่างมากกับน้องๆ ที่ซุกซน บริเวณที่ไม่ควรให้น้องนั่งเลยก็คือพื้นรถ เพราะหากเราปล่อยให้น้องนั่งที่พื้นรถจะทำให้น้องได้รับแรงกระแทกจนอาจทำให้น้องมีอาการเครียดได้ 7.เตรียมของเล่นหรือผ้าห่มที่น้องติดไปด้วย เพื่อไม่ให้น้องมีความกังวลหรือความเครียดในขณะนั่งไปในรถ ควรจะมีของเล่นที่น้องชอบหรือตุ๊กตา ผ้าห่ม หมอน สิ่งต่างๆ ที่น้องติด นำไปด้วย สิ่งเหล่านี้จะช่วยลดความตื่นกลัวของน้องได้ดี 8.แวะจอดพักให้น้องได้ออกมาเดินเล่น เวลาเดินทางไกลควรแวะจอดพักทุกๆ 2-3 ชั่วโมง เพื่อให้น้องได้พัก ได้ออกมาเดินเล่น ขับถ่าย และพักกินน้ำ ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวช่วยที่ทำให้น้องคลายความเครียดได้ และเมื่อขับไปในเส้นทางชนบทแนะนำว่าให้ลดความเร็วรถลงและเปิดหน้าต่างให้น้องยื่นหน้าออกมารับอากาศข้างนอก แต่ถ้าหากน้องมีนิสัยดื้อและซุกซนมากๆ ไม่ควรเปิดหน้าต่างสุด ควรเปิดพอดีกับที่น้องได้รับอากาศภายนอก เพราะหากเปิดกว้างไปน้องอาจจะกระโดดออกไปได้นั่นเอง พาแมวเดินทางไกล ต้องเตรียมตัวอย่างไร สำหรับการพาแมวนั่งรถเดินทางไกลนั้น ก็จะมีวิธีที่คล้ายๆ กับน้องหมาอยู่ไม่น้อย ซึ่งวิธีรับมือเมื่อพาน้องแมวนั่งรถไปด้วย ก็มีดังนี้ 1.ให้น้องแมวทำความคุ้นชินกับรถ วิธีนี้เป็นวิธีเดียวกับน้องหมา แน่นอนว่าแมวเป็นนักสำรวจอยู่แล้วเพื่อสร้างความคุ้นชินให้กับน้องแล้ว ควรที่จะพาน้องมาเล่นในรถบ้างเพราะน้องจะเดินสำรวจจนสร้างความคุ้นเคยนั่นเอง 2.มีข้อมูลของน้องติดตัวไว้ แมวขึ้นชื่อว่าเป็นสัตว์ที่ไม่เชื่อฟังทาส นิสัยเอาแต่ใจ เย่อหยิ่ง เพราะฉะนั้นจะไม่มีอะไรมารับรองว่าน้องจะไม่หนีเราไป เพราะฉะนั้นควรมีข้อมูลส่วนตัวของเจ้าเหมียวติดที่ไว้ที่ปลอกคอ ซึ่งข้อมูลส่วนตัวที่ว่านี้ก็คือ ชื่อ บ้านเลขที่ และเบอร์โทรศัพท์ของเจ้าของแมว หากน้องหลุดไปจะได้สามารถติดต่อกับเจ้าของได้ 3.ทานอาหารก่อนออกเดินทาง 2-3 ชั่วโมง อีกหนึ่งเคล็ดลับที่เหมือนกับของน้องหมา นั่นก็คือการงดอาหารก่อนออกเดินทาง 1 ชั่วโมง สามารถให้น้องทานอาหารได้ 2-3 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง เพื่อไม่ให้น้องเกิดอาการเมารถ คลื่นไส้ระหว่างการเดินทาง รวมไปถึงเมื่อน้องกินอิ่มมากๆ จะทำให้น้องมีอาการตื่นเต้นได้นั่นเอง 4.เตรียมของใช้ของเจ้านายให้พร้อม ของใช้ที่ว่านี้ก็อย่างพวก กระเป๋าแมว กระบะทรายแมว ถุงเก็บอึ ที่ฝนเล็บหรือของเล่นที่น้องคุ้นเคย เป็นต้น เพราะแมวจะรู้สึกปลอดภัยและสบายใจเมื่อได้อยู่กับกลิ่นที่คุ้นเคย โดยปกติแล้วเมื่อเจ้าเหมียวไม่ตื่นตระหนกและคุ้นชินไปแล้ว ก็จะสามารถเดินทางได้ยาวๆ ถึง 8 ชั่วโมงไม่เกินนี้ และเมื่อเดินทางไกลครบ 8 ชั่วโมงแล้ว ก็ควรที่จะปล่อยให้เจ้าเหมียวได้ออกมายืดเส้นยืดสาย และจิบน้ำบ้าง เพื่อให้น้องได้ระบายความเครียดจากการนั่งรถนานนั่นเอง หมาเมารถ แมวเมารถ อาการเป็นอย่างไร น้องหมามีอาการเมารถ จะสังเกตได้คือ น้องจะมีอาการ ลุกลี้ลุกลนที่ไม่ใช่การอยากรู้อยากเห็นคอตกและน้ำลายเยิ้ม มีอาการคล้ายจะอาเจียน (หรืออาเจียนออกมาแล้ว) หรือมีอาการสงบนิ่งผิดปกตินอนซึม หากน้องมีอาการให้หาที่นอนที่สบายที่สุดให้น้อง (ในรถ) ไม่เป่าแอร์ใส่หน้าน้องและเร่งพัดลมปรับอากาศเพื่อให้อากาศได้เท ซึ่งหากบ้านไหนที่คิดว่าน้องจะต้องมาอาการเมารถอย่สชางแน่นอน ก็สามารถให้น้องกินยาแก้เมารถก่อนเดินทางสัก 30 นาที น้องแมวเมารถ อาการคือ จะไม่ค่อยร้อง น้ำลายเยอะ บางตัวก็อาจจะอึ หรืออ้วกออกมา ซึ่งควรจะเตรียมไอเทมแก้เมารถหรือทำให้น้องแมวผ่อนคลายติดเอาไว้ด้วย เช่น ยาลดความเครียดสำหรับแมว (Rescue Remedy) หรือ Bach Flower Essence ไว้หยดใส่ในน้ำ 2-3 หยดให้น้องแมวได้จิบ ก็จะช่วยลดความเครียดหรือกังวงลงได้ สำหรับยาลดความเครียดหรือยาคลายกังวลนั้น ควรจะปรึกษาสัตวแพทย์ก่อน เพื่อให้แพทย์ประเมินว่าควรใช้ยาปริมาณเท่าไหนเพื่อให้ปลอดภัยต่อน้องเหมียว ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง one2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com ✕ ใช้การติดต่อผ่านไลน์ เราปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของคุณตาม PDPA ฉันยอมรับ ข้อกำหนดการใช้งาน และ นโยบายความเป็นส่วนตัว ของ One2car.com ฉันยินยอมให้ One2car.com และผู้ขายรายการประกาศติดต่อทางไลน์ ตรวจสอบข้อเสนอรถที่ดีที่สุด! Prev Next ข้อเสนอพิเศษ - โทรในขณะนี้! วัน ชม ราคาเฉลี่ย ทำไมไม่มีราคาที่ระบุไว้? ติดต่อโชว์รูมโดยตรงจะได้ราคาที่พิเศษที่สุด I ทำไมไม่มีราคาที่ระบุไว้? ติดต่อโชว์รูมโดยตรงจะได้ราคาที่พิเศษที่สุด แท็กที่เกี่ยวข้อง พาสัตว์เลี้ยงนั่งรถ พาสัตว์เลี้ยงนั่งรถ เดินทางไกล ขับรถทางไกล ขับรถเดินทางไกล พาน้องหมานั่งรถ พาแมวเดินทางไกล หมาเมารถ แมวเมารถ พิมพ์ ข่าวฟีเจอร์ แนวโน้มรถยนต์ไฟฟ้า ‘ยังไงก็รอด’ ปี 2567 ต้นทุนแบตถูกลง 50% เรื่องเด่น Chuenkamon Phasuk | 27 March 2567 เจาะแนวโน้มรถยนต์ไฟฟ้า EV จะกลายเป็นรถยนต์แห่งอนาคตจริงหรือไม่ ? ปฏิวัติการขนส่งได้อย่างไร เคลียร์ความสงสัยได้ในบทความนี้ผ่าแนวโน้มอนาคตยานยนต์ไฟฟ้า ... เผยสาเหตุ! ทำไมรถมือสองราคาร่วงแรงกว่าที่ผ่านมา เรื่องเด่น Suttinun Poomkung | 21 March 2567 อะไรทำให้รถมือสองราคาตกขนาดนี้ มีแค่กระแสรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเดียวหรือไม่ ... ในยุคของรถยนต์ไฟฟ้า รถสันดาปมือสองจะตายจากเราไปหรือไม่? เรื่องเด่น Pakkawat Unchalee | 21 March 2567 เมื่อรถยนต์ไฟฟ้ากำลังกลายเป็นกระแสหลักในประเทศไทย ด้วยราคาที่เข้าถึงง่ายพร้อมออปชั่นล้นๆ ก็ทำให้เกิดคำถามว่า ... ฤกษ์ออกรถ เมษายน 2567 ตามวันเกิด พร้อมเวลาล้อหมุน เรื่องเด่น Chuenkamon Phasuk | 21 March 2567 มาแล้ว! ฤกษ์ออกรถ เมษายน 2567 ใครยังไม่มีฤกษ์รับรถ รีบเข้ามา! ซินแสดูให้จริง อยากรู้เกิดวันนี้ควรออกรถวันเวลาไหนก็ย่อมได้ฤกษ์รับรถเดือนเมษายน ... เเสดงความคิดเห็น
เคล็ดลับ พาสัตว์เลี้ยงนั่งรถ เดินทางไกล ปลอดภัยหายห่วง เรื่องเด่น Ramon Khamphan | 20 November 2566 11:06 ใครเป็นเหล่าทาสกันบ้างรายงานตัวกันหน่อย วันนี้เรามีเคล็ดลับดีๆ ให้กับเหล่าทาสกับ เคล็ดลับ พาสัตว์เลี้ยงนั่งรถ เดินทางไกล หากทาสคนไหนที่อยากพาน้องๆ ไปเที่ยวต่างจังหวัดจะได้เตรียมตัวถูก เดินทางได้แบบสบายใจ บ้านไหนเป็นบ้างที่พอจะไปเที่ยวต่างจังหวัดหรือขับรถเดินทางไกลแต่ไม่สามารถเอาเหล่าน้องหมาน้องแมวไปได้ หากให้น้องอยู่บ้านตัวเดียวหรือนำไปฝากไว้กับคลินิกหรือที่รับฝากสัตว์เลี้ยง แน่นอนว่าจะต้องเกิดความกังวลใจจนทำให้ทริปนั้นอาจไม่สนุกได้ งั้นลองมาดูเคล็ดลับที่เรานำมาฝากกันดีกว่า จะได้พอน้องๆ นั่งรถไปกับเราได้ มาดูเลย พาหมานั่งรถทางไกล ไปต่างจังหวัด ต้องทำอย่างไรบ้าง 1.ฝึกความคุ้นเคยให้น้องหมากับรถ ก่อนออกเดินทางประมาณ 1-2 สัปดาห์ควรสร้างความคุ้นเคยให้กับน้องหมาของเรากับรถยนต์ที่จะนั่งก่อนจะดีที่สุด โดยการสร้างความคุ้นเคยนี้คือ การพาขึ้นไปนั่งเล่นบนรถบ่อยๆ (โดยไม่ต้องขับออกไป) หลังจากน้องคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมภายในรถแล้วก็ค่อยๆ ทำให้น้องหมาคุ้นชินในขณะที่รถติดเครื่องยนต์และค่อยๆ ชินกับการขับเคลื่อนของรถ 2.ตรวจสุขภาพน้องหมาก่อนออกเดินทาง พาน้องหมาไปตรวจสุขภาพก่อนออกเดินทางประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อนให้สัตวแพทย์ตรวจเช็กร่างกายน้องว่าแข็งแรงดีไหม พร้อมที่จะเดินทางไกลหรือไม่หากตรวจแล้วพบว่าน้องแข็งแรงดีก็พาน้องไปลุยกันเลย แต่ถ้าหากน้องสุขภาพไม่แข็งแรงเท่าไหร่นัก ก็ขอแนะนำว่าไม่ควรที่จะฝืนพาน้องไปด้วยเพราะอาจจะทำให้น้องร่างกายอ่อนล้าทำให้เป็นอันตรายต่อตัวน้องหมาได้นั่นเอง 3.งดให้น้องทานอาหารก่อนออกเดินทาง ก่อนออกเดินทาง 1 ชั่วโมง ควรให้น้องงดอาหารไปก่อน แต่สามารถทางน้ำได้เพียงเล็กน้อย เพราะหากน้องทานเยอะก่อนออกเดินทางก็จะทำให้น้องมีอาการเมารถและอาเจียนได้ 4.ใช้เข็มขัดคล้องให้เหมาะสมกับนิสัยของน้องหมา หากเป็นน้องหมาที่นิ่งๆ ไม่ซนมากเท่าไหร่ก็สามารถใช้สายจูงแบบเต็มตัวได้ซึ่งใช้ได้ทั้งสุนัขพันธุ์เล็กและพันธุ์ใหญ่เลย โดยการคล้องเข็มขัดนิรภัยเข้ากับห่วงสายจูงเท่านั้น การทำแบบนี้จะทำให้น้องนั่งอยู่กับที่ตรงนั้น แต่ต้องแน่ใจจริงๆ ว่าน้องหมาของเราไม่ดื้อไม่ซน หากน้องมีนิสัยดื้อ ซน อยู่ไม่นิ่ง ควรใช้สายจูงแบบ Zipline เพราะสายจูงประเภทนี้ถูกออกแบบให้มาใช้กับน้องหมาที่มีนิสัยซุกซน ชอบเคลื่อนไหว แถมยังช่วยดึงไม่ให้น้องเคลื่อนไหวมากเกินไป แต่ก็ยังสามารถเคลื่อนไหวได้สะดวกอยู่ สามารถใช้ได้ทั้งน้องหมาตัวเล็กและตัวใหญ่เลย 5.น้องหมาตัวเล็กใส่ตะกร้า หากน้องหมาตัวเล็กของเราขี้ตื่นก็ขอแนะนำให้นำน้องใส่ตะกร้าเอาไว้ น้องจะรู้สึกปลอดภัยขึ้นมาเพราะน้องจะเห็นแต่หน้าของเจ้าของที่นั่งเฝ้าไปด้วยนั่นเอง 6.จัดที่นั่งสำหรับน้องให้เหมาะสม โดยตำแหน่งที่นั่งที่เหมาะสมที่สุดสำหรับสัตว์เลี้ยงก็คือเบาะด้านหลัง เพราะทำให้น้องไม่สามารถไปรบกวนบริเวณคนขับได้ ซึ่งในปัจจุบันนี้ก็ได้มี Dog Car Seat สำหรับสุนัขหรือแมว ซึ่งหากน้องนั่งใน Dog Car Seat นี้จะช่วยไม่ให้ร่วงหล่นจากเบาะหากเบรกกะทันหันนั่นเองเพราะตัวที่นั่งสำหรับสัตว์เลี้ยงนี้จะมีสายนิรภัยอยู่ เหมาะอย่างมากกับน้องๆ ที่ซุกซน บริเวณที่ไม่ควรให้น้องนั่งเลยก็คือพื้นรถ เพราะหากเราปล่อยให้น้องนั่งที่พื้นรถจะทำให้น้องได้รับแรงกระแทกจนอาจทำให้น้องมีอาการเครียดได้ 7.เตรียมของเล่นหรือผ้าห่มที่น้องติดไปด้วย เพื่อไม่ให้น้องมีความกังวลหรือความเครียดในขณะนั่งไปในรถ ควรจะมีของเล่นที่น้องชอบหรือตุ๊กตา ผ้าห่ม หมอน สิ่งต่างๆ ที่น้องติด นำไปด้วย สิ่งเหล่านี้จะช่วยลดความตื่นกลัวของน้องได้ดี 8.แวะจอดพักให้น้องได้ออกมาเดินเล่น เวลาเดินทางไกลควรแวะจอดพักทุกๆ 2-3 ชั่วโมง เพื่อให้น้องได้พัก ได้ออกมาเดินเล่น ขับถ่าย และพักกินน้ำ ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวช่วยที่ทำให้น้องคลายความเครียดได้ และเมื่อขับไปในเส้นทางชนบทแนะนำว่าให้ลดความเร็วรถลงและเปิดหน้าต่างให้น้องยื่นหน้าออกมารับอากาศข้างนอก แต่ถ้าหากน้องมีนิสัยดื้อและซุกซนมากๆ ไม่ควรเปิดหน้าต่างสุด ควรเปิดพอดีกับที่น้องได้รับอากาศภายนอก เพราะหากเปิดกว้างไปน้องอาจจะกระโดดออกไปได้นั่นเอง พาแมวเดินทางไกล ต้องเตรียมตัวอย่างไร สำหรับการพาแมวนั่งรถเดินทางไกลนั้น ก็จะมีวิธีที่คล้ายๆ กับน้องหมาอยู่ไม่น้อย ซึ่งวิธีรับมือเมื่อพาน้องแมวนั่งรถไปด้วย ก็มีดังนี้ 1.ให้น้องแมวทำความคุ้นชินกับรถ วิธีนี้เป็นวิธีเดียวกับน้องหมา แน่นอนว่าแมวเป็นนักสำรวจอยู่แล้วเพื่อสร้างความคุ้นชินให้กับน้องแล้ว ควรที่จะพาน้องมาเล่นในรถบ้างเพราะน้องจะเดินสำรวจจนสร้างความคุ้นเคยนั่นเอง 2.มีข้อมูลของน้องติดตัวไว้ แมวขึ้นชื่อว่าเป็นสัตว์ที่ไม่เชื่อฟังทาส นิสัยเอาแต่ใจ เย่อหยิ่ง เพราะฉะนั้นจะไม่มีอะไรมารับรองว่าน้องจะไม่หนีเราไป เพราะฉะนั้นควรมีข้อมูลส่วนตัวของเจ้าเหมียวติดที่ไว้ที่ปลอกคอ ซึ่งข้อมูลส่วนตัวที่ว่านี้ก็คือ ชื่อ บ้านเลขที่ และเบอร์โทรศัพท์ของเจ้าของแมว หากน้องหลุดไปจะได้สามารถติดต่อกับเจ้าของได้ 3.ทานอาหารก่อนออกเดินทาง 2-3 ชั่วโมง อีกหนึ่งเคล็ดลับที่เหมือนกับของน้องหมา นั่นก็คือการงดอาหารก่อนออกเดินทาง 1 ชั่วโมง สามารถให้น้องทานอาหารได้ 2-3 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง เพื่อไม่ให้น้องเกิดอาการเมารถ คลื่นไส้ระหว่างการเดินทาง รวมไปถึงเมื่อน้องกินอิ่มมากๆ จะทำให้น้องมีอาการตื่นเต้นได้นั่นเอง 4.เตรียมของใช้ของเจ้านายให้พร้อม ของใช้ที่ว่านี้ก็อย่างพวก กระเป๋าแมว กระบะทรายแมว ถุงเก็บอึ ที่ฝนเล็บหรือของเล่นที่น้องคุ้นเคย เป็นต้น เพราะแมวจะรู้สึกปลอดภัยและสบายใจเมื่อได้อยู่กับกลิ่นที่คุ้นเคย โดยปกติแล้วเมื่อเจ้าเหมียวไม่ตื่นตระหนกและคุ้นชินไปแล้ว ก็จะสามารถเดินทางได้ยาวๆ ถึง 8 ชั่วโมงไม่เกินนี้ และเมื่อเดินทางไกลครบ 8 ชั่วโมงแล้ว ก็ควรที่จะปล่อยให้เจ้าเหมียวได้ออกมายืดเส้นยืดสาย และจิบน้ำบ้าง เพื่อให้น้องได้ระบายความเครียดจากการนั่งรถนานนั่นเอง หมาเมารถ แมวเมารถ อาการเป็นอย่างไร น้องหมามีอาการเมารถ จะสังเกตได้คือ น้องจะมีอาการ ลุกลี้ลุกลนที่ไม่ใช่การอยากรู้อยากเห็นคอตกและน้ำลายเยิ้ม มีอาการคล้ายจะอาเจียน (หรืออาเจียนออกมาแล้ว) หรือมีอาการสงบนิ่งผิดปกตินอนซึม หากน้องมีอาการให้หาที่นอนที่สบายที่สุดให้น้อง (ในรถ) ไม่เป่าแอร์ใส่หน้าน้องและเร่งพัดลมปรับอากาศเพื่อให้อากาศได้เท ซึ่งหากบ้านไหนที่คิดว่าน้องจะต้องมาอาการเมารถอย่สชางแน่นอน ก็สามารถให้น้องกินยาแก้เมารถก่อนเดินทางสัก 30 นาที น้องแมวเมารถ อาการคือ จะไม่ค่อยร้อง น้ำลายเยอะ บางตัวก็อาจจะอึ หรืออ้วกออกมา ซึ่งควรจะเตรียมไอเทมแก้เมารถหรือทำให้น้องแมวผ่อนคลายติดเอาไว้ด้วย เช่น ยาลดความเครียดสำหรับแมว (Rescue Remedy) หรือ Bach Flower Essence ไว้หยดใส่ในน้ำ 2-3 หยดให้น้องแมวได้จิบ ก็จะช่วยลดความเครียดหรือกังวงลงได้ สำหรับยาลดความเครียดหรือยาคลายกังวลนั้น ควรจะปรึกษาสัตวแพทย์ก่อน เพื่อให้แพทย์ประเมินว่าควรใช้ยาปริมาณเท่าไหนเพื่อให้ปลอดภัยต่อน้องเหมียว ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง one2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com ✕ ใช้การติดต่อผ่านไลน์ เราปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของคุณตาม PDPA ฉันยอมรับ ข้อกำหนดการใช้งาน และ นโยบายความเป็นส่วนตัว ของ One2car.com ฉันยินยอมให้ One2car.com และผู้ขายรายการประกาศติดต่อทางไลน์ ตรวจสอบข้อเสนอรถที่ดีที่สุด! Prev Next ข้อเสนอพิเศษ - โทรในขณะนี้! วัน ชม ราคาเฉลี่ย ทำไมไม่มีราคาที่ระบุไว้? ติดต่อโชว์รูมโดยตรงจะได้ราคาที่พิเศษที่สุด I ทำไมไม่มีราคาที่ระบุไว้? ติดต่อโชว์รูมโดยตรงจะได้ราคาที่พิเศษที่สุด แท็กที่เกี่ยวข้อง พาสัตว์เลี้ยงนั่งรถ พาสัตว์เลี้ยงนั่งรถ เดินทางไกล ขับรถทางไกล ขับรถเดินทางไกล พาน้องหมานั่งรถ พาแมวเดินทางไกล หมาเมารถ แมวเมารถ
ข้อเสนอพิเศษ - โทรในขณะนี้! วัน ชม ราคาเฉลี่ย ทำไมไม่มีราคาที่ระบุไว้? ติดต่อโชว์รูมโดยตรงจะได้ราคาที่พิเศษที่สุด I ทำไมไม่มีราคาที่ระบุไว้? ติดต่อโชว์รูมโดยตรงจะได้ราคาที่พิเศษที่สุด
แนวโน้มรถยนต์ไฟฟ้า ‘ยังไงก็รอด’ ปี 2567 ต้นทุนแบตถูกลง 50% เรื่องเด่น Chuenkamon Phasuk | 27 March 2567 เจาะแนวโน้มรถยนต์ไฟฟ้า EV จะกลายเป็นรถยนต์แห่งอนาคตจริงหรือไม่ ? ปฏิวัติการขนส่งได้อย่างไร เคลียร์ความสงสัยได้ในบทความนี้ผ่าแนวโน้มอนาคตยานยนต์ไฟฟ้า ...
เผยสาเหตุ! ทำไมรถมือสองราคาร่วงแรงกว่าที่ผ่านมา เรื่องเด่น Suttinun Poomkung | 21 March 2567 อะไรทำให้รถมือสองราคาตกขนาดนี้ มีแค่กระแสรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเดียวหรือไม่ ...
ในยุคของรถยนต์ไฟฟ้า รถสันดาปมือสองจะตายจากเราไปหรือไม่? เรื่องเด่น Pakkawat Unchalee | 21 March 2567 เมื่อรถยนต์ไฟฟ้ากำลังกลายเป็นกระแสหลักในประเทศไทย ด้วยราคาที่เข้าถึงง่ายพร้อมออปชั่นล้นๆ ก็ทำให้เกิดคำถามว่า ...
ฤกษ์ออกรถ เมษายน 2567 ตามวันเกิด พร้อมเวลาล้อหมุน เรื่องเด่น Chuenkamon Phasuk | 21 March 2567 มาแล้ว! ฤกษ์ออกรถ เมษายน 2567 ใครยังไม่มีฤกษ์รับรถ รีบเข้ามา! ซินแสดูให้จริง อยากรู้เกิดวันนี้ควรออกรถวันเวลาไหนก็ย่อมได้ฤกษ์รับรถเดือนเมษายน ...