ปัจจุบันเทรนการใช้รถยนต์ไฟฟ้าเริ่มมีมากขึ้นในประเทศไทย จึงทำให้หลายๆท่านเกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับการดูแลรักษา ว่าเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร
ในบทความนี้ผมได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับความแตกต่างในการดูแลรักษา ระหว่างรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง และรถยนต์ที่ใช้ไฟฟ้าแบบ 100%
- การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ทางค่ายรถจะแนะนำให้เจ้าของรถ นำรถเข้ารับบริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ที่ทุกๆ 8,000 – 10,000 กม. หรือเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องทุกๆ 6 เดือน ในขณะที่รถไฟฟ้า สามารถมองข้ามเรื่องนี้ไปได้เลย
- เครื่องยนต์ ในรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง ประกอบไปด้วยชิ้นส่วนมากมายหลายชิ้น เมื่อเกิดการเสื่อมสภาพ ก็ต้องไล่เปลี่ยนซ่อมแซมมากกว่า ค่าซ่อมถูกบ้างแพงบ้างปะปนกันไป ต่างจากรถไฟฟ้าที่ใช้มอเตอร์ในการขับเคลื่อน มีจุดที่ต้องดูแลแก้ไขน้อยกว่า แต่ถ้าพังค่าอะไหล่ส่วนใหญ่จะแพงกว่า
- การเปลี่ยนแบตเตอรี่ จุดนี้เป็นจุดที่รถน้ำมันมีข้อได้เปรียบมากกว่า ยกตัวอย่างราคาของแบตเตอรี่รถ Tesla จะอยู่ที่ 162,000 – 220,000 บาท ในขณะที่ ราคาค่าเปลี่ยนถังน้ำมันใหม่อยู่ที่ 32,000 บาท ถ้ารวมมอเตอร์ใหม่ด้วยราคาอาจจะประมาณ 97,000 บาท
- ยาง เรื่องของยางนั้นเป็นเรื่องที่เสมอกันทั้งรถไฟฟ้าและรถน้ำมัน การดูแลรักษาหรือการภาระค่าใช้จ่ายเหมือนกัน
- เบรก ก็เป็นส่วนที่ทั้งเจ้าของรถน้ำมันและรถไฟฟ้าต้องดูแลเหมือนกัน ซึ่งตามคำแนะนำควรจะเปลี่ยนเบรคใหม่เมื่อผ่านการใช้งานไปแล้ว 80,000 กิโลเมตร หรือเร็วกว่านั้นขึ้นอยู่กับการใช้งาน
และทั้งหมดนี้ก็คือข้อแตกต่างในการดูแลเบื้องต้นครับ แต่ถ้าถามว่าตอนนี้รถไฟฟ้าเหมาะกับการใช้งานในประเทศไทยหรือไม่ ผมยังมองว่ายังไม่เหมาะครับ ด้วยหลายๆปัจจัยเช่น ราคารถไฟฟ้าที่ยังแพงกว่ารถน้ำมัน สถานีชาร์จไฟยังไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ รวมถึงตัวเลือกของรถไฟฟ้ามีน้อย แต่ในระยะยาวคงต้องรอดูกันต่อไปครับว่าจะพัฒนาขึ้นได้มากน้อยแค่ไหน
ติดตามข่าวรถยนต์ ราคารถยนต์ รีวิวรถยนต์ และจักรยานยนต์ทุกยี่ห้อ กับเรา Autospinn
แชร์ความคิดเห็นบนเว็บบอร์ด Autospinn คลิกเลย webboard.autospinn.com
เช็คโปรโมชั่นรถใหม่ เช็คราคารถใหม่ ได้ที่นี่
ราคารถมือสอง ซื้อรถมือสอง ขายรถมือสอง เชิญได้เลยที่ one2car
ข่าวฟีเจอร์

วิธีไหว้แม่ย่านางรถ พร้อมคาถา (2566) ใช้อะไรบ้าง ไหว้กี่โมงดี
เรื่องเด่น
ต่อใบขับขี่หมดอายุ หรือหาย 2566 ทำยังไง ใช้เอกสารอะไรบ้าง
เรื่องเด่น
รวมรถยนต์ไฟฟ้า EV มือสอง ราคาถูก น่าซื้อที่สุดในปี 2023
รถยนต์ไฟฟ้า