ฝ่าฝืนเคอร์ฟิว! ขับรถค่ำ ๆ มืด ๆ มีบทลงโทษอย่างไร?

ดูเหมือนการประกาศใช้เคอร์ฟิวจะทำให้สถานการณ์การแพร่เชื้อของไวรัสโควิด-19 ดีขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากประชาชนให้ความร่วมมือและเล็งเห็นถึงประโยชน์ของส่วนรวม แต่ก็ยังมีหลายคนที่ต้องเดินทางไปทำงานกะดึก หรือขับรถหลัง 22.00 น. ลองไปดูกันดีกว่าว่ามีบทลงโทษ หรือข้อยกเว้นอะไรบ้าง?

ฝ่าฝืนเคอร์ฟิว! ขับรถค่ำ ๆ มืด ๆ มีบทลงโทษอย่างไร?

ข้อกำหนดของช่วงเวลาเคอร์ฟิว

หลายคนคงกำลังสงสัยว่าทำไมต้องให้งดเดินทางออกจากบ้านในช่วงกลางคืน เพราะไวรัสโควิด-19 ก็น่าจะระบาดได้ดีทุกช่วงเวลา ทั้งนี้ก็เพื่อลดความเสี่ยงในการเดินทาง หรือรวมกลุ่มในช่วงค่ำ ๆ เพราะมีจำนวนผู้ติดเชื้อไม่น้อยที่เกิดจากการรวมกลุ่มสังสรรค์ ปาร์ตี้ หรือทานข้าวด้วยกันครั้งละหลาย ๆ คน จึงเป็นที่มาของข้อห้ามที่ว่า

ห้ามออกนอกเคหสถานทั่วประเทศระหว่าง 22.00 น. ถึง 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น โดยไม่ได้รับการยกเว้น หรือมีเหตุจำเป็นอื่น ๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่

บทลงโทษสำหรับผู้ที่ฝ่าฝืน

สำหรับผู้ที่ไม่ได้รับการยกเว้น ตั้งใจฝ่าฝืน หรืออ้างเหตุผลที่ไม่สมควร ก็จะถูกลงโทษจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งโทษของการฝ่าฝืนตามมาตราที่ 18 แห่งพระราชกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ปี 2548 พบว่า

หากใครก็ตามฝ่าฝืนคำสั่งที่ออกมาจากการใช้ พ.ร.ก. นี้ จะต้องจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ข้อมูลจากโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า การปฏิบัติงานตั้งจุดตรวจ จุดสกัด และชุดเคลื่อนที่เร็วทั่วประเทศกว่า 923 จุด ในช่วงเวลาเคอร์ฟิว ยังพบผู้ที่ฝ่าฝืนจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นบุคคลที่มีเจตนาจะไปมั่วสุมในลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรคในเคหสถาน บางคนอ้างว่ามีธุระ บางคนตั้งวงดื่มสุราในที่สาธารณะ ลักลอบเล่นการพนัน มั่วสุมยาเสพติด หรือแม้แต่การรวมกลุ่มกันขับขี่รถจักรยานยนต์ในช่วงดึก ๆ โดยต่อไปนี้ทางเจ้าหน้าที่จะงดการตักเตือนและดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด

โดยการตั้งด่านตรวจก็จะมีความเข้มงวดสูงมาก หากพบเจอผู้ฝ่าฝืนเคอร์ฟิว ออกมาขับขี่รถยนต์ หรือจักรยานยนต์หลัง 22.00 น. ก็จะทำการสอบถามถึงเหตุผล ขอตรวจใบขับขี่/ตรวจหมวกกันน็อก รวมทั้งวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ซึ่งถ้ามีความผิดอื่น ๆ ร่วมด้วยก็จะโดนโทษหลายกระทงเลยนะคะ

หากเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนแล้วพบว่าไม่มีความจำเป็นที่ออกจากเคหสถาน หรือไม่มีหนังสือรับรองการทำงานในช่วงเวลาเคอร์ฟิว ตำรวจก็จะแจ้งข้อหาดำเนินคดีที่สถานีตำรวจ ซึ่งสามารถทำเรื่องประกันตัวได้ แต่จะให้กลับบ้านหลังหมดเวลาเคอร์ฟิว จากนั้นก็จะมีการนัดไปส่งฟ้องต่อศาล หรือบางกรณี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอาจควบคุมตัวเพื่อส่งฟ้องต่อศาลในเช้าวันถัดไป

มีใครได้รับการยกเว้นบ้างล่ะ?

สำหรับผู้ที่จะได้รับการยกเว้นจากเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เดินทางในช่วงเวลาเคอร์ฟิว หรือ 22.00 น. ถึง 04.00 น. ได้ ก็จะประกอบไปด้วยบุคคลที่มีเอกสารรับรองการทำงาน หรือเอกสารอนุญาตเดินทางจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเท่านั้น ซึ่งประกอบด้วย

• ผู้ปฏิบัติงานด้านการแพทย์ เช่น แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์
• ผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับการธนาคาร
• ผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภค ผลผลิตการเกษตร ยา เวชภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ และหนังสือพิมพ์
• การขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิง การขนส่งพัสดุภัณฑ์ การขนส่งสินค้าเพื่อการนำเข้าหรือส่งออก รวมทั้งการขนย้ายประชาชนไปสู่ที่เอกเทศเพื่อกักกันตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ
• การเข้าออกเวรทำงานผลัดกลางคืนตามปกติ หรือเดินทางจากท่าอากาศยาน โดยมีเอกสารรับรองความจำเป็นหรือเอกสารเกี่ยวกับสินค้าหรือการเดินทาง
• เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานตามข้อกำหนด ประกาศ หรือคำสั่งต่าง ๆ ของทางราชการ หรือมีเหตุจำเป็นอื่น ๆ โดยได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่

การประกาศใช้เคอร์ฟิวครั้งนี้ก็เพื่อลดความเสี่ยงในการติดต่อของเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้เข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็ว ทางรัฐบาลจึงขอความร่วมมือจากประชาชนให้งดเดินทางออกจากบ้านในช่วงเวลาที่กำหนด หรือถ้าเป็นไปได้ก็ให้ออกจากบ้านน้อยที่สุดเลยยิ่งดี ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของคุณเอง และยังเป็นการช่วยลดภาระการทำงานหนักของทีมแพทย์อีกด้วยนะ

ส่วนใครที่ยังต้องขับขี่รถยนต์ในช่วงค่ำ ๆ ด้วยเหตุผลที่จำเป็น ก็อย่าขับเพลินเพราะเห็นถนนโล่งนะคะ ยังไงก็ต้องระมัดระวังและตรวจเช็กสภาพรถยนต์ก่อนใช้งานอยู่เสมอ ยิ่งถ้าได้ความอุ่นใจจากประกันรถยนต์ชั้นดีก็ยิ่งขับขี่สบายใจ

ติดตามข่าวรถยนต์ ราคารถยนต์ รีวิวรถยนต์ และจักรยานยนต์ทุกยี่ห้อ กับเรา Autospinn
แชร์ความคิดเห็นบนเว็บบอร์ด Autospinn คลิกเลย webboard.autospinn.com  
เช็คโปรโมชั่นรถใหม่ เช็คราคารถใหม่ ได้ที่นี่ 
ราคารถมือสอง ซื้อรถมือสอง ขายรถมือสอง เชิญได้เลยที่ one2car