ไทยรุ่งฯ เฮรักษายอดขาย 2.5 พันล้านบาทจากอานิสงค์ธุรกิจใหม่

ไทยรุ่งฯ เฮรับอานิสงค์ธุรกิจเกษตร-เบาะนั่งเติบโตค้ำยอด 2.5 พันล้านบาท หลังธุรกิจอื่นหดตัวตามตลาดกว่า 15% เดินหน้าขยายธุรกิจประกอบตัวถังรถบรรทุก พร้อมศึกษาเปิดโรงงานผลิตห้องเคบินรถการเกษตรในอนาคต

สมพงษ์ เผอิญโชค กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยรุ่งยูเนียนคาร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่ายอดรายได้ของบริษัทในปีนี้น่าจะทำได้ 2.5 พันล้านบาท ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ซึ้งแม้อุตสาหกรรมยานยนต์ในภาพรวมจะหดตัวกว่า 15% แต่บริษัทยังได้รับผลดีจากการขยายธุรกิจในช่วงที่ผ่านมาทำให้รักษายอดขายเอาไว้ได้

ทั้งนี้ ไทยรุ่งฯ ได้รับอานิสงค์จากการเป็นผู้ผลิตเบาะนั่งรถยนต์ให้กับมาสด้า ซึ่งเป็นค่ายรถที่มีการเติบโตในตลาดประเทศไทย รวมไปถึงการขยายไลน์ที่โรงงานหนองแขมเพื่อทำการผลิตห้องโดยสารสำหรับรถเพื่อการเกษตรภายใต้ยี่ห้อเคียววา ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นธุรกิจที่เติบโตโดยมียอดผลิตราว 3,000-4,000 คันในปีนี้

“ที่จริงแล้วเราประเมินว่าธุรกิจของเราในปีนี้น่าจะหดตัวในระดับเดียวกับการหดตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ในภาพรวม แต่การขยายธุรกิจใหม่เพื่อรองรับการผลิตของเราในช่วงที่ผ่านมา จะทำให้เราสามารถรักษายอดจำหน่ายได้ใกล้เคียงกับตัวเลขในปี 2558”

ล่าสุด ไทยรุ่งฯ ได้เปิดตัวบริษัท เทร็ก ไทยรุ่ง จำกัด (ทีทีอาร์) ซึ่งเป็นโรงงานผลิตตัวถังสำหรับรถบรรทุกบนพื้นที่ 53 ไร่ ด้วยงบลงทุนกว่า 900 ล้านบาท มีกำลงผลิตตัวถังหลากหลายรูปแบบด้วยกำลังผลิตสูงสุด 6,000 คันต่อปี โดยคาดว่าจะเดินสายผลิตเต็มรูปแบบใน 4-5 ปี พร้อมคืนทุนในระยะเวลาเดียวกัน

ทีทีอาร์จะรองรับความต้องการในประเทศไทย รวมถึงอยู่ระหว่างการศึกษาตลาดเพื่อกการส่งออกไปยังภูมิภาคอาเซียน โดยคาดว่าจะเริ่มต้นส่งออกได้ตั้งแต่ปลายปี 2559 เป็นต้นไป และคาดว่าจะมีสัดส่วนการส่งออกสูงถึง 40-50% ภายในปีที่ 3 ของการผลิต

“เรามองว่าโครงการลงทุนเพื่อการก่อสร้างโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานมูลค่ากว่า 2 ล้านล้านบาทของรัฐบาลจะส่งผลต่อความต้องการของรถบรรทุกที่เพิ่มขึ้น ซึ่งที่ผ่านมา ธุรกิจต่อตัวถังรถบรรทุกนั้นไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดในประเทศไทย หลายครั้งที่ผู้ประกอบการต้องรอนาน 3-5 เดือน”

ทั้งนี้ ทีทีอาร์ถือเป็นกลุ่มธุรกิจที่ 4 ของไทยรุ่งฯ ในปัจจุบัน โดยก่อนหน้านี้ ไทยรุ่งฯ มีกลุ่มธุรกิจหลักประกอบไปด้วยกลุ่มดัดแปลงรถยนต์พีพีวี, ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์การเกษตร และธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ซึ่งสร้างรายได้กว่า 2.5 พันล้านบาทในปี 2558 ที่ผ่านมา

สมพงษ์กล่าวถึงการศึกษาโครงการลงทุนเพื่อเปิดโรงงานผลิตห้องโดยสารรถเพื่อการเกษตรของเคียววาว่าจำเป็นต้องรอให้การผลิตเพิ่มมากขึ้นเป็น 5,000 คันต่อปีก่อนจึงจะสามารถเดินหน้าโครงการดังกล่าวได้ ซึ่งจะสอดคล้องงกับแผนการส่งออกรถกลุ่มนี้ไปยังประเทศฝรั่งเศสในอนาคต

สำหรับกลุ่มธุรกิจดัดแปลงรถยนต์ที่ล่าสุดมีกระแสข่าวว่าไทยรุ่งฯ ได้รับไฟเขียวจากโตโยต้าในการนำปิกอัพรุ่นใหม่ล่าสุดอย่างโตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว มาดัดแปลงเป็นรถยนต์พีพีวีรุ่นใหม่ของบริษัทฯ ขอยืนยันว่าโครงการดังกล่าวจำเป็นต้องใช้เวลา และจะไม่เห็นการเกิดขึ้นในเร็ววันนี้

“ตอนนี้ถ้าได้รถมาอยู่กับเรา ก็จะต้องมีขั้นตอนการพัฒนาอีกพอสมควร ซึ่งประเมินว่าไม่น่าจะต่ำกว่า 8-10 เดือน ถึงจะได้เห็นรถออกมาได้”