ล้างแอร์รถยนต์ตอนไหน? ถอดตู้ vs ไม่ถอดตู้ แบบไหนดีกว่า

ระบบของแอร์รถยนต์นั้นถือว่าไม่แตกต่างจากแอร์บ้านสักเท่าไหร่ แน่นอนว่าหากใช้งานไปนานๆ ก็มักจะมีอาการต่างๆ เช่น แอร์รถยนต์ไม่เย็น แอร์รถมีกลิ่นอับ หรือลมแอร์รถยนต์เบา เป็นต้น เพราะฉะนั้นเราควรที่จะทำความสะอาดแอร์รถยนต์ด้วยเช่นกัน แต่จะต้องล้างแอร์รถยนต์ตอนไหน ล้างแบบถอดตู้ ไม่ถอดตูแบบไหนดีกว่ากัน เรามาดูกันดีกว่า

ควรล้างแอร์รถยนต์ตอนไหน?

การล้างแอร์รถยนต์นั้นถือเป็นการแก้ปัญหาเบื้องต้นหากแอร์รถยนต์ของเรานั้นมีปัญหา ซึ่งการล้างแอร์รถยนต์นั้นควรทำทุกๆ 1-2 ปี หรือเมื่อรถมีการใช้งานทุก 20,000 กิโลเมตร ต้องบอกก่อนว่าปัญหาของระบบแอร์รถยนต์นั้นเกิดจากหลายๆ ปัจจัย รวมไปถึงลักษณะการใช้รถของแต่ละคนด้วยเช่นกัน

โดยปัญหาของแอร์รถยนต์ที่เกิดจากเจ้าของรถนั้น มักจะมีสาเหตุมาจากการใช้น้ำหอมปรับอากาศในรถ ใช้การบูรในรถ การขับรถไปยังที่ๆ มีฝุ่นเยอะ เป็นต้น เพราะฉะนั้นควรหมั่นสังเกตความผิดปกติของระบบแอร์รถยนต์อย่างสม่ำเสมอ หากมีอาการผิดปกติไปจากเดิมการล้างแอร์ก็ถือว่าช่วยแก้ปัญหาไปได้ส่วนหนึ่งด้วยเช่นกัน แต่ถ้าหากล้างแอร์แล้วอาการผิดปกติของแอร์ยังไม่ดีขึ้น ก็ขอแนะนำให้ตรวจเช็กกับทางศูนย์หรืออู่เพื่อที่จะได้แก้ไขได้ทันท่วงทีนั่นเอง

สำหรับอาการที่จะบ่งบอกว่ารถของเรานั้นควรที่จะล้างแอร์รถยนต์ได้แล้ว มีดังนี้

• เมื่อเปิดแอร์แล้วมีกลิ่นอับ

• ลมแอร์แรงไม่เต็มที่ ลมแอร์น้อยลง

• มีน้ำหยดออกมาจากแอร์

• เปิดแอร์แล้วมีเสียงดังมาก

ล้างแอร์รถยนต์แบบถอดตู้ คืออะไร

การล้างแอร์แบบถอดตู้นั้น คือการถอดตู้ออกมาล้าง ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากทั้งในอดีตและปัจจุบันนี้ เพราะการล้างแอร์ถอดตู้นั้นจะเป็นการถอดรื้อตู้แอร์ทั้งแผงคอยล์เย็นและคอยล์ร้อนออกมาทำความสะอาดด้านนอก ซึ่งการล้างแอร์แบบนี้จะสามารถล้างสิ่งสกปรกได้อย่างสะอาดหมดจดแทบทุกส่วน แต่ต้องเลือกช่างที่มีความชำนาญในการล้างแอร์แบบถอดตู้เท่านั้น เพราะการล้างแบบนี้จะมีความยุ่งยากพอสมควร

ถึงแม้ว่าข้อดีของมันคือการล้างแบบสะอาดหมดจดทุกส่วน แต่ก็มีข้อเสียอยู่เหมือนกัน คือ ช่างจำเป็นต้องรื้อแผงคอนโซลหน้าออกมาแทบทั้งหมด และอย่างที่บอกไปก่อนหน้าว่าช่างต้องมีความชำนาญด้วยเช่นกัน เนื่องจากต้องถอดแผงคอนโซล หากให้ช่างที่ไม่มีความชำนาญพอก็อาจเกิดความเสียหายกับชิ้นส่วนและอุปกรณ์ต่างๆ และงานประกอบกลับอาจไม่เต็ม 100% ได้ ซึ่งการล้างแอร์แบบนี้จะกินเวลาไปประมาณครึ่งวันเลยทีเดียว

ล้างตู้แอร์แบบถอดตู้ ราคาเท่าไหร่

ต้องบอกก่อนว่าราคาของการล้างตู้แอร์แบบถอดตู้นั้นขึ้นอยู่กับรถแต่ละรุ่น เพราะเนื่องจากรถแต่ละรุ่นนั้นต่างกัน การใช้น้ำยาในแต่ละเกรด แต่ละแบบก็ต่างกันด้วยเช่นกัน ซึ่งราคาในการล้างตู้แอร์ถอดตู้นั้นก็จะเริ่มต้นที่ 1,000 จนไปถึงหลักหมื่นเลยก็มี

ล้างแอร์รถยนต์ไม่ถอดตู้ ดีไหม

การล้างแอร์แบบไม่ถอดตู้นั้นจะเป็นการล้างที่ค่อนข้างสะดวกเลยทีเดียว เพราะไม่ต้องมีการรื้อชิ้นส่วนใดๆ ของรถ ซึ่งการล้างแอร์แบบไม่ถอดตู้นั้นจะต้องใช้เครื่องมือพิเศษสำหรับการล้างแบบนี้โดยเฉพาะ คือจะต้องมีการสอดท่อเพื่อเข้าไปล้างทำความสะอาดโดยการฉีดน้ำยาเข้าไปภายในตู้แอร์ ซึ่งการล้างแอร์รถยนต์ประเภทนี้เหมาะรถยนต์ที่ยังใหม่ ภายในตู้แอร์ไม่สกปรกมากนั่นเอง การล้างแอร์รถยนต์แบบไม่ถอดตู้นั้นจะไม่กินเวลานาน รวดเร็ว และมีราคาที่ถูกกว่าการล้างแบบถอดตู้

แต่ข้อเสียของการล้างแอร์ไม่ถอดตู้นั้นก็คือ สามารถทำความสะอาดได้ไม่เต็ม 100% อาจจะอยู่ที่ 70% - 80% เท่านั้น ยิ่งหากตู้แอร์ความสกปรกมากก็อาจจะล้างไม่สะอาดเท่าที่ควรได้เช่นกัน

ค่าใช้จ่ายล้างตู้แอร์ไม่ถอดตู้

สำหรับค่าใช้จ่ายในการล้างตู้แอร์แบบไม่ถอดตู้นั้นปกติจะอยู่ที่ราคา หลักร้อยไปถึงหลักพันเท่านั้น ขึ้นอยู่กับน้ำยาทำความสะอาด

สรุป ล้างแอร์แบบถอดตู้ กับ ไม่ถอดตู้ แบบไหนดีกว่ากัน?

หากถามว่าการล้างแอร์แบบไหนดีกว่ากันนั้น ก็ต้องบอกว่าขึ้นอยู่กับความเหมาะสมซะมากกว่า หากเป็นรถที่ใช้มาเป็นเวลานานแล้ว ไม่มีการล้างแอร์ นานๆ ทีล้าง หรือเป็นรถที่ไปขับลุยในที่ๆ มีฝุ่นเยอะ ดิน โคลนต่างๆ ก็ควรที่เลือกการล้างแอร์แบบถอดตู้จะดีกว่า เพื่อที่จะได้ทำความสะอาดได้อย่างหมดจดนั่นเอง ส่วนรถที่ยังเป็นรถใหม่ มีการตรวจเช็กระบบแอร์ หรือทำความสะอาดแอร์อยู่สม่ำเสมอนั้น รักษาระบบแอร์รถยนต์ เป็นประจำ ก็เลือกใช้การล้างแอร์แบบไม่ถอดตู้ได้จะเหมาะสมกว่า

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง one2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com