ทำไม Ford Ranger Raptor มือสองถึงน่าซื้อ ทั้งที่ซดน้ำมันดุ!

Ford Ranger Raptor มือสอง ไดโนเสาร์ล่าเนื้อผู้หิวโหยเส้นทางฝุ่น ทำไมคนถึงชอบและอยากได้มาครอบครองกันเยอะถึงแม้ว่ามันจะกินน้ำมันแบบดุดันไม่เกรงใจใครก็ตาม วันนี้มาหาคำตอบกัน

Ford Ranger Raptor คือรถกระบะแบบไหน?

Ford Ranger Raptor กระบะสายดุดันของค่าย Ford ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถกระบะออฟโรดที่ใช้วิ่งเพื่อสำรวจสภาพถนนในการนำข้อมูลไปเตรียมรถลงแข่งขันความเร็วสูงบนพื้นที่ทะเลทรายบาฮาและดาการ์ จึงออกมาเป็นรถที่พร้อมเผชิญหน้ากับทุกอุปสรรคอย่างไม่หวั่นเกรงคันนี้

ถึงแม้ว่า Ford Ranger Raptor จะหน้าตาดูเป็นรถกระบะแต่ต้องบอกว่า Ford ให้ความใส่ใจกับ Raptor เป็นพิเศษ ชูจุดเด่นใน DNA ของ Ford Performance อันเลื่องชื่อลงมาสู่ Ranger Raptor ในเวอร์ชันขายจริงเพื่อขาลุยโดยเฉพาะ Raptor จึงเป็นรถกระบะที่เพอร์ฟอร์แมนซ์โดดเด่นและพร้อมลุยทุกสถานการณ์

Ford ตั้งใจออกแบบ Raptor ให้เป็นรถที่มีสมรรถนะดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา ทั้งช่วงล้อที่กว้างขึ้น ความสูงที่เพิ่มขึ้น แก้มข้างรถที่ขยายออก โช้คอัพของ FOX Racing Shox อันเลื่องชื่อ รวมถึงล้อและยางที่ใหญ่ขึ้นเพื่อการลุยโดยเฉพาะ นอกจากนี้ก็ยังมีรูปลักษณ์ที่ดุดันสื่อถึงสมรรถนะที่ดุดันของรถคันนี้

ทำไมต้องเป็น Ranger Raptor ทั้งที่ Ranger Wildtrak ก็ลุยได้

ต้องบอกว่าถึง Ford Ranger Wildtrak จะลุยได้ก็จริง แต่นั่นมันไม่ใช่จุดสูงสุดของรถกระบะที่ Ford คิดเอาไว้ จุดสูงสุดของกระบะที่แท้จริงมันคือ Ford Ranger Raptor ที่มีความแข็งแกร่ง กำยำ ดุดันไม่เกรงใจใคร แม้ว่าหน้าตาอาจคล้ายคลึงกันแต่หากเจาะไปถึงเรื่องเพอร์ฟอแมนซ์แน่นอนว่า Raptor ดุกว่าอย่างชัดเจน!

อ่านเพิ่มเติม รีวิว Ford Ranger Wildtrak ใช้ลุยไหวไหม จำเป็นต้องข้ามไป Raptor หรือเปล่า?

โดยถ้าเรามองจาก Ford Ranger Raptor ปี 2022 หรือ Ford เจเนอเรชันใหม่ ก็จะรู้ได้ว่าหน้าตาค่อนข้างหล่อและแข็งแกร่งมาก นอกจากเรื่องรูปลักษณ์ภายนอกที่ต้องบอกว่าดูก็รู้ว่าใช้ลุยได้จริงๆ เรื่องเครื่องยนต์และช่วงล่างแน่นอนว่ามาเหนือว่า Wildtrak แน่นอนอยู่แล้ว

ปัจจุบัน Raptor มีทั้งหมด 2 เครื่องยนต์ คือ เบนซิน 3.0 ลิตร V6 Petrol 397 แรงม้า แรงบิด 583 นิวตันเมตร และ เครื่องยนต์ ดีเซล 2.0 ลิตร Bi-T Diesel 210 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร

ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด แบบ Electric Shifter ที่มาพร้อมเทคโนโลยีขั้นสูง Active Park Assist และเบรกมือไฟฟ้า พา Raptor ที่มีขนาดใหญ่ถึง 2,028 x 5,381 x 1,922 มม. พุ่งทยานออกไปได้อย่างดุเด็ดเผ็ดมันส์

ในรุ่น 2.0L Bi-Turbo ใช้ระบบเฟืองท้ายหลังแบบ Locking Differential และ ระบบกันสะเทือนโช้คอัพ FOX แบบ Internal Bypass 2.5 นิ้ว

ส่วนรุ่น 3.0L V6 ระบบเฟืองท้าย หน้า-หลัง ใช้แบบ Locking Differential ระบบกันสะเทือนโช้คอัพ FOX แบบ Live Valve Internal Bypass 2.5 นิ้ว

ทั้งสองเครื่องยนต์จะมาพร้อมกับล้อ 17 นิ้ว ดิสก์เบรกหน้าหลังขนาดใหญ่พิเศษ และ ครีบระบายความร้อนเพื่อประสิทธิภาพอันสูงสุด

นี่ยังไม่ใช่ทั้งหมดที่ Ranger Raptor ให้ได้มากกว่า Ranger Wildtrak แต่เป็นจุดสำคัญที่ทำให้ Raptor อยู่ในจุดสูงสุดของค่าย และเป็นรถยนต์ที่พร้อมจะลุยทุกเมื่อไม่ว่าจะเป็นเส้นทางออฟโรด ทางฝุ่น หรือ ถ้าคุณจะเอา Raptor ไปลุยทะเลทราย ณ ดินแดนอันไกลโพ้นแค่ไหนมันก็ย่อมได้ เพราะ Raptor มันเกิดมาเพื่อสิ่งนี้!

ทำไม Ranger Raptor มือสองถึงน่าซื้อ

ความน่าซื้อของ Ranger Raptor มือสอง นอกจากเครื่องยนต์และช่วงล่างที่อยู่ในรถดับสูงที่สุดของรถกระบะแล้ว ด้านฟังก์ชันการใช้งานและการออกแบบภายในก็ต้องบอกว่าแทบไม่ต่างกับรถสปอร์ตในคราบรถกระบะดีๆ นี่เอง

โดยในรุ่นปี 2022 ภายในมาในโทนสีดำแดงแสดงถึงเอกลักษณ์ของ Raptor แทบทุกจุดมีโลโก้ Rator ติดไว้ ไม่ว่าจะเป็นเบาะที่นั่ง คอนโซลรถ หรือ แผงประตู ให้หน้าจอแสดงผลบนหน้าปัดแบบสีขนาด 12.4 นิ้ว กุญแจรีโมทอัจฉริยะพร้อมปุ่มสตาร์ทรถอัตโนมัติ มีแท่นชาร์จไร้สาย

กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติพร้อมช่องต่อ USB มีช่องต่อไฟ 12V 1 ช่อง พร้อมช่องต่อไฟ 230V 1 ช่อง มีระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ให้หน้าจอแสดงผลจอสีแบบสัมผัส Multi-Toch ขนาด 12 นิ้ว ระบบเลือกโหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ รวมถึงมีช่องต่อพ่วงอุปกรณ์ออฟโรด Upfitter Switch พร้อมลุย!

ด้านอุปกรณ์และระบบความปลอดภัยมีระบบช่วยโทรฉุกเฉิน ถุงลมนิรภัย 7 จุด คู่หน้า ด้านข้าง ม่านถุงลมนิรภัย และถุงลมบริเวณหัวเข่า มีสัญญาณเตือนระยะจอดด้านและด้านหลัง ระบบป้องกันล้อล็อก ABS และระบบกระจายแรงเบรก EBD พร้อมฝ่าฟันอุปสรรค์แบบปลอดภัยไร้ห่วง

มีระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP และระบบป้องกันล้อหมุนฟรี มีระบบ Traction Control พร้อม Electric Brake Booster มีระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน HLA และ ระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ ROM ระบบควบคุมความเร็วขณะลงเขา HDC และมีสัญญาณกันขโมยแบบ Vol umetric

ในรุ่นปีเก่าๆ ก็มีระบบต่างๆ ที่คล้ายคลึงกันกับ Raptor ในปีล่าสุดนี้ด้วย แต่ราคาจะถูกกว่ามาก ซึ่งต้องบอกว่าในด้านราคาปัจจุบัน Ford Ranger Raptor มือหนึ่งเครื่องยนต์ DBL 2.0L Bi-Turbo 4WD 10AT มีราคา 1,769,000 บาท เครื่องยนต์ DBL Raptor 3.0L V6 Twin-Turbo EcoBoost 4WD 10AT มีราคา 1,919,000 บาท ถือว่าราคาสูงมาก

แต่หากเป็น Ford Ranger Raptor มือสอง ก็ต้องบอกว่าราคามันน่าซื้อและน่าคบหามากกว่า Ranger Wildtrack มือหนึ่งเสียอีก โดยราคา Ford Ranger Raptor มือสอง เริ่มต้นที่ 959,000 บาทเท่านั้นเอง!

Ford Ranger Raptor เหมาะกับการใช้งานแบบไหน

แทบไม่ต้องบอกเลยว่า Ranger Raptor นั้นเหมาะกับการขับขี่แบบไหน แน่นอนว่าต้องเป็นการขับขี่แบบลุยแหลกอยู่แล้ว เพราะ Ford Ranger Raptor มี ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ 4WD ที่หลากหลายครอบคลุมทุกสภาพเส้นทางในการใช้งาน ซึ่งเราสามารถเลือกระบบขับเคลื่อนเองได้ คือ 2H 4A 4H และ 4L และมี Diff-Lock ไฟฟ้าทั้งด้านหน้า และด้านหลัง

ด้านการใช้งานในชีวิตประจำวันต้องบอกว่ารถยนต์คันนี้ไม่ใช่แค่ค่อนข้างซดน้ำมัน แต่ความเป็นไดโนเสาร์ล่าเนื้อของ Ranger Raptor นั้น กินน้ำมันแทนการล่าเนื้อเลยก็ว่าได้ อัตราสิ้นเปลืองในเมืองอยู่ที่ 6-7 กิโลเมตรต่อลิตร ขับทางไกลที่ 7-9 กิโลเมตรต่อลิตร ซดแบบโหดร้ายเลยทีเดียว

แต่ก็ต้องบอกว่าถ้ามีใจรักในการลุยและอยากได้รถกระบะที่อยู่ในจุดสูงสุด Ford Ranger Raptor มือสอง จะเป็นรถยนต์คันหนึ่งที่ทำให้คุณสนุกแบบสุดเหวี่ยงกับไลฟ์สไตล์ชีวิตแบบออฟโรด มันจะทำให้คุณได้สัมผัสกับความรู้สึกที่ราวกับว่าได้ขับรถสปอร์ตผ่านเส้นทางออฟโรดเลยทีเดียว

และทั้งหมดที่เรากล่าวมานี้คือสิ่งที่ทำให้ Ford Ranger Raptor มือสองน่าซื้อมาก แม้ว่าตัวรถจะซ้ดน้ำมันแบบดุดันไม่เกรงใจใครก็ตาม เป็นวัยรุ่นดูไบซะอย่างจะกลัวอะไร มาส่อง Ford Ranger Raptor มือสอง ทุกรุ่นไปพร้อมกัน!

• Ford Ranger 2.0 Raptor 4WD
• Ford Ranger 2.0 Raptor X 4WD
• Ford Ranger 3.0 Raptor 4WD

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com