เคยไหม? จู่ ๆ แอร์รถก็ไม่เย็น มีแต่ลมออกมา one2car บอกคุณได้ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร และทำยังไงถึงจะแก้ปัญหานี้ได้ ถ้าอยากรู้ คลิกเข้ามาอ่านเลย!
แอร์รถยนต์ไม่เย็น มีแต่ลม เกิดจากอะไร ควรทำยังไงดี ?
การที่แอร์รถยนต์ไม่เย็น มีแต่ลม เกิดจากหลายสาเหตุ ได้แก่
1. น้ำยาแอร์หมด เพราะท่อแอร์และข้อต่อรั่ว
บางครั้งที่เราสงสัยว่าทําไมแอร์รถยนต์ไม่เย็น มีแต่ลมออกมา หนึ่งสาเหตุที่เรียกได้ว่าเป็นปัญหาเบสิกเลยก็คือ น้ำยาแอร์หมดหรือขาดนั่นเอง
โดยสาเหตุน้ำยาแอร์หมดหรือขาดยังสามารถแยกได้อีกหลายกรณี เช่น น้ำยาแอร์หมด เพราะใช้รถมาเป็นระยะเวลานาน หรืออาจมีการรั่วซึ่มของน้ำยาแอร์ในระบบจนทำให้น้ำยาแอร์หมด เพราะโดยปกติแล้ว ระบบน้ำยาแอร์จะเป็นระบบปิด ซึ่งน้ำยาแอร์จะพร่องได้ยากมาก ๆ
ทั้งนี้ทั้งนั้น สิ่งที่ต้องระวังอีกเรื่องก็คือ การใช้น้ำยาแอร์ปลอมที่มีสารเจือปน ซึ่งอาจส่งผลต่อระบบภายในของเครื่องยนต์โดยตรง เช่น อุปกรณ์ในระบบแอร์รถยนต์เสียหาย, ความดันในเครื่องยนต์สูงจนระเบิด, คลัตช์ของคอมเพรสเซอร์พัง, คอยล์เย็นแอร์และเอ็กซ์แพนชันวาล์วทำงานผิดปกติ เป็นต้น ซึ่งอาการเหล่านี้อาจทำให้แอร์ไม่เย็น มีแต่ลมได้เช่นกัน
น้ำยาแอร์รถยนต์หมด ดูยังไง มีอาการอย่างไรบ้าง
วิธีดูว่าน้ำยาแอร์หมดเพราะมีการรั่วซึม ให้สตาร์ตรถแล้วเปิดแอร์ พร้อมกับกดปุ่ม A/C ให้คอมเพรสเซอร์แอร์ทำงาน จากนั้นให้สังเกตที่ช่องตรวจสอบน้ำยาหรือ "ช่องตาแมว" ที่อยู่บริเวณแผงระบายความร้อนหน้ารถว่ามีฟองสีขาวเล็ก ๆ ตลอดเวลาหรือไม่ ถ้าไม่มีแสดงว่าน้ำยาแอร์เต็ม แต่ถ้ามีฟองแปลว่าน้ำยาแอร์พร่อง
หากสังเกตเห็นฟองขนาดใหญ่สลับกับไม่มีฟอง อาการนี้คือน้ำยาแอร์พร่องไปเล็กน้อย แต่ยังสามารถใช้งานรถได้เหมือนเดิม
อีกวิธีหนึ่งในการดูน้ำยาแอร์รั่ว คือ ให้ใช้น้ำสบู่หรือแชมพูทาตามท่อแอร์และข้อต่อต่าง ๆ หากมีฟองอากาศแปลว่ามีการรั่วซึม แนะนำให้ทำการเปลี่ยนหรือขันข้อต่อให้แน่น
น้ำยาแอร์หมด ทำยังไง?
หากสาเหตุแอร์ไม่เย็น มีแต่ลม แล้วสงสัยว่าเกิดจากน้ำยาแอร์หมด วิธีที่ง่ายที่สุด คือ นำรถเข้าอู่เพื่อให้ช่างที่มีความชำนาญช่วยตรวจเช็กอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น ตู้แอร์ ท่อแอร์ ข้อต่อ และอุปกรณ์อื่น ๆ ของระบบแอร์ เพื่อที่จะได้ทำการซ่อมหรือเปลี่ยนอุปกรณ์และเติมน้ำยาแอร์
2. ไส้กรองแอร์อุดตัน
สาเหตุที่รถแอร์ไม่เย็น ให้สันนิษฐานก่อนเลยว่าไส้กรองอากาศแอร์อุดตัน ทำให้ระบบระบายอากาศทำงานได้ไม่ดีพอ ที่สำคัญ ยังตามมาด้วยกลิ่นอับและเสี่ยงสูดเชื้อโรคต่าง ๆ ที่ออกมาทางช่องแอร์อีกด้วย ทางที่ดี ยิ่งเปลี่ยนบ่อย ยิ่งดีกับระบบแอร์และสุขภาพ
โดยปกติมักจะแนะนำให้เปลี่ยนไส้กรองอากาศแอร์ทุก ๆ 20,000 กิโลเมตร แต่ถ้าวิ่งทางที่กำลังก่อสร้าง ดินลูกรัง มีฝุ่นเยอะ แนะนำให้เปลี่ยนกรองแอร์ทุก ๆ 10,000 กิโลเมตรจะดีกว่า
วิธีดูไส้กรองแอร์รถยนต์ ทำยังไง
ไส้กรองแอร์รถยนต์ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ช่องเก็บของใต้คอนโซลฝั่งซ้าย ให้เราเปิดช่องเก็บของแล้วดึงขึ้นเบา ๆ จากนั้นบีบปลายด้านบนเข้าหากัน ช่องเก็บของก็จะหลุดออกมา
ให้เปิดฝาครอบไส้กรองแอร์ออก โดยปลอดตัวล็อกด้านฝั่งซ้ายและขวา จากนั้นดึงไส้กรองออก ถ้าจะเปลี่ยนก็ใส่ไส้กรองแอร์ใหม่เข้าไป
วิธีแก้ปัญหาไส้กรองแอร์รถอุดตัน
หากไส้กรองแอร์อุดตัน เต็มไปด้วยฝุ่นและสิ่งสกปรก วิธีแก้ คือ ให้เปลี่ยนทันที โดยสามารถซื้อไส้กรองแอร์มาเปลี่ยนด้วยตัวเองได้ตามร้านค้าจำหน่ายอะไหล่รถยนต์หรือ Marketplace ต่าง ๆ
นอกจากไส้กรองแอร์ที่เราควรเปลี่ยนแล้ว อย่าลืมเช็กและจัดการเปลี่ยนกรองอื่น ๆ ในรถยนต์ด้วย มีอะไรบ้าง ดูได้ที่ ตัวกรองในรถยนต์ มีอะไรบ้าง ควรเปลี่ยนตอนไหน ?
3. แผงคอยล์ร้อนมีปัญหา
หากพบว่าแอร์รถไม่เย็น มีแต่ลม แต่คอมทำงานอยู่ เป็นไปได้สูงที่เกิดจากแผงคอยล์ร้อน หรือ แผงคอนเดนเซอร์ (Condenser) ไม่มีการระบายความร้อนของน้ำยาแอร์ที่ออกมาจากคอมเพรสเซอร์
โดยสาเหตุที่แผงคอยล์ร้อนไม่มีการระบายความร้อนอาจเกิดจากพัดลมหน้าแผงคอยล์ร้อนไม่ทำงาน หรือมีสิ่งสกปรกอุดตัน ซึ่งส่งผลให้น้ำยาที่จะส่งเข้าคอยล์เย็นมีอุณหภูมิสูงนั่นเอง จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมแอร์รถมีแต่ลม ไม่เย็นสักที
วิธีตรวจสอบการทำงานของแผงคอยล์
การเช็กว่าแผงคอยล์ทำงานหรือไม่ ให้คุณเปิดฝากระโปรงรถ แล้วสตาร์ตเครื่องยนต์พร้อมกับเปิดแอร์จนคอมเพรสเซอร์ทำงาน จากนั้นให้สังเกตที่พัดลมหน้าแผงคอยส์ว่าหมุนไหม ถ้าไม่หมุน หมุนช้า หรือมีเสียงดังด้วย แสดงว่าที่แอร์รถไม่เย็นเกิดจากพัดลมหน้าแผงคอยล์นี่แหละที่มีปัญหา แต่ถ้าพัดลมหมุนปกติ ให้สังเกตว่าแผงคอยล์ร้อนสกปรกหรือไม่
วิธีการแก้ไข
- ซ่อมหรือเปลี่ยนพัดลมหน้าแผงคอยล์ใหม่
- ทำความสะอาดแผงคอยล์
วิธีทำความสะอาดแผงคอยล์ร้อน
- แกะกันชนหน้าออก เพื่อให้ง่ายต่อการล้างทำความสะอาด
- ฉีดน้ำไล่คราบสกปรกที่แผงคอยล์ร้อนให้ทั่ว
- เทน้ำยาล้างคอยล์แอร์เข้าไป รอให้มีฟองฟูออกมา (ระวังอย่าให้กระเด็นใส่)
- ใช้แปรงสีฟันนุ่ม ๆ ขัดตามแนวบนลงล่าง อย่าขัดตามขวาง เพราะอาจทำให้ครีบล้มได้
- ฉีดน้ำล้างให้สะอาด โดยฉีดจากบนลงล่าง
- ประกอบกันชนเข้าที่เดิม สตาร์ตเครื่องและเปิดแอร์เพื่อให้พัดลมเป่าน้ำออก
4. ลูกสูบภายในคอมเพรสเซอร์หลวม
อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้แอร์รถยนต์ไม่เย็น อาจเกิดจากลูกสูบคอมเพรสเซอร์หลวม ซึ่งทำให้ระดับแรงดันของน้ำยาแอร์ที่ออกมาจากคอมเพรสเซอร์มีน้อย และไม่สามารถฉีดน้ำแอร์เข้าคอยล์เย็นได้เพียงพอ
วิธีเช็กว่าลูกสูบภายในคอมเพรสเซอร์หลวมหรือไม่
หากต้องการเช็กว่าลูกสูบในคอมเพรสเซอร์หลวมหรือไม่ ให้คุณสตาร์ตรถแล้วเปิดแอร์ จากนั้นลองเร่งเครื่องยนต์ หากพบว่าแอร์เย็นขณะที่เร่งเครื่อง แต่ไม่เย็นตอนที่ไม่ได้เร่ง แสดงว่าลูกสูบหลวม
ลูกสูบในคอมเพรสเซอร์แอร์หลวม ทำยังไง
หากลูกสูบคอมเพรสเซอร์แอร์หลวม แนะนำให้เปลี่ยนใหม่เลยจะดีกว่า ทางที่ดีแนะนำให้ช่างตรวจสอบอีกครั้ง เผื่อมีปัญหาอย่างอื่นร่วมด้วย จะได้แก้ไขรอบเดียวจบ
5. ชุดวาล์วและดรายเออร์อุดตัน เสื่อมคุณภาพ
รถแอร์ไม่เย็น อีกหนึ่งสาเหตุที่อาจเป็นไปได้ก็คือ ชุดวาล์วและดรายเออร์อุดตัน หรือเสื่อมคุณภาพลง ส่งผลให้น้ำยาแอร์ที่ออกจากคอมเพรสเซอร์ไหลเข้าคอยล์เย็นได้ไม่ดีเท่าที่ควร เมื่อระบบแอร์ทำงานได้ไม่สมบูรณ์ แอร์รถก็ไม่เย็นและมีแต่ลมนั่นเอง
วิธีตรวจสอบชุดวาล์วและดรายเออร์เบื้องต้น
หากแอร์ไม่เย็นเพราะชุดวาล์วและดรายเออร์มีปัญหา สามารถสังเกตได้จากเสียงที่ดังอยู่ใกล้ตู้แอร์ หรือรถแอร์เย็นบ้าง ไม่เย็นบ้าง หรือแอร์เย็นแค่ตอนที่เร่งเครื่องยนต์เท่านั้น
วิธีแก้แอร์รถไม่เย็น เมื่อชุดวาล์วและดรายเออร์อุดตัน
แนะนำให้เปลี่ยนชุดวาล์วและดรายเออร์ใหม่ไปเลย เพื่อให้ไม่เกิดปัญหาตามมาในภายหลัง และควรให้ช่างตรวจสอบจุดอื่น ๆ เกี่ยวกับระบบการทำงานของแอร์รถยนต์ร่วมด้วย
6. คลัตช์ลื่นหรือจับไม่สนิท
ปัญหาแอร์รถยนต์เย็นไม่ฉ่ำ เป็นไปได้ที่อาจเกิดจากคลัตช์คอมเพรสเซอร์จับไม่สนิท หรือเรียกอีกอย่างว่าคลัตช์ลื่น ซึ่งจะทำให้แอร์เย็นบ้าง ไม่เย็นบ้าง หรือไม่เย็นเลย โดยสาเหตุของคลัตช์ลื่นเกิดจากกระแสไฟฟ้าที่ส่งเข้าคลัตช์แม่เหล็กมีไม่พอ ทำให้คลัตช์คอมเพรสเซอร์จับกับมูลเลย์ได้ไม่สนิทหรือไม่แน่น ส่งผลให้บางช่วงมีการคล้ายกับล้อหมุนฟรีนั่นเอง
วิธีดูว่ารถคลัตช์ลื่นหรือไม่
- ตรวจสอบสายไฟที่ส่งมายังคลัตช์คอมเพรสเซอร์ว่าทำงานปกติหรือไม่ มีฟิวส์ชำรุดหรือเปล่า
- เช็กชุดสวิตช์ระดับเซ็นเซอร์ว่าทำงานปกติไหม เสื่อมสภาพหรือไม่
วิธีแก้แอร์รถไม่เย็นจากอาการคลัตช์ลื่น
หากคลัตช์ลื่นเพราะเกิดจากสายไฟหรือฟิวส์ชำรุด ชุดสวิตช์ระดับเซ็นเซอร์ทำงานผิดปกติ ควรให้ช่างผู้เชี่ยวชาญช่วยซ่อมและแก้ไข บางคันอาจต้องมีการปรับแต่งหน้าคลัตช์ใหม่ให้เรียบ หรือตั้งระยะคลัตช์ใหม่ ซึ่งวิธีนี้มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง
7. สายพานคอมเพรสเซอร์หย่อน
สายพานคอมเพรสเซอร์แอร์ที่หย่อนมากเกินไป ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้แอร์รถไม่เย็น มีแต่ลมได้เช่นกัน เนื่องจากไม่สามารถฉุดให้คอมเพรสเซอร์หมุนได้ และเมื่อคอมเพรสเซอร์ไม่ทำงาน แอร์รถยนต์ก็เย็นไม่ฉ่ำ มีแต่ลมร้อนออกมา
วิธีเช็กสายพานคอมเพรสเซอร์หย่อน
การเช็กสายพานคอมเรสเซอร์ทำได้โดยการสตาร์ตเครื่องยนต์แล้วเปิดแอร์ จากนั้นให้ดูว่าตอนคอมเพรสเซอร์ทำงานอยู่มีเสียงดังหรือไม่
วิธีแก้สายพานคอมเพรสเซอร์หย่อน ทำยังไง
หากรถยนต์แอร์ไม่เย็นเนื่องจากสายพานคอมเพรสเซอร์หย่อน สามารถแก้ได้โดยการปรับระดับสายพานให้ตึงขึ้น แต่ถ้าสายพานหมดอายุการใช้งาน เริ่มมีรอยแตกและฉีกขาด แนะนำให้เปลี่ยนสายพานเส้นใหม่ทันที
8. เครื่องยนต์มีความร้อนสูง
ปัญหารถแอร์ไม่เย็น บางครั้งเกิดจากเครื่องยนต์มีความร้อนสูงได้เช่นกัน เนื่องจากพัดลมระบายความร้อนของเครื่องยนต์ทำงานได้ไม่ดีพอ จนเกิดความร้อนสะสม ซึ่งทำให้แผงทำความเย็นร้อนตามไปด้วย สิ่งที่ตามมาคือแอร์มีแต่ลมร้อน
แอร์รถยนต์ไม่เย็น มีแต่ลม เปิดแอร์รถยังไง ให้ถูกวิธี?
จะเห็นได้ว่าการที่รถแอร์ไม่เย็นนั้น เกิดจากปัญหาเครื่องยนต์มากกว่าที่คิด ดังนั้น เพื่อป้องกันปัญหาที่เกิดขึ้นในระยะยาว หากเราเลือกเปิดปิดแอร์รถยนต์ให้ถูกวิธี นอกจากจะช่วยยืดอายุของรถ ชิ้นส่วนต่างๆ ภายในเครื่องยนต์แล้ว ยังช่วยให้แอร์ของคุณไม่มีกลิ่นเหม็นอับ มีแอร์ที่เย็นฉ่ำอีกด้วยนะ โดยหลัก ๆ แล้ว วิธีการเปิด-ปิดแอร์รถยนต์ที่ถูกต้อง มีดังนี้
- ปิดสวิตช์ A/C ก่อนที่จะสตาร์ตเครื่องยนต์เสมอ ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้คอมเพรสเซอร์ฉุดในขณะที่เรากำลังจะสตาร์ตรถ ควรจะทำแบบนี้ทุกครั้งเวลาใช้รถ และควรปิดปุ่ม A/C ก่อนถึงที่หมาย หรือก่อนหยุดรถราว ๆ 5 – 10 นาที
- หลังจากที่สตาร์ทรถแล้วอย่าเพิ่งเปิดแอร์ปรับอุณหภูมิ ให้เปิดพัดลมแรง ๆ ก่อน เพื่อไล่ความร้อนในระบบแอร์ออก จากนั้นค่อยเปิดสวิตช์ A/C และปรับอุณหภูมิแอรลนรถให้เหมาะสม
- ควรเปิดพัดลมความแรงสูงสุดทุกครั้งที่จอดรถไว้กลางแจ้ง เพื่อไล่ความร้อนในรถออกไปก่อน และอย่าเพิ่งเปิดสวิตช์ A/C ให้เป่าลมไปสัก 5 นาทีก่อน เพื่อให้ความชื้นและความร้อนจะได้หายไปให้หมด จากนั้นค่อยเปิด A/C และปรับอุณหภูมิแอร์ตามปกติ
- พยายามอย่าเปิดกระจกรถบ่อย เพราะจะทำให้ความร้อน รวมถึงฝุ่นภายนอกเข้ามาในรถ ซึ่งอาจทำให้ช่องแอร์อุดตัน ส่งผลให้แอร์รถยนต์พังเร็ว
- ไม่ควรใช้น้ำหอมปรับอากาศรถที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เพราะจะทำให้แอร์พังเร็ว รวมถึงน้ำหอมคนด้วย
- ควรไล่น้ำออกจากตู้แอร์ทุกครั้งก่อนดับเครื่องยนต์ หากท่อน้ำทิ้งไม่มีน้ำหยด แสดงว่าท่อน้ำทิ้งอุดตัน ดังนั้น ควรทำความสะอาดทันที เพราะถ้าปล่อยทิ้งไว้นานอาจทำให้แอร์รั่วซึมได้
เคล็ดลับ : เมื่อแอร์เริ่มมีฝุ่น กลิ่นอับ หรือขับรถไปแล้วประมาณ 20,000 กิโลเมตร แนะนำให้ล้างแอร์แบบถอดตู้แอร์ แม้ราคาจะแพงกว่าการล้างแบบไม่ถอดตู้ แต่คุณจะได้แอร์ที่สะอาดและไม่มีปัญหาตามหลัง แถมยังเสี่ยงท่อน้ำอุดตันน้อยลงอีกด้วย
ปัญหาแอร์รถยนต์ไม่เย็นนั้นเรื่องใหญ่กว่าที่คุณคิด เพราะบางทีมันอาจลามจนกลายเป็นพังทั้งระบบเครื่องยนต์เลยก็เป็นได้ ทางที่ดี ควรหมั่นเช็กสาเหตุเบื้องต้นที่ทำให้แอร์รถไม่เย็นก่อน หากไม่มีปัญหาหรือแก้ไขแล้วแต่แอร์ยังไม่เย็น แนะนำให้ช่างผู้เชี่ยวชาญช่วยดูจะดีที่สุด
ค้นหารถมือสองทุกรุ่น ทุกแบบ ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน ดูรายละเอียด และราคารถมือสองได้ที่ ตลาดรถ One2car
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ ตรวจสอบราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ไปกับ Autospinn
ข่าวฟีเจอร์
![[VDO] ความเหมือนที่แตกต่าง ระหว่าง Ford Ranger Wildtrak และ Ford Ranger Raptor](https://i.ytimg.com/vi/_FK9a6laWEU/mqdefault.jpg)
[VDO] ความเหมือนที่แตกต่าง ระหว่าง Ford Ranger Wildtrak และ Ford Ranger Raptor
วีดีโอ
รถยนต์ซีดาน มือสอง รุ่นไหนดี ควรค่าแก่การซื้อที่สุด (2566)
ข่าววงการรถยนต์