พูดถึงรถที่ขึ้นชื่อเรื่องความประหยัด ราคาถูก และคุณภาพดี เห็นทีจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก Suzuki มือสอง ไม่ว่าจะรถเก๋ง รถแฮตช์แบ็ก รถอเนกประสงค์ หรือรถบรรทุก ก็ประหยัดน้ำมันทุกรุ่น แถมยังนั่งสบาย ค่าซ่อมบำรุงก็ถูกกว่าเพื่อน และยังโดดเด่นเรื่องช่วงล่างที่ดีกว่าคู่แข่งในหลาย ๆ รุ่นอีกด้วย
รถ Suzuki มือสอง ที่ได้รับความนิยมในไทย มีรุ่นไหนบ้าง
รถเก๋ง 5 ประตู มือสอง Suzuki Swift
ในบรรดารถซูซูกิ Suzuki Swift มือสอง จัดเป็นรถเก๋ง 5 ประตูที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นรถ Eco car ที่มีจุดเด่นเรื่องความประหยัด กินน้ำมันโดยเฉลี่ยเพียง 20 - 23 km/L เท่านั้น แถมยังขึ้นชื่อเรื่องช่วงล่างเทพ เกาะถนนดี ดีไซน์ภายนอกดูทันสมัย คันเล็กกะทัดรัด ช่วยให้ขับขี่ได้อย่างคล่องตัว
ที่สำคัญ คือ ราคาถูก เป็นรถที่ใช้แล้วรู้สึกคุ้มค่าจริง ๆ สำหรับใครที่ต้องการรถคันเล็กไว้ใช้สักคัน ซูซูกิ สวิฟ เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยล่ะ รับรองว่าไม่ผิดหวัง!
รีวิวประสบการณ์ทดลองขับ Suzuki Swift
หลังจากใช้ซูซูกิ สวิฟ มาหลายปี บอกเลยว่ารุ่นนี้ “เล็กพริกขี้หนู” แม้จะมีแรงม้าแค่ 83-96 แรงม้า แต่จัดว่าขับดีในระดับหนึ่งเลย ความเร็วช่วงต้นอาจจะอืดไปสักหน่อย แต่ถ้าได้รอบแล้วล่ะก็..บอกเลยว่าขับสนุกมาก เมื่อเทียบช่วงล่างกับรุ่นอื่นในราคาระดับเดียวกัน สวิฟถือว่ามาเหนือคู่แข่งแทบจะทุกรุ่น
ส่วนเบาะนั่งด้านหน้าโอบกระชับกับสรีระ นั่งแล้วไม่เมื่อย เดินทางไกลนั่งได้สบายมาก ๆ ที่ชอบที่สุด คือ เรื่องประหยัดน้ำมัน วิ่งจากชลบุรีไปเขาใหญ่ก็ยังไม่หมดถัง เพราะถังนึงวิ่งได้ประมาณ 500 กิโลเมตรเลยทีเดียว แถมไม่ค่อยงอแงหรือมีปัญหาให้ซ่อมจุกจิกอีกด้วย
ราคา Suzuki Swift มือสอง เริ่มต้นที่ 185,000 บาท
รถเก๋ง 4 ประตู มือสอง Suzuki Ciaz
Suzuki Ciaz มือสอง จัดเป็นรถเก๋ง 4 ประตูกลุ่มอีโคคาร์ที่น่าซื้ออย่างยิ่ง เพราะเขาใจดี ไม่หวงของ เป็นอีโคคาร์ซีดานรุ่นแรกที่มีแอร์ตอนหลังและช่องจ่ายไฟ 12 Volt มาให้ แถมตรงที่บังแดดฝั่งผู้โดยสารตอนหน้ามีกระจกมาให้ทั้งสองฝั่ง เบาะหลังมีที่วางแขนตรงกลาง ใส่ขวดน้ำได้ 2 ขวด สามารถพับเก็บได้ แผงข้างประตูยังมีช่องใส่ขวดน้ำให้อีกฝั่งละ 1 ตำแหน่ง พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายกว้าง ใส่ของทรงยาวได้
ที่ประทับใจที่สุดคือ ความกว้างของรถเทียบเท่ารถระดับ C-Segment บางรุ่น แต่ราคาอยู่ในระดับอีโคคาร์ เมื่อลองปรับเบาะหน้าถอยหลังมา คนนั่งข้างหลังก็ยังขยับแข้งขยับขาได้สบาย น่าเสียดายที่เบาะหลังไม่สามารถปรับขึ้นลงได้
รีวิวทดลองขับ Suzuki Ciaz
ต้องบอกก่อนว่า ซูซูกิ เซียส เขามี 91 แรงม้า และแรงบิด 118 นิวตันเมตร ดูเหมือนน้อยแต่ก็สามารถทำความเร็วจาก 0-120 กม./ชม. ได้เรื่อย ๆ ที่สำคัญ คือ ทรงตัวได้ดี ไม่ส่าย ไม่ร่อน เครื่องยนต์มีกำลังเหลือเฟือให้เร่งแซงได้อย่างมั่นใจ
เมื่อลองขับเข้าโค้งที่ 100 กม./ชม. บอกเลยว่าซูซูกิ Ciaz เอาอยู่ ไม่เสียการทรงตัวแม้แต่น้อย แต่โค้งหักศอกอาจจะรู้สึกหวิว ๆ บ้าง
สำหรับช่วงล่างซับแรงสั่นสะเทือนได้น่าพอใจ ไม่นิ่มแต่ก็ไม่แข็งกระด้าง แต่ช่วงรอยต่อถนนอาจมีเสียงเข้ามาในตัวรถบ้าง
ราคา Suzuki Ciaz มือสอง เริ่มต้นที่ 197,000 บาท
รถบรรทุก รถฟู้ดทรัค มือสอง Suzuki Carry
หลายคนน่าจะเคยเห็นซูซูกิ แครี่ กันอยู่บ่อย ๆ เพราะเป็นรถบรรทุกมือสองขนาดเล็กที่ได้รับความนิยมมาก ๆ โดยเฉพาะการนำไปทำเป็นรถฟู้ดทรัค ซึ่ง Suzuki Carry มือสอง ถือเป็นที่ต้องการสูงในหมู่เจ้าของธุรกิจ เรียกได้ว่าเป็นขวัญใจ SME เลยก็ว่าได้
นอกจากนี้ ยังเป็นที่ต้องการของคนที่เน้นบรรทุกของอีกด้วย แม้จะบรรทุกได้ไม่มากนัก แต่เขาออกแบบมาเพื่อการบรรทุกโดยเฉพาะ โดยเน้นดีไซน์เป็นเส้นตรง ทำให้ตัวรถดูเป็นทรงกล่อง เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น
ตัวรถมีความยาว 4,195 มม. กว้าง 1,765 มม. และสูง 1,910 มม. ด้านพื้นที่บรรทุกมีความกว้าง 1,670 มม. และสูง 2,450 มม. สามารถเปิดฝากระบะได้ทั้ง 3 ด้าน เพื่อให้ขนถ่ายสิ่งของต่างๆ ได้ง่ายขึ้น ที่สำคัญสามารถรับน้ำหนักได้สูงสุดถึง 945 กิโลกรัม เรียกได้ว่าเกือบ 1 ตันเลยทีเดียว! แถมราคาไม่แพง มือหนึ่งเริ่มต้นเพียง 395,000 บาทเท่านั้น
รีวิวทดลองขับ Suzuki Carry
เมื่อก้าวเข้ามาภายในรถ Suzuki Carry 2019 ขอชื่นชมว่าตกแต่งได้อย่างดี โดยเน้นไปที่โทนสีเทาดำ ขนาดห้องโดยสารกว้างขึ้นกว่ารุ่นก่อน เบาะนั่งคนขับนั่งสบาย พวงมาลัยเป็นระบบไฟฟ้า สามารถปรับความหนักได้ตามความเร็วรถ
ส่วนเกียร์ไปอยู่ที่คอนโซลหน้า ทำให้มีพื้นที่วางขามากขึ้น อีกทั้งซุ้มล้อหน้าที่เคยขวางการวางเท้าได้ถูกย้ายไปใต้เบาะนั่ง ทำให้ห้องโดยสารโดยรวมกว้างขึ้นมาก และยังมีช่องเก็บของที่รองรับถึง 2 ที่นั่ง
เมื่อลองบรรทุกของ 200-300 กิโลกรัมแล้วขับไปท้องถนน เครื่องยนต์ตอบสนองดีเลยล่ะ เร่งแซงง่าย ช่วงล่างซับแรงกระเทือนได้ดี อาการดีดตัวของรถน้อยกว่ากระบะมือสองทั่ว ๆ ไป แถมวงเลี้ยวที่แคบยังทำให้เดินทางในเมืองและที่แคบ ๆ ง่าย วิ่งไปกลับรวมแล้ว 200 กิโลเมตร ก็ยังรู้สึกไม่เมื่อยด้วย บอกเลยว่ารุ่นนี้ทำออกมาตอบโจทย์ผู้ประกอบการทั้งหลายได้เป็นอย่างดี
ราคา Suzuki Carry มือสอง เริ่มต้นที่ 115,000 บาท
รถแฮตช์แบ็ก 5 ประตู มือสอง Suzuki Celerio
Suzuki Celerio มือสอง จัดว่าเป็นรถยนต์ที่คันเล็กที่สุดในบ้านเรา แต่สมรรถนะเกินตัว เนื่องจากขับขี่ได้คล่องตัว ประหยัดน้ำมัน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สิ่งเหล่านี้เองที่ทำให้ ซูซูกิ เซเลริโอ สร้างยอดขายได้อย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2557 และครองอันดับ 4 รถกลุ่มอีโคคาร์ที่ยอดขายดีที่สุด เมื่อมีการทดสอบแข่งขันประหยัดน้ำมัน Suzuki Celerio สามารถทำสถิติสูงสุดอยู่ที่ 33.261 km/L เลยทีเดียว
รีวิวทดลองขับ Suzuki Celerio
เมื่อเปิดประตูเข้ามาภายในห้องโดยสาร จะเห็นการตกแต่งเบาะด้วยวัสดุผ้า คุมโทนสีดำ แต่ตัวเบาะไม่ค่อยโอบกระชับสักเท่าไหร่ แต่จุดขายของเขาอยู่ที่พื้นที่จุสัมภาระท้ายรถเมื่อพับเบาะหลังลง ซึ่งมากกว่า Swift 50 ลิตรเลยทีเดียว
เมื่อลองนั่งด้านหลัง รู้สึกถึงความสบาย ไม่อึดอัดช่วงขา แม้คันจะเล็ก แต่พื้นที่ใช้สอยของเขาไม่เล็กเลยจริง ๆ น่าเสียดายที่กระจกมองข้างเล็กไปหน่อย
ส่วนกำลังเครื่องยนต์ถือว่าน้อยกว่าเพื่อน แรงม้าพอ ๆ กับรถ Bigbike Class 650 cc แน่นอนว่าการออกตัวอาจไม่ดีเท่ารุ่นอื่น แต่เมื่อรอบเริ่มมา รถก็สามารถไหลไปได้เรื่อย ๆ ลองลองเร่งแซงที่ความเร็ว 170 km/hr (นั่ง 4 คน) ช่วงความเร็วกลางถือว่าทำได้ดี และเมื่อลองเร่งแซงที่ 60 km/hr ก็ทำได้ไม่แย่เหมือนกัน
ราคา Suzuki Celerio มือสอง เริ่มต้นที่ 179,000 บาท
รถอเนกประสงค์ MPV 7 ที่นั่ง มือสอง Suzuki Ertiga
ล่าสุด Suzuki Ertiga มือสอง ได้กลายเป็นรถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่งที่ใครต่างก็ต้องการ เพราะนอกจากราคาจะดีแล้ว ยังตอบโจทย์ครอบครัวที่รักการเดินทางได้เป็นอย่างดี อีกทั้งภายนอกยังออกแบบได้สวยงาม มีความโฉบเฉี่ยวเร้าใจ ภายในใช้วัสดุคุณภาพสูง กว้างขวาง โปร่งสบาย และเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ไม่ว่าจะเป็น
- ช่องเก็บอุปกรณ์และพื้นที่สำหรับวางแก้วน้ำหลายตำแหน่ง พร้อมรักษาความเย็นของเครื่องดื่มได้นานยิ่งขึ้น
- พวงมาลัย D-shape แบบท้ายตัด ช่วยเพิ่มพื้นที่วางขา
- ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ พร้อมระบบไล่ฝ้าบริเวณกระจกบังลมด้านหลัง
- ระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารแถวหลัง
- จอระบบสัมผัสแบบใหม่ขนาดใหญ่ 10 นิ้ว
- ระบบสั่งการด้วยเสียงจาก Siri และ Google Assistant
- กล้องมองภาพขณะถอยหลัง
- ช่องเชื่อมต่อ USB ช่องจ่ายไฟสำรอง 12 Volt ถึง 2 ตำแหน่ง
- ระบบ Keyless Entry และ Keyless Push Start
รีวิวประสบการณ์ทดลองขับขี่ Suzuki Ertiga
ทางทีมงานได้ทดสอบขับขี่ซูซูกิ เออติก้า ในเมือง ซึ่งเออติก้านั้นขับขี่ได้อย่างคล่องตัวแม้ตัวรถจะค่อนข้างใหญ่ น้ำหนักพวงมาลัยถือว่าพอดี เก็บเสียงได้ค่อนข้างดี ขับขี่แล้วรู้สึกสบาย
ด้วยโครงสร้างแพลตฟอร์มใหม่ HEARTECT ทำให้การขับขี่ดีขึ้นอย่างชัดเจน เพราะออกแบบให้อากาศผ่านใต้ท้องรถอย่างสะดวก
เมื่อทีมงานได้ทดลองนั่งเบาะแถว 3 ที่มักจะเป็นจุดบอดของรถ 7 ที่นั่ง สำหรับเออติก้านั้นสามารถทำได้ดี นั่งได้จริง ไม่รู้สึกอึดอัดแต่อย่างใด ผู้ใหญ่ก็นั่งได้ ซึ่งบางรุ่นเหมาะแก่การให้เด็กนั่งมากกว่า
มาถึงเส้นทางขึ้น-ลงเขา ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร ก็สามารถขึ้นเขาได้อย่างสบาย (นั่งทดสอบ 3 คน) พวงมาลัยน้ำหนักกำลังดี เฉียบคม คุมง่าย อัตราการกินน้ำมันทำได้อยู่ที่ 13-14 km/L ซึ่งถือว่ารับได้
ส่วนระบบความปลอดภัยมีทั้งถุงลมนิรภัย SRS คู่หน้า, ระบบเบรก ABSป้องกันล้อล็อกขณะเบรกกะทันหัน พร้อมระบบ EBD ช่วยกระจายแรงเบรก, ระบบ ESP ที่ช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวให้เข้าโค้งได้อย่างแม่นยำ และระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน อันนี้ดีมากเลยครับ หมดปัญหารถไหลเวลาเราจอดบนทางชัน นอกจากนี้ ยังมีจุดยึดเบาะนั่งนิรภัย ISOFIX และ Top tether ด้วย
มองภาพรวมแล้ว ถือว่าคุ้มค่าในราคาเพียง 655,000 บาท (รุ่นท็อป 695,000 บาท)
ยิ่งเป็น ซูซูกิ เออติก้า มือสอง ราคาเริ่มต้นเพียง 279,000 บาท เท่านั้น
รถครอบครัว 7 ที่นั่ง มือสอง Suzuki XL7
รถ 7 ที่นั่งจากค่ายซูซูกิที่กำลังมาแรงอีกหนึ่งรุ่น นั่นก็คือ Suzuki XL7 มือสอง โดยออปชันต่าง ๆ ที่ให้มา เมื่อเทียบกับราคาแล้ว ถือว่าน่าสนใจมาก หากคุณกำลังมองหารถครอบครัวดี ๆ สักคัน ซูซูกิ XL7 อาจจะทำให้คุณประทับใจจนไม่หันไปมองแบรนด์อื่นเลยก็ว่าได้
ถ้าใครสงสัยว่าเจ้า Suzuki XL7 คันนี้มันต่างจาก Suzuki Ertiga ยังไง เพราะมองเผิน ๆ แทบจะเหมือนกันหมด ก็ตอบตรงนี้เลยว่าหน้าตากับช่วงล่างนั้นต่างกัน โดยช่วงล่างจะใช้อะไหล่คนละตัว แม้จะใช้เครื่องยนต์และเกียร์เหมือนกัน แต่ Suzuki XL7 ได้มีการปรับจูนกล่อง ECU และจูนพวงมาลัยใหม่ ซึ่งทำให้การขับขี่ต่างกันด้วย นอกจากนี้ ยังมีตัวถังใหญ่กว่า Suzuki Ertiga
รีวิวทดลองขับ Suzuki XL7
เมื่อได้ลองนั่ง Suzuki XL7 พูดตรง ๆ เลยว่านั่งสบายทุกแถว แอร์เย็นทั่วถึงไปจนถึงเบาะแถว 3 เลย แถมยังมีช่องจ่ายไฟ 12 Volt มาให้ถึง 3 จุด พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB และ HDMI และยังมีช่องวางแก้วน้ำพร้อมแอร์เป่า ช่วยให้เครื่องดื่มเย็นอยู่ตลอดเวลาด้วย
มารีวิวตอนขับกันบ้าง บอกเลยว่าจังหวะที่ใส่เกียร์ D แล้วเอาเท้าออกจากเบรก ตัวรถนั้นพร้อมเคลื่อนที่โดยไม่ต้องเหยียบคันเร่งส่งเลย และเมื่อลองเหยียบคันเร่งส่งหลังจากรถเคลื่อนที่ไปได้สักระยะ ตัวรถก็ยังสามารถไต่ระดับความเร็วไปได้แบบเรื่อย ๆ โดยไม่รู้สึกหน่วง จนมาถึงช่วงเกียร์ 3 ที่รู้สึกว่าเครื่องยนต์มีอาการตื้อ ๆ เล็กน้อย แต่ก็ยังไต่ระดับความเร็วไปได้ต่อเนื่อง
เมื่อถึงเกียร์ 4 ซึ่งเป็นเกียร์สุดท้าย ถือว่าความเร็วยังคงไล่ระดับไปได้อีกไกล แต่เพื่อความปลอดภัย จึงขอถอนคันเร่งที่ความเร็ว 160 km/hr ไว้แค่นี้ก่อน
ส่วนการเข้าโค้ง เมื่อขับที่ความเร็วไม่เกิน 120 km/hr จะสามารถควบคุมตัวรถได้ดีมาก ไม่มีอาการปัดหรือโคลงเคลง แต่ถ้าเข้าโค้งที่ความเร็วมากกว่านี้ อาจมีอาการโคลงบ้างเล็กน้อย
ในส่วนของช่วงล่างเน้นไปที่หนึบแน่นมากกว่านุ่มนวล ซึ่ง Ertiga จะกระด้างมากกว่า ด้านการเก็บเสียงพอใช้ได้ ถ้าขับที่ความเร็วเกิน 120 km/hr อาจมีเสียงลมเล็ดลอดเข้ามาในห้องโดยสารบ้าง
สรุปภาพรวมการขับขี่ XL7 คือ มีอัตราเร่งดี ปรับจูนเครื่องยนต์มาได้เหมาะสมกับขนาดของตัวรถ อีกทั้งการดีไซน์ภายนอกก็เน้นหลักอากาศพลศาสตร์มากขึ้น ทำให้รถรุ่นนี้พร้อมลุย ในขณะเดียวกันก็ประหยัดน้ำมันด้วย โดยเฉลี่ยเมื่อขับในเมืองจะกินน้ำมันประมาณ 11-13 km/L แค่นั้นเอง
ราคา Suzuki XL7 มือสอง เริ่มต้นที่ 559,000 บาท
รถออฟโรดมือสอง Suzuki Jimny
Suzuki Jimny เป็นรถ Hardtopอีกหนึ่งรุ่นที่ฮิตไม่แพ้ Jeep เนื่องจากรูปทรงถอดแบบมาจาก Jeep Willy นั่นเอง ทำให้ดีไซน์ของ ซูซูกิ จิมนี่ ดูเท่ สวยงาม คล้ายกับรถจี๊ป แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังมีความเป็นตัวของตัวเองในแบบที่ไม่เหมือนใครเช่นกัน
ที่น่าสนใจ คือ Suzuki Jimny กำลังปลุกตลาดออฟโรดขนาดเล็กในประเทศไทยด้วย เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าสายลุยที่ชื่นชอบรถสไตล์นี้ แต่ปัจจุบันการซื้อ Suzuki Jimny มือหนึ่งยังต้องซื้อผ่านผู้จัดจำหน่ายหรือโชว์รูมต่าง ๆ ที่นำเข้ารถจิมนี่ เนื่องจากศูนย์บริการของไทยยังไม่มีขายอย่างเป็นทางการ ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้คนหันมาซื้อ Suzuki Jimny มือสอง เพราะราคาถูกกว่านำเข้าหลายบาท
ผลการทดสอบขับขี่ Suzuki Jimny
Suzuki Jimny เป็นรถที่ขับขี่ได้ทั้งในเมืองและนอกเมือง เพราะมีรัศมีวงเลี้ยวแค่ 4.9 เมตร ด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ALLGRIP PRO และ Low Transfer Gear ทำให้ปรับการทำงานระหว่างระบบขับเคลื่อน 4 ล้อและ 2 ล้อได้อย่างง่ายดาย
มาพร้อม Cruise Control หรือระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ และยังเพียบพร้อมไปด้วยเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยที่ทันสมัย อีกทั้งภายในยังใช้วัสดุคุณภาพสูงและทนทานอีกด้วย
พื้นที่เก็บของด้านหลังถือว่ากว้างและสูงเลย แถมยังมีช่องเก็บอุปกรณ์และสัมภาระขนาดใหญ่มาให้ รวมทั้งช่องเก็บเครื่องมือและช่องเก็บของอเนกประสงค์ แม้พละกำลังจะน้อยไปหน่อย เพียง 102 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 130 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที
Suzuki Jimny มือสอง ราคาเริ่มต้น 518,000 บาท
ข้อดีของรถ Suzuki มือสอง
- ดีไซน์สวย ตอบโจทย์การขับขี่ทุกยุค ทุกสมัย
- เป็นที่นิยมมากในไทย โดยเฉพาะ “ซูซูกิ สวิฟ” และ “ซูซูกิ แครี่”
- ราคาไม่แพง เหมาะกับคนที่เน้นใช้รถแบบประหยัด
- มีสิ่งอำนวยความสะดวกเยอะ ไม่กั๊กของ เช่น ซูซูกิ เซียส และ ซูซูกิ เออติก้า
- ช่วงล่างดีกว่าคู่แข่งหลายเท่า (ซูซูกิ สวิฟ)
- โดดเด่นเรื่องประหยัดน้ำมัน
- ค่าซ่อมบำรุงหรือเข้าศูนย์บริการถูกที่สุด
- ไม่ค่อยเจอปัญหาซ่อมจุกจิก
ข้อเสียของรถ Suzuki มือสอง
- รถค่อนข้างอืด เพราะรถซูซูกิส่วนใหญ่มีแรงม้าและแรงบิดน้อย เนื่องจากเน้นเรื่องความประหยัด
สำหรับใครที่กำลังมองหา รถซูซูกิ (SUZUKI) มือสอง ราคาถูก เจ้าของขายเอง รถบ้าน ทาง One2car มีให้คุณเลือกทุกรุ่น ทุกแบบ ผ่อนถูก ฟรีดาวน์ คุณภาพพร้อมใช้งาน
ซื้อรถซูซูกิ (SUZUKI) มือสอง ที่นี่ไว้ใจได้แน่นอน พร้อมรับสิทธิพิเศษและโปรโมชันต่าง ๆ ที่ทางผู้ขายเสนอให้คุณแบบจุใจ ออกรถง่ายกว่าใคร แถมได้รถปลอดภัย ออปชันครบ!
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากขายรถซูซูกิ (SUZUKI) มือสอง ตรวจสภาพรถมือสอง หรือกำลังมองหารถยนต์มือสองรุ่นอื่น ๆ เพื่อเปรียบเทียบสเปกและราคา สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ตลาดรถ One2car