One2car.com
แอปพลิเคชัน One2Car
ทำนายราคารถของคุณ
4.5
21,133
Location
รถรอบตัวฉัน – แสดงผลรายการรถรอบตำแหน่งปัจจุบันของคุณ. แสดงผล
Location
รถรอบตัวฉัน – ตอนนี้กำลังแสดงผลรายการรถรอบตำแหน่งปัจจุบันของคุณ.

ซื้อรถมือสอง Toyota Landcruiser Prado 3.0 D4D 4WD ในตลาดรถยนต์ไทย

การสูบบุหรี่ไฟฟ้าในรถเป็นประเด็นที่หลายคนสงสัยว่ามีผลกระทบอย่างไรบ้างทั้งต่อสุขภาพและต่อตัวรถยนต์ของเราเอง เพราะฉะนั้นบทความนี้จะบอกถึงผลกระทบในการสูบบุหรี่ไฟฟ้าในรถให้ได้ทราบกัน


สูบบุหรี่ไฟฟ้าในรถ

สูบบุหรี่ไฟฟ้าในรถยนต์ ส่งผลอะไรบ้าง

ต้องยอมรับเลยว่าในปัจจุบันผู้คนดูดมักจะเลือกดูดบุหรี่ไฟฟ้ามากกว่าบุหรี่มวนปกติทั่วไป เพราะเนื่องจากบุหรี่ไฟฟ้าไม่ส่งกลิ่นเหม็นติดตัว ไม่ส่งกลิ่นเหม็นไปรบกวนผู้อื่น และยังไม่มีขยะทิ้งลงพื้นอีกด้วย แถมยังหาซื้อง่ายและมีรสชาติที่หอมหวานอีกด้วย จึงทำให้หลายคนเลือกหันไปดูดบุหรี่ไฟฟ้านั่นเอง เพราะไม่ส่งกลิ่นเหม็น และไม่มีขยะลงบุหรี่ไฟฟ้าจึงสามารถดูดได้เกือบทุกที่รวมถึงในรถยนต์ด้วยเช่นกัน 

แต่ทราบหรือไม่ว่าการดูดบุหรี่ไฟฟ้าในรถก็ส่งผลเสียต่อรถยนต์ของเราได้เหมือนกัน แต่จะส่งผลเสียในด้านไหนบ้างมาดูกันดีกว่า

อ่านเพิ่มเติม : สูบบุหรี่ขณะขับรถผิดกฎหมายไหม ส่งผลเสียอะไรหรือเปล่า?

1.สูบบุหรี่ไฟฟ้าในรถที่มีเด็ก อันตรายอย่างมาก

การสูบบุหรี่ไฟฟ้าในรถในขณะที่มีเด็กอยู่ด้วยเป็นอันตรายต่อเด็กอย่างแน่นอน เพราะถือว่าเด็กจะได้รับไอบุหรี่ไฟฟ้ามือสองโดยเฉพาะในเด็กเล็ก เพราะว่าไอบุหรี่ไฟฟ้านั้นนอกจากมีนิโคตินที่เป็นสารเสพติดแล้ว ยังมีฝุ่นอนุภาคขนาดเล็กมากจำนวนมาก มีสารเคมีที่ยังไม่รู้ว่าจะส่งผลต่อปอดและอวัยวะอื่นของร่างกายในระยะยาวอย่างไร และยังมีสารก่อมะเร็งหลายชนิดไม่ว่าจะเป็น เบนซีน ฟอร์มาลดีไฮด์ มีโลหะหนักเช่น ตะกั่ว นิกเกิล สังกะสี มีสารไดอะซิทิล ที่ทำให้เกิดปอดอักเสบ ถูกทำลาย เปลี่ยนแปลง จนมีลักษณะเหมือนข้าวโพดอบ (popcorn lung) เลยทีเดียว

2.เกิดคราบและกลิ่นภายในรถได้

เนื่องจากละอองไอระเหยที่ออกมาจากน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าจะมีสารต่างๆ ที่สามารถเกาะติดกับพื้นผิวของรถได้ เช่น กระจก เบาะ และแผงหน้าปัด หากใช้ไปนานๆ อาจทำให้เกิดคราบเหนียวหรือทิ้งกลิ่นไว้ในรถ ซึ่งอาจต้องทำความสะอาดบ่อยขึ้น และผลเสียอีกอย่างนึงของการดูดบุหรี่ไฟฟ้าในรถก็คือคราบของควันบุหรี่ไฟฟ้าที่ติดภายในรถจะทำให้บางครั้งระบบไล่ฝ้าของรถไม่สามารถใช้งานได้เมื่อมีอากาศเย็น (ซึ่งในต่างประเทศเกิดปัญหานี้กันอย่างมาก)

บุหรี่ไฟฟ้า

3.อาจทำให้ทัศนวิสัยในการขับขี่แย่ลงได้

อย่างที่ทราบกันดีว่าบุหรี่ไฟฟ้ามักมีควันเยอะและหนากว่าบุหรีธรรมดาทั่วไป หากดูดบุหรี่ไฟฟ้าในรถยนต์ควันของบุหรี่ไฟฟ้าก็อาจจะทำให้บดบังทัศนะวิศัยในการขับขี่ได้ เพราะเมื่อเราพ่นควันบุหรี่ไฟฟ้าออกมาควันก็จะบังสายตาของเรา ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้

4.ส่งผลต่อร่างกาย ทำให้เกิดอุบัติเหตุในการขับขี่ได้

เพราะว่าการดูดบุหรี่ไฟฟ้าระหว่างขับรถในปริมาณที่มากหรือถี่ ก็จะทำให้เรามีอาการมึนเมาและมีอาการปวดหัวขณะขับรถได้ อย่างที่รู้ๆ กันดีกว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีนิโคติน เมื่อเราสูขเข้าไปก็จะถือว่าทำให้เราได้รับสารนิโคตินเข้าไปเต็มๆ จึงทำให้เกิดอาการมึนหัวได้ แล้ยิ่งบวกกับการที่เราต้องใช้สมองและสายตาในการขับขี่ ไปด้วย ก็จะทำให้เราปวดหัว ปวดตาได้ง่าย บางรายอาจจะมีอาการมึนเมาจนเกิดอุบัติเหตุได้เลยเดียว

5.สูบบุหรี่ไฟฟ้าในรถ ทำให้แอร์ตัน

แน่นอนว่าในบุหรี่ไฟฟ้าจะมีน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าอยู่ เพราะฉะนั้นเมื่อพ่นควันออกมาแล้วควันจะเข้าไปในระบบปรับอากาศ เพราะเหตุนี้ทำให้เราอาจจะต้องเเปลี่ยนกรองอากาศบ่อย กรองแอร์ตัน กรองแอร์เป็นเมือกจากควัน หรือ อาจจะทำให้ระบบปรับอากาศมีปัญหาได้ในระยะยาวได้เช่นกัน

อ่านเพิ่มเติม : วิธีเปลี่ยนไส้กรองอากาศรถยนต์ด้วยตัวเอง ภายใน 3 ขั้นตอน

บุหรี่ไฟฟ้า ผิดกฎหมายหรือไม่

บุหรี่ไฟฟ้า ผิดกฎหมายหรือไม่ / สูบบุหรี่ไฟฟ้าผิดไหม

อย่างที่บอกไปก่อนหน้าว่าในปัจจุบันผู้คนหันมาสูบบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น เพราะเนื่องจากหาซื้อง่าย ไม่ส่งกลิ่นเหม็น และมีรสชาติที่หอมหวาน แต่เพราะเหตุเหล่านี้จึงทำให้บุหรี่ไฟฟ้าเข้าถึงเยาวชนที่มาอายุต่ำว่า 18 ปีได้ง่ายมากขึ้นจึงทำให้เด็กและเยาวชนหันมาสูบกันอย่างแพร่หลายเปรียบเสมือนแฟชั่นไปแล้ว เพราะเหตุนี้รัฐจึงได้เข้มงวดกับบุหรี่ไฟฟ้ามากขึ้น

ซึ่งหลายๆ คนอาจจะยังเข้าใจผิดว่าการดูดบุหรี่ไฟฟ้าไม่ผิดกฎหมาย แต่จริงๆ การครอบครอง จำหน่าย บุหรี่ไฟฟ้านั้นมีความผิดตามกฎหมาย

กรณีผู้ขายหรือผู้ให้บริการบุหรี่ไฟฟ้า

ห้ามขายหรือห้ามให้บริการสินค้า “บารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า” มีความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค(ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2562 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 600,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

บุหรี่ไฟฟ้า

กรณีผู้นำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า

มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับเป็นเงิน 5 เท่าของราคาสินค้า หรือทั้งจำทั้งปรับ กับให้ริบบุหรี่ไฟฟ้า รวมทั้งสิ่งที่ใช้บรรจุและพาหนะใดๆ ที่ใช้ในการบรรทุกสินค้าบุหรี่ไฟฟ้านั้นด้วย นอกจากนั้นยังเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 มาตรา 244 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าหรือรับฝากไว้ 

มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับเป็นเงิน 4 เท่าของราคาสินค้า หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 246 วรรคหนึ่งแห่ง พ.ร.บ. ศุลการ พ.ศ. 2560

แม้ว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้าในรถอาจไม่มีกฎหมายห้ามชัดเจนในประเทศไทย แต่การครอบครองและใช้บุหรี่ไฟฟ้านั้น ผิดกฎหมาย ซึ่งอาจส่งผลให้ถูกดำเนินคดีได้ นอกจากนี้ยังมีผลกระทบที่ควรคำนึงถึง ทั้งด้านความสะอาดของรถ ทัศนวิสัยในการขับขี่ และระบบไฟฟ้าในรถยนต์ หากจำเป็นต้องสูบควรปฏิบัติตามแนวทางที่ปลอดภัยเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในระยะยาว

รถมือสอง one2car

โหลดหรือยัง? แอป one2car - NEXT GEN! CAR APP

  • Smart Search: หารถง่าย ฟังก์ชันครบ ข้อมูลชัด!

  • Qualified Car: รถคุณภาพ ตรวจสภาพแล้ว พร้อมรายงานรถ

  • Most Trusted Seller: คัดผู้ขายให้แล้ว ไม่ต้องกลัวมิจฉาชีพ

  • Hot Deals: พบกับ Big Sale ลดแรงทุกเดือน!

  • My Garage: ระบบผู้จัดการส่วนตัวให้รถคุณ ทุกเรื่องรถ จบในที่เดียว

  • Car Tax Renawal: ต่อภาษีรถยนต์สะดวกกว่าที่เคย ไม่ต้องกลัวลืม

  • Car Price: อยากขายรถแต่ไม่รู้ราคา เช็กเลย! รู้ผลใน 1 นาที ต้องการขายก็ทำได้เลย

  • Car Financing: สินเชื่อรถมือสอง จัดไฟแนนซ์ง่ายกับ Partner ของเรา พร้อมข้อเสนอพิเศษ

  • Car Insurance: เปรียบเทียบเบี้ย ต่อประกันรถยนต์ พร้อมดีลสุดพิเศษจากบริษัทชั้นนำ

  • Extended Warranty: ประกันอะไหล่รถ หมดห่วงเรื่องอะไหล่รถมือสอง

  • one2car Story: คลิปรีวิวรถจากคนขาย คอนเทนต์เกี่ยวกับยานยนต์

Apple Store : https://bit.ly/o2c_apple_store

Google Play Store : https://bit.ly/o2c_Google_Play_Store

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง one2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com

2012 Toyota Landcruiser Prado 3.0 D4D Wagon 11 มือสอง
บันทึก
ประกาศแนะนำ
145 - 150K กม.
เกียร์อัตโนมัติ
ชลบุรี
รถบ้าน
บันทึก

2012 Toyota Landcruiser Prado 3.0 150 D4D Wagon - 4WD

Land Cruiser Prado 3.0 ✅เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ขนาด 3.0 ลิตร 2,982 cc. ✅ผลิตปี 2012 ...
2012 Toyota Landcruiser Prado 3.0 D4D Wagon 12 มือสอง
บันทึก
ประกาศแนะนำ
135 - 140K กม.
เกียร์อัตโนมัติ
กรุงเทพมหานคร
รถดีลเลอร์ ดีลเลอร์มีความน่าเชื่อถือ ผ่านการตรวจสอบตามเกณฑ์ที่กำหนด
บันทึก

2012 Toyota Landcruiser Prado 3.0 150 D4D Wagon - 4WD

TOYOTA LAND CRUISER PRADO 3.0 4WD 2012 💥รถมือเดียวป้ายแดง สภาพสมบูรณ์มาก 💥เลขไมล์แท้ ...
0% ฟรีดาวน์ 0% ฟรีดาวน์ 0% ฟรีดาวน์ 0% ฟรีดาวน์
2012 Toyota Landcruiser Prado 3.0 D4D Wagon 21 มือสอง
บันทึก
ประกาศแนะนำ
190 - 195K กม.
เกียร์อัตโนมัติ
กรุงเทพมหานคร
รถดีลเลอร์ ดีลเลอร์มีความน่าเชื่อถือ ผ่านการตรวจสอบตามเกณฑ์ที่กำหนด
บันทึก

2012 Toyota Landcruiser Prado 3.0 150 D4D Wagon - 4WD

🔥TOYOTA LANDCRUISER PRADO 3.0d 🔥 ไมล์ 190,xxx km. ปี2012 🎉ราคา 1,590,000.- บาท🎉 ...
2015 Toyota Landcruiser Prado 3.0 D4D Wagon 21 มือสอง
บันทึก
สมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว
146722 กม.
เกียร์อัตโนมัติ
อุบลราชธานี
รถดีลเลอร์ ดีลเลอร์มีความน่าเชื่อถือ ผ่านการตรวจสอบตามเกณฑ์ที่กำหนด
บันทึก

2015 Toyota Landcruiser Prado 3.0 150 D4D Wagon - 4WD

🔥TOYOTA LAND CRUISER PRADO 150 3.0 D4D 4WD A/T 2015 สีขาว (LL0316)🔥 📌ราคา 1,999,000 บาท ...
Association Of Used Car 0% ฟรีดาวน์ 0% ฟรีดาวน์ 0% ฟรีดาวน์ 0% ฟรีดาวน์
2012 Toyota Landcruiser Prado 3.0 D4D Wagon 17 มือสอง
บันทึก
สมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว
180 - 185K กม.
เกียร์อัตโนมัติ
อุบลราชธานี
รถดีลเลอร์ ดีลเลอร์มีความน่าเชื่อถือ ผ่านการตรวจสอบตามเกณฑ์ที่กำหนด
บันทึก

2012 Toyota Landcruiser Prado 3.0 150 D4D Wagon - 4WD

TOYOTA LAND CRUISER PRADO 150 3.0 D4D 4WD A/T 2012 สีขาว (LH0522) 🔥โปรโมชั่น 1,399,000 ...
Association Of Used Car 0% ฟรีดาวน์ 0% ฟรีดาวน์ 0% ฟรีดาวน์ 0% ฟรีดาวน์
2011 Toyota Landcruiser Prado 3.0 D4D Wagon 20 มือสอง
บันทึก
สมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว
183439 กม.
เกียร์อัตโนมัติ
อุบลราชธานี
รถดีลเลอร์ ดีลเลอร์มีความน่าเชื่อถือ ผ่านการตรวจสอบตามเกณฑ์ที่กำหนด
บันทึก

2011 Toyota Landcruiser Prado 3.0 150 D4D Wagon - 4WD

🔰TOYOTA LAND CRUISER PRADO 150 3.0 D4D A/T 2011 สีขาว (LH0622)🔰 📌ราคา 1,399,000 บาท ...
Association Of Used Car 0% ฟรีดาวน์ 0% ฟรีดาวน์ 0% ฟรีดาวน์ 0% ฟรีดาวน์
2012 Toyota Landcruiser Prado 3.0 D4D Wagon 20 มือสอง
บันทึก
ประกาศแนะนำ
140 - 145K กม.
เกียร์อัตโนมัติ
กรุงเทพมหานคร
รถดีลเลอร์ ดีลเลอร์มีความน่าเชื่อถือ ผ่านการตรวจสอบตามเกณฑ์ที่กำหนด
บันทึก

2012 Toyota Landcruiser Prado 3.0 150 D4D Wagon - 4WD

TOYOTA LAND CRUISER PRADO 3.0 4WD 2012 💥รถมือเดียวป้ายแดง สภาพสมบูรณ์มาก 💥เลขไมล์แท้ ...
0% ฟรีดาวน์ 0% ฟรีดาวน์ 0% ฟรีดาวน์ 0% ฟรีดาวน์
2015 Toyota Landcruiser Prado 3.0 D4D Wagon 21 มือสอง
บันทึก
ประกาศแนะนำ
145 - 150K กม.
เกียร์อัตโนมัติ
เชียงใหม่
รถดีลเลอร์ ดีลเลอร์มีความน่าเชื่อถือ ผ่านการตรวจสอบตามเกณฑ์ที่กำหนด
บันทึก

2015 Toyota Landcruiser Prado 3.0 150 D4D Wagon - 4WD

เต้นท์รถมือสอง เชียงใหม่!! NCC Motor ศูนย์รวมรถมือสอง คัดพรีเมียม ...
2012 Toyota Landcruiser Prado 3.0 D4D Wagon 21 มือสอง
บันทึก
ประกาศแนะนำ
140 - 145K กม.
เกียร์อัตโนมัติ
กรุงเทพมหานคร
รถดีลเลอร์ ดีลเลอร์มีความน่าเชื่อถือ ผ่านการตรวจสอบตามเกณฑ์ที่กำหนด
บันทึก

2012 Toyota Landcruiser Prado 3.0 150 D4D Wagon - 4WD

TOYOTA LANCRUISER ปี2012 ดีเซล 1,390,000฿ 📌-ฟรีน้ำมันเครื่อง 10,000 กิโล ...
2012 Toyota Landcruiser Prado 3.0 D4D Wagon 21 มือสอง
บันทึก
ประกาศแนะนำ
150 - 155K กม.
เกียร์อัตโนมัติ
นนทบุรี
รถดีลเลอร์ ดีลเลอร์มีความน่าเชื่อถือ ผ่านการตรวจสอบตามเกณฑ์ที่กำหนด
บันทึก

2012 Toyota Landcruiser Prado 3.0 150 D4D Wagon - 4WD

TOYOTA LandCruiser Prado ปี 2012 Top Option ⚡️ ราคาพิเศษ 1.39 MB ⚡️ - หลังคา Sunroof รุ่น ...
2014 Toyota Landcruiser Prado 3.0 D4D Wagon 21 มือสอง
บันทึก
ประกาศแนะนำ
105 - 110K กม.
เกียร์อัตโนมัติ
กรุงเทพมหานคร
รถดีลเลอร์ ดีลเลอร์มีความน่าเชื่อถือ ผ่านการตรวจสอบตามเกณฑ์ที่กำหนด
บันทึก

2014 Toyota Landcruiser Prado 3.0 150 D4D Wagon - 4WD

#Toyota Land Cruiser PRADO 3.0 Diesel XV.L 4WD (Spec UK) ปี 2014 🔥Spec UK ตัวท็อปสุด ...
2012 Toyota Landcruiser Prado 3.0 D4D Wagon 21 มือสอง
บันทึก
สมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว
170 - 175K กม.
เกียร์อัตโนมัติ
อุบลราชธานี
รถดีลเลอร์ ดีลเลอร์มีความน่าเชื่อถือ ผ่านการตรวจสอบตามเกณฑ์ที่กำหนด
บันทึก

2012 Toyota Landcruiser Prado 3.0 150 D4D Wagon - 4WD

TOYOTA LANDCRUISER PRADO 150 3.0 A/T 2012 สีดำ (LM 0391) 11-12 ราคา 1,299,000 บาท - ...
Association Of Used Car
2013 Toyota Landcruiser Prado 3.0 D4D Wagon 21 มือสอง
บันทึก
ประกาศแนะนำ
115 - 120K กม.
เกียร์อัตโนมัติ
กรุงเทพมหานคร
รถดีลเลอร์ ดีลเลอร์มีความน่าเชื่อถือ ผ่านการตรวจสอบตามเกณฑ์ที่กำหนด
บันทึก

2013 Toyota Landcruiser Prado 3.0 150 D4D Wagon - 4WD

TOYOTA LandCruiser Prado ปี 2013 Top Option รถสวย ขับดีมากๆ ตัวถังไม่มีอุบัติเหตุ ...
2013 Toyota Landcruiser Prado 3.0 D4D Wagon 21 มือสอง
บันทึก
ประกาศแนะนำ
110 - 115K กม.
เกียร์อัตโนมัติ
กรุงเทพมหานคร
รถดีลเลอร์ ดีลเลอร์มีความน่าเชื่อถือ ผ่านการตรวจสอบตามเกณฑ์ที่กำหนด
บันทึก

2013 Toyota Landcruiser Prado 3.0 150 D4D Wagon - 4WD

น็อตไม่ขยับทั้งคัน รถสวยสภาพดี ภายในสวย
0% ฟรีดาวน์ 0% ฟรีดาวน์ 0% ฟรีดาวน์ 0% ฟรีดาวน์
2013 Toyota Landcruiser Prado 3.0 D4D Wagon 20 มือสอง
บันทึก
ประกาศแนะนำ
165 - 170K กม.
เกียร์อัตโนมัติ
กรุงเทพมหานคร
รถดีลเลอร์ ดีลเลอร์มีความน่าเชื่อถือ ผ่านการตรวจสอบตามเกณฑ์ที่กำหนด
บันทึก

2013 Toyota Landcruiser Prado 3.0 150 D4D Wagon - 4WD

#Landcruiser #Prado 4WD ยางใหม่ 2023 สีขาว รถสวย ประวัติดี เจ้าของเดียว ดูแลรักษาอย่างดี ...
0% ฟรีดาวน์ 0% ฟรีดาวน์ 0% ฟรีดาวน์ 0% ฟรีดาวน์

สูบบุหรี่ไฟฟ้าในรถ เป็นอะไรไหม ส่งผลต่อรถอย่างไรบ้าง


การสูบบุหรี่ไฟฟ้าในรถเป็นประเด็นที่หลายคนสงสัยว่ามีผลกระทบอย่างไรบ้างทั้งต่อสุขภาพและต่อตัวรถยนต์ของเราเอง เพราะฉะนั้นบทความนี้จะบอกถึงผลกระทบในการสูบบุหรี่ไฟฟ้าในรถให้ได้ทราบกัน


สูบบุหรี่ไฟฟ้าในรถ

สูบบุหรี่ไฟฟ้าในรถยนต์ ส่งผลอะไรบ้าง

ต้องยอมรับเลยว่าในปัจจุบันผู้คนดูดมักจะเลือกดูดบุหรี่ไฟฟ้ามากกว่าบุหรี่มวนปกติทั่วไป เพราะเนื่องจากบุหรี่ไฟฟ้าไม่ส่งกลิ่นเหม็นติดตัว ไม่ส่งกลิ่นเหม็นไปรบกวนผู้อื่น และยังไม่มีขยะทิ้งลงพื้นอีกด้วย แถมยังหาซื้อง่ายและมีรสชาติที่หอมหวานอีกด้วย จึงทำให้หลายคนเลือกหันไปดูดบุหรี่ไฟฟ้านั่นเอง เพราะไม่ส่งกลิ่นเหม็น และไม่มีขยะลงบุหรี่ไฟฟ้าจึงสามารถดูดได้เกือบทุกที่รวมถึงในรถยนต์ด้วยเช่นกัน 

แต่ทราบหรือไม่ว่าการดูดบุหรี่ไฟฟ้าในรถก็ส่งผลเสียต่อรถยนต์ของเราได้เหมือนกัน แต่จะส่งผลเสียในด้านไหนบ้างมาดูกันดีกว่า

อ่านเพิ่มเติม : สูบบุหรี่ขณะขับรถผิดกฎหมายไหม ส่งผลเสียอะไรหรือเปล่า?

1.สูบบุหรี่ไฟฟ้าในรถที่มีเด็ก อันตรายอย่างมาก

การสูบบุหรี่ไฟฟ้าในรถในขณะที่มีเด็กอยู่ด้วยเป็นอันตรายต่อเด็กอย่างแน่นอน เพราะถือว่าเด็กจะได้รับไอบุหรี่ไฟฟ้ามือสองโดยเฉพาะในเด็กเล็ก เพราะว่าไอบุหรี่ไฟฟ้านั้นนอกจากมีนิโคตินที่เป็นสารเสพติดแล้ว ยังมีฝุ่นอนุภาคขนาดเล็กมากจำนวนมาก มีสารเคมีที่ยังไม่รู้ว่าจะส่งผลต่อปอดและอวัยวะอื่นของร่างกายในระยะยาวอย่างไร และยังมีสารก่อมะเร็งหลายชนิดไม่ว่าจะเป็น เบนซีน ฟอร์มาลดีไฮด์ มีโลหะหนักเช่น ตะกั่ว นิกเกิล สังกะสี มีสารไดอะซิทิล ที่ทำให้เกิดปอดอักเสบ ถูกทำลาย เปลี่ยนแปลง จนมีลักษณะเหมือนข้าวโพดอบ (popcorn lung) เลยทีเดียว

2.เกิดคราบและกลิ่นภายในรถได้

เนื่องจากละอองไอระเหยที่ออกมาจากน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าจะมีสารต่างๆ ที่สามารถเกาะติดกับพื้นผิวของรถได้ เช่น กระจก เบาะ และแผงหน้าปัด หากใช้ไปนานๆ อาจทำให้เกิดคราบเหนียวหรือทิ้งกลิ่นไว้ในรถ ซึ่งอาจต้องทำความสะอาดบ่อยขึ้น และผลเสียอีกอย่างนึงของการดูดบุหรี่ไฟฟ้าในรถก็คือคราบของควันบุหรี่ไฟฟ้าที่ติดภายในรถจะทำให้บางครั้งระบบไล่ฝ้าของรถไม่สามารถใช้งานได้เมื่อมีอากาศเย็น (ซึ่งในต่างประเทศเกิดปัญหานี้กันอย่างมาก)

บุหรี่ไฟฟ้า

3.อาจทำให้ทัศนวิสัยในการขับขี่แย่ลงได้

อย่างที่ทราบกันดีว่าบุหรี่ไฟฟ้ามักมีควันเยอะและหนากว่าบุหรีธรรมดาทั่วไป หากดูดบุหรี่ไฟฟ้าในรถยนต์ควันของบุหรี่ไฟฟ้าก็อาจจะทำให้บดบังทัศนะวิศัยในการขับขี่ได้ เพราะเมื่อเราพ่นควันบุหรี่ไฟฟ้าออกมาควันก็จะบังสายตาของเรา ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้

4.ส่งผลต่อร่างกาย ทำให้เกิดอุบัติเหตุในการขับขี่ได้

เพราะว่าการดูดบุหรี่ไฟฟ้าระหว่างขับรถในปริมาณที่มากหรือถี่ ก็จะทำให้เรามีอาการมึนเมาและมีอาการปวดหัวขณะขับรถได้ อย่างที่รู้ๆ กันดีกว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีนิโคติน เมื่อเราสูขเข้าไปก็จะถือว่าทำให้เราได้รับสารนิโคตินเข้าไปเต็มๆ จึงทำให้เกิดอาการมึนหัวได้ แล้ยิ่งบวกกับการที่เราต้องใช้สมองและสายตาในการขับขี่ ไปด้วย ก็จะทำให้เราปวดหัว ปวดตาได้ง่าย บางรายอาจจะมีอาการมึนเมาจนเกิดอุบัติเหตุได้เลยเดียว

5.สูบบุหรี่ไฟฟ้าในรถ ทำให้แอร์ตัน

แน่นอนว่าในบุหรี่ไฟฟ้าจะมีน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าอยู่ เพราะฉะนั้นเมื่อพ่นควันออกมาแล้วควันจะเข้าไปในระบบปรับอากาศ เพราะเหตุนี้ทำให้เราอาจจะต้องเเปลี่ยนกรองอากาศบ่อย กรองแอร์ตัน กรองแอร์เป็นเมือกจากควัน หรือ อาจจะทำให้ระบบปรับอากาศมีปัญหาได้ในระยะยาวได้เช่นกัน

อ่านเพิ่มเติม : วิธีเปลี่ยนไส้กรองอากาศรถยนต์ด้วยตัวเอง ภายใน 3 ขั้นตอน

บุหรี่ไฟฟ้า ผิดกฎหมายหรือไม่

บุหรี่ไฟฟ้า ผิดกฎหมายหรือไม่ / สูบบุหรี่ไฟฟ้าผิดไหม

อย่างที่บอกไปก่อนหน้าว่าในปัจจุบันผู้คนหันมาสูบบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น เพราะเนื่องจากหาซื้อง่าย ไม่ส่งกลิ่นเหม็น และมีรสชาติที่หอมหวาน แต่เพราะเหตุเหล่านี้จึงทำให้บุหรี่ไฟฟ้าเข้าถึงเยาวชนที่มาอายุต่ำว่า 18 ปีได้ง่ายมากขึ้นจึงทำให้เด็กและเยาวชนหันมาสูบกันอย่างแพร่หลายเปรียบเสมือนแฟชั่นไปแล้ว เพราะเหตุนี้รัฐจึงได้เข้มงวดกับบุหรี่ไฟฟ้ามากขึ้น

ซึ่งหลายๆ คนอาจจะยังเข้าใจผิดว่าการดูดบุหรี่ไฟฟ้าไม่ผิดกฎหมาย แต่จริงๆ การครอบครอง จำหน่าย บุหรี่ไฟฟ้านั้นมีความผิดตามกฎหมาย

กรณีผู้ขายหรือผู้ให้บริการบุหรี่ไฟฟ้า

ห้ามขายหรือห้ามให้บริการสินค้า “บารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า” มีความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค(ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2562 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 600,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

บุหรี่ไฟฟ้า

กรณีผู้นำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า

มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับเป็นเงิน 5 เท่าของราคาสินค้า หรือทั้งจำทั้งปรับ กับให้ริบบุหรี่ไฟฟ้า รวมทั้งสิ่งที่ใช้บรรจุและพาหนะใดๆ ที่ใช้ในการบรรทุกสินค้าบุหรี่ไฟฟ้านั้นด้วย นอกจากนั้นยังเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 มาตรา 244 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าหรือรับฝากไว้ 

มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับเป็นเงิน 4 เท่าของราคาสินค้า หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 246 วรรคหนึ่งแห่ง พ.ร.บ. ศุลการ พ.ศ. 2560

แม้ว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้าในรถอาจไม่มีกฎหมายห้ามชัดเจนในประเทศไทย แต่การครอบครองและใช้บุหรี่ไฟฟ้านั้น ผิดกฎหมาย ซึ่งอาจส่งผลให้ถูกดำเนินคดีได้ นอกจากนี้ยังมีผลกระทบที่ควรคำนึงถึง ทั้งด้านความสะอาดของรถ ทัศนวิสัยในการขับขี่ และระบบไฟฟ้าในรถยนต์ หากจำเป็นต้องสูบควรปฏิบัติตามแนวทางที่ปลอดภัยเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในระยะยาว

รถมือสอง one2car

โหลดหรือยัง? แอป one2car - NEXT GEN! CAR APP

  • Smart Search: หารถง่าย ฟังก์ชันครบ ข้อมูลชัด!

  • Qualified Car: รถคุณภาพ ตรวจสภาพแล้ว พร้อมรายงานรถ

  • Most Trusted Seller: คัดผู้ขายให้แล้ว ไม่ต้องกลัวมิจฉาชีพ

  • Hot Deals: พบกับ Big Sale ลดแรงทุกเดือน!

  • My Garage: ระบบผู้จัดการส่วนตัวให้รถคุณ ทุกเรื่องรถ จบในที่เดียว

  • Car Tax Renawal: ต่อภาษีรถยนต์สะดวกกว่าที่เคย ไม่ต้องกลัวลืม

  • Car Price: อยากขายรถแต่ไม่รู้ราคา เช็กเลย! รู้ผลใน 1 นาที ต้องการขายก็ทำได้เลย

  • Car Financing: สินเชื่อรถมือสอง จัดไฟแนนซ์ง่ายกับ Partner ของเรา พร้อมข้อเสนอพิเศษ

  • Car Insurance: เปรียบเทียบเบี้ย ต่อประกันรถยนต์ พร้อมดีลสุดพิเศษจากบริษัทชั้นนำ

  • Extended Warranty: ประกันอะไหล่รถ หมดห่วงเรื่องอะไหล่รถมือสอง

  • one2car Story: คลิปรีวิวรถจากคนขาย คอนเทนต์เกี่ยวกับยานยนต์

Apple Store : https://bit.ly/o2c_apple_store

Google Play Store : https://bit.ly/o2c_Google_Play_Store

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง one2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com

Toyota Landcruiser-Prado FAQs


การสูบบุหรี่ไฟฟ้าในรถเป็นประเด็นที่หลายคนสงสัยว่ามีผลกระทบอย่างไรบ้างทั้งต่อสุขภาพและต่อตัวรถยนต์ของเราเอง เพราะฉะนั้นบทความนี้จะบอกถึงผลกระทบในการสูบบุหรี่ไฟฟ้าในรถให้ได้ทราบกัน


สูบบุหรี่ไฟฟ้าในรถ

สูบบุหรี่ไฟฟ้าในรถยนต์ ส่งผลอะไรบ้าง

ต้องยอมรับเลยว่าในปัจจุบันผู้คนดูดมักจะเลือกดูดบุหรี่ไฟฟ้ามากกว่าบุหรี่มวนปกติทั่วไป เพราะเนื่องจากบุหรี่ไฟฟ้าไม่ส่งกลิ่นเหม็นติดตัว ไม่ส่งกลิ่นเหม็นไปรบกวนผู้อื่น และยังไม่มีขยะทิ้งลงพื้นอีกด้วย แถมยังหาซื้อง่ายและมีรสชาติที่หอมหวานอีกด้วย จึงทำให้หลายคนเลือกหันไปดูดบุหรี่ไฟฟ้านั่นเอง เพราะไม่ส่งกลิ่นเหม็น และไม่มีขยะลงบุหรี่ไฟฟ้าจึงสามารถดูดได้เกือบทุกที่รวมถึงในรถยนต์ด้วยเช่นกัน 

แต่ทราบหรือไม่ว่าการดูดบุหรี่ไฟฟ้าในรถก็ส่งผลเสียต่อรถยนต์ของเราได้เหมือนกัน แต่จะส่งผลเสียในด้านไหนบ้างมาดูกันดีกว่า

อ่านเพิ่มเติม : สูบบุหรี่ขณะขับรถผิดกฎหมายไหม ส่งผลเสียอะไรหรือเปล่า?

1.สูบบุหรี่ไฟฟ้าในรถที่มีเด็ก อันตรายอย่างมาก

การสูบบุหรี่ไฟฟ้าในรถในขณะที่มีเด็กอยู่ด้วยเป็นอันตรายต่อเด็กอย่างแน่นอน เพราะถือว่าเด็กจะได้รับไอบุหรี่ไฟฟ้ามือสองโดยเฉพาะในเด็กเล็ก เพราะว่าไอบุหรี่ไฟฟ้านั้นนอกจากมีนิโคตินที่เป็นสารเสพติดแล้ว ยังมีฝุ่นอนุภาคขนาดเล็กมากจำนวนมาก มีสารเคมีที่ยังไม่รู้ว่าจะส่งผลต่อปอดและอวัยวะอื่นของร่างกายในระยะยาวอย่างไร และยังมีสารก่อมะเร็งหลายชนิดไม่ว่าจะเป็น เบนซีน ฟอร์มาลดีไฮด์ มีโลหะหนักเช่น ตะกั่ว นิกเกิล สังกะสี มีสารไดอะซิทิล ที่ทำให้เกิดปอดอักเสบ ถูกทำลาย เปลี่ยนแปลง จนมีลักษณะเหมือนข้าวโพดอบ (popcorn lung) เลยทีเดียว

2.เกิดคราบและกลิ่นภายในรถได้

เนื่องจากละอองไอระเหยที่ออกมาจากน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าจะมีสารต่างๆ ที่สามารถเกาะติดกับพื้นผิวของรถได้ เช่น กระจก เบาะ และแผงหน้าปัด หากใช้ไปนานๆ อาจทำให้เกิดคราบเหนียวหรือทิ้งกลิ่นไว้ในรถ ซึ่งอาจต้องทำความสะอาดบ่อยขึ้น และผลเสียอีกอย่างนึงของการดูดบุหรี่ไฟฟ้าในรถก็คือคราบของควันบุหรี่ไฟฟ้าที่ติดภายในรถจะทำให้บางครั้งระบบไล่ฝ้าของรถไม่สามารถใช้งานได้เมื่อมีอากาศเย็น (ซึ่งในต่างประเทศเกิดปัญหานี้กันอย่างมาก)

บุหรี่ไฟฟ้า

3.อาจทำให้ทัศนวิสัยในการขับขี่แย่ลงได้

อย่างที่ทราบกันดีว่าบุหรี่ไฟฟ้ามักมีควันเยอะและหนากว่าบุหรีธรรมดาทั่วไป หากดูดบุหรี่ไฟฟ้าในรถยนต์ควันของบุหรี่ไฟฟ้าก็อาจจะทำให้บดบังทัศนะวิศัยในการขับขี่ได้ เพราะเมื่อเราพ่นควันบุหรี่ไฟฟ้าออกมาควันก็จะบังสายตาของเรา ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้

4.ส่งผลต่อร่างกาย ทำให้เกิดอุบัติเหตุในการขับขี่ได้

เพราะว่าการดูดบุหรี่ไฟฟ้าระหว่างขับรถในปริมาณที่มากหรือถี่ ก็จะทำให้เรามีอาการมึนเมาและมีอาการปวดหัวขณะขับรถได้ อย่างที่รู้ๆ กันดีกว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีนิโคติน เมื่อเราสูขเข้าไปก็จะถือว่าทำให้เราได้รับสารนิโคตินเข้าไปเต็มๆ จึงทำให้เกิดอาการมึนหัวได้ แล้ยิ่งบวกกับการที่เราต้องใช้สมองและสายตาในการขับขี่ ไปด้วย ก็จะทำให้เราปวดหัว ปวดตาได้ง่าย บางรายอาจจะมีอาการมึนเมาจนเกิดอุบัติเหตุได้เลยเดียว

5.สูบบุหรี่ไฟฟ้าในรถ ทำให้แอร์ตัน

แน่นอนว่าในบุหรี่ไฟฟ้าจะมีน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าอยู่ เพราะฉะนั้นเมื่อพ่นควันออกมาแล้วควันจะเข้าไปในระบบปรับอากาศ เพราะเหตุนี้ทำให้เราอาจจะต้องเเปลี่ยนกรองอากาศบ่อย กรองแอร์ตัน กรองแอร์เป็นเมือกจากควัน หรือ อาจจะทำให้ระบบปรับอากาศมีปัญหาได้ในระยะยาวได้เช่นกัน

อ่านเพิ่มเติม : วิธีเปลี่ยนไส้กรองอากาศรถยนต์ด้วยตัวเอง ภายใน 3 ขั้นตอน

บุหรี่ไฟฟ้า ผิดกฎหมายหรือไม่

บุหรี่ไฟฟ้า ผิดกฎหมายหรือไม่ / สูบบุหรี่ไฟฟ้าผิดไหม

อย่างที่บอกไปก่อนหน้าว่าในปัจจุบันผู้คนหันมาสูบบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น เพราะเนื่องจากหาซื้อง่าย ไม่ส่งกลิ่นเหม็น และมีรสชาติที่หอมหวาน แต่เพราะเหตุเหล่านี้จึงทำให้บุหรี่ไฟฟ้าเข้าถึงเยาวชนที่มาอายุต่ำว่า 18 ปีได้ง่ายมากขึ้นจึงทำให้เด็กและเยาวชนหันมาสูบกันอย่างแพร่หลายเปรียบเสมือนแฟชั่นไปแล้ว เพราะเหตุนี้รัฐจึงได้เข้มงวดกับบุหรี่ไฟฟ้ามากขึ้น

ซึ่งหลายๆ คนอาจจะยังเข้าใจผิดว่าการดูดบุหรี่ไฟฟ้าไม่ผิดกฎหมาย แต่จริงๆ การครอบครอง จำหน่าย บุหรี่ไฟฟ้านั้นมีความผิดตามกฎหมาย

กรณีผู้ขายหรือผู้ให้บริการบุหรี่ไฟฟ้า

ห้ามขายหรือห้ามให้บริการสินค้า “บารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า” มีความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค(ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2562 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 600,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

บุหรี่ไฟฟ้า

กรณีผู้นำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า

มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับเป็นเงิน 5 เท่าของราคาสินค้า หรือทั้งจำทั้งปรับ กับให้ริบบุหรี่ไฟฟ้า รวมทั้งสิ่งที่ใช้บรรจุและพาหนะใดๆ ที่ใช้ในการบรรทุกสินค้าบุหรี่ไฟฟ้านั้นด้วย นอกจากนั้นยังเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 มาตรา 244 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าหรือรับฝากไว้ 

มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับเป็นเงิน 4 เท่าของราคาสินค้า หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 246 วรรคหนึ่งแห่ง พ.ร.บ. ศุลการ พ.ศ. 2560

แม้ว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้าในรถอาจไม่มีกฎหมายห้ามชัดเจนในประเทศไทย แต่การครอบครองและใช้บุหรี่ไฟฟ้านั้น ผิดกฎหมาย ซึ่งอาจส่งผลให้ถูกดำเนินคดีได้ นอกจากนี้ยังมีผลกระทบที่ควรคำนึงถึง ทั้งด้านความสะอาดของรถ ทัศนวิสัยในการขับขี่ และระบบไฟฟ้าในรถยนต์ หากจำเป็นต้องสูบควรปฏิบัติตามแนวทางที่ปลอดภัยเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในระยะยาว

รถมือสอง one2car

โหลดหรือยัง? แอป one2car - NEXT GEN! CAR APP

  • Smart Search: หารถง่าย ฟังก์ชันครบ ข้อมูลชัด!

  • Qualified Car: รถคุณภาพ ตรวจสภาพแล้ว พร้อมรายงานรถ

  • Most Trusted Seller: คัดผู้ขายให้แล้ว ไม่ต้องกลัวมิจฉาชีพ

  • Hot Deals: พบกับ Big Sale ลดแรงทุกเดือน!

  • My Garage: ระบบผู้จัดการส่วนตัวให้รถคุณ ทุกเรื่องรถ จบในที่เดียว

  • Car Tax Renawal: ต่อภาษีรถยนต์สะดวกกว่าที่เคย ไม่ต้องกลัวลืม

  • Car Price: อยากขายรถแต่ไม่รู้ราคา เช็กเลย! รู้ผลใน 1 นาที ต้องการขายก็ทำได้เลย

  • Car Financing: สินเชื่อรถมือสอง จัดไฟแนนซ์ง่ายกับ Partner ของเรา พร้อมข้อเสนอพิเศษ

  • Car Insurance: เปรียบเทียบเบี้ย ต่อประกันรถยนต์ พร้อมดีลสุดพิเศษจากบริษัทชั้นนำ

  • Extended Warranty: ประกันอะไหล่รถ หมดห่วงเรื่องอะไหล่รถมือสอง

  • one2car Story: คลิปรีวิวรถจากคนขาย คอนเทนต์เกี่ยวกับยานยนต์

Apple Store : https://bit.ly/o2c_apple_store

Google Play Store : https://bit.ly/o2c_Google_Play_Store

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง one2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com


one2car ผู้นำแพลตฟอร์มซื้อขายรถยนต์มือสองออนไลน์ในไทย ยกระดับการซื้อขายรถยนต์มือสองไปอีกขั้น ด้วยการเปิดตัวฟังก์ชันใหม่ “Car Card” หรือ “ฉลากรถยนต์ใช้แล้ว” บนระบบ iCarSuite ซึ่งเป็นระบบจัดการประกาศโฆษณารถยนต์ของ one2car เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ขายในการกรอกข้อมูลรถยนต์ออนไลน์และสั่งพิมพ์ฉลากเพื่อนำไปวางหน้ารถที่ต้องการขายได้ทันที โดยฟังก์ชันนี้เปิดให้ใช้บริการตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม 2568 เป็นต้นไป


สร้างฉลากรถยนต์ใช้แล้ว ออนไลน์ บน iCarSuite ได้มาตรฐาน สคบ.

ฟังก์ชัน Car Card บนระบบ iCarSuite ของ one2car สร้างความเชื่อมั่นในวงการรถยนต์มือสองด้วยรูปแบบฉลากและข้อมูลที่เป็นไปตามมาตรฐานและกฎเกณฑ์ที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้ประกาศไว้ทุกประการ ทำให้ผู้ซื้อสัมผัสได้ถึงความโปร่งใส สามารถตรวจสอบข้อมูลรถยนต์ได้อย่างละเอียดก่อนตัดสินใจเป็นเจ้าของ ขณะเดียวกันก็ช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ของผู้ขายให้มีความน่าเชื่อถือและไว้วางใจได้ ส่งผลให้ผู้บริโภคจดจำแบรนด์ในฐานะผู้จำหน่ายรถยนต์มือสองที่มีมาตรฐานอีกด้วย

นับเป็นอีกก้าวสำคัญของ one2car ในการพัฒนาระบบที่สอดคล้องกับนโยบายภาครัฐและส่งเสริมให้ผู้บริโภคเข้าถึงข้อมูลรถยนต์ได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังเป็นการสนับสนุนให้ธุรกิจรถยนต์มือสองเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน

อย่างไรก็ตาม one2car ไม่หยุดพัฒนาเพียงเท่านี้ เรายังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาระบบต่าง ๆ เพื่อยกระดับวงการรถยนต์มือสองให้แข็งแกร่งมากขึ้น และพร้อมที่จะสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้ทุกคน โดยเราเชื่อว่าการสร้างความโปร่งใส ความน่าเชื่อถือ และความสะดวกสบาย คือหัวใจสำคัญของการซื้อขายรถยนต์มือสอง

ฉลากรถยนต์ใช้แล้วที่เป็นมาตรฐานตามข้อกำหนดของ สคบ.

ทำไมต้องมี “ฉลากรถยนต์ใช้แล้ว” 

ปัจจุบันตลาดรถยนต์ใช้แล้วมีการขยายตัวอยางรวดเร็ว แต่กลับพบว่าผู้ประกอบการหลายรายยังไม่ได้แสดงข้อมูลที่จําเป็นเกี่ยวกับรถยนต์อย่างครบถ้วน ทําให้ผู้บริโภคไม่สามารถตัดสินใจซื้อรถยนต์ได้อย่างรอบคอบ ซึ่งอาจตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงได้

เพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว คณะกรรมการว่าด้วยฉลากจึงประกาศให้รถยนต์ใช้แล้วเป็นสินค้าที่ควบคุมฉลาก โดยกําหนดให้ผู้ประกอบการต้องแสดง “ฉลากรถยนต์ใช้แล้ว” แก่ผู้บริโภคทุกคัน มีข้อมูลสําคัญครบถ้วน เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับทราบข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการตัดสินใจซื้อรถยนต์ ดังนั้นฉลากรถยนต์ใช้แล้วจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ซื้อและผู้ขายรถยนต์มือสอง ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้

  1. คุ้มครองสิทธิผู้บริโภค
  2. ส่งเสริมการซื้อขายที่เป็นธรรม
  3. ป้องกันการปลอมแปลงข้อมูล

จุดเด่นของฟังก์ชัน Car Card บน iCarSuite

  • รูปแบบฉลากและข้อมูลรถเป็นไปตามมาตรฐาน สคบ. กำหนด
  • ใช้งานง่าย ระบบกรอกข้อมูลบางส่วนให้อัตโนมัติ แก้ไขข้อมูลได้ทุกเมื่อ
  • ดาวน์โหลดฉลากรถยนต์ใช้แล้วจากโฆษณารถคันนั้น ๆ แล้วสั่งพิมพ์ได้ทันที
  • สแกน QR Code ที่ฉลากเพื่อดูประกาศขายรถได้

3 วิธีสร้าง “ฉลากรถยนต์ใช้แล้ว” บน iCarSuite

1. สร้างโฆษณาบน iCarSuite

เข้าระบบ iCarSuite เลือกแถบ “แสดงบนหน้าเว็บ” และกดปุ่ม “สร้างโฆษณา” จากนั้นดำเนินกรอกข้อมูลตามปกติ

2. กดสร้างฉลาก

เมื่อสร้างประกาศเสร็จสมบูรณ์แล้ว ให้คลิกที่ปุ่ม “สร้างฉลาก” จากนั้นกรอกข้อมูลรถยนต์ในแบบฟอร์มฉลากให้ครบถ้วน

ข้อมูลที่จำเป็นที่ต้องกรอกในฉลาก มีดังนี้

  1. ราคารถ (บาท)
  2. สี
  3. วันที่จดทะเบียน
  4. เลขตัวรถ
  5. เลขเครื่องยนต์
  6. เจ้าของลำดับที่
  7. ชื่อ
  8. ภาระผูกพัน (ถ้ามี)
  9. อุบัติเหตุ (ถ้ามี)
  10. เลขทะเบียน
  11. ที่ตั้งผู้ประกอบธุรกิจ
  12. ข้อมููลรถ
  13. ผลิตที่
  14. คู่มือ (ถ้ามี)

ข้อมูลที่ระบบ iCarSuite กรอกให้อัตโนมัติ (Auto fill) แต่ผู้ขายสามารถแก้ไขได้ มีดังนี้

  1. ยี่ห้อ / รุ่น
  2. รุ่นปี
  3. ระยะทาง (กม.)
  4. เครื่องยนต์
  5. น้ำหนัก
  6. เชื้อเพลิง
  7. ผู้ขาย

หลังจากกรอกข้อมูลเสร็จแล้ว สามารถกดดูตัวอย่างฉลากรถยนต์ใช้แล้วเพื่อตรวจสอบความถูกต้องก่อนเผยแพร่ประกาศได้ เมื่อตรวจสอบความถูกต้องเรียบร้อยแล้ว ให้คลิกปุ่ม “สร้างฉลาก”

3. กดเผยแพร่โฆษณา

หลังจากสร้างฉลากเสร็จเรียบร้อยแล้ว กดปุ่ม “เผยแพร่โฆษณา” ได้เลย ฉลากรถยนต์ใช้แล้วจะปรากฏที่โฆษณารถบนแพลตฟอร์ม one2car ทันที

ขั้นตอนดาวน์โหลด “ฉลากรถยนต์ใช้แล้ว”

1. เลือกแถบ “แสดงบนหน้าเว็บ” บน iCarSuite

เมื่อเข้ามาที่ iCarSuite ให้คลิกที่แถบ "แสดงบนหน้าเว็บ" จากนั้นเลือกโฆษณาที่คุณต้องการดาวน์โหลดฉลากรถยนต์ใช้แล้ว

2. คลิกปุ่ม “ฉลากรถยนต์ใช้แล้ว”

หลังจากโฆษณารถแสดงขึ้นมาแล้ว คลิกที่ปุ่ม “ฉลากรถยนต์ใช้แล้ว” จากนั้นกดปุ่ม “รับชม/ดาวน์โหลด” ในขั้นตอนนี้คุณสามารถกด “แก้ไข” เพื่อแก้ไขข้อมูลรถได้

3. คลิกปุ่ม “ดาวน์โหลด”

เมื่อคลิกที่ปุ่ม “ดาวน์โหลด” ระบบจะบันทึกเป็นไฟล์ PDF ซึ่งคุณสามารถสั่งพิมพ์ฉลากรถยนต์ใช้แล้วได้ทันที


สปอยเลอร์ (Spoiler) เป็นอุปกรณ์เสริมที่ติดตั้งกับรถยนต์ โดยส่วนใหญ่มักอยู่บริเวณด้านท้าย หรือบางครั้งอาจพบที่ด้านหน้าหรือหลังคาของรถ ซึ่งหลายคนอาจมองว่าสปอยเลอร์เป็นเพียงของแต่งเพื่อความสวยงาม แต่แท้จริงแล้วมันมีหน้าที่สำคัญกว่านั้นมาก

สปอยเลอร์ คืออะไร?

สปอยเลอร์เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยปรับการไหลเวียนของอากาศรอบตัวรถ เพื่อลดแรงยก (Lift) และเพิ่มแรงกดอากาศ (Downforce) ให้กับตัวรถ ทำให้รถเกาะถนนได้ดีขึ้น โดยเฉพาะเมื่อต้องขับขี่ด้วยความเร็วสูง ทั้งนี้ การออกแบบสปอยเลอร์ต้องอิงตามหลักอากาศพลศาสตร์ (Aerodynamics) เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

สปอยเลอร์ มีกี่แบบ?

1. สปอยเลอร์ล่างกันชนหน้า

สปอยเลอร์ล่างกันชนหน้า (Front Spoiler หรือ Air Dam) หรือ ที่เราๆเรียกกันว่าลิปหน้าจะเป็นชิ้นส่วนที่ติดตั้งใต้กันชนหน้า เพื่อป้องกันอากาศเข้าสู่ใต้ท้องรถมากเกินไป ซึ่งอาจทำให้เกิดแรงยกและทำให้รถเสียการทรงตัว

2. สปอยเลอร์ขนาดเล็กท้ายรถ

สปอยเลอขนาดเล็กท้ายรถ หรือ ที่สายแต่รถจะเรียกกันว่า Duck Tail เพราะทรงมันเหมือนก้นเป็ด จะติดตั้งอยู่ที่ขอบฝากระโปรงท้าย มีขนาดเล็ก เน้นเพื่อความสวยงาม จะแตกต่างจากสปอยเลอร์ทั่วไปตรงที่ตัวนี้จะยึดติดกับตัวฝาท้ายกระโปรงรถเลย โดยไม่มีช่องว่าง แต่หากออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ สามารถช่วยลดแรงต้านอากาศได้ดีมากๆ

3. สปอยเลอร์ทรงเตี้ยท้ายรถ

ติดตั้งบนฝากระโปรงท้าย ช่วยเพิ่มแรงกดเล็กน้อย ทำให้ท้ายรถนิ่งขึ้นขณะขับด้วยความเร็วสูง และเพิ่มความสปอร์ตให้กับรถ ตัวสปิยเลอร์ทรงเตี้ยนี้จะแตกต่างจากตัว Duck Tail ตรงที่จะมีช่องระหว่างสปอยเลอร์จากฝาท้ายนิดหน่อย จะเป็นทรงสปอยเลอร์ที่ยกขึ้นมาเล็กน้อย

4. สปอยเลอร์บนหลังคารถ

หลายคนคงสงสัยว่าทำไมเค้าถึงติดสปอยเลอร์บนหลังคากัน และ มันจะช่วยยังไง โดยส่วนใหญ่แล้วเค้าจะติดบนหลังคาแต่ส่วนท้าาย นิยมติดตั้งบนรถแฮทช์แบ็กเพื่อบังคับทิศทางอากาศ ลดแรงต้านและลมหมุนด้านท้ายรถ โดยส่วนใหญ่

5. สปอยเลอร์สำหรับรถแข่ง

สปอยเลอร์หลังรถแข่ง หรือ GT Wing เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มแรงกดให้กับรถแข่ง ทำให้รถยึดเกาะถนนได้ดีขึ้น โดยเฉพาะเวลาขับเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง มันทำงานโดยควบคุมการไหลของลมที่ผ่านตัวรถ เพื่อลดแรงยกและเพิ่มการทรงตัว ไม่ให้ท้ายรถปัดหรือเสียการควบคุม

การติดตั้งสปอยเลอร์ต้องปรับองศาให้เหมาะสม ถ้าปีกชันมากขึ้น รถจะยิ่งเกาะถนนดีขึ้น แต่ก็อาจทำให้ความเร็วสูงสุดลดลงเล็กน้อย โดยวัสดุที่ใช้ทำสปอยเลอร์จะเป็นคาร์บอนไฟเบอร์หรืออลูมิเนียมเพราะมีน้ำหนักเบาและแข็งแรง ซึ่งโดยส่วนใหญ่ คนเล่นรถทั่วไปจะติดกันเพราะเรื่องของความเร็ว และ ความเท่ห์ในการแต่งรถด้วย โดยสปอยเลอร์ตัวนี้จะตั้งอยู่ตรงท้ายรถแบบยกสูง หรือ สูงมากๆ มองผ่านๆแล้วรู้เลยว่าคันนี้ทรงรถแรง

ติดสปอยเลอร์รถยนต์ถูกกฎหมายจริงไหม?

การติดตั้งสปอยเลอร์สามารถทำได้ แต่ต้องอยู่ในขอบเขตของกฎหมายจราจร หากสปอยเลอร์มีขนาดใหญ่เกินไป อาจถูกพิจารณาว่าเป็นอุปกรณ์ที่อาจเป็นอันตรายต่อผู้ใช้ถนนคนอื่น และอาจถูกเจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้ ดังนั้นก่อนติดตั้งสปอยเลอร์เท่ห์ๆ ควรตรวจสอบข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในอนาคต

สปอยเลอร์ จำเป็นหรือแค่ของแต่ง?

ขึ้นอยู่กับลักษณะการขับขี่ของเจ้าของรถ หากใช้รถขับขี่ในชีวิตประจำวันทั่วไปและไม่ได้ขับด้วยความเร็วสูง สปอยเลอร์อาจเป็นเพียงอุปกรณ์แต่งรถเพื่อความสวยงาม แต่หากเป็นรถแข่งหรือรถที่ต้องขับขี่ด้วยความเร็วสูง การติดสปอยเลอร์ที่ออกแบบอย่างเหมาะสมจะช่วยเพิ่มสมรรถนะการขับขี่ ทำให้รถเกาะถนนและปลอดภัยมากขึ้น

รถมือสอง one2car

โหลดหรือยัง? แอป one2car - NEXT GEN! CAR APP

  • Smart Search: หารถง่าย ฟังก์ชันครบ ข้อมูลชัด!

  • Qualified Car: รถคุณภาพ ตรวจสภาพแล้ว พร้อมรายงานรถ

  • Most Trusted Seller: คัดผู้ขายให้แล้ว ไม่ต้องกลัวมิจฉาชีพ

  • Hot Deals: พบกับ Big Sale ลดแรงทุกเดือน!

  • My Garage: ระบบผู้จัดการส่วนตัวให้รถคุณ ทุกเรื่องรถ จบในที่เดียว

  • Car Tax Renawal: ต่อภาษีรถยนต์สะดวกกว่าที่เคย ไม่ต้องกลัวลืม

  • Car Price: อยากขายรถแต่ไม่รู้ราคา เช็กเลย! รู้ผลใน 1 นาที ต้องการขายก็ทำได้เลย

  • Car Financing: สินเชื่อรถมือสอง จัดไฟแนนซ์ง่ายกับ Partner ของเรา พร้อมข้อเสนอพิเศษ

  • Car Insurance: เปรียบเทียบเบี้ย ต่อประกันรถยนต์ พร้อมดีลสุดพิเศษจากบริษัทชั้นนำ

  • Extended Warranty: ประกันอะไหล่รถ หมดห่วงเรื่องอะไหล่รถมือสอง

  • one2car Story: คลิปรีวิวรถจากคนขาย คอนเทนต์เกี่ยวกับยานยนต์

Apple Store : https://bit.ly/o2c_apple_store

Google Play Store : https://bit.ly/o2c_Google_Play_Store

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง one2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com


ฟิล์มติดรถยนต์เป็นหนึ่งในสิ่งที่สำคัญของรถเลยก็ว่า หากใครกำลังเลือกอยู่ว่าจะติดฟิล์มปรอทหรือฟิล์มเซรามิกดี วันนี้เราก็จะพามาทำความเข้าใจว่า ฟิล์มปรอท กับ เซรามิก ต่างกันยังไง ให้ทราบกัน


ฟิล์มปรอท กับ เซรามิก ต่างกันยังไง

ฟิล์มปรอท คืออะไร?

ฟิล์มปรอท คือฟิล์มติดรถยนต์กรองแสงที่มีวัสดุหลักในการทำเป็นโลหะ ซึ่งโลหะมีคุณสมบัติในเรื่องของการป้องกันความร้อน การสะท้อนแสงและป้องกันความร้อนสูงกว่าฟิล์มประเภทอื่น ๆ ฟิล์มประเภทนี้มีชั้นเคลือบโลหะ เช่น อะลูมิเนียม ไทเทเนียม หรือเงิน ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสะท้อนแสงแดดออกจากตัวรถ ทำให้ภายในรถเย็นลง

ถึงแม้ว่าจะใช้ชื่อว่าฟิล์มปรอท แต่ต้องขอบอกก่อนว่าฟิล์มประเภทนี้จะไม่มีส่วนผสมของปรอทในการผลิตเลย เพราะอย่างที่ทราบกันดีกว่าปรอทนั้นจะเป็นอันตรายต่อร่างกายของมนุษย์โดยเฉพาะต่อระบบประสาทและสมอง เพราะฉะนั้นจึงมั่นใจได้ว่าฟิล์มประเภทนี้ไม่มีสารพิษและไม่เป็นอันตรายใดๆ นั่นเอง

อ่านเพิ่มเติม : ติดฟิล์มรถยนต์ ความเข้มเท่าไรถึงดีและปลอดภัย

ฟิล์มปรอท คืออะไร

ฟิล์มปรอท ดีไหม ดียังไง?

  1. การป้องกันความร้อนได้ดี เนื่องจากฟิล์มปรอทมีคุณสมบัติในการสะท้อนรังสีอินฟราเรด (IR) ได้สูงถึง 50-75% ซึ่งเป็นรังสีความร้อนจากแสงอาทิตย์ทำให้สามารถช่วยลดอุณหภูมิภายในรถยนต์ได้ดี และยังช่วยลดการทำงานของเครื่องปรับอากาศ ช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงอีกด้วย

  2. ฟิล์มปรอทสามารถป้องกันรังสี UV ได้มากกว่า 99% ซึ่งเป็นสาเหตุของมะเร็งผิวหนัง ฝ้า กระ จุดด่างดำ และริ้วรอยก่อนวัย และยังช่วยป้องกันการซีดจางของเบาะหนัง คอนโซล และอุปกรณ์ภายในรถยนต์ด้วยเช่นกัน

  3. ฟิล์มปรอทจะช่วยในเรื่องของลดการมองเห็นจากภายนอกได้ เพราะฟิล์มประเภทนี้จะมีลักษณะสะท้อนแสงคล้ายกระจกเงา ทำให้มองจากภายนอกเข้าไปในรถได้ยาก ทำให้ช่วยป้องกันการมองเห็นทรัพย์สินภายในรถ ลดโอกาสในการถูกโจรกรรม

  4. ลดแสงจ้า และ ลดแสงสะท้อน ฟิล์มปรอทจะช่วยลดแสงสะท้อนจากแสงแดด ไฟหน้ารถยนต์ และพื้นผิวถนน ทำให้เพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ ทำให้การขับขี่สบายตาขึ้น โดยเฉพาะในเวลากลางวันหรือขับรถย้อนแสง

  5. เพิ่มความแข็งแรงของกระจก อีกหนึ่งคุณสมบัติของฟิล์มประเภทนี้ก็คือช่วยป้องกันการแตกกระจายในกรณีที่กระจกแตก ฟิล์มจะช่วยยึดเศษกระจกไว้ ไม่ให้กระจาย ลดอันตรายจากอุบัติเหตุ และช่วยลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บจากเศษกระจก

ข้อเสียของฟิล์มปรอท

แม้ว่าฟิล์มปรอทจะมีข้อดีมากมายแต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีข้อเสียเลย ซึ่งฟิล์มปรอทก็มีข้อเสียด้วยเหมือนกัน ดังนี้

  1. ฟิล์มปรอทอาจจะไปรบกวนสัญญาณดิจิทัลได้ เช่น สัญญาณ GPS ทำให้ระบบนำทางทำงานผิดพลาด หรือ ค้นหาตำแหน่งได้ช้าลง หรือ อาจรบกวนการรับ-ส่งสัญญาณ Easy Pass ทำให้ไม่สามารถผ่านช่องทาง Easy Pass ได้

  2. ลดทัศนวิสัยในการขับขี่เวลากลางคืน เนื่องจากพื้นผิวของฟิล์มปรอทที่สะท้อนแสง อาจทำให้เกิดแสงสะท้อนจากไฟหน้ารถที่สวนทาง หรือ แสงไฟจากเสาไฟฟ้า

  3. อายุการใช้งานสั้นกว่าฟิล์มอื่นๆ หากเลือกใช้คุณภาพต่ำ ฟิล์มปรอทก็จะเกิดปัญหา สีซีดจาง หรือ ลอกหลุด ได้เร็วเมื่อโดนแสงแดดจัดเป็นเวลานาน

ฟิล์มเซรามิก คืออะไร

ฟิล์มเซรามิก คืออะไร

ฟิล์มเซรามิก เป็นฟิล์มติดรถยนต์ที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงในการเคลือบชั้นฟิล์มด้วยอนุภาคเซรามิกขนาดนาโน ซึ่งไม่มีส่วนผสมของโลหะ เมื่อมองจากข้างนอกจะมืดสนิทไม่สามารถมองเห็นด้านในได้ แต่เมื่อมองจากด้านในออกไปข้างนอกจะสามารถมองเห็นได้สว่างชัดเจนและสบายตา ทำให้สามารถกันความร้อนสูงโดยไม่รบกวนสัญญาณดิจิทัล เช่น GPS, Wi-Fi หรือสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเป็นฟิล์มที่นิยมกันมากในปัจจุบัน

ฟิล์มเซรามิก ดีไหม?

  1. กันความร้อนได้ดีมาก เพราะฟิล์มเซรามิกสามารถกันรังสีอินฟราเรด (IR) ได้สูงถึง 80-95% ซึ่งช่วยลดอุณหภูมิภายในรถยนต์หรืออาคารได้อย่างมีประสิทธิภาพทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานน้อยลง ประหยัดพลังงานและเชื้อเพลิง

  2. ป้องกันรังสี UVA และ UVB ได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งปกป้องได้ถึง 99% เลยทีเดียว ทำให้สามารถช่วยปกป้องผิวหนังและลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคผิวหนังจากแสงแดดได้

  3. ฟิล์มเซรามิกจะไม่มีส่วนผสมของโลหะจึงทำให้ไม่รบกวนสัญญาณดิจิทัล โดยฟิล์มบางประเภทอย่างเช่น ฟิล์มปรอท อาจส่งผลกระทบต่อสัญญาณ GPS, Wi-Fi, Bluetooth และสัญญาณโทรศัพท์มือถือได้ แต่เพราะฟิล์มเซรามิกไม่มีโลหะเป็นส่วนประกอบจึงทำให้สามารถใช้ระบบนำทางและการสื่อสารได้อย่างราบรื่นนั่นเอง

  4. ฟิล์มเซรามิกมีความทนทานที่ดีเยี่ยม โดยทั่วไปแล้วฟิล์มเซรามิกจะมีอายุการใช้งานเฉลี่ย 10-15 ปี และไม่เสื่อมคุณภาพง่ายเหมือนฟิล์มย้อมสีที่อาจซีดจางภายใน 2-3 ปี

ฟิล์มเซรามิก ข้อเสีย

ฟิล์มเซรามิก ข้อเสีย มีอะไรบ้าง?

ข้อเสียของฟิล์มเซรามิกมีอยู่อยางเดียวเลย คือราคาสูงกว่าฟิล์มทั่วไป เพราะเนื่องจากฟิล์มเซรามิกมีต้นทุนการผลิตที่สูง ทำให้ราคาสูงกว่าฟิล์มชนิดอื่น ซึ่งราคาของฟิล์มเซรามิกเริ่มต้นที่ 5,000 - 20,000 บาท สำหรับรถยนต์ และ 10,000 - 50,000 บาท สำหรับอาคาร ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและคุณสมบัติของฟิล์ม

ฟิล์มปรอท กับ ฟิล์มเซรามิก ติดแบบไหนดีกว่า

หากต้องการฟิล์มที่ป้องกันความร้อนได้ดีและต้องการฟิล์มติดรถยนต์ที่ราคาไม่แพง และเน้นความเป็นส่วนตัว ฟิล์มปรอทอาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม แต่ถ้าหากว่าหากต้องการฟิล์มที่สามารถป้องกันความร้อนได้ดีเยี่ยม ทัศนวิสัยชัดเจน ไม่รบกวนสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ และมีงบประมาณที่สูงกว่า ฟิล์มเซรามิกจะถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า แต่ก็มีราคาที่ค่อนข้างสูง

สรุป

ฟิล์มปรอทเน้นการสะท้อนความร้อนและเพิ่มความเป็นส่วนตัว แต่มีข้อจำกัดเรื่องทัศนวิสัยและสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนฟิล์มเซรามิกเน้นการป้องกันความร้อนด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง ทัศนวิสัยชัดเจน และไม่รบกวนสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ แต่มีราคาสูงกว่า เพราะฉะนั้นการเลือกฟิล์มขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณของผู้ใช้เป็นหลัก

รถมือสอง one2car

โหลดหรือยัง? แอป one2car - NEXT GEN! CAR APP

  • Smart Search: หารถง่าย ฟังก์ชันครบ ข้อมูลชัด!

  • Qualified Car: รถคุณภาพ ตรวจสภาพแล้ว พร้อมรายงานรถ

  • Most Trusted Seller: คัดผู้ขายให้แล้ว ไม่ต้องกลัวมิจฉาชีพ

  • Hot Deals: พบกับ Big Sale ลดแรงทุกเดือน!

  • My Garage: ระบบผู้จัดการส่วนตัวให้รถคุณ ทุกเรื่องรถ จบในที่เดียว

  • Car Tax Renawal: ต่อภาษีรถยนต์สะดวกกว่าที่เคย ไม่ต้องกลัวลืม

  • Car Price: อยากขายรถแต่ไม่รู้ราคา เช็กเลย! รู้ผลใน 1 นาที ต้องการขายก็ทำได้เลย

  • Car Financing: สินเชื่อรถมือสอง จัดไฟแนนซ์ง่ายกับ Partner ของเรา พร้อมข้อเสนอพิเศษ

  • Car Insurance: เปรียบเทียบเบี้ย ต่อประกันรถยนต์ พร้อมดีลสุดพิเศษจากบริษัทชั้นนำ

  • Extended Warranty: ประกันอะไหล่รถ หมดห่วงเรื่องอะไหล่รถมือสอง

  • one2car Story: คลิปรีวิวรถจากคนขาย คอนเทนต์เกี่ยวกับยานยนต์

Apple Store : https://bit.ly/o2c_apple_store

Google Play Store : https://bit.ly/o2c_Google_Play_Store

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง one2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com


เกรดน้ำมันเครื่องแต่ละแบบก็มีคุณภาพที่แตกต่างกัน การเลือกเกรดน้ำมันเครื่องให้เหมาะสมกับรถยนต์แต่ละประเภทจึงจะส่งผลให้การขับขี่มีประสิทธิภาพ ช่วยรักษาเครื่องยนต์ และยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ มาดูกันว่ารถยนต์แต่ละประเภทควรใช้น้ำมันเครื่องเกรดไหนกันบ้าง


วิธีการเลือกเกรดน้ำมันเครื่องให้เหมาะกับรถ มีอะไรบ้าง ?

รถยนต์ทั่วไป (รถเก๋ง, ซีดาน, แฮทช์แบค) 

ถ้ารถเก๋ง, ซีดาน หรือแฮทช์แบคให้ดีควรเลือกใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ (Fully Synthetic) หากต้องการประสิทธิภาพสูงและมีงบประมาณในการเปลี่ยน แต่หากต้องการความประหยัดน้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ (Semi-Synthetic) ก็เป็นตัวเลือกที่ดีซึ่งจะเหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปหรือรถที่มีอายุการใช้งานมานาน

สำหรับเครื่องยนต์เบนซินแนะนำให้ใช้ น้ำมันเครื่องเบอร์ 0W-20, 5W-30 หรือ 10W-30 ถ้าเป็นรถใหม่ ใช้ 0W-20 หรือ 5W-30 รถที่เริ่มมีอายุใช้งาน (5 ปีขึ้นไป) ใช้ 10W-30 เครื่องยนต์ดีเซลควรใช้ 10W-30 หรือ 15W-40 หรือขึ้นอยู่กับคำแนะนำของผู้ผลิตหรือศูนย์ซ่อมบำรุง

กเกรดน้ำมันเครื่องรถเก๋ง

รถ SUV / PPV / กระบะ ใช้งานทั่วไปหรือรถครอบครัว

หากมีงบประมาณก็จัดน้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ไปเลย เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพที่ต้องการประสิทธิภาพสูง โดยเฉพาะการใช้งานหนัก ๆ ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างราบรื่นและลดการสึกหรอ สำหรับน้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ (Semi-Synthetic) เหมาะกับรถที่ใช้งานทั่วไปไม่หนักมาก

ส่วนใหญ่แล้วรถประเภทกระบะ หรือ PPV มักจะเป็นเครื่องดีเซลแนะนำให้ใช้ 10W-30, 15W-40 หากเป็นเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบจัด 5W-40 ได้เลย หากขับตอนกลางวันอากาศร้อนหรือขนของบ่อยเลือกเบอร์ที่หนืดขึ้น เช่น 15W-40 จะดีกว่า สำหรับเครื่องยนต์เบนซินให้ใช้ 5W-30 หรือ 10W-30

กเกรดน้ำมันเครื่องรถSUV

รถบรรทุกหนักใช้งานหนัก

เพื่อป้องกันการสึกหรอของเครื่องยนต์และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ควรใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ไปเลยจะดีที่สุด ซึ่งจะมีการหล่อลื่นที่ดี และมีความทนทานในสภาพการทำงานที่หนักในทุก ๆ วัน อีกทั้งยังช่วยป้องกันการสึกหรอ และรักษาความสะอาดของเครื่องยนต์ได้ดีกว่าด้วย

รถกระบะบรรทุกหนักจะเป็นเครื่องยนต์ดีเซลทั้งหมด การเลือกน้ำมันเครื่องที่มีความหนืดสูง เช่น 15W-40 หรือ 20W-50 จะช่วยให้เครื่องยนต์ทนทานต่ออุณหภูมิที่สูงและการใช้งานที่หนักหน่วงได้ดี

บทความแนะนำ กรองน้ำมันเครื่องคือ? ทำหน้าที่อะไร ควรเปลี่ยนตอนไหน

เกรดน้ำมันเครื่องกระบะ

รถสมรรถนะสูง รถสปอร์ต

แน่นอนว่าเครื่องยนต์ในรถประเภทรถสปอร์ต มักมีเครื่องยนต์และการทำงานซับซ้อน ซึ่งต้องการเกรดน้ำมันเครื่องที่ดีที่สุด เพื่อประสิทธิภาพสูงต่อการตอบสนองการขับขี่ที่เร็วและแรง น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ ซึ่งจะช่วยให้เครื่องยนต์สะอาด ทนทานต่ออุณหภูมิสูงและการสึกหรอ ที่สำคัญช่วยให้การขับขี่มีความราบรื่น ขับขี่สมูท ไม่มีสะดุด

เกรดน้ำมันเครื่องที่แนะนำสำหรับเครื่องเบนซิน คือ 0W-40, 5W-40, หรือ 5W-50 เครื่องดีเซล 5W-40, 5W-50 หรือ 10W-60 จะช่วยให้เครื่องยนต์ ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ และทนความร้อนสูงเมื่อขับในความเร็วสูง โดยเฉพาะในสนามแข่งหรือขับในสภาพที่เครื่องยนต์ทำงานหนักต้องเลือกเกรดที่ดีที่สุดเท่านั้น

เกรดน้ำมันเครื่องสปอร์ต

รถยนต์ไฮบริด 

น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเครื่องยนต์ในรถไฮบริด แต่หากคุณต้องการตัวเลือกที่ประหยัดกว่าน้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ สามารถใช้น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์แทนได้ ซึ่งจะเหมาะกับการใช้งานทั่วไปไม่หนักมาก หรือเป็นคนไม่ขับรถในความเร็วสูง ๆ ก็จะช่วยประหยัดเงินไปเยอะเลยทีเดียว

ไฮบริด (Hybrid) การใช้เกรดน้ำมันเครื่องเบอร์เบาในเครื่องยนต์ เช่น 0W-20 หรือ 0W-16 โดยเฉพาะ 0W-16 เป็นน้ำมันเครื่องเบอร์เบาที่บางกว่า 0W-20 ซึ่งมักจะใช้ในรถยนต์ไฮบริดรุ่นใหม่ ๆ ที่เน้นการประหยัดน้ำมันเป็นหลัก

บทความแนะนำ ไม่ถ่ายน้ำมันเครื่องจะเกิดอะไรขึ้น ผลเสียที่คุณต้องรู้

เกรดน้ำมันเครื่อง

ไฟฟ้า (EV) ต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องหรือไม่ ?

อย่างที่รู้รถยนต์ไฟฟ้าทำงานด้วยไฟฟ้าล้วน 100 % ทำให้เครื่องยนต์ของรถประเภทนี้ไม่ต้องใช้น้ำมันเครื่องสำหรับเครื่องยนต์เช่นเดียวกับรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินหรือดีเซล จึงไม่จำเป็นต้องใช้น้ำมันเครื่องในการหล่อลื่นเครื่องยนต์เหมือนกับรถยนต์ทั่วไปนั่นเอง

สรุป

การเลือกใช้เกรดน้ำมันเครื่องหากให้ดีให้ชัวร์ ควรเลือกน้ำมันเครื่องที่ตรงตามคำแนะนำของผู้ผลิตรถหรือช่างที่เชี่ยวชาญไม่ว่าจะในศูนย์ให้บริการหรืออู่ซ่อมรถทั่วไป เพื่อขอคำแนะนำในการเลือกเกรดน้ำมันเครื่องที่ใช้ โดยคุณสามารถบอกลักษณะการใช้งานของรถที่เจาะจงไปเลย เช่น ใช้งานหนักเป็นประจำ หรือแทบจะไม่ใช้งานเลย และอื่น ๆ เพื่อให้ช่างช่วยแนะนำน้ำมันเครื่องที่เหมาะสมกับการใช้งานของคุณมากที่สุดและดีต่อเครื่องยนต์มากที่สุด 

รถมือสอง one2car

โหลดหรือยัง? แอป one2car - NEXT GEN! CAR APP

  • Smart Search: หารถง่าย ฟังก์ชันครบ ข้อมูลชัด!

  • Qualified Car: รถคุณภาพ ตรวจสภาพแล้ว พร้อมรายงานรถ

  • Most Trusted Seller: คัดผู้ขายให้แล้ว ไม่ต้องกลัวมิจฉาชีพ

  • Hot Deals: พบกับ Big Sale ลดแรงทุกเดือน!

  • My Garage: ระบบผู้จัดการส่วนตัวให้รถคุณ ทุกเรื่องรถ จบในที่เดียว

  • Car Tax Renawal: ต่อภาษีรถยนต์สะดวกกว่าที่เคย ไม่ต้องกลัวลืม

  • Car Price: อยากขายรถแต่ไม่รู้ราคา เช็กเลย! รู้ผลใน 1 นาที ต้องการขายก็ทำได้เลย

  • Car Financing: สินเชื่อรถมือสอง จัดไฟแนนซ์ง่ายกับ Partner ของเรา พร้อมข้อเสนอพิเศษ

  • Car Insurance: เปรียบเทียบเบี้ย ต่อประกันรถยนต์ พร้อมดีลสุดพิเศษจากบริษัทชั้นนำ

  • Extended Warranty: ประกันอะไหล่รถ หมดห่วงเรื่องอะไหล่รถมือสอง

  • one2car Story: คลิปรีวิวรถจากคนขาย คอนเทนต์เกี่ยวกับยานยนต์

Apple Store : https://bit.ly/o2c_apple_store

Google Play Store : https://bit.ly/o2c_Google_Play_Store

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง one2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com


รู้หรือไม่ Honda CR-V เครื่องดีเซล ก็มีนะ แต่ว่าเป็น GEN ไหน น่าเล่นกว่าเครื่องยนต์เบนซินไหม วันนี้เดี๋ยวเราพาไปหาคำตอบกัน!


Honda CR-V เจนฯ ไหน มีเครื่องดีเซล?

Honda CR-V เจนฯ ไหน มีเครื่องดีเซล?

หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อนว่า Honda CR-V มีเครื่องยนต์ดีเซลกับเขาด้วย เพราะที่ผ่านมา เราจะเห็นว่าใครพูดถึง CR-V ก็จะนึกถึงแต่เครื่องเบนซิน จนเจนฯ ล่าสุดมีเครื่องยนต์ Full Hybrid เข้ามาเสริมทัพก็เบนซิน แต่มันจะมีอยู่เจนฯ นึงที่อยู่ๆ ก็มีเครื่องยนต์ดีเซลโผล่มาซะงั้น!

Honda CR-V ที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี้ คือ Honda CR-V GEN 5 โฉมปี 2017-2021 หรือก็คือ รุ่นก่อนโฉมปัจจุบัน ซึ่งปกติแล้ว Honda CR-V จะมาพร้อมกับขุมพลังเบนซิน 2.4 ลิตร จะขับ 4 ขับ 2 ก็ค่อยมาดูแต่ละรุ่นย่อย แต่พอเปิดตัว GEN 5 ปึ๊บ ทุกคนว้าว เพราะมันมากับรุ่นย่อยที่วางขุมพลังดีเซล 1.6 ลิตร Diesel i-DTEC Common-Rail Turbo

อ่านเพิ่มเติม : เครื่อง NA คืออะไร ต่างจาก Turbo ยังไง เลือกแบบไหนดี

Honda CR-V เครื่องดีเซล มือสอง

ต้องบอกแบบนี้ก่อน เครื่องยนต์ดีเซลใน CR-V ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ในสายตาโลก แต่เป็นเรื่องแปลกใหม่ในสายตาคนไทยตอนนั้น เพราะในต่างประเทศ CR-V เครื่องยนต์ดีเซลมีมานานแล้ว แล้วที่ต่างประเทศเขาก็บอกเลยว่าของโคตรดี

คนไทยบางกลุ่มก็มีความโหยหา CR-V เครื่องดีเซล แต่เอาจริงเครื่องดีเซลในรถ SUV เนี่ย เป็นไปได้ยากมากสำหรับไทย เพราะนอกจากจะต้องมาชน NIssan X-Trail กับ Mazda CX-5 แล้ว ยังต้องชนกับรถ PPV ที่ฮิตติดตลาดไทยด้วย แต่ Honda เห็นว่ามีคนต้องการและอยากได้รถ SUV ที่สมรรถนะแบบเครื่องดีเซล พี่ Honda ก็เซย์โอเค เซย์เยสเอามาลองเลยแล้วกัน!

อ่านเพิ่มเติม : รีวิว Honda CR-V GEN 5 (2017-2021) มือสอง ยังน่าซื้ออยู่ไหม

เครื่องยนต์ของ Honda CR-V Diesel

เครื่องยนต์ของ Honda CR-V 1.6 Diesel Turbo

Honda CR-V i-DTEC ใช้เครื่องยนต์ดีเซล i-DTEC Commonrail ขนาด 1.6 ลิตร Twin Turbo กำลังสูงสุด 160 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที

จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ ZF มีให้เลือกทั้งขับเคลื่อน 2 ล้อ FWD และ ขับเคลื่อน 4 ล้อ Real-time AWD และเป็นรุ่นเดียวที่มาพร้อมเกียร์แบบปุ่มกดไฟฟ้า ซึ่งค่อนข้างล้ำสมัยและให้ความสะดวกสบายในการใช้งานมาก

เครื่องยนต์ของ Honda CR-V Diesel

ข้อมูลพละกำลัง

CR-V ดีเซล 1.6 ลิตร Twin Turbo

CR-V เบนซิน 2.4 ลิตร NA

แรงม้า

160 แรงม้า

173 แรงม้า

แรงม้าที่ รอบ/นาที

4,000 รอบ/นาที

6,200 รอบ/นาที

แรงบิด

350 นิวตันเมตร

224 นิวตันเมตร

แรงบิดที่ รอบ/นาที

2,000 รอบ/นาที

4,000 รอบ/นาที

เกียร์

อัตโนมัติ 9 จังหวะ ZF

อัตโนมัติ CVT

เมื่อลองเทียบกับตัวเครื่องยนต์เบนซิน 2.4 ลิตร ก็จะพบกว่าเครื่องดีเซลพละกำลังน้อยกว่า แต่แรงบิดเยอะกว่าตามสไตล์ของเครื่องยนต์ดีเซลเลย แต่สิ่งที่สำคัญเลยก็คือ แรงม้า 160 แรงม้า มันมาตอน 4,000 รอบ/นาที แต่เครื่องเบนซิน 173 แรงม้า มาตอน 6,200 รอบ/นาที แปลว่าจริงๆ แล้วเครื่องดีเซลก็แรงอยู่นะทำเป็นเล่นไป

อ่านเพิ่มเติม : แรงม้าคืออะไร ต่างจากแรงบิดหรือไม่?

เครื่องยนต์ของ Honda CR-V 1.6 Diesel Turbo

อีกจุดที่ทำให้แตกต่างคือแรงบิด เครื่องดีเซลแรงบิดมาเต็มๆ ตั้งแต่ 2,000 รอบ/นาที แต่เครื่องเบนซินต้องฟาดไปถึง 4,000 รอบ/นาที แปลว่าความคล่องตัวของ CR-V เครื่องดีเซลจะสูงกว่าและมีกำลังที่ดีกว่าตั้งแต่ต้น ต่างจากตัวเบนซินที่เน้นขับไหลๆ นิ่งๆ

แต่รุ่นดีเซลได้เกียร์ออโต้ ZF แบบ 9 จังหวะ ซึ่งนั่นหมายความว่า CR-V เครื่องดีเซลจะใช้งานแบบลุยๆ ได้ดีกว่าแน่นอน เพราะ CVT มันได้ความต่อเนื่องก็จริงแต่เปราะบางมาก ซิ่งที่ดีกว่าเครื่องเบนซินก็คือพละกำลังและตัวเกียร์ของเขานี่แหละบอกเลย

อ่านเพิ่มเติม : เกียร์ออโต้ มีกี่แบบ? แต่ละแบบมีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง

ข้อดีที่ทำให้ Honda CR-V เครื่องดีเซล น่าซื้อ

ข้อดีที่ทำให้ Honda CR-V เครื่องดีเซล น่าซื้อ

เอาจริงๆ สำหรับ CR-V ตอนนั้นเครื่องดีเซลอาจเป็นเรื่องแปลกใหม่ คนเลยไม่กล้าซื้อกันเท่าไหร่ แต่ถ้ามองไปตอนนั้นมีคู่แข่งคือ Mazda CX-5 เครื่องดีเซลอยู่นะ ก็ถือว่าไม่ได้แปลกมากที่รถ SUV จะมีเครื่องยนต์ดีเซล

แต่คือ CR-V เปิดมาราคาโคตรจะแพง CR-V เครื่องดีเซลตัวเริ่มต้นรุ่น E ขับ 2 ราคา 1,559,000 บาท ส่วนรุ่น EL ขับ 4 ปาไป 1,699,000 บาท พอดูออปชั่นต่างๆ ด้วยแล้วคนเลยเลือก Mazda CX-5 ที่ต้องบอกว่าแพงเหมือนกันแต่ก็แรงกว่า

บางคนก็ถึงกับบอกว่ารอ CX-5 เจนฯ ถัดไปที่กำลังจะมาถึง แพงพอกันแต่ออปชั่นล้นกว่าสวยกว่า บางคนคิดว่าไม่มั่นใจก็หันไปเครื่องเบนซินที่คุ้นเคยกันใน CR-V ดีกว่า แต่พอเป็นมือสอง ราคาน่าสนใจมากนะ!

CR-V มือสอง เครื่องดีเซล กี่โลลิตร?

CR-V มือสอง เครื่องดีเซล กี่โลลิตร?

จุดเด่นของเครื่องดีเซลนอกจากว่าพละกำลังจะดีและให้ความคล่องตัวสูงทั้งทางดำและทางฝุ่นแล้วก็ยังมีเรื่องอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงด้วย ซึ่งอย่างที่ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าเครื่องดีเซลประหยัดมากกว่า Honda CR-V เครื่องดีเซล

การใช้งานใช้งานในเมืองที่ต้องกดคันเร่งและเบรกค่อนข้างบ่อยรุ่นนี้ถ้าเทสกันออกมาจริงๆ หน้าจอจะแจ้งอยู่ราวๆ 12 กม./ล. ถ้านอกเมืองจะอยู่ราวๆ 13-14 กม./ล. เป็นตัวเลขที่ทำได้ดีกว่าตัวเครื่องเบนซินพอสมควร

CR-V มือสอง เครื่องดีเซล กี่โลลิตร?

ถ้าทางไกลในกลุ่มคนที่ขับรุ่นนี้กันจริงๆ จะบอกว่าอยู่ที่ 16 - 17 กม./ล. บางคนบอกว่าขับดีๆ ได้ถึง 18 กม./ล. เลย ซึ่งน้ำมันดีเซลเองก็ถูกกว่าเบนซินด้วย ทำให้ CR-V รุ่นเครื่องดีเซล มีทั้งความคล่องตัว และได้ทั้งประหยัดน้ำมันไปในตัวด้วย

ที่ประหยัดเพราะส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะว่าเครื่องเล็กแค่ 1.6 ลิตร ด้วยแหละ แต่ด้วยความที่ออปชั่นล้นเกินจึงทำให้น้ำหนักตัวเยอะกว่ารุ่นเบนซิน รุ่นดีเซลจะหนัก 1,742 กก. ส่วนเบนซินหนัก 1,613 กก.

Honda CR-V เครื่องดีเซล ใช้งานแบบลุยได้จริง!

Honda CR-V เครื่องดีเซล ใช้งานแบบลุยได้จริง!

ด้วยเครื่องดีเซลที่พัฒนาภายใต้ Earth Dreams Technology ของ Honda มันทำให้เครื่องเล็กสามารถแรงเท่าเครื่องใหญ่ได้ แต่ประหยัดน้ำมันกว่า นั่นจึงทำให้น้ำหนักที่เยอะขึ้นไม่ได้มีผลอะไรกับ CR-V เครื่องดีเซล ซึ่งถ้าเทียบกับกลุ่มรถ PPV ถือว่าโอเคกว่าเลย

Honda CR-V เครื่องดีเซล ใช้งานแบบลุยได้จริง!

อีกทั้งตัว CR-V เครื่องดีเซล ยังเป็นรถ SUV แบบ 7 ที่นั่งด้วย ทำให้เขามีจุดเด่นที่สามารถแข่งขันกับรถ PPV ได้เลย และมันจะเป็นการสานฝันสายแคมป์ที่ชอบ Honda CR-V มาก เพราะว่าเครื่องดีเซลและเกียร์ออโต้ ZF ที่ได้มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD

สามารถใช้งานแบบลุยได้จริงๆ ใครที่ชอบ CR-V แต่มีไลฟ์สไตล์ในการแคมป์ปิ้งหรือท่องเที่ยวต่างจังหวัด บอกเลยว่าชิลล์ๆ

ระบบ Turbo ของ CR-V เครื่องดีเซล ของโคตรดี!

ระบบ Turbo ของ CR-V เครื่องดีเซล ของโคตรดี!

ระบบ Turbo แบบ 2 Stage Turbocharger ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่รวดเร็วและแม่นยำเพื่อให้การตอบสนองที่ดีในทุกรอบเครื่องยนต์มอบกำลังในรูปของแรงม้าแรงบิดได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย

ตัว Turbo ขนาดเดียวกันสองตัวจะทำงานต่างกัน ตัวนึงจะทำงานในรอบต่ำหรือ Low Pressure Turbo ส่วนอีกตัวหนึ่งจะทำงานในรอบสูงหรือ High Pressure Turbo

ระบบ Turbo ของ CR-V เครื่องดีเซล ของโคตรดี!

ทั้งสองตัวจะทำงานร่วมกันตั้งแต่เริ่มออกตัวในช่วงรอบต้น ช่วยลดการสูญเสียกำลังของเครื่องยนต์โดยไม่จำเป็น เพิ่มประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงเมื่อต้องการอัตราเร่งในช่วงรอบสูง Low Pressure Turbo ที่ควบคุมการทำงานผ่านเวสเกตไฟฟ้าจะช่วยเสริมการทำงานเพื่อให้ได้กำลังและแรงบิดที่สูงขึ้น

ในส่วนของ High Pressure Turbo และ Low Pressure Turbo จะสลับการทำงานในช่วงรอบกลางเมื่อใช้ความเร็วคงที่ เมื่อ Turbo แบบ 2 Stage ทำงานประสานกันจะเกิดประสิทธิภาพในด้านการเผาไหม้ที่ดีและให้การตอบสนองต่อการเร่งความเร็วได้กระชับฉับไว ทำให้ CR-V เครื่องดีเซลใช้งานได้อย่างครอบคลุม

CR-V เครื่องดีเซล เหมือน PPV แต่ขับดีกว่า!

CR-V เครื่องดีเซล เหมือน PPV แต่ขับดีกว่า!

แน่นอนว่าเป็นตัวถังแบบ SUV ก็จะได้ความนุ่มนวลที่มากกว่า PPV อยู่แล้ว อาการโคลงตัวออกน้อยกว่าและเกาะถนนดีกว่าแน่นอน และมันขับง่ายกว่า PPV เยอะเพราะได้พวงมาลัยไฟฟ้า ในตอนนั้น PPV ยังไม่มีใครได้พวงมาลัยไฟฟ้าเลย นอกจาก Ford ปัจจุบันก็มีแค่ Ford Everest และ Mu-X ตัวท็อป RS แค่นั้น

ถึงตัวรถจะเตี้ยกว่า PPV ไปหน่อย ความสูงจากพื้นถึงใต้ท้องรถ 208 มม. ก็พอจะลุยฝ่าน้ำท่วมขังและใช้งานแบบลุยทางฝุ่นทางลูกรังได้พอสมควรเลย แรงคล่องตัวแบบ PPV แถมยังมี 7 ที่นั่งเหมือน PPV ด้วยนะ

ข้อเสียของ CR-V เครื่องดีเซล

ข้อเสียของ CR-V เครื่องดีเซล

แน่นอนว่ามีข้อดีก็ต้องมีข้อเสีย ด้วยความที่เป็นรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล แม้จะถูกพัฒนามาอย่างดี แต่ก็มีเสียงเขกดังตามสไตล์เครื่องดีเซลนั่นแหละ ในรอบเดินเบาเมื่ออยู่นอกห้องโดยสารนั้นดังไปนิด แต่ถ้าอยู่ข้างในรถก็ไม่ค่อยได้ยินเท่าไหร่นะ แต่ถ้าเทียบกับรุ่นเครื่องเบนซิน มันก็ดังอยู่

เครื่องยนต์ที่ถูกวางแม้จะใช้ Turbo สองลูกเข้ามาช่วยกันแต่ก็ต้องบอกว่าตัวเครื่องที่ได้มันก็แอบเล็กไปหน่อย ถ้าได้เป็นดีเซล 2.0 ลิตร เนี่ยจะน่าสนใจกว่านี้ และน่าจะได้กำลังที่ดุร้ายขึ้นพอสมควรเลยสำหรับ CR-V เครื่องดีเซล แต่ถามว่า 1.6 ลิตร แค่นี้โอเคไหม ก็โอคนะ

ราคา Honda CR-V GEN 5 เครื่องดีเซล มือสอง

ราคา Honda CR-V GEN 5 เครื่องดีเซล มือสอง

ตอนเปิดตัว Honda CR-V i-DTEC รุ่น E ขับเคลื่อน 2 ล้อ ราคาอยู่ที่ 1,559,000 บาท ส่วนรุ่น EL ขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD ราคาอยู่ที่ 1,699,000 บาท ถือว่าแรงเอาเรื่อง ทำให้รุ่นนี้คนไม่ค่อยซื้อกันเลย ทั้งที่น่าสนใจมาก ในตลาดมือสองก็กลายเป็นของแรร์ราคาดีที่คนอยากหามาใช้กันไปแล้ว ซึ่งจะมีราคามือสองดังนี้

Honda CR-V GEN 5 ยังถือว่าเป็นรุ่นที่น่าใช้อยู่ ด้วยปีที่ไม่ลึก สภาพตัวรถจึงยังดีอยู่ แต่ราคากลับหายไปเกือบล้าน ถือว่าคุ้มค่าน่าซื้อมาเล่นมากครับ ใครกำลังหารถครอบครัวเครื่องดีเซลที่ขับง่ายกว่า PPV บอกเลย CR-V เครื่องดีเซลเป็นตัวเลือกที่ดี

รถมือสอง one2car

โหลดหรือยัง? แอป one2car - NEXT GEN! CAR APP

  • Smart Search: หารถง่าย ฟังก์ชันครบ ข้อมูลชัด!
  • Qualified Car: รถคุณภาพ ตรวจสภาพแล้ว พร้อมรายงานรถ
  • Most Trusted Seller: คัดผู้ขายให้แล้ว ไม่ต้องกลัวมิจฉาชีพ
  • Hot Deals: พบกับ Big Sale ลดแรงทุกเดือน!
  • My Garage: ระบบผู้จัดการส่วนตัวให้รถคุณ ทุกเรื่องรถ จบในที่เดียว
  • Car Tax Renawal: ต่อภาษีรถยนต์สะดวกกว่าที่เคย ไม่ต้องกลัวลืม
  • Car Price: อยากขายรถแต่ไม่รู้ราคา เช็กเลย! รู้ผลใน 1 นาที ต้องการขายก็ทำได้เลย
  • Car Financing: สินเชื่อรถมือสอง จัดไฟแนนซ์ง่ายกับ Partner ของเรา พร้อมข้อเสนอพิเศษ
  • Car Insurance: เปรียบเทียบเบี้ย ต่อประกันรถยนต์ พร้อมดีลสุดพิเศษจากบริษัทชั้นนำ
  • Extended Warranty: ประกันอะไหล่รถ หมดห่วงเรื่องอะไหล่รถมือสอง
  • one2car Story: คลิปรีวิวรถจากคนขาย คอนเทนต์เกี่ยวกับยานยนต์

Apple Store : https://bit.ly/o2c_apple_store

Google Play Store : https://bit.ly/o2c_Google_Play_Store

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง one2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com


อีกหนึ่งโรคที่ไม่ได้ร้ายแรงแต่รุนแรงสำหรับสายเดินทางคือ อาการเมารถ ซึ่งอาการเหล่านี้ต้อวบอกเลยว่า แล้วแต่คนเลยจริงๆ บางคนขับรถขึ้นเขา ลงเขา นั่งยังไงก็ไม่เป็นไร แต่ในทางกลับกัน ก็จะมีคนที่ไปแค่หน้าปากซอยก็มึนหัวแล้ว แต่จริงๆแล้วอาการเมารถสามารถบรรเทาและป้องกันได้ มาดู 7 เคล็ดลับแก้อาการเมารถที่ได้ผลจริง ช่วยให้คุณเดินทางได้แบบสบายๆ ไม่ต้องทนทรมานอีกต่อไป

วิธีแก้อาการเมาแบบเบื้องต้น

1. ปรับพฤติกรรมก่อนเดินทาง

อาการเมารถมักจะเกิดที่พฤติกรรมการนอนหรือการกิน อย่างแรกเลยถ้าไม่อยากให้เมา ต้องนอนให้พอ ถ้านอนไม่พอ ร่างกายจะล้า หัวก็จะมึน แล้วเมารถง่ายขึ้นอีก ที่สำคัญอย่าไปจัดหนักกับอาหารก่อนเดินทาง อะไรที่มันๆ เผ็ดๆ กินแล้วอาจกระตุ้นให้อาการเมารถมาไวขึ้น แนะนำให้ดื่มน้ำเยอะๆ ไว้ เพราะถ้าร่างกายขาดน้ำก็จะยิ่งเวียนหัวและเมารถง่ายกว่าเดิม

2. เลือกที่นั่งให้เหมาะสม

อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้หลายคนเมารถก็คือการเลือกที่นั่งผิดจุด ถ้าต้องนั่งรถยนต์หรือรถตู้ แนะนำให้นั่งเบาะหน้าเลย เพราะจุดนี้สั่นน้อยที่สุดและช่วยลดอาการเวียนหัวได้ดีทีเดียว แต่ถ้าเป็นรถบัส รถเมล์ หรือรถโดยสารคันใหญ่ๆ ลองเลือกที่นั่งบริเวณกลางคันรถ เพราะตรงนั้นจะมีการสั่นสะเทือนน้อยที่สุด ทำให้รู้สึกสบายกว่า และอีกทริคหนึ่งที่ช่วยได้คือมองไปข้างหน้า การมองวิวไกลๆ ช่วยให้สมองจับจังหวะการเคลื่อนไหวของรถได้ดีขึ้น ลดโอกาสเมารถไปได้อีกเยอะเลย

3. เลี่ยงสิ่งที่กระตุ้นอาการเมารถ

ถ้าไม่อยากเมารถง่ายๆ ระหว่างเดินทาง อย่าเอาแต่ก้มหน้าอ่านหนังสือหรือจ้องจอมือถือนาน ๆ นะ การเพ่งสายตาใกล้ ๆ แบบนี้ทำให้สมองสับสน รับรู้การเคลื่อนไหวผิดปกติ จนรู้สึกเวียนหัวได้ง่ายขึ้น นอกจากนั้น ควรเลี่ยงกลิ่นแรงๆ ด้วย อย่างพวกน้ำหอมฉุน ๆ หรือกลิ่นบุหรี่ เพราะกลิ่นพวกนี้อาจกระตุ้นให้อาการเมารถมาไวกว่าเดิม ถ้าเริ่มรู้สึกอึดอัดหรือเวียนหัว ลองเปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท หรือพกพัดลมตัวเล็กๆ ไปช่วยเป่าลมให้สดชื่นขึ้นก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยได้เหมือนกัน

4. ใช้ของกินลดอาการเมารถ

หากคุณเป็นคนที่มีอาการเมารถบ่อยๆ การเตรียมตัวอย่างอาหารเสริมจะสามารถช่วยบรรเทาอาการได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยหนึ่งในตัวช่วยจากที่เค้าบอกกันมาและได้รับการยอมรับว่ามีประสิทธิภาพในการลดอาการเมารถได้ดีจริงๆคือ ขิง ซึ่งมีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้และเวียนหัว การดื่มน้ำขิงอุ่นๆ ก่อนออกเดินทาง หรือพกขิงแห้งติดตัวไว้รับประทานระหว่างการเดินทาง จะช่วยให้อาการเมารถลดลงได้ 

นอกจากขิงแล้ว มะนาว ก็เป็นอีกตัวช่วยหนึ่งที่มีประโยชน์ไม่แพ้กัน กลิ่นหอมของมะนาวช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและบรรเทาอาการเวียนหัวได้ดี เพียงพกมะนาวฝานบางๆ ติดตัวไว้ หรือบีบน้ำมะนาวลงในน้ำดื่ม ก็ช่วยให้รู้สึกสดชื่นและลดอาการเมารถได้อีกทางหนึ่ง

อีกปัจจัยหนึ่งที่หลายคนอาจไม่รู้คือการขาด วิตามิน B6 ซึ่งอาจทำให้อาการเมารถแย่ลงได้ ดังนั้น การเลือกกินอาหารที่มีวิตามิน B6 สูง เช่น กล้วย อะโวคาโด และถั่ว จะเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยลดอาการเมารถได้อย่างดีเลย 

หากต้องการวิธีบรรเทาอาการเมารถแบบเร่งด่วน หาได้ง่ายๆ ลูกอมเปปเปอร์มินต์ ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ด้วยกลิ่นหอมเย็นสดชื่นที่ช่วยให้รู้สึกสบายและลดอาการเวียนหัวได้อย่างรวดเร็ว แถมยังหาซื้อได้ง่ายตามร้านสะดวกซื้อทั่วไปอย่าง 7-11

วิธีแก้เมารถแบบเร่งด่วน

ถ้าลองทั้งหมด 4 วิธีด้านบนแล้วยังไม่หายอีก แล้วอยากหาวิธีแก้แบบเร่งด่วน ต้องลองทำตามี้ อย่างแรกที่ทำได้ง่ายมากคือ จิบน้ำเย็น ค่อยๆ จิบทีละนิด อย่าดื่มรวดเดียวหมด เพราะการจิบน้ำเย็นจะช่วยให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นขึ้น และยังช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้ได้อีกด้วย แถมยังช่วยให้คอไม่แห้ง ซึ่งเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้รู้สึกเวียนหัวได้เหมือนกัน

อีกวิธีที่แนะนำเลยคือ การหายใจลึกๆ ลองสูดลมหายใจเข้าไปให้เต็มปอด จากนั้นค่อยๆหายใจออกช้าๆ วิธีนี้จะช่วยให้ร่างกายได้รับออกซิเจนมากขึ้น ทำให้สมองปลอดโปร่งและช่วยลดอาการเวียนหัวได้ดีเลยทีเดียว ยิ่งถ้าอยู่ในสถานการณ์ที่รู้สึกอึดอัด หรืออากาศไม่ถ่ายเท การหายใจลึกๆ แบบนี้จะช่วยให้รู้สึกดีขึ้นได้เร็วมาก

ถ้ายังไม่ดีขึ้น ลองใช้ตัวช่วยอย่าง ยาดม หรือ ยาหม่อง กลิ่นหอมจากสมุนไพรจะช่วยให้รู้สึกสบายตัวขึ้นและลดอาการเวียนหัวได้ดี บางคนชอบทายาหม่องตรงขมับหรือหลังหูเบา ๆ ก็ช่วยได้เหมือนกัน

กินยาแก้เมารถ

ถ้าลองมาทุกวิธีแล้วแต่อาการเมารถยังไม่ดีขึ้น อาจต้องพึ่งยาช่วยหน่อย ซึ่งตามร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11 ก็มีขาย ยาตัวนี้จะช่วยลดอาการเวียนหัว คลื่นไส้ และอาการมึนๆ จากการเมารถ แต่ก่อนใช้แนะนำให้ปรึกษาหมอหรือเภสัชกรก่อนนะ เผื่อมีผลข้างเคียงหรือไม่เหมาะกับร่างกายเรา โดยเฉพาะถ้ามีโรคประจำตัวหรือกินยาอย่างอื่นอยู่ นอกจากนี้ ควรอ่านฉลากยาให้ดีและทำตามคำแนะนำอย่างถูกต้อง เพื่อให้ใช้ยาได้อย่างปลอดภัยและเห็นผลจริง

 

รถมือสอง one2car

โหลดหรือยัง? แอป one2car - NEXT GEN! CAR APP

  • Smart Search: หารถง่าย ฟังก์ชันครบ ข้อมูลชัด!

  • Qualified Car: รถคุณภาพ ตรวจสภาพแล้ว พร้อมรายงานรถ

  • Most Trusted Seller: คัดผู้ขายให้แล้ว ไม่ต้องกลัวมิจฉาชีพ

  • Hot Deals: พบกับ Big Sale ลดแรงทุกเดือน!

  • My Garage: ระบบผู้จัดการส่วนตัวให้รถคุณ ทุกเรื่องรถ จบในที่เดียว

  • Car Tax Renawal: ต่อภาษีรถยนต์สะดวกกว่าที่เคย ไม่ต้องกลัวลืม

  • Car Price: อยากขายรถแต่ไม่รู้ราคา เช็กเลย! รู้ผลใน 1 นาที ต้องการขายก็ทำได้เลย

  • Car Financing: สินเชื่อรถมือสอง จัดไฟแนนซ์ง่ายกับ Partner ของเรา พร้อมข้อเสนอพิเศษ

  • Car Insurance: เปรียบเทียบเบี้ย ต่อประกันรถยนต์ พร้อมดีลสุดพิเศษจากบริษัทชั้นนำ

  • Extended Warranty: ประกันอะไหล่รถ หมดห่วงเรื่องอะไหล่รถมือสอง

  • one2car Story: คลิปรีวิวรถจากคนขาย คอนเทนต์เกี่ยวกับยานยนต์

Apple Store : https://bit.ly/o2c_apple_store

Google Play Store : https://bit.ly/o2c_Google_Play_Store

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง one2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com


RS 3 Sportback ถือได้ว่ามีสมรรถนะโดดเด่นที่สุดในกลุ่มคอมแพกต์คาร์สมรรถนะสูงของ Audi Sport ถ่ายทอดสมรรถนะความแรงจากสนามแข่งสู่ท้องถนน เครื่องยนต์เบนซิน 5 สูบ 2.5 ลิตร ในตำนาน


ตารางผ่อน Audi RS 3 Sportback 2025 เริ่มต้น 62,xxx บาท

ตารางผ่อน Audi RS 3 Sportback 2025 1

ดาวน์ ยอดดาวน์ 48งวด ุ60งวด 72งวด 84งวด
15% 854,850 111,819 93,048 80,884 74,017
20% 1,139,800 104,444 85,827 74,720 67,954
25% 1,424,750 97,204 80,107 69,694 62,994

(หมายเหตุ: ราคาและตารางผ่อนดาวน์ อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามอัตราดอกเบี้ย ระยะเวลาผ่อน และเงื่อนไขของสถาบันการเงินแต่ละแห่ง)

Audi RS 3 Sportback 2025 ราคาเท่าไร

  • ราคาเริ่มต้น 5,699,000 บาท

Audi RS 3 Sportback 2025 มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี

  • Mythos black, metallic
  • Progressive red metallic
  • Kyalami green solid
  • Python yellow, metallic
  • Ascari blue, metallic

(สีพิเศษเพิ่มเติมจากราคามาตรฐาน 100,000 บาท ซึ่งราคาข้างต้นได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%)

ตารางผ่อน Audi RS 3 Sportback 2025 ขุมพลัง

ขุมพลัง Audi RS 3 Sportback 2025

เครื่องยนต์เบนซิน TFSI 5 สูบ 20 วาล์ว แถวเรียง ขนาด 2.5 ลิตร พ่วงเทอร์โบ กำลังสูงสุด 400 แรงม้า ที่ 5,850 – 7,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,700 – 5,850 รอบ/นาที จับคู่เกียร์ Dual-Clutch 7 จังหวะ (ขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro พร้อม Torque Spliter ทำให้สามารถดริฟท์ได้ในโหมด RS Torque Rear อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 3.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม.

Audi RS 3 Sportback 2025 เครื่องยนต์

ภายนอก Audi RS 3 Sportback 2025

  • ระบบท่อไอเสียแบบ RS Sports
  • คาลิปเปอร์เบรก สีแดง หน้า-หลัง
  • ระบบเลือกโหมดการขับขี่ 
  • ชุดตกแต่งภายนอก RS
  • ชุดตกแต่งภายนอกแบบ Glossy Black RS
  • ตกแต่ง Audi Ring และ ชื่อรุ่นด้วยสี Glossy Black
  • ไฟหน้าแบบ Matrix LED
  • ไฟ Daytime Running Light แบบ LED
  • ฟังก์ชั่นไฟหน้า พร้อม Light Staging Effect
  • ระบบเปิด-ปิด ไฟหน้า แบบอัตโนมัติ
  • ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ 
  • กระจกมองข้าง ปรับและพับ ด้วยไฟฟ้า
  • กระจกมองข้าง พร้อมระบบไล่ฝ้า
  • กระจกมองข้าง พร้อมระบบตัดแสงอัตโนมัติ
  • กระจกมองข้าง พร้อมฟังก์ชั่นบันทึกตำแหน่ง (เป็นต้น)

ภายนอก Audi RS 3 Sportback 2025 ด้านหน้า-ด้านหลัง

Audi RS 3 Sportback 2025 Carbon package

Audi RS 3 Sportback 2025 Audi lettering

ภายใน Audi RS 3 Sportback 2025

  • หลังคาพาโนรามิกซันรูฟ
  • ชุดตกแต่งภายในแบบ RS
  • วัสดุตกแต่งภายในห้องโดยสาร ลาย Carbon Atlas Structure
  • กระจกมองหลัง แบบปรับลดแสงอัตโนมัติ ดีไซน์แบบไร้กรอบ
  • เข็มขัดนิรภัยสีดำตกแต่งด้วยขอบสีแดง
  • พรมในห้องโดยสาร สีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง พร้อมสัญลักษณ์ RS
  • ระบบปรับอากาศ แบบอัตโนมัติ แยกอิสระ 3-Zones
  • พวงมาลัยแบบสปอร์ตท้ายตัด RS
  • แป้นเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย 
  • ไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร (เป็นต้น)

Audi RS 3 Sportback 2025 Virtual cockpit

Audi RS 3 Sportback 2025 เบาะโดยสาร.jpg

เทคโนโลยีและระบบความปลอดภัย Audi RS 3 Sportback 2025

  • ระบบเบรกมือไฟฟ้า 
  • ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค 
  • ระบบกระจายแรงเบรก 
  • ระบบเสริมแรงเบรก 
  • ระบบควบคุมการทรงตัว 
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี 
  • ระบบช่วยจอด 
  • กล้องมองภาพขณะถอยจอด
  • ถุงลมนิรภัย
  • ระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ 
  • ระบบรักษาความเร็วและระยะห่างจากรถคันข้างหน้า 
  • ระบบเตือนเมื่อรถคันข้างหน้าเคลื่อนที่
  • ระบบเตือนมุมอับสายตา 
  • ระบบเตือนเมื่อมีรถตัดผ่านขณะถอยหลัง 
  • ระบบเตือนเมื่อเปิดประตูรถ 
  • ระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุด้านหน้า-หลัง
  • ระบบแจ้งเตือนรถเมื่อออกนอกเลน 
  • ระบบเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (เป็นต้น)

https://www.one2car.com/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง one2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีม


NISSAN KICKS e-POWER 2025 เป็นรถ B-SUV ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าจากเทคโนโลยี อี-พาวเวอร์ เฉพาะจากนิสสันทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการหาสถานีชาร์จ ราคาเริ่มต้น 779,900 บาท


ตารางผ่อน NISSAN KICKS e-POWER 2025 ครบทุกรุ่น

ตารางผ่อน NISSAN KICKS e-POWER 2025 จัดครบทุกรุ่น Nissan Kicks e-Power 2025 ราคาเท่าไร

มีด้วยกัน 5 รุ่น (รวมรุ่นตกแต่งพิเศษ) ราคาแต่ละรุ่น ประกอบด้วย 

  • e-POWER E ราคา 779,900 บาท
  • e-POWER V ราคา 849,900 บาท
  • e-POWER VL ราคา 920,000 บาท
  • e-POWER STAR EDITION ราคา 939,900 บาท (ชุดแต่งพิเศษ)
  • e-POWER AUTECH ราคา 980,000 บาท

e-POWER E ราคา 779,900 บาท

ดาวน์ ยอดดาวน์ 48งวด ุ60งวด 72งวด 84งวด
20% 155,980 13,394 11,044 9,623 8,733
25% 194,975 12,186 10,095 8,909 8,007

e-POWER V ราคา 849,900 บาท

ดาวน์ ยอดดาวน์ 48งวด ุ60งวด 72งวด 84งวด
20% 169,980 14,165 11,667 10,163 9,222
25% 212,475 13,280 10,624 9,390 8,439

e-POWER VL ราคา 920,000 บาท

ดาวน์ ยอดดาวน์ 48งวด ุ60งวด 72งวด 84งวด
20% 184,000 15,334 12,629 11,002 9,983
25% 230,000 14,375 11,500 10,165 9,135

e-POWER STAR EDITION ราคา 939,900 บาท

ดาวน์ ยอดดาวน์ 48งวด ุ60งวด 72งวด 84งวด
20% 187,980 15,665 12,902 11,240 10,199
25% 234,975 14,686 11,749 10,384 9,332

e-POWER AUTECH ราคา 980,000 บาท

ดาวน์ ยอดดาวน์ 48งวด ุ60งวด 72งวด 84งวด
20% 196,000 16,334 13,453 11,719 10,634
25% 245,000 15,313 12,250 10,827 9,730

ขุมพลัง Nissan Kicks e-POWER 2025

ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 100% โดยเปลี่ยนน้ำมันให้เป็นพลังงานไฟฟ้า จึงออกตัวได้เร็วเร่งแรงดั่งใจ โดยไม่ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้งาน กำลังสูงสุด 136 แรงม้า (PS) และแรงบิดสูงสุดถึง 280 นิวตันเมตร (Nm) ด้วยระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า ที่มีแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนขนาด 2.06 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh) ให้ประสิทธิภาพและกำลังมากขึ้น แต่ยังประหยัดด้วยอัตราประหยัดน้ำมันเมื่อขับขี่ในเมืองสูงสุด 26.3 กิโลเมตร/ลิตร*ผลทดสอบตามมาตรฐานยุโรป UN ECE Reg.101 Rev.2, NEDC Mode. (Urban Conditions)

ขุมพลัง Nissan Kicks e-POWER 2025

Nissan Kicks e-POWER 2025 รุ่น E 

อุปกรณ์มาตรฐาน ประกอบด้วบ

  • เครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตร HR12DE ทำหน้าที่ปั่นไฟเข้าแบตเตอรี่
  • ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า EM47 136 แรงม้า 280 นิวตันเมตร
  • แป้นคันเร่งแบบ e-Pedal Step
  • โหมดการขับขี่ปรับได้ 4 รูปแบบ ECO NORMAL SPORT และ EV
  • ช่วงล่างด้านหน้า MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง
  • ช่วงล่างด้านหลัง Torsion Beam คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง
  • ระบบเบรก ด้านหน้า ดิสก์เบรก พร้อมครีบระบายความร้อน
  • ระบบเบรก ด้านหลัง ดิสก์เบรก
  • พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า
  • ชุดปะซ่อมยางฉุกเฉิน
  • กระจังหน้าสีดำเงา ตกแต่งด้วยโครเมียม V-Motion
  • กันชนหน้า – หลัง สีเดียวกับตัวรถ
  • แผงกันกระแทกประตูด้านข้าง สีดำ
  • มือเปิดประตูสีเดียวกับตัวรถ
  • ไฟหน้า แบบ LED
  • ไฟเลี้ยว LED แบบ Boomerang Signature Light
  • ไฟ LED 
  • ระบบไฟ Follow-me-home
  • สวิตซ์ปรับระดับไฟหน้า สูง-ต่ำ
  • ไฟท้าย LED แบบ Boomerang Signature Light
  • ไฟเบรก LED
  • กระจกมองข้าง ปรับและพับ ด้วยไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยวในตัว
  • กระจกมองข้าง พับเก็บอัตโนมัติ เมื่อล็อครถ
  • หลังคาลอยตัว แบบ Floating Roof
  • ราวหลังคา
  • เสาอากาศแบบครีบฉลาม 
  • ภายในห้องโดยสาร โทนสีดำ
  • แดชบอร์ดหน้า บุนุ่มหุ้มด้วยหนัง สีดำ
  • ช่องแอร์ตกแต่งด้วยวัสดุสีดำ
  • วัสดุตกแต่งภายในห้องโดยสาร สีดำ
  • กล่องเก็บของคอนโซลกลาง พร้อมช่องชาร์จไฟ USB 2 ตำแหน่ง
  • พวงมาลัยหุ้มด้วยหนัง
  • พวงมาลัย ปรับได้ 4 ทิศทาง
  • สวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียง และ รับสาย บนพวงมาลัย
  • สวิตซ์ควบคุมหน้าจอมาตรวัด บนพวงมาลัย
  • ระบบกุญแจ Smart Keyless Entry
  • ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์
  • คันเกียร์ไฟฟ้า Electronic e-Shifter พร้อมไฟ LED
  • มาตรวัดหน้าจอดิจิตอล แบบสี พร้อมจอแสดงข้อมูล MID ขนาด 7 นิ้ว
  • กระจกหน้าต่างไฟฟ้า ขึ้น-ลง อัตโนมัติฝั่งคนขับ
  • ระบบป้องกันการหนีบ Protection Jam กระจกหน้าต่างฝั่งคนขับ
  • ที่บังแดด พร้อมกระจกแต่งหน้า
  • ระบบปรับอากาศ แบบอัตโนมัติ
  • ช่องชาร์จไฟ 12V
  • เบาะนั่งหุ้มด้วยผ้า สีดำ
  • พนักวางแขนตรงกลางเบาะนั่งคู่หน้า
  • ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค
  • ระบบกระจายแรงเบรก
  • ระบบเสริมแรงเบรก
  • ระบบเบรกมือไฟฟ้า
  • ระบบ Auto Brake Hold
  • ระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว
  • ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน
  • ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง 
  • สัญญาณกะระยะช่วยจอดด้านหลัง
  • สัญญาณกันขโมย
  • ระบบกุญแจ Immobilizer
  • ระบบเตือนการชนด้านหน้า
  • ระบบเบรกอัตโนมัติ
  • ระบบเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่
  • ระบบตรวจจับวัตถุรอบคัน
  • เทคโนโลยีช่วยลดอาการโยนตัวบนทางขรุขระ
  • เทคโนโลยีช่วยควบคุมเสถียรภาพขณะเข้าโค้ง

nissan kicks e-Power 2025 รุ่น E

Nissan Kicks e-POWER 2025 รุ่น V  

สิ่งเพิ่มขึ้นจากรุ่นเริ่มต้น มีดังนี้

  • แผงกันกระแทกประตูด้านข้าง สีดำพร้อมแถบสีเงิน
  • ระบบเปิด-ปิด ไฟหน้า แบบอัตโนมัติ
  • ไฟตัดหมอกคู่หน้า แบบ LED
  • เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง สีดำ
  • ภายในห้องโดยสาร ตกแต่งด้วยสีดำเงา Piano Black
  • แผงประตูหุ้มด้วยหนัง สีดำ
  • มือเปิดประตูภายในห้องโดยสาร โครเมียม
  • หน้าจอเครื่องเสียง ระบบสัมผัส Touchscreen ขนาด 8 นิ้ว
  • ช่องเชื่อมต่อ AUX
  • ระบบเชื่อมต่อไร้สาย 
  • ระบบเชื่อมต่อ Nissan CONNECT
  • รองรับระบบ Apple CarPlay / Android Auto
  • ลำโพง 6 ตำแหน่ง
  • ระบบกล้องรอบคัน 360 องศา
  • ระบบตรวจจับวัตถุที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน

nissan kicks e-Power 2025 รุ่น V

Nissan Kicks e-POWER 2025 รุ่น VL  

สิ่งที่เพิ่มขึ้นจากรุ่น V มีดังนี้

  • แผงทับทิม ตกแต่งฝาท้ายแบบยาว
  • แผงบังแดด พร้อมไฟส่องสว่าง
  • แผงปิดสัมภาระด้านท้าย
  • กระจกมองหลังแบบแสดงภาพจากกล้อง 
  • ระบบไฟสูงอัตโนมัติ 
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน 
  • ระบบเตือนมุมอับสายตา 
  • ระบบเตือนรถตัดผ่านขณะถอยหลัง
  • ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน

nissan kicks e-Power 2025 รุ่น VL 

NISSAN KICKS e-POWER 2025 รุ่น STAR EDITION

NISSAN KICKS e-POWER ตกแต่งพิเศษ ภายนอกสปอร์ตพรีเมียมรอบคัน เอกลักษณ์เฉพาะ STAR EDITION มีเฉพาะในรุ่น VL สีดำ

  • กระจังหน้าตัววี และคิ้วกันชนหน้า (สีดำ)

  • สติกเกอร์สัญลักษณ์ STAR EDITION 

  • คิ้วกันชนหลัง (สีดำ) และสัญลักษณ์ STAR EDITION ด้านหลัง

  • กระจกมองข้างสีเงิน 

  • สัญลักษณ์ STAR EDITION ที่พนักพิงศีรษะเบาะคู่หน้า 

  • คิ้วบันไดสแตนเลสพร้อมสัญลักษณ์ STAR EDITION 

  • ชุดพรมพร้อมผ้ายางปูพื้น สัญลักษณ์ KICKS 

  • ชุดตกแต่งรอบที่ปรับแอร์สีดำ พร้อมอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย

NISSAN KICKS e-POWER 2025 รุ่น STAR EDITION

Nissan Kicks e-POWER 2025 รุ่น AUTECH  

สิ่งที่เพิ่มขึ้นจากรุ่น VL มีดังนี้

  • สเกิร์ตหน้า สีเงินเมทัลลิค
  • วัสดุตกแต่ง ไฟตัดหมอกคู่หน้า สีเงิน
  • สเกิร์ตข้าง สีเงินเมทัลลิค
  • กระจกมองข้าง สีเงินเมทัลลิค
  • ล้ออัลลอย สี Gun Metallic ขนาด 17 นิ้ว ดีไซน์ AUTECH
  • สเกิร์ตหลัง สีเงินเมทัลลิค
  • สปอยเลอร์หลัง สีดำ
  • สัญลักษณ์ AUTECH ด้านหน้า- ด้านหลัง
  • ภายในห้องโดยสาร โทนสีดำ- สีน้ำเงิน
  • ตกแต่งภายในห้องโดยสารด้วยด้ายสีน้ำเงิน

nissan kicks e-Power 2025 รุ่น AUTECH

https://www.one2car.com/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง one2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีม


Pajero หรือ Fortuner ดี ? เป็นคำถามยอดฮิตที่หลายคนลังเลใจ บทความนี้จะมาเปรียบเทียบให้ดูว่าเลือกรุ่นไหนดี โดยเจาะลึกทั้งด้านสมรรถนะ ดีไซน์ การใช้งาน และความคุ้มค่า พร้อมสรุปจุดแข็งของแต่ละรุ่น เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกรถ PPV มือสองที่ตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างลงตัว

เปรียบเทียบ ‘ปาเจโร่’ กับ ‘ฟอร์จูนเนอร์’ คันไหนดีกว่ากัน

การเปรียบเทียบ Pajero กับ Fortuner ในบทความนี้มาจากประสบการณ์ตรงของผู้ใช้งานที่เคยขับทั้งสองรุ่น ทั้งคู่มีข้อดีและข้อเสียต่างกันไป ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความชอบและการใช้งานของแต่ละคน

ด้านสมรรถนะ

  • เครื่องยนต์: แม้ Pajero จะมีเครื่องยนต์เล็กกว่า แต่ในแง่ของการใช้งานจริง ทั้งคู่ให้พละกำลังที่ใกล้เคียงกัน ขับขี่ได้อย่างคล่องตัว

  • เกียร์: Pajero ได้เปรียบกว่า ด้วยระบบเกียร์ที่นุ่มนวล เปลี่ยนเกียร์ได้ราบรื่นกว่า

  • ช่วงล่าง: หากขับขี่ในเมือง Pajero ให้ความนุ่มนวลกว่า แต่ถ้าใช้ความเร็วสูง ทั้งคู่ยังมีอาการโคลง

  • เบรก: Pajero เอาชนะไปด้วยระบบเบรกที่ตอบสนองได้ดีกว่า ให้ความมั่นใจในการขับขี่

ด้านดีไซน์

  • ภายนอก: ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล Fortuner ดูบึกบึน ใหญ่โต ส่วน Pajero ดูสปอร์ต เพรียวบางกว่า

  • ภายใน: Fortuner เน้นความหรูหรา แต่ Pajero มาในสไตล์เรียบง่าย โดยเฉพาะรุ่นปี 2018 ที่เพิ่มเบาะสีเบจ ให้ความรู้สึกหรูและอบอุ่นมากขึ้น

ด้านการใช้งาน

  • ความสบาย: รถคุกกี้พื้นที่กว้างขวางกว่า แต่โดยรวม Pajero นั่งสบายกว่า เพราะช่วงล่างให้ความนุ่มนวลในการขับขี่มากกว่า

  • เบาะแถวสาม: ต้องให้ Fortuner ชนะไป เบาะแถวสามออกแบบมาให้ใช้งานได้จริง นั่งสบาย ไม่อึดอัด ส่วน Pajero แม้จะนั่งสบายในแถวหน้าและแถวสอง แต่เบาะแถวสามดูเหมือนจะออกแบบมาเพื่อการใช้งานแบบชั่วคราวมากกว่า เน้นการพับเก็บเพื่อเพิ่มพื้นที่สัมภาระ

  • ออปชัน: Pajero จัดเต็มเรื่องออปชัน ให้มาแบบครบครัน คุ้มค่ากว่า (แหงล่ะ! เคยได้รับรางวัลรถ PPV คุ้มค่าที่สุดด้วย)

  • อัตราสิ้นเปลือง: ใกล้เคียงกัน ขึ้นอยู่กับลักษณะการขับขี่ แต่โดยรวม Pajero ประหยัดน้ำมันกว่าเล็กน้อย

ด้านราคา

ตรงส่วนนี้เราเปรียบเทียบราคารถมือสอง Fortuner กับ Pajero ใน one2car เท่านั้น สำหรับราคารถฟอร์จูนเนอร์มือสอง เราขอยกราคา Toyota Fortuner โฉมปี 2015-2025 มาให้ดู เริ่มจากรุ่นที่ฮอตฮิตที่สุด ได้แก่

  • Toyota Fortuner 2.4 V ราคาเฉลี่ยของรถปี 2019 อยู่ที่ 800,000 บาท

  • Toyota Fortuner 2.8 V 4WD ราคาเฉลี่ยของรถปี 2018 อยู่ที่ 850,000 บาท

  • Toyota Fortuner 2.4 Legender ราคาเฉลี่ยของรถปี 2021 อยู่ที่ 1,100,000 บาท

สามารถเช็กราคารุ่นอื่น ๆ ได้ที่ Toyota Fortuner มือสอง

ฟอร์จูนเนอร์มือสอง

ราคา Mitsubishi Pajero Sport มือสอง

Mitsubishi Pajero Sport โฉม 2019-2024 มีรุ่นย่อยและราคาเริ่มต้นดังนี้

สามารถเช็กราคารุ่นอื่น ๆ ได้ที่ Mitsubishi Pajero Sport มือสอง

ปาเจโร่มือสอง 

สรุปจุดแข็งของแต่ละรุ่น ระหว่าง Fortuner กับ Pajero รุ่นไหนใช้ดีกว่า

  • Pajero: ช่วงล่างนุ่มนวล เบรกดี ออปชันเยอะ ประหยัดน้ำมัน ราคามือสองเข้าถึงง่าย ถ้าเน้นความคุ้มค่า Pajero เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ

  • Fortuner: ห้องโดยสารกว้างขวาง ศูนย์บริการครอบคลุม อะไหล่หาง่าย ราคามือสองแข็งกว่าคู่แข่ง เป็นหนึ่งในรถที่ราคาไม่ตก

ท้ายที่สุดนี้ การเลือก Pajero หรือ Fortuner มือสอง ขึ้นอยู่กับความต้องการและไลฟ์สไตล์ แนะนำให้ลองทดลองขับ ไปสัมผัสด้วยตัวเองเพื่อประกอบการตัดสินใจ และอย่าลืมตรวจสอบสภาพรถยนต์อย่างละเอียดก่อนซื้อนะคะ

หากดูรถมือสองไม่เป็น คุณสามารถใช้บริการตรวจสภาพรถยนต์จาก one2inspect หรือเลือก รถตรวจสภาพแล้ว ดูรายงานสภาพรถออนไลน์ได้ทุกที่ทุกเวลา รู้หมดว่ารถผ่านอะไรมา

อ่านเพิ่มเติม ตรวจสภาพรถมือสองกับ one2inspect เช็กครบ เป็นกลาง วางใจได้

รถมือสอง one2car

โหลดหรือยัง? แอป one2car - NEXT GEN! CAR APP

  • Smart Search: หารถง่าย ฟังก์ชันครบ ข้อมูลชัด!

  • Qualified Car: รถคุณภาพ ตรวจสภาพแล้ว พร้อมรายงานรถ

  • Most Trusted Seller: คัดผู้ขายให้แล้ว ไม่ต้องกลัวมิจฉาชีพ

  • Hot Deals: พบกับ Big Sale ลดแรงทุกเดือน!

  • My Garage: ระบบผู้จัดการส่วนตัวให้รถคุณ ทุกเรื่องรถ จบในที่เดียว

  • Car Tax Renawal: ต่อภาษีรถยนต์สะดวกกว่าที่เคย ไม่ต้องกลัวลืม

  • Car Price: อยากขายรถแต่ไม่รู้ราคา เช็กเลย! รู้ผลใน 1 นาที ต้องการขายก็ทำได้เลย

  • Car Financing: สินเชื่อรถมือสอง จัดไฟแนนซ์ง่ายกับ Partner ของเรา พร้อมข้อเสนอพิเศษ

  • Car Insurance: เปรียบเทียบเบี้ย ต่อประกันรถยนต์ พร้อมดีลสุดพิเศษจากบริษัทชั้นนำ

  • Extended Warranty: ประกันอะไหล่รถ หมดห่วงเรื่องอะไหล่รถมือสอง

  • one2car Story: คลิปรีวิวรถจากคนขาย คอนเทนต์เกี่ยวกับยานยนต์

Apple Store : https://bit.ly/o2c_apple_store

Google Play Store : https://bit.ly/o2c_Google_Play_Store

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง one2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com


เปรียบเทียบรถยนต์
0
app-icon
app-icon
app-icon
ดูรถในฝันของคุณในแอป
  • สะดวกในการเข้าถึง
  • ประสิทธิภาพที่เร็วขึ้น
  • คุณสมบัติขั้นสูง
  • มีความเป็นส่วนตัว
ดาวน์โหลดแอปตอนนี้