ต้องยอมรับว่ารถ MG มือสอง แทบทุกรุ่นมีการออกแบบที่ทันสมัย ทำให้เป็นที่ต้องการของคนยุคใหม่ที่นิยมรถสวย เท่ และโดดเด่นไม่เหมือนใคร
ในอีกแง่หนึ่งก็มีราคาถูกจนอดใจไม่ไหวเช่นกัน แถมยังมาพร้อมกับออปชันที่ใส่มาให้ทุกรุ่นอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย จนบางทีแอบคิดว่าให้เกินราคาด้วยซ้ำ
ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้รถเอ็มจี มือสอง ค่อนข้างฮิตในหมู่คนชอบรถดีไซน์ใหม่ ๆ และเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ที่พร้อมจะทำให้การขับขี่ของพวกเขาง่ายขึ้น และปลอดภัยขึ้น
![รถ MG มือสอง](https://img.icarcdn.com/autospinn/body/000000631977_039ec10e_2b08_4973_a8ca_c76cd2e1d8d6.jpg)
รถ MG มือสอง รุ่นไหนดี น่าซื้อที่สุด
1. MG ZS
MG ZS มือสอง จัดเป็นรถยนต์อเนกประสงค์หรือรถ SUV ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ เลยก็ว่าได้ เนื่องจากดีไซน์สวยงาม ทันสมัย ออปชันและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่าง ๆ ครบครัน
ที่สำคัญ คือ มีหลากหลายรุ่นให้เลือก ได้แก่
ราคาเอ็มจี แซดเอส มือสอง เริ่มต้นที่ 348,000 บาท
![MG ZS มือสอง](https://img.icarcdn.com/autospinn/body/000000400567_09f3e908_36d2_47cd_ba52_8d2d75ba8ee3.png)
รีวิวประสบการณ์ทดลองขับ MG ZS
ในเมื่อรถยนต์ไฟฟ้ากำลังมาแรง วันนี้เรามารีวิว MG ZS EV เพื่อนำเสนอข้อมูลอีกด้านให้คุณได้ทราบกัน ซึ่งมันอาจเป็นตัวเลือกที่โดนใจคุณก็ได้
สำหรับ MG ZS EV มองเห็นภายในแล้วบอกเลยว่ากว้างขวาง ให้ฟีลหรูหรามีระดับ และยังโดดเด่นด้วย Panoramic Sunroo และพวงมาลัยทรงสปอร์ตหุ้มหนังแบบมัลติฟังก์ชัน ที่สามารถควบคุมฟังก์ชันต่าง ๆ ร่วมกับหน้าจอสัมผัสได้
มาพร้อมกับระบบปรับอากาศแบบดิจิทัลที่สามารถกรอง PM 2.5 ซึ่งเหมาะกับช่วงเวลานี้มาก ๆ
อีกทั้งระบบปฏิบัติการยังใช้ i-SMART ที่ยกระดับประสบการณ์การขับขี่ของผู้ใช้รถยนต์เอ็มจี ใน 3 แกนหลัก ได้แก่
- การสั่งการด้วยเสียงภาษาไทย (SMART Command)
- การเชื่อมต่อผ่านหน้าจอภายในรถ (SMART Connect)
- การตรวจเช็กรถจากมือถือ (SMART Check)
ฟีลการขับขี่ MG ZS เป็นอย่างไร ?
เมื่อขับขี่ MG ZS EV รู้สึกได้ถึงอัตราเร่งที่รวดเร็วและต่อเนื่อง ไม่ต้องรอรอบ ช่วงล่างนุ่ม มีความเงียบสงบ ปราศจากมลพิษและเสียงรบกวนจากมอเตอร์ไฟฟ้า เนื่องจากเป็น Permanent Magnet Synchronous Motor ที่ได้รับการพัฒนาให้ส่งกำลังได้ดีเยี่ยม และช่วยระบายความร้อนได้ดียิ่งขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้น MG ZS EV 2022 ยังใช้แบตเตอรี Lithium-ion ความจุ 44.5kWh ที่ผ่านการรับรองและทดสอบตามมาตรฐานสากลว่าวิ่งผ่านน้ำที่มีความสูงได้ถึง 40 เซนติเมตร โดยที่แบตเตอรียังคงทำงานได้ปกติ แหม่! มันช่างเหมาะกับการขับขี่ใน กทม. ตอนน้ำท่วมเสียจริง
นอกจากนี้ เขามีระบบปกป้องแบตเตอรีแบบ 360 องศา และระบบจัดการอุณหภูมิอัจฉริยะที่ช่วยให้ระบบต่าง ๆ ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพภายใต้สภาวะแวดล้อมที่มีอุณหภูมิต่ำและสูงอีกด้วย
MG ZS EV 2022 วิ่งได้กี่กิโลเมตร ?
- MG ZS EV สามารถวิ่งได้ 337 กิโลเมตร* ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง
- มีพละกำลังสูงสุด 110 กิโลวัตต์ (150 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร
- อัตราเร่งจาก 0-50 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทำได้เพียง 3.1 วินาที
- ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 150 กิโลเมตร/ชั่วโมง
สามารถเช็กระดับพลังงานคงเหลือและระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรีได้แบบเรียลไทม์ พร้อมค้นหาสถานีชาร์จไฟฟ้าใกล้เคียงหรือสถานีชาร์จที่โชว์รูมได้ทั่วประเทศ รวมถึงสั่งการชาร์จไฟที่บ้านได้ด้วย
นอกจากนี้ ยังมีระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) ที่สามารถชาร์จพลังงานในระหว่างการขับขี่กลับเข้าแบตเตอรี (Regenerative) ได้ด้วย โดยสามารถเลือกระดับการชาร์จพลังงานกลับได้ถึง 3 ระดับ
NEW MG ZS EV 2022 รองรับการชาร์จไฟได้กี่รูปแบบ ?
NEW MG ZS EV 2022 ชาร์จไฟได้ 2 แบบ ได้แก่
-
การชาร์จไฟแบบธรรมดา (Normal Charge) ผ่าน MG Home Charger ใช้เวลาชาร์จไฟจาก 0-100% เพียง 6.5 ชั่วโมง
-
การชาร์จไฟแบบเร็ว (Quick Charge) ผ่านสถานีชาร์จไฟฟ้าสาธารณะ (Public Charging Station) ใช้เวลาชาร์จไฟจาก 0-80% เพียง 30 นาที
![MG ZS ภายใน มือสอง](https://img.icarcdn.com/autospinn/body/000000499832_b4df3050_5141_43fb_828c_0da3c680f5d3.png)
ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะเขามาพร้อมกับระบบความปลอดภัยขั้นสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นระบบ Advanced Synchronized Protection System ที่เป็นโครงสร้างตัวถังนิรภัย, (FSF) ระบบความปลอดภัย Synchronized Protection System และระบบเสริมความปลอดภัยขณะขับขี่ Advanced Driver-Assistance Systems เป็นต้น
ที่ชอบที่สุด คือ MG ZS EV เขามีการติดตั้งไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์ (Follow Me Home Light) เอาไว้ด้วย
และยังมีระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold), ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake), ระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer, ถุงลมนิรภัยคู่หน้า, ถุงลมนิรภัยด้านข้าง, ม่านถุงลมนิรภัยรวม 6 จุด และกล้องมองหลังกับเซ็นเซอร์
เท่าที่รีวิวมา บอกเลยว่าไม่เคยเจอออปชันและระบบต่าง ๆ ที่ไหนจัดเต็มขนาดนี้ เอาเป็นว่าถ้าจะซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามือสอง MG ZS EV ไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน นอกจากราคาจะเข้าถึงง่ายแล้ว ถ้าได้ทดลองขับบอกเลยว่ารู้สึกดี!
2. MG3
MG3 มือสอง เป็นรถเก๋ง 5 ประตู (รถแฮตช์แบ็ก) ที่ขนาดกะทัดรัด ดีไซน์ทันสมัย แถมยังมีสีสันสดใส ซึ่งตอบโจทย์ความชื่นชอบได้หลายรูปแบบ ที่สำคัญ คือ เหมาะกับคนที่มีงบน้อย เพราะ MG3 มือสอง ราคาเริ่มต้นเพียง 178,000 บาท เท่านั้น
![MG3 มือสอง](https://img.icarcdn.com/autospinn/body/000000272946_6798d61e_2a0e_408d_9fff_0fae7609dbbe.png)
รีวิวประสบการณ์ทดลองขับ MG3
แม้ MG3 จะเป็นรถคันเล็กที่ราคาไม่แพงนัก แต่เรื่องที่ทำได้ดีนั้นก็มีหลายเรื่อง โดยเฉพาะเครื่องยนต์ที่ให้ความรู้สึกขับสนุกมาก ๆ รถจิ๋วแต่แรงเครื่องไม่จิ๋วนะ
โดย MG3 ใช้เครื่องยนต์เบนซิน DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว 1,498 ซีซี VTi-TECH พละกำลังสูงสุด 112 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 150 นิวตัน-เมตรที่ 4,500 รอบ/นาที
ระบบส่งกำลังใช้เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ พร้อม Manual Mode ที่ปรับปรุงใหม่ ตอบสนองการขับขี่ได้ดียิ่งขึ้น ถือว่าตอบโจทย์สำหรับการใช้งานในเมืองมาก ๆ เนื่องจากมีความคล่องตัว แซงได้ง่ายและมั่นใจ หรือจะวิ่งทางไกลก็ไม่หวั่น
นอกจากนี้ ช่วงล่างยังเป็นแบบ EUROPEAN TUNING SUSPENSION ซึ่งเกาะถนนดีเป็นพิเศษ แม้จะขับขี่ด้วยความเร็วสูงก็ตาม
![MG3 ภายใน](https://img.icarcdn.com/autospinn/body/000000882505_2c8a956a_7294_4e7e_8328_f52bd1bfeb07.png)
อีกอย่างที่โดดเด่นก็คือ ช่วงความเร็วกลางจนถึงปลายทำได้ดีกว่ารุ่นพี่ ZS อย่างเห็นได้ชัด พวงมาลัยคม มีความแม่นยำขณะเปลี่ยนเลน
และสิ่งที่ MG ไม่เคยพลาด นั่นก็คือ ออปชันและอุปกรณ์ที่ทันสมัยที่ให้มาแบบจัดเต็มเช่นเคย
ที่สำคัญคือรองรับ E85 ด้วย ซึ่งรถอีโคคาร์ส่วนใหญ่มักจะไม่รองรับ ตรงนี้คือข้อดีของ MG อีกอย่างหนึ่งเลย
ส่วนข้อเสียก็มีตรงที่พวงมาลัยอาจจะหนักไปหน่อย และเก็บเสียงได้ไม่ดีเท่าไหร่ ขับช้า ๆ แอบมีเสียงลมเข้ามาบ้าง
อีกเรื่องหนึ่งคือ มีเพียง 4 เกียร์ ถ้ามีเพิ่มอีกอาจจะช่วยประหยัดน้ำมันมากขึ้น เพราะตอนนี้รอบความเร็วปลายมันสูงไปนิด
3. MG5
MG5 มือสอง เป็นรถเก๋ง 4 ประตู ที่ใครเห็นแล้วก็ต้องพูดถึง เพราะนอกจากการออกแบบที่สวยสะดุดตาและเท่เป็นพิเศษ ยังมาพร้อมกับราคาที่เทียบเท่ารถอีโคคาร์ แต่กลับได้ตัวรถอยู่ระหว่างกลางกลุ่ม C และ B segment เรียกได้ว่าคุ้มค่าสุด ๆ
โดยราคา MG5 มือหนึ่ง เริ่มต้นเพียง 559,000 บาท ส่วน MG มือสอง ราคาเริ่มต้นที่ 247,000 บาทขึ้นไป
![MG5 มือสอง](https://img.icarcdn.com/autospinn/body/000000055477_3f3e23e9_49f6_461c_ae2b_5a60284952c9.png)
รีวิวประสบการณ์ทดลองขับ MG5
ตัวที่เราจะมารีวิวในวันนี้ คือ ALL NEW MG5 ที่มาพร้อมกับคอนเซปต์ “BEYOND” ซึ่งเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบความทันสมัย โดดเด่น และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
เมื่อเห็นภายใน MG5 คันนี้แล้ว บอกเลยว่าว้าวมาก! เพราะเขามีห้องโดยสารขนาดใหญ่ ตกแต่งอย่างหรู แถมฟังก์ชันอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ก็ครบครัน เรียกได้ว่าใส่มาแบบเต็ม ๆ และอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยทั้งนั้น อีกทั้งยังมีระบบความปลอดภัยที่ช่วยให้ผู้ขับขี่มั่นใจอีกด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น ยังติดตั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ มาตรวัดอัจฉริยะแสดงผลแบบดิจิทัลขนาด 7 นิ้ว ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง และเบาะนั่งคนขับแบบปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง พร้อมกับหลังคาซันรูฟที่บอกเลยว่ารถกลุ่มเดียวกันไม่มีใครมีแน่นอน เป็นไง? ให้เยอะใช่ไหมล่ะ
![MG5 ภายใน](https://img.icarcdn.com/autospinn/body/000000745054_012eed1f_3c2d_4374_a5fc_c7c7c18dd775.png)
เอาล่ะ! มาที่การขับขี่กันบ้าง แน่นอนว่าเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร 114 แรงม้า พาตัวถังขนาดใหญ่ไป ก็ย่อมอืดอยู่พอสมควร เพราะไม่มีเทอร์โบเหมือนรุ่นเก่า เนื่องจากต้องการทำราคาให้จูงใจคนซื้อมากขึ้น
แต่เมื่อกดคันเร่งออกตัว การตอบสนองก็ไม่ได้ติดขัดอะไร ไม่มีอาการกระโจน หากขับไม่เร็ว เกียร์ CVT จะทำงานได้ราบเรียบมากขึ้น
อีกอย่างที่สัมผัสได้ คือ ถ้าคุณเดินคันเร่งอย่างต่อเนื่อง เครื่องยนต์จะทำงานได้ดี ความเร็วปลายไปต่อได้เรื่อย ๆ แค่ช่วงออกตัวอาจจะช้าหน่อย และตอนเร่งแซงอาจต้องทำความคุ้นเคยกับรถสักพักว่าต้องใช้ระยะทางประมาณไหน
ในส่วนของช่วงล่างถือว่าเป็นจุดที่น่าประทับใจที่สุด เกาะถนนดีมาก ๆ แต่ยังให้ความนุ่มนวลไปด้วย
พวงมาลัยสามารถปรับได้ถึง 3 ระดับ ประกอบกับช่วงล่างที่ดี ทำให้ขับขี่ได้สนุกขึ้น
ด้านการเก็บเสียงถือว่าทำได้ดีเลยล่ะ ระบบเบรกดี ขับแล้วรู้สึกมั่นใจ
ระบบความปลอดภัยของ MG5 อัดมาให้เต็มเม็ดเต็มหน่วย ไม่ว่าจะเป็น
- ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS
- ระบบกระจายแรงเบรก EBD
- ระบบเสริมแรงเบรก EBA
- ระบบควบคุมการทรงตัว SCS
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และ ควบคุมการลื่นไถล TCS
- ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้งด้วยความเร็ว XDS
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAS
- ระบบไฟฉุกเฉินอัตโนมัติ เมื่อเบรกกะทันหัน ESS
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control
- ระบบช่วยเตือนขณะเปลี่ยนเลน LCA
- ระบบเตือนมุมอับสายตา BSD
- ระบบช่วยเตือนมุมอับขณะถอยหลัง RCTA
- ระบบช่วยเตือนการชนด้านหลัง RCW
- ระบบล็อคประตูอัตโนมัติ Speed Sensing Door Lock
- ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง
- กุญแจนิรภัย Immobilizer
- กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา
เห็นแบบนี้ ถามว่า MG5 ดีไหม สรุปเลยแล้วกันว่า ดี! ถ้าคุณมองเรื่องราคา ดีไซน์ และออปชันต่าง ๆ เป็นหลัก ส่วนเรื่องเครื่องยนต์ก็ไม่ได้แรงเว่อร์ขนาดนั้น แต่อยู่ในระดับที่พอรับได้ ถ้าคุณไม่ซีเรียส มันก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร ยังขับได้สบาย ๆ แต่บอกไว้ก่อนว่าราคานี้ถือว่าถูกกว่าเพื่อน
4. MG HS
MG HS มือสอง จัดเป็นรถยนต์อเนกประสงค์จากค่าย MG ที่ได้รับความนิยมอีกเช่นกัน ล่าสุดในในสไตล์ล้ำยุค มีการออกแบบให้หรูหรา พรีเมียม และแฝงไปด้วยความสปอร์ต เห็นที่ไหนต้องเหลียวหลังหันไปมองแน่นอน
ส่วนเครื่องยนต์ MG HS มี 2 ชนิด ได้แก่
- NEW MG HS เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร มือหนึ่งราคาเริ่มต้น ราคา 939,000 บาท
- NEW MG HS PHEV เครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริด มือหนึ่งราคาเริ่มต้น 1,299,000 บาท
![MG HS PHEV มือสอง](https://img.icarcdn.com/autospinn/body/000000732198_a9601f34_dc2d_4ae0_8b2a_0e0e51816fcf.png)
เอาล่ะ! ไปดูรีวิวการทดสอบขับขี่กันบ้างว่าเป็นยังไง
รีวิวประสบการณ์ทดลองขับ MG HS
เป็นที่กล่าวขานมาตลอดว่ารถ MG ขึ้นชื่อเรื่องความหรูหรา ออปชันจัดเต็ม และ MG HS ก็เป็นตามที่เขาเล่าขาน
โดย MG HS ที่เราทดสอบกันในวันนี้เป็นรุ่นเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบขนาด 1.5 ลิตร ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์ TST (Twin Clutch Sportronic Transmission) แบบ 7 สปีด
พละกำลังสูงสุด 162 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดที่ 250 นิวตัน-เมตร ในรอบที่ต่ำเพียง 1,700 รอบต่อนาที และรองรับน้ำมัน E85
ในช่วงที่ออกตัวน้ำหนักคันเร่งค่อนข้างเบา เพียงปล่อยเบรกแล้วแตะคันเร่งเบา ๆ รุ่นก็พุ่งแล้ว ต้องทำความคุ้นเคยกับมันสักประมาณ 20 นาที จะเริ่มจับหลักได้ ทำให้ขับขี่ได้สมูทขึ้น
![MG HS มือสอง](https://img.icarcdn.com/autospinn/body/000000250927_47b5ad48_e79f_4a4e_a676_1ef09baf6fa1.png)
เมื่อลองขับโหมด Normal การไต่ความเร็วจาก 0-100 ทำได้ค่อนข้างไวทีเดียว ไม่รู้สึกอืดแต่อย่างใด จังหวะที่เร่งแซงก็รู้สึกมั่นใจ ไม่ต้องลุ้น
ลองสลับมาที่โหมด Eco รู้สึกหน่วง ๆ เครื่องยนต์ตอบสนองช้าลง ไม่ค่อยขึ้นตามแรงกดคันเร่งเท่าไร
ส่วนโหมด Sport คันเร่งติดเท้าดี เหยียบปุ๊บ รอบมาเลย ขับสนุก ลากรอบได้สูง ต่างจากโหมด Eco ลิบลับ
ปิดท้ายด้วยโหมด Super Sport ซึ่งจะเป็นปุ่มสีแดงที่พวงมาลัย จุดเด่นของมันทำให้นึกถึงพวงมาลัยของซูเปอร์คาร์เลย รอบเครื่องสุดมาก ขับสนุกที่สุด ยิ่งวิ่งทางโล่ง ๆ ยิ่งมันส์ เผลอแป๊บเดียวปาไปเกือบ 160 km/hr ได้เลย
เรื่องการเก็บเสียงให้ 8.5/10 ส่วนช่วงล่างขอยกนิ้วให้รัว ๆ ขับผ่านทางที่เป็นหลุมเป็นบ่อไม่ย้วยและไม่แข็งกระด้างเลย เข้าโค้งก็ไม่โคลงเคลง ท้ายไม่ปัด
![MG HS ภายใน](https://img.icarcdn.com/autospinn/body/000000537097_4f537d28_0c15_46e7_86ac_86a6bc67f82f.png)
เทคโนโลยีความปลอดภัยให้มาคุ้มเกินราคาไปอีก มีมากถึง 14 อย่างด้วยกัน ได้แก่
- ระบบควบคุมการเบรกขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control)
- ระบบลดความเสี่ยงที่จะทำให้รถพลิกคว่ำ ARP (Anti Rolling Program)
- ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System)
- ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู DOW (Door Open Warning)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist)
- ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection)
- ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
- ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-Beam Control)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าในขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning)
- ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถจะออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keep Assist)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
แต่จุดด้อยของ MG HS คงเป็นเรื่องระบบเบรกที่ต้องเหยียบลึกเข้าไปหน่อยกว่ารถจะหยุด อารมณ์เหมือนเราคิดว่ามันจะต้องหยุดแล้ว แต่มันแอบไหลไปอีกนิดหนึ่ง แต่ถ้าขับจนชินแล้วมันก็อาจไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร
5. MG Extender
MG Extender มือสอง รถกระบะจากค่าย MG ที่มาพร้อมออปชันมากมาย และยังมีระบบ i-Smart สั่งการด้วยเสียงภาษาไทยเป็นเจ้าแรกอีกด้วย
แม้จะมีคู่แข่งยักษ์ใหญ่อยู่หลายเจ้า แต่ MG Extender ก็ยังมีจุดเด่นเป็นของตัวเอง และนี่คือโอกาสที่คุณจะได้ทำความรู้จักกับ เอ็มจี เอ็กซ์เทนเดอร์ ตัวนี้มากขึ้น
โดย MG Extender มือสอง ราคาเริ่มต้นที่ 329,000 บาท
![MG Extender มือสอง](https://img.icarcdn.com/autospinn/body/000000242151_e64a9203_5dff_4fd9_980a_1b416bace30e.png)
รีวิวประสบการณ์ทดลองขับ MG Extender
สำหรับ MG Extender ถูกยกให้เป็น “กระบะพันธุ์ยักษ์ ให้มากกว่าความแกร่ง” ซึ่งถ้าเทียบกับกระบะทุกรุ่นในไทย MG Extender ถือว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในตลาด
โดยจุดขายหลักของเขาอยู่ที่ความกว้างของห้องโดยสาร ซึ่งทีมงานที่นั่งไปด้วยพูดเลยว่านั่งสบายที่สุด แถมเบาะนั่งคู่หน้ายังปรับไฟฟ้าได้ วัสดุต่าง ๆ เป็นแบบ Soft Touch ให้ความรู้สึกนุ่มเมื่อสัมผัส ดูแพงกว่าที่คิด! มีช่องแอร์และช่องเสียบ Power Outlet 12 Volt สำหรับผู้โดยสารตอนหลังให้ด้วย
อีกหนึ่งไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้ คือ ระบบอินโฟเทนเมนท์หน้าจอสัมผัสขนาด 10 นิ้ว ที่รองรับการเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือผ่าน Bluetooth และ USB อีก 2 ช่อง พร้อมกับระบบ i-Smart ที่สั่งการด้วยเสียงภาษาไทยได้ สามารถค้นหาสถานที่, ร้านอาหาร, โรงแรม และปั้มน้ำมันใกล้เคียงได้
เครื่องยนต์ของ MG Extender
เครื่องยนต์ของ MG Extender ใช้ดีเซลคอมมอนเรล ไดเร็กอินเจกชัน ขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบแปรผัน ให้กำลังสูงสุด 161 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 375 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500 – 2,400 รอบ/นาที
ระบบส่งกำลังใช้เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ 3 โหมด ได้แก่ Normal, ECO และ Power ซึ่งทั้ง 3 โหมดนี้จะมีการเซ็ตอัตราเร่งและตอบสนองแตกต่างกัน
ฟีลการขับขี่ MG Extender เป็นอย่างไร ?
การทดลองขับในวันนี้ เราเริ่มขับออกจากโชว์รูม MG ภูเก็ต ด้วยเส้นทางที่คดเคี้ยว แต่มีทางตรงยาวบ้าง สรุปเลยคือ รถมีแรงในการขับเคลื่อนดีแม้จะมีขนาดใหญ่ อัตราเร่งขณะขับทางตรงทำได้ดี เร่งแซงได้อย่างมั่นใจ แต่ก็ไม่ถึงขั้นหลักติดเบาะ ส่วนคันเร่งอาจจะหน่วง ๆ หน่อย
ช่วงล่างถือว่านุ่มพอสมควร แต่ยังมีความหนึบแน่น ยึดเกาะถนนได้เป็นอย่างดี แถมท้ายเด้งน้อยมาก ซึ่งรถกระบะส่วนใหญ่มักมีข้อเสียตรงส่วนนี้ แต่ MG แทบจะไม่มีเลย จึงไม่แปลกที่จะนั่งแล้วไม่เมื่อย
ด้านการเก็บเสียง MG Extender ถือว่าทำได้ดีมาก ๆ เลยล่ะ ไม่ค่อยมีเสียงลมเข้ามาในห้องโดยสาร
![MG Extender ภายใน](https://img.icarcdn.com/autospinn/body/000000283514_ce2b8eda_6fb2_49c7_ae8b_4f41fdc2ee75.png)
เมื่อทดลองวิ่งในระยะทางกว่า 90 กม. เป็นเวลา 1 ชั่วโมง ด้วยความเร็วเฉลี่ย 80 – 90 กม./ชม (โหมด ECO มีผู้โดยสาร 3 คนต่อคัน) อัตราประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 13.42 กม./ลิตร และผู้ที่ทำอัตราประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้ดีที่สุดอยู่ที่ 15.54 กม./ลิตร
โดยรวมแล้วถือว่าทำออกมาได้ดี ระบบความปลอดภัยจัดเต็ม อัดแน่นออปชันไม่ต่างจาก MG รุ่นอื่น ๆ เช่นเคย การขับขี่นับว่าสอบผ่าน ช่วงล่างให้ฟีลเหมือนรถ SUV
แต่ข้อเสียของ MG Extender ติดตรงที่เครื่องยนต์ยังให้อัตราการประหยัดน้ำมันได้ไม่ดีเท่าคู่แข่งในตลาด บวกกับพวงมาลัยเบาเกินไปในช่วงที่ขับด้วยความเร็วสูง และสุดท้ายคือราคาที่ยังไม่น่าดึงดูดสักเท่าไร โดย MG Extender มือหนึ่งมีราคาเริ่มต้นที่ 559,000 - 1,039,000 บาท
MG มือสอง ราคาถูก ไม่เกิน 200,000 บาท มีไหม รุ่นไหนดี
หากคุณสนใจรถ MG มือสอง ราคาถูก ไม่เกิน 200,000 บาท ทาง one2car มีเพียง 2 รุ่น ได้แก่ MG3 และ MG6 โดยราคาจะเริ่มต้นอยู่ที่ 169,000 บาท
แต่ถ้าคุณอยากได้ MG มือสอง รุ่นอื่นที่ราคาถูกเหมือนกัน ราคาอาจจะเพิ่มขึ้นมาอีกนิดหน่อย โดยจะเป็น MG มือสอง ราคาไม่เกิน 300,000 บาท ซึ่งจะมี MG GS และ MG5 เพิ่มเข้ามาจาก 2 รุ่นข้างต้น ราคาจะเริ่มที่ 2 แสนต้น ๆ เท่านั้น
ซื้อรถ MG มือสอง เจ้าของขายเอง ฟรีดาวน์ ที่ไหนดี
สนใจ MG มือสอง เจ้าของขายเอง ฟรีดาวน์ ลองมาเลือกซื้อได้ที่ one2car ทางเรามีให้คุณเลือกทุกรุ่น ทุกแบบ ราคาถูก สภาพดีหลายคัน เพราะเราเป็นแพลตฟอร์มซื้อ-ขายรถยนต์มือสอง ที่คุณสามารถเลือกรถได้มากที่สุดในไทย
![MG มือสอง ราคาถูก](https://img.icarcdn.com/autospinn/body/000000010601_7d2807f4_68a4_4ff7_b302_678cd3eb8a15.jpg)
สำหรับใครที่กำลังมองหา MG มือสอง ราคาถูก เจ้าของขายเอง รถบ้าน ทาง One2car มีให้คุณเลือกทุกรุ่น ทุกแบบ ผ่อนถูก ฟรีดาวน์ คุณภาพพร้อมใช้งาน
ซื้อรถ MG มือสอง ที่นี่ไว้ใจได้แน่นอน พร้อมรับสิทธิพิเศษและโปรโมชันต่าง ๆ ที่ทางผู้ขายเสนอให้คุณแบบจุใจ ออกรถง่ายกว่าใคร แถมได้รถปลอดภัย ออปชันครบ!
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากขายรถ MG มือสอง ตรวจสภาพรถมือสอง หรือกำลังมองหารถยนต์มือสองรุ่นอื่น ๆ เพื่อเปรียบเทียบสเปกและราคา สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ตลาดรถ One2car