ไขข้อข้องใจ! แอร์รถมีกลิ่นอับเกิดจากอะไร? มีวิธีแก้ปัญหาอย่างไร?

ขับรถท่ามกลางสภาพอากาศร้อนๆ ของประเทศไทย ถ้าไม่เปิดแอร์รับรองว่าไม่ไหวอย่างแน่นอน แต่ว่าอยู่ดีๆ พอเปิดแอร์แล้วดันมีกลิ่นเหม็นอับชื้นตีขึ้นมา ลองสำรวจดูในรถแล้วก็ไม่มีขยะหรือตัวอะไรตาย แล้วกลิ่นเหม็นนี้มันเกิดจากอะไรกันแน่นะ?

บทความนี้ one2car จะมาไขข้อข้องใจ ปัญหาแอร์รถมีกลิ่นอับเกิดจากอะไร? และจะมีวิธีแก้ปัญหาอย่างไรบ้าง? หาคำตอบได้ที่บทความนี้เลย!

แอร์รถมีกลิ่นเหม็นอับ สาเหตุเกิดจากอะไร?

ปัญหาแอร์รถมีกลิ่นอับนั้น โดยมากมักจะเกิดจากภายในระบบทำความเย็น (Compressor) ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น 

• แผงคอยล์เย็นมีความชื้นสะสมอยู่มาก ทำให้เกิดกลิ่นอับและแบคทีเรีย หากเป็นกรณีนี้ยังส่งผลให้แอร์รถไม่ค่อยเย็นอีกด้วย
• ช่องแอร์เกิดการอุดตันจากฝุ่นละอองสะสม หากเป็นกรณีนี้ยังส่งผลให้พัดลมแอร์ไม่ค่อยแรงอีกด้วย
• ที่กรองแอร์สกปรกและอุดตัน เริ่มกลายเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียจนส่งกลิ่นเหม็น

หลายๆ คนอาจคิดว่าแค่กลิ่นอับนิดเดียวไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย แต่จริงๆ แล้วกลิ่นอับเหล่านี้มักจะเกิดจากการหมักหมมของแบคทีเรีย ซึ่งส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจในระยะยาว ยิ่งถ้าคุณมีลูกน้อยแล้วด้วยล่ะก็ ปัญหานี้นับเป็นสิ่งที่คุณไม่ควรมองข้ามเลยทีเดียว

5 วิธีแก้ปัญหา ขจัดกลิ่นเหม็นอับจากแอร์รถ!

ทีนี้เรามาดูกันเลยว่า มีวิธีไหนบ้างที่จะสามารถลดกลิ่นอับจากแอร์รถยนต์ได้ ซึ่ง one2car ได้รวบรวมมาให้ด้วยกันทั้งหมด 5 วิธี ดังนี้เลย!

1. ปิดสวิทช์ A/C ไล่ความชื้น

อันดับแรก แนะนำว่าให้กดปิดสวิทช์ A/C และเร่งพัดลมให้แรงที่สุดทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที เพื่อไล่ความชื้น และลดกลิ่นอับออกจากระบบทำความเย็น

โดยการปิดสวิทช์ A/C นั้นจะทำให้ระบบทำความเย็นนั้นไม่ดึงน้ำยาทำความเย็นมาใช้ ทำให้เราสามารถใช้พัดลมช่วยเป่าลดกลิ่นอับชื้นออกจากคอมเพรสเซอร์ได้นั่นเอง

***สวิทช์ A/C คือสวิทช์ที่มีไว้สำหรับการ เปิด-ปิด การทำความเย็นของคอมเพรสเซอร์ (Compressor) 

2. เปลี่ยนไส้กรอง

อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้แอร์รถมีกลิ่นเหม็นอับก็คือ ที่กรองแอร์อาจเริ่มสกปรกและอุดตันจนแบคทีเรียเริ่มสะสม ซึ่งปัญหานี้ก็แก้ได้ง่ายๆ เพียงแค่เปลี่ยนที่กรองแอร์เท่านั้นเอง

โดยปกติแล้วเราควรจะเปลี่ยนที่กรองแอร์เฉลี่ยๆ ทุก 2 หมื่นกิโลฯ หรือถ้าเกิดว่าขับรถในที่ที่มีฝุ่นควันเป็นจำนวนมาก เช่น ถนนลูกรังในแถบต่างจังหวัด ก็สามารถเปลี่ยนเร็วกว่านั้นได้เช่นกัน

สำหรับใครที่ต้องการเปลี่ยนที่กรองแอร์ด้วยตัวเอง ทาง one2car ได้แนะนำวิธีเปลี่ยนที่กรองแอร์แบบ D.I.Y. เอาไว้ให้ทุกคนเรียบร้อยแล้ว สามารถอ่านวิธีการได้ที่บทความ >>> เปลี่ยนกรองแอร์รถยนต์ D.I.Y ทำได้ง่ายๆด้วยตัวเอง

3. ใช้บริการล้างแอร์

อีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าจะทำให้แอร์ของคุณสะอาดหมดจดและลดกลิ่นอับได้ก็คือ การล้างแอร์ นั่นเอง โดยปกติเราควรที่จะล้างแอร์ทุกๆ 1 ปีหรือเมื่อสังเกตเห็นอาการแปลกๆ ที่เกิดขึ้น เช่น

• แอร์ไม่เย็น
• แอร์มีกลิ่นอับ หรือเหม็นเปรี้ยว
• แอร์เสียงดังผิดปกติ
• มีน้ำหยด หรือเริ่มซึมจากแอร์

โดยคุณสามารถนำรถไปล้างแอร์ได้ที่ศูนย์ให้บริการ หรือร้านล้างรถทั่วไป แบ่งเป็นการล้างแบบถอดตู้ และล้างแบบไม่ถอดตู้ ซึ่งการล้างทั้ง 2 แบบจะแตกต่างกันออกไป สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บทความ >>> ล้างแอร์แแบบไหนดี ถอดตู้กับไม่ถอดตู้

4. จอดรถตากแดด

เวลาเสื้อผ้า หรือรองเท้ามีกลิ่นอับ เราก็มักจะเอาไปตากแดด ซึ่งวิธีนี้ก็สามารถใช้กับรถยนต์ได้เช่นกัน! แนะนำว่าให้นำรถไปจอดกลางแดดแรงประมาณ 20-30 นาทีโดยเปิดประตูทั้งหมดทิ้งไว้ เพียงเท่านี้ก็ลดกลิ่นอับถายในระบบทำความเย็น และกลิ่นอื่นๆ ที่ติดอยู่ตามเบาะโดยสารอีกด้วย

แต่ว่า ในการจอดรถตากแดดนั้น ต้องระวังในเรื่องสิ่งของต่างๆ ที่อาจทำให้เกิดอันตรายต่อตัวรถเมื่อจอดไว้ท่ามกลางความร้อน เช่น

• พาวเวอร์แบงค์ (Powerbank)
• สเปรย์ต่างๆ
• ไฟแช็ค
• น้ำหอม หรือขวดน้ำมันหอมระเหย

เนื่องจากสิ่งของเหล่านี้หากทิ้งไว้กลางแดดอาจทำให้เกิดไฟลุกไหม้ขึ้นมาได้ ต้องระวังเอาไว้ให้มากๆ เลยทีเดียว

5. ใช้น้ำหอม หรือถุงหอมติดรถยนต์

สำหรับใครที่ลองทำตามวิธีตามที่บอกไปแล้วยังคงเหลือกลิ่นอับนิดๆ ในระหว่างนี้อาจจะใช้น้ำหอมติดรถยนต์ หรือถุงหอมปรับอากาศเพื่อช่วยกลบกลิ่นอับภายในรถไปก่อน แล้วค่อยส่งให้ผู้เชี่ยวชาญดูว่าการที่แอร์มีกลิ่นอับนั้นเกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่

สรุป

เท่านี้ทุกคนก็น่าจะได้ทราบกันแล้วว่าการที่แอร์มีกลิ่นอับนั้นเกิดมาจากอะไร แต่อย่าลืมว่ากลิ่นอับที่เกิดขึ้นนั้นโดยมากมักจะเกิดจากการสะสมของแบคทีเรีย หากไม่อยากมีปัญหาด้านระบบทางเดินหายใจในระยะยาว และปกป้องสุขภาพของคนที่นั่งรถมากับเรา แนะนำให้รีบหาต้นตอแล้วแก้ปัญหาจะดีที่สุด

=====================

Autospinn เว็บไซต์รายงานข่าวรถยนต์ รถยนต์ไฟฟ้า รถมอเตอร์ไซค์ เช็ควันเปิดตัวรถใหม่ ราคารถ ตารางผ่อน และรีวิวรถยนต์ รถจักรยานยนต์ โดยทีมงานมืออาชีพ

ซื้อ-ขาย รถมือสอง ได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัยชัวร์ ต้องที่ ตลาดรถ one2car