อบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์ 2567 ทำยังไง ใครต้องอบรมบ้าง

กรมการขนส่งทางบกเปิดให้อบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์สำหรับคนที่ต้องต่อใบขับขี่ เพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสเชื้อไวรัสโคโรนา แม้สถานการณ์จะคลี่คลายลง แต่ก็ยังคงให้คนอบรมออนไลน์อยู่ ใครไม่รู้ว่าวิธีอบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์ทำยังไง ดูได้ที่บทความนี้

ใครบ้างที่ต้องอบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์

1. ผู้ที่ใบขับขี่หมดอายุเกิน 1 ปีขึ้นไป
2. ผู้ที่ต้องการต่อใบขับขี่จาก 5 ปี เป็น 5 ปี
3. ผู้ที่ใบขับขี่หายเกิน 1 ปีขึ้นไป หากทำใหม่จะต้องอบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์

อบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์ 2567 ทำยังไง (อัปเดตล่าสุด)

1. เข้าไปที่ www.dlt-elearning.com

สำหรับการผู้ที่ต้องการอบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์ ให้คุณเข้าไปที่ระบบการอบรมใบอนุญาตขับรถที่ www.dlt-elearning.com ซึ่งจะมีปุ่มให้คุณเลือก ได้แก่ เข้าสู่ระบบ ลงทะเบียนใหม่ และ For Foreigner สำหรับชาวต่างชาติ

หากคุณเคยลงทะเบียนไว้แล้วให้กด "เข้าสู่ระบบ" ได้เลย โดยกรอกเพียงเลขบัตรประชาชนและวันเดือนปีเกิด เช่น เกิดวันที่ 3 กันยายน 2539 ให้คุณใส่ 03092539

2. กดลงทะเบียนใหม่ (สำหรับผู้ใช้งานครั้งแรก)

สำหรับผู้ที่ไม่เคยลงทะเบียนมาก่อน ให้เลือก "ลงทะเบียนใหม่" จากนั้นระบบจะขึ้นให้เรากรอกข้อมูลส่วนตัว

3. กรอกข้อมูลส่วนตัวให้เรียบร้อย

สำหรับการกรอกข้อมูลส่วนตัวเพื่อเข้าอบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์ ระบบจะให้กรอกเลขบัตรประชาชนจำนวน 2 ครั้ง ตามด้วยเบอร์โทรศัพท์ อีเมล และวันเดือนปีเกิด เมื่อใส่ครบแล้วให้เรากดดำเนินการต่อ จากนั้นระบบจะให้เราใส่เลขบัตรประชาชน วัน เดือน ปีเกิด เพื่อเข้าสู่ระบบอีกที

4. กดเข้าฟังอบรมหลักสูตรที่ต้องการ

การอบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์จะมีด้วยกันทั้งหมด 5 หลักสูตร ได้แก่

1. ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล (ระยะเวลา 1 ชั่วโมง)
2. ใบอนุญาตขับรถขนส่ง (ระยะเวลา 2 ชั่วโมง)
3. ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล ขาดต่ออายุเกิน 1 ปี (ระยะเวลา 2 ชั่วโมง)
4. ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคลชั่วคราว สิ้นอายุเกิน 3 ปี (ระยะเวลา 2 ชั่วโมง)
5. ใบอนุญาตขับรถสาธารณะ (ระยะเวลา 3 ชั่วโมง)

ให้เราเลือกหลักสูตรที่ต้องการอบรม จากนั้นกด "สมัครอบรม"

5. กดดำเนินการต่อเพื่อดูวิดีโออบรม

หน้านี้จะเป็นการทวนรายละเอียดต่าง ๆ เช่น รายวิชาที่ต้องอบรม จากนั้นให้เรากด "ดำเนินการต่อ" แค่นี้ก็เรียบร้อย ฟังอบรบที่ไหนก็ได้ สะดวกสุดๆ

หมายเหตุ

*นับจากวันที่สมัครอบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์ เราจะมีระยะเวลา 90 วันในการอบรม หมายความว่า สมัครไปแล้วไม่ต้องอบรมทันที แต่ต้องอบรมให้เสร็จภายใน 90 วัน หลังจากวันที่สมัครนั่นเอง

เช็คผลอบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์ 2567 ยังไง

เข้าไปที่เว็บไซต์ https://www.dlt-elearning.com เลือกปุ่ม ตรวจสอบผลการอบรม สำหรับผู้ลงทะเบียนก่อน วันที่ ... จากนั้นเข้าสู่ระบบเพื่อเช็กผลได้เลย (อย่าลืมแคปหน้าจอผลผ่านการอบรมไว้เป็นหลักฐาน)

อบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์ เสร็จแล้วทําไงต่อ

หลังจากอบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์เสร็จแล้ว หากผ่านการอบรม ให้เราจองคิวต่อใบขับขี่ต่อได้เลย จะจองออนไลน์ผ่านแอป DLT Smart Queue หรือ Walk in ที่สำนักงานขนส่งก็ได้

ดูวิธีจองคิวต่อใบขับขี่ออนไลน์ได้ที่ How to จองคิวทำใบขับขี่ออนไลน์ ผ่านแอป DLT Smart Queue (แอปใหม่)

แนะนำว่าให้จองคิวต่อใบขับขี่ออนไลน์ดีกว่า เพราะคิวเต็มเร็วมาก อีกอย่างคือ ทางขนส่งก็ให้บริการผู้ที่จองคิวล่วงหน้า ถ้าไปถึงแล้วทำไม่ได้ก็ต้องนัดวันมาทำใหม่อีก ซึ่งบางครั้งอาจทำให้เราต้องใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะได้ต่อใบขับขี่ รู้อีกทีผลการอบรมก็หมดอายุเสียแล้ว และต้องเสียมานั่งอบรมกันใหม่อีก

หมายเหตุ

*ผลการอบรมออนไลน์จะมีอายุ 6 เดือนนับจากวันที่ผ่านการอบรม เท่ากับว่า คุณมีเวลา 6 เดือนเพื่อไปต่อใบขับขี่ที่ขนส่ง หลังจากผ่านการอบรมแล้ว

สิ่งที่ควรรู้เมื่อต้องต่อใบขับขี่ 2567

• กรมการขนส่งทางบกเปิดให้ Walk-in สำหรับผู้ที่ต้องการต่ออายุใบขับขี่ ไม่ต้องจองคิวผ่านแอป DLT Smart Queue
• การต่ออายุใบขับขี่จะต้องมีการอบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์มาแล้ว
• ผู้ที่ใบขับขี่หมดอายุไม่เกิน 1 ปี หรือผู้ที่ต้องการต่ออายุใบขับขี่ล่วงหน้าไม่เกิน 90 วันเท่านั้นถึงจะสามารถอบรมออนไลน์ได้
• กรณีต่อใบขับขี่จาก 2 ปี เป็น 5 ปี *ไม่ต้องอบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์* ยกเว้นหมดอายุเกิน 1 ปีขึ้นไป
• นับจากวันที่สมัครอบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์ เราจะมีระยะเวลา 90 วันในการอบรม
• ผลการอบรมออนไลน์จะมีอายุ 6 เดือน นับจากวันที่ผ่านการอบรม

ต่อใบขับขี่ 2567 ใช้เอกสารอะไรบ้าง

1. บัตรประจำตัวประชาชน
2. ใบขับขี่เดิมที่หมดอายุ
3. ผลผ่านการอบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์ (แคปหน้าจอ) หากเป็นใบขับขี่ชั่วคราว 2 ปี ถ้าหมดอายุไม่เกิน 1 ปี ไม่ต้องใช้
4. ใบรับรองแพทย์ อายุไม่เกิน 1 เดือน (ต้องไม่มีโรคประจำตัวหรือสภาวะของโรคที่มีแนวโน้มเป็นอันตรายขณะขับรถ)

​ขั้นตอนต่อใบขับขี่ 2567 ที่สำนักงานขนส่ง

1. เดินทางไปที่สำนักงานขนส่งตามวันและเวลานัด
2. รอเจ้าหน้าที่เรียกเพื่อแสดงเอกสารที่ใช้ต่อใบขับขี่และการจองคิวแก่เจ้าหน้าที่
3. ทดสอบสมรรถภาพทางร่างกาย ได้แก่ ทดสอบการมองเห็นสี (เขียว/เหลือง/แดง), ทดสอบสายตาทางลึก, ทดสอบสายตาทางกว้าง และทดสอบปฎิกิริยาของเท้า (เหยียบเบรกหลังเห็นไฟสัญญาณ)
4. ส่งเอกสารผลการทดสอบสมรรถภาพทางร่างกาย
5. รอเจ้าหน้าที่เรียกชำระค่าธรรมเนียม (ปิดรับชำระเงิน 15.30 น.) แนะนำให้พกเงินสด
6. ถ่ายรูปเพื่อทำใบขับขี่ใหม่
7. รับใบขับขี่

ค่าธรรมเนียมต่อใบขับขี่ 2567

• ค่าธรรมเนียมในการต่อใบขับขี่รถยนต์ คือ 505 บาท
• ค่าธรรมเนียมในการต่อใบขับขี่รถจักรยานยนต์ 255 บาท

ขาดต่อใบขับขี่เกินกำหนด ต้องอบรมกี่ชั่วโมง

ใบขับขี่จาก 2 ปี เป็น 5 ปี

• กรณีใบขับขี่หมดอายุเกิน 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี ต้องอบรมต่อใบขับขี่ 5 ชั่วโมง และสอบข้อเขียนใหม่
• กรณีใบขับขี่หมดอายุเกิน 3 ปี ต้องอบรมต่อใบขับขี่ 5 ชั่วโมง พร้อมสอบข้อเขียน สอบขับรถ และยื่นใบรับรองแพทย์ใหม่ (ใบรับรองแพทย์ต้องออกไม่เกิน 1 เดือน) เหมือนกับการทำใบขับขี่ใหม่

ใบขับขี่ 5 ปี เป็น 5 ปี

• กรณีใบขับขี่หมดอายุเกิน 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี ต้องอบรมต่อใบขับขี่ 2 ชั่วโมง และสอบข้อเขียนใหม่
• กรณีใบขับขี่หมดอายุเกิน 3 ปี ต้องอบรมต่อใบขับขี่ 2 ชั่วโมง พร้อมสอบข้อเขียน สอบขับรถ และยื่นใบรับรองแพทย์ใหม่ (ใบรับรองแพทย์ต้องออกไม่เกิน 1 เดือน)

อ่านบทความน่าสนใจเพิ่มเติม​

• แอปติวสอบใบขับขี่ อัปเดตปี 2565
• ทำใบขับขี่สากล สำหรับการขับขี่ยานยนต์ในต่างประเทศ ต้องทำอย่างไรบ้าง

ค้นหารถมือสองทุกรุ่น ทุกแบบ ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน ดูรายละเอียด และราคารถมือสองได้ที่ ตลาดรถมือสอง One2car

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ไปกับ Autospinn