One2car.com
One2car.com App
Predict the Price of Your Vehicle
4.5
21,133
Get

รีวิว ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด หัวใจใหม่ราคา 1.899 ล้านบาท คู่แข่งรถใหญ่หัวใจลูกครึ่งมาแล้ว !!

Expert Reviews

รีวิว ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด หัวใจใหม่ราคา 1.899 ล้านบาท คู่แข่งรถใหญ่หัวใจลูกครึ่งมาแล้ว !!

ตลาดรถยนต์นั่งขนาดใหญ่หัวใจเครื่องยนต์ลูกผสมเครื่องยนต์เบนซิน-มอเตอร์ไฟฟ้า ที่รู้จักกันว่าระบบไฮบริดนั้นมีความคึกคักขึ้นมาทันที เมื่อเจ้าตลาดรถยนต์นั่งในปีที่ผ่านมาอย่าง ฮอนด้า ตัดสินใจส่งสินค้าหลักอย่าง 2014 ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด เข้าตะลุยศึกในครั้งนี้

แม้สนนราคาจะเคาะกันมาถึง 1.899 ในรุ่นท๊อป ซึ่งแน่นอนว่าแพงกว่าคู่แข่งโดยตรงอย่างโตโยต้า คัมรี่ ไฮบริดอยู่ราว 2 หมื่นบาท และในรุ่นล่างก็ยังแพงกว่าเล็กน้อย แต่ดูเหมือนทีมงานของฮอนด้าเองก็ค่อนข้างมั่นใจในการยกทัพเข้าตีเมืองไฮบริดในครั้งนี้

เพราะไม่อาจปฏิเสธได้ว่าไฮบริดคือหัวใจหลักของผู้นำอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในช่วงที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นในเซกเมนต์รถยนต์นั่งขนาดใหญ่ที่เปิดตัวคัมรี่มาก่อนใครเพื่อน แถมยังมีตัวล่างอย่างพริอุสเอาไว้แย่งชิงลูกค้าที่มีเงินล้านต้น ๆ ไปอีกต่างหาก

ไม่พูดพล่ามทำเพลงใดใด ทีมงานวิศวกรของฮอนด้าประกาศชัดเจนว่าจะใช้เทคโนโลยีไฮบริดรุ่นใหม่ล่าสุดที่ทำการพัฒนามาและกว่าจะอธิบายการทำงานให้เข้าใจกันทั้งหมดก็เป็นไปอย่างยากลำบาก เพราะทีมงานของฮอนด้าฟันธงว่า เทคโนโลยีของคู่แข่งนั้น อยู่ระหว่างกลางเทคโนโลยีรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ของฮอนด้าเท่านั้น

นั่นก็หมายความว่าในการมาเปิดตลาดในประเทศไทยครั้งนี้ ฮอนด้าไม่ได้มาในฐานะผู้ตาม แต่มาในฐานะผู้นำเทคโนโลยีรุ่นใหม่ที่ได้รับการพัฒนามาภายใต้ชื่อ i-MMD ซึ่งเดี๋ยวจะอธิบายความเลิศล้ำให้ฟังที่ด้านล่างตรงส่วนของเครื่องยนต์อีกครั้ง

ฮอนด้าบอกว่ารถคันนี้คือรถที่เพียบพร้อมด้วยภาพลักษณ์แห่งความหรูหรา ความสะดวกสบายเหนือระดับและการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม ทั้งในเรื่องของสมรรถนะและการประหยัดเชื้อเพลิงที่เป็นเยี่ยม เรียกว่าเหนือกว่าคู่แข่งในท้องตลาดอย่างเห็นได้ชัด

ไปทดสอบครั้งนี้ได้ขับสั้น ๆ ประมาณ 80 กิโลเมตร อาจจะยังไม่ค่อยได้เล่นอุปกรณ์อะไร แต่กับเครื่องยนต์และการขับขี่แล้ว บอกเลยว่าเราเต็มที่!!!

 

รูปลักษณ์คุ้นตา แอคคอร์ดเคลือบสีฟ้า ดูล้ำยุค

อย่างที่เรารู้กันดีอยู่แล้วว่า แอคคอร์ด ไฮบริดนั้น เป็นเพียงอีกอนุพันธ์หนึ่งของฮอนด้า แอคคอร์ดที่จำหน่ายอยู่แล้วในปัจจุบัน มองในภาพรวม ๆ ของรถก็ถือว่ามีการเปลี่ยนแปลงไม่มากนัก ตัวรถยังให้บรรยากาศอบอุ่นชวนขับขี่เหมือนที่ผ่าน ๆ มา

แต่ในความเป็นจริงแล้ว ฮอนด้ามีการเพิ่มอะไรหลาย ๆ อย่างเข้าไปในรถคันนี้ บอกก่อนว่าอุปกรณ์ทั้งหมดที่กำลังจะพูดถึงคือในรุ่นแอคคอร์ด ไฮบริด เทค ซึ่งเป็นรุ่นท๊อปเท่านั้นนะครับ ในรุ่นธรรมดาอุปกรณ์และการตกแต่งจะแตกต่างกันบ้างเล็กน้อย

 

ไฟฟหน้าแบบแอลอีดีตกแต่งด้วยกรอบสีฟ้า ไฟท้ายแบบแอลอีดี และกระจังหน้าดีไซน์พิเศษตกแต่งด้วยเลนส์สีเคลียร์บลู ซึ่งดูแล้วน่าจะเป็นอุปกรณ์ตกแต่งที่เตรียมโดนก๊อปปี้ในไม่ช้า มาพร้อมล้ออัลลลอย 18 นิ้วและเสาอากาศแบบครีบฉลาม

ระบบไฟหน้าแบบปรับสูง-ต่ำอัตโนมัติ กระจกมองข้างด้านซ้ายปรับองศาลงต่ำอัตโนมัติเมื่อถอย ซึ่งเราคุ้นเคยดีกับรถยนต์หรูหราจากฟากยุโรป ซันรูฟแบบเปิดปิดด้วยไฟฟ้า สัญลักษณ์ไฮบริดที่ด้านข้างเหนือซุ้มล้อหน้าและที่ฝากระโปรงหลัง

แม้จะติดตั้งแบตเตอรี่ที่พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลัง แต่รถยนต์คันนี้ก็ยังให้พื้นที่เก็บสัมภาระได้มากถึง 415 ลิตร โดยการติดตั้งแบตเตอรี่ที่ด้านหลังนี้ ยังช่วยป้องกันในเรื่องของความชื้นหรือการเปียกของแบตเตอรี่ในกรณีที่ขับรถลุยน้ำด้วยเช่นกัน

พื้นที่เก็บของที่มากขึ้นนั้น ส่วนหนึ่งมาจากการถอดยางอะไหล่ออกไป แล้วแทนที่ด้วยชุดซ่อมยางที่ฮอนด้าบอกว่าใช่้งานได้อย่างสะดวกในกรณีฉุกเฉิน แต่แน่นอนว่าหากเกิดอุบัติเหตุรุนแรงก็คงต้องรอรถลากมาช่วยเหลือเพียงอย่างเดียว

เครื่องยนต์และระบบส่งกำลังเทคโนโลยีใหม่ น่าใช้เกินใค

การทำงานของเครื่องยนต์ มอเตอร์ไฟฟ้าและระบบส่งกำลัง กลายเป็นหัวข้อหลักที่มีการลงลึกในรายละเอียดมากที่สุดหลังการขับขี่เสร็จสิ้นลง แน่นอนว่าสเปกที่ฮอนด้าระบุไว้ว่าเครื่องยนต์แอทคินสัน 2.0 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ อี-ซีวีที ให้กำลังสูงสุดเมื่อทำงานร่วมกันที่ 199 แรงม้า อาจจะฟังแล้วไม่น่าแปลกใจ

แต่อันนี้ต้องขออธิบายกันแบบละเอียดสักเล็กน้อย เพราะจริง ๆ แล้วรูปแบบการทำงานของรถคันนี้ออกจะแปลกประหลาดไปจากระบบทั่วไปเล็กน้อย จนทำให้คำว่าเทคโนโลยีนี้เหนือชั้นและล้ำหน้ากว่าคู่แข่ง ดูไม่ค่อยจะเกินจากความเป็นจริงไปนัก

อย่างที่รู้กันว่าเทคโนโลยีเอิร์ธดรีมที่นำมาใช้ในการพัฒนารถยนต์รุ่นนี้คือแนวคิดในการสร้างรถที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมโดยไม่ลดทอนสมรรถนะในการขับขี่ และได้กลายมาเป็นรถยนต์ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อนรถยนต์เป็นหลักคันนี้ออกมา

 

ใช่แล้วครับ อ่านไม่ผิดกันแน่ ๆ ว่ารถคันนี้ใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อนเป็นหลัก หัวใจสำคัญอยู่ที่มอเตอร์ไฟฟ้าที่้ติดตั้งมา 2 ตัวในเครื่องยนต์ชุดนี้ มอเตอร์ขับเคลื่อนตัวแรกจะต่อตรงกับแบตเตอรี่ เรียกว่ามอเตอร์ขับเคลื่อนที่ให้แรงบิดสูงสุดถึง 307 นิวตันเมตร ซึ่งจะทำการส่งไฟฟ้าไปขับเคลื่อนล้อผ่านเฟืองที่ติดกับล้อโดยตรง และจะทำหน้าที่ชาร์จไฟกลับเข้าไปที่แบตเตอรี่เมื่อลดความเร็วหรือเบรกรถ

มอเตอร์อีกตัวมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่ามอเตอร์เจนเนอเรเตอร์ จะทำหน้าที่ในการผลิตไฟฟ้าด้วยกำลังจากเครื่องยนต์ ด้วยการทำงานร่วมกับเจนเนอเรเตอร์ในระบบ และส่งกำลังไฟฟ้าไปที่มอเตอร์ขับเคลื่อนที่เชื่อมต่อกับเฟืองล้อหน้าของรถโดยตรง เพื่อทำการควบคุมรถให้เคลื่อนที่ไปข้างหน้าหรือถอยหลัง

อ่านมาถึงตรงนี้งงไหมครับ สิ่งที่น่าสังเกตก็คือ 1.รถยนต์คันนี้จะไม่ใช้เครื่องยนต์ในการขับเคลื่อนรถโดยตรง เครื่องยนต์แอทคินสันที่ติดตั้งมาจะทำหน้าที่สร้างพลังงานไฟฟ้าเพื่อส่งไปที่มอเตอร์ขับเคลื่อนเท่านั้น นี่คือสาเหตุที่ทำให้เราไม่สามารถใช้งานรถด้วยการวิ่งด้วยเครื่องยนต์ได้เพียงระบบเดียว หากระบบไฟฟ้าพัง รถคันนี้จะวิ่งไม่ได้ทันที

 

2.ไม่มีการพูดถึงคำว่าเกียร์เกิดขึ้นในการพูดถึงการทำงานของเครื่องยนต์ แม้ฮอนด้าจะบอกว่าระบบที่นำมาใช้งานจะเป็นการพัฒนาต่อเนื่องมาจากระบบเกียร์ซีวีทีประเภทหนึ่งก็ตาม แต่ขอให้ลืมภาพของระบบเกียร์แท่งใหญ่ ๆ ที่เคยพบเห็นในรถรุ่นเดิม ๆ ไปได้เลย เพราะระบบนี้จะส่งกำลังผ่านเฟืองที่เชื่อมโดยตรงกับล้อหน้าโดยตรงเท่านั้น

การทำงานของระบบมอเตอร์และเครื่องยนต์เป็นแบบอัตโนมัติและมีหน่วยควบคุมการทำงานที่จะทำหน้าที่คิดให้เองว่าควรจะใช้กำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าหรือเครื่องยนต์เข้ามาช่วยประกอบกับเพื่อตอบสนองในเรื่องของการขับขี่ทั้งหมด

ด้วยแนวคิดในการพัฒนาที่ต้องบอกว่าฉลาดเอาเรื่อง แม้จะส่งผลกลับมาในเรื่องของการขับขี่ที่เสียงของมอเตอร์ไฟฟ้าจะดังอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ความเร็วปานกลางไปถึงความเร็วสูง และมาตรวัดรอบเครื่องยนต์ก็จะหายไปจากแผงคอนโซลหน้า

ระบบเซอร์โวเบรกติดตั้งมาในรถคันนี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชาร์จกระแสไฟกลับเข้าสู่แบตเตอรี่ในยามเบรก ขณะที่รถสามารถวิ่งด้วยระบบไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ด้วยการกดปุ่ม EV ที่ด้านล่างของแป้นเบรก หากวิ่งจนไฟหมด เครื่องยนต์จะกลับมาทำงานอีกครั้งโดยอัตโนมัติ

 

ภายในหรูหรามาตรฐาน ห้องโดยสารเก็บเสียงดีเยี่ยม

จริง ๆ แล้วห้องโดยสารของฮอนด้า แอคคอร์ดก็เป็นห้องโดยสารที่น่าเข้าไปนั่งเล่นอยู่แล้วเป็นทุนเดิม ด้วยวัสดุที่เลือกสรรมาใช้นั้นถือว่าหรูหราเอาเรื่อง และอุปกรณ์ตกแต่งที่มีมาให้อย่างครบครันในทุก ๆ ส่วน

เข้ามาในรถแล้วสิ่งที่จะรอต้อนรับอยู่ก็คือเบาะที่นั่งที่รองรับน้ำหนักได้เป็นอย่างดี แผงคอนโซลหน้าแบบกึ่งโลกอนาคต ด้วยจอตรงกลางแบบแยกเป็น 2 โซน และช่องแสดงข้อมูลด้านหลังพวงมาลัยที่ออกแบบมาอย่างเนี๊ยบกริบ

มาตรวัดผลต่าง ๆ อาจจะแตกต่างจากรุ่นมาตรฐานไปบ้าง เช่น การตัดมาตรวัดรอบเครื่องยนต์ออกแล้วติดตั้งจอแสดงผลการจ่ายไฟและชาร์จไฟของระบบไฮบริดเข้ามาแทน และหากเป็นนักขับที่ดี มาตรวัดเรืองแสงจะทำการเปลี่ยนสีเพื่อชื่นชมเราอีกต่างหาก

 

ระบบปรับอากาศแบบดูอัล โซน แยกการปรับอุณหภูมิแบบอิสระ ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์ไร้สาย ระบบเครื่องเสียงอัจฉริยะแบบสัมผัสที่แสดงผลผ่านจอขนาด 8 นิ้ว ลำโพง 7 ตัว มาพร้อมระบบเครื่องเสียงแบบพรีเมียมที่ช่วยเพิ่มสุนทรียภาพในการเดินทาง มาพร้อมฮาร์ดดิสก์ในการเก็บเพลง และแน่นอนว่าต้องมีระบบนำทางติดตั้งมาให้ด้วย

สิ่งที่ดีงามมากอีกระบบหนึ่งสำหรับรถคันนี้ก็คือระบบควบคุมเสียงรบกวนเข้าห้องโดยสาร ที่ช่วยจัดการเสียงลมและเสียงล้อที่เข้ามาปะทะรถอย่างเต็มที่ออกไปอย่างง่ายดาย แต่ก็ยังไม่สามารถจัดการกับเสียงมอเตอร์ไฟฟ้าที่ดังกระหึ่มจากใต้ฝากระโปรงแบบเอาเรื่องอยู่เหมือนกันนะนี่

 

สมรรถนะโดดเด่น เน้นการใช้งาน แต่…

ออกตัวก่อนเลยว่าในการขับขี่ที่กระบี่ในครั้งนี้ ฝนตกลงมาหนักมากตลอดการทดสอบ ทำให้เรื่องที่ไม่อยากจะพูดถึงเลยก็คืออัตราการสิ้นเปลืองน้ำมัน เพราะการเสียเวลาไปกับขาไปทำให้ต้องเร่งเครื่องกันอย่างเต็มที่ในช่วงขากลับ แน่นอนว่าทำให้อัตราการสิ้นเปลืองเพิ่มมากขึ้นไปด้วย แต่แม้จะเชื่อว่าทำได้ดีกว่านี้แน่ แต่รถคันที่ไปขับมาก็ยังทำตัวเลขระดับ 15-16 กิโลเมตรต่อลิตรให้เห็นอย่างสบาย ๆ

การตอบสนองของเครื่องยนต์นั้นเป็นไปอย่างกระตือรือล้นอยู่เกือบตลอดเวลา ด้วยแรงบิดมหาศาลที่ออกมาจากมอเตอร์ขับเคลื่อนนั้น มาตั้งแต่กดคันเร่งปรื๊ดลงไป การออกตัวถือว่าให้อารมณ์กระชากเอาเรื่องเหมือนกัน แต่ยังไม่ถึงขั้นหลังติดเบาะ ซึ่งแน่นอนว่าถนนเปียกมีผลต่อการลดทอนประสิทธิภาพที่แท้จริงลงไปมากพอสมควร

แม้ถนนจะเปียก ฝนจะตก แต่การนำรถคันนี้วิ่งที่ระดับความเร็วปานกลางถึงสูงก็ไม่ได้ก่อให้เกิดความรู้สึกหวาดเสียวแต่อย่างใด ส่วนหนึ่งเพราะเสียงรบกวนจากภายนอกถูกลดทอนไปแล้วอย่างมาก ช่วงล่างที่วิ่งบนยาง 18 นิ้วก็ให้ความรู้สึกตึงขาไม่น้อย ระบบเบรก็เอาอยู่ในทุกย่านความเร็ว ช่วยทำให้เราสนุกสนานกับการนำรถพุ่งทะยานไปข้างหน้ามากขึ้น

 

ความง่ายและสะดวกของฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริดอีกอย่างก็คือ หากต้องการพละกำลังที่เพิ่มขึ้นเท่าใด ก็ไม่ต้องไปกังวลกับเกียร์หรือแพดเดิลชิฟท์ให้เสียเวลา สิ่งที่ต้องทำก็คือกดคันเร่งเรียกพละกำลังจากหน่วยควบคุมพลังงานที่จะคิดให้เสร็จสรรพว่าจะใช้พลังไฟฟ้าจากมอเตอร์หรือเครื่องยนต์เท่าไร เพื่อตอบสนองการขับขี่ของเรา แต่หากต้องการแรงเบรกเพื่อช่วยในยามเบรกฉุกเฉิน ก็เพียงดึงคันเกียร์ไปที่ตำแหน่ง B เพื่อช่วยเล็กน้อยก็พอ

อ่านมาถึงตรงนี้แล้วอาจจะคิดว่ารถคันนี้น่าใช้ไปเสียทั้งหมด เอาจริง ๆ ก็คิดอยู่ใกล้เคียงกันนั่นล่ะครับ แต่… ติดปัญหาเรื่องเดียวที่คิดอยู่คือ หากบังเอิญรถคันนี้เสียขึ้นมา ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงน่าจะแพงอยู่เอาเรื่อง เพราะอย่างที่บอกไปแล้วว่ารถไม่สามารถวิ่งด้วยระบบเครื่องยนต์ระบบเดียวได้เลย ขณะเดียวกัน การวิ่งด้วยไฟฟ้าก็มีข้อจำกัดที่จะต้องชาร์จไฟกลับเข้าไปให้ทัน โดยแนวทางปฏิบัติแล้วไม่น่าจะวิ่งใช้งานได้

 

ผมถามคำถามนี้กับทีมวิศวกรในเรื่องของค่าใช้จ่ายว่าระบบที่ดีเยี่ยมนี้ ค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมนั้น ‘แพง’ กว่าระบบไฮบริดแบบเดิม ๆ หรือไม่ คำตอบที่ได้คือเสียงหัวเราะแหะแหะ พร้อมกับบอกว่าการออกแบบระบบนี้ ไม่ได้ออกแบบมาให้พังได้ง่าย ๆ อยู่แล้ว แถมฮอนด้าเองยังรับประกันระบบไฮบริดให้ 5 ปี พร้อมด้วยแบตเตอรี่อีก 10 ปีต่างหาก น่าจะสร้างความสบายใจให้กับผู้ใช้งานได้จำนวนหนึ่ง

ตอบแบบนี้ก็คงต้องอนุมานไปก่อนว่าน่าจะเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน ถ้าคิดว่ารับตรงนี้ได้ นี่คือรถยนต์ที่มาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดรุ่นหนึ่งของประเทศไทย ในระดับราคาที่พอคบหาได้อย่างสนิทใจเลยทีเดียว!!!



Featured

แนวโน้มรถยนต์ไฟฟ้า ‘ยังไงก็รอด’ ปี 2567 ต้นทุนแบตถูกลง 50%

แนวโน้มรถยนต์ไฟฟ้า ‘ยังไงก็รอด’ ปี 2567 ต้นทุนแบตถูกลง 50%

Car Guides
เจาะแนวโน้มรถยนต์ไฟฟ้า EV จะกลายเป็นรถยนต์แห่งอนาคตจริงหรือไม่ ? ปฏิวัติการขนส่งได้อย่างไร เคลียร์ความสงสัยได้ในบทความนี้ผ่าแนวโน้มอนาคตยานยนต์ไฟฟ้า ...
ในยุคของรถยนต์ไฟฟ้า รถสันดาปมือสองจะตายจากเราไปหรือไม่?

ในยุคของรถยนต์ไฟฟ้า รถสันดาปมือสองจะตายจากเราไปหรือไม่?

Car Guides
เมื่อรถยนต์ไฟฟ้ากำลังกลายเป็นกระแสหลักในประเทศไทย ด้วยราคาที่เข้าถึงง่ายพร้อมออปชั่นล้นๆ ก็ทำให้เกิดคำถามว่า ...
ฤกษ์ออกรถ เมษายน 2567 ตามวันเกิด พร้อมเวลาล้อหมุน

ฤกษ์ออกรถ เมษายน 2567 ตามวันเกิด พร้อมเวลาล้อหมุน

Car Guides
มาแล้ว! ฤกษ์ออกรถ เมษายน 2567 ใครยังไม่มีฤกษ์รับรถ รีบเข้ามา! ซินแสดูให้จริง อยากรู้เกิดวันนี้ควรออกรถวันเวลาไหนก็ย่อมได้ฤกษ์รับรถเดือนเมษายน ...

Comments

app-icon
app-icon
app-icon
View your Dream Cars
in the App
Download App Now