One2car.com
One2car.com App
Predict the Price of Your Vehicle
4.5
21,133
Get

เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัว 2 รุ่นใหม่ Mercedes-AMG GT R และ Mercedes-AMG GT C รถยนต์สปอร์ตสายพันธุ์แรง

Car Guides

เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัว 2 รุ่นใหม่ Mercedes-AMG GT R และ Mercedes-AMG GT C รถยนต์สปอร์ตสายพันธุ์แรง

เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัวแบรนด์ เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี อย่างเป็นทางการ โดยแนะนำสมาชิกใหม่ล่าสุด 2 รุ่น  Mercedes-AMG GT R รถยนต์สปอร์ตสายพันธุ์แรงที่เปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีแบบมอเตอร์สปอร์ตเต็มสมรรถนะ และ Mercedes-AMG GT C สปอร์ตโรดสเตอร์ โฉบเฉี่ยว ล้ำสมัย และโดดเด่นไม่เหมือนใคร

ราคาจำหน่ายของเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี จีที ซี เริ่มต้นอยู่ที่ 16.8 ล้านบาท ส่วนเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี จีทีอาร์ เคาะไว้เริ่มต้น 17.4 ล้านบาท
 
Mercedes-AMG GT R เป็นสมาชิกใหม่ของรถสปอร์ตตระกูล AMG GT และเป็นรถสปอร์ต รุ่นแรกของเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมอันล้ำสมัยของรถแข่งมาประยุกต์ใช้ ดีไซน์ภายนอกในส่วนหน้าของตัวรถมีลักษณะลาดต่ำและกระจังหน้า ที่ยื่นออกไปคล้ายจมูกฉลามนั้นสามารถช่วยลดแรงกดที่ด้านหลังตัวรถ ส่งผลให้การไหลเวียนของอากาศขณะรถเคลื่อนที่ดีขึ้น  อีกทั้งยังประกอบด้วยวัสดุบังคับลมชุบโครเมี่ยม 15 ซี่เช่นเดียวกับรถแข่งรุ่น Mercedes-AMG  GT 3, ล้ออัลลอยแบบ AMG Performance มีน้ำหนักเบา นอกจากนั้นยังมีหลังคารถที่ผลิตจากวัสดุคาร์บอน เสริมให้ตัวรถมีสีสันตัดกันสวยงาม พร้อมติด ระบบเบรกแบบ AMG high-performance composite brake สีเหลืองที่เป็นสีพิเศษสำหรับรถยนต์รุ่นนี้โดยเฉพาะ
ดีไซน์ภายใน ห้องโดยสารของ Mercedes-AMG GT R ได้รับอิทธิพลมาจากกีฬามอเตอร์สปอร์ต โดยเบาะที่นั่งถูกปรับให้ต่ำลงเพื่อให้ผู้ขับขี่รู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับตัวรถ อีกทั้งยังเป็นเบาะที่นั่งแบบ AMG Sports Bucket หุ้มด้วยหนัง Nappa และเส้นใย DINAMICA Microfibre ที่ช่วยปกป้องลำตัวด้านข้างได้ดีแม้ขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูง  ทั้งนี้ ผู้เป็นเจ้าของสามารถเลือกติดตั้งเบาะที่นั่งแบบเอเอ็มจีเพอร์ฟอร์มานซ์ และอุปกรณ์เสริมต่างๆ เพื่อเพิ่มความเร้าอารมณ์ขณะขับขี่ได้อีกด้วย
ความปลอดภัยและเทคโนโลยี Mercedes-AMG GT R มีระบบกันสะเทือนที่ออกแบบมาเพื่อใช้กับรถยนต์รุ่นนี้โดยเฉพาะ โดยจะทำงานร่วมกับระบบ AMG RIDE CONTROL ด้วยการใช้โครงสร้างปีกนกสองชั้นเพื่อรักษาสมดุลของล้อ และติดสปริงไว้ด้านบน, ใช้นวัตกรรม AMG Lightweight Performance ที่เลือกสรรวัสดุน้ำหนักเบามาใช้ในการผลิต ทำให้โครงสร้างของรถมีน้ำหนักเบา มีความยืดหยุ่นสูง แต่แข็งแกร่งและสามารถกระจายแรงได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงระบบความปลอดภัยระดับโลกที่อยู่ใน Mercedes-AMG GT R คันนี้
 
ทางด้าน Mercedes-AMG GT C ถือเป็นรถยนต์โรดสเตอร์ที่มีสมรรถนะดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี จากการผสมผสานนวัตกรรมใหม่ล่าสุดจากรถยนต์ Mercedes-AMG GT R เข้ากับระบบช่วงล่าง AMG RIDE CONTROL Sports Suspension ที่เป็นจุดเด่นของรถยนต์รุ่นนี้ ทำให้ลูกค้าสามารถสัมผัสได้ถึงประสบการณ์ ขณะขับขี่ที่น่าพึงพอใจที่สุด
ดีไซน์ภายนอก มีการเสริมสปอยเลอร์หลังที่ใหญ่ขึ้นเพื่อรองรับการขับขี่ในสนามแข่งรถยนต์ที่มีช่องทางวิ่งกว้าง, ล้อหลังถูกปรับให้ใหญ่ขึ้นเพื่อรองรับนวัตกรรมต่างๆ ที่เพลาหลัง และเพิ่มประสิทธิภาพขณะเข้าโค้งและเสริมการยึดเกาะ, กระจังหน้าแบบเอเอ็มจีแพนอเมริกาน่า 
ดีไซน์ภายใน มาพร้อมกับเบาะหนัง Nappa ที่อยู่ต่ำเพื่อช่วยโอบล้อมผู้ขับขี่ให้รู้สึกราวกับอยู่ในรถแข่ง, พวงมาลัยเอเอ็มจีเพอร์ฟอร์มานซ์หุ้มหนัง Nappa และ เส้นใย DINAMICA Microfibre หรือสามารถสร้างความโดดเด่นให้มากยิ่งขึ้นด้วยชุดเบาะเสริมแบบเอเอ็มจีเพอร์ฟอร์มานซ์ที่สามารถปกป้องร่างกายของผู้ขับขี่และผู้โดยสารทั้งด้านหน้าและด้านหลังได้มากขึ้นด้วยพนักพิงหลังที่มีความโค้งและเสริมด้วยวัสดุเพื่อความนุ่มสบายที่ด้านข้างมากกว่าเบาะที่นั่งแบบมาตรฐาน
ด้านความปลอดภัยและเทคโนโลยี ฝากระโปรงหน้าผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์และวัสดุ SMC (Sheet Moulding Compound) ที่ถูกพัฒนาขึ้นเป็นพิเศษโดยทีมงานของ Mercedes-Benz TEC (เมอร์เซเดส-เบนซ์ ทีอีซี) และผู้เชี่ยวชาญของเอเอ็มจี ทำให้ฝากระโปรงรถมีน้ำหนักเบา แต่ยังคงไว้ซึ่งความทนทานและแข็งแรง, ระบบช่วงล่างของทั้ง 4 ล้อมีทั้งปีกนก แกนบังคับเลี้ยวและโครงฐานคุมล้อ (hub carrier) ที่หล่อจากอะลูมิเนียมเพื่อลดน้ำหนักที่ไม่จำเป็น โดยล้อทั้ง 4 จะถูกควบคุมโดยกลไกปีกนกแบบ 2 ชั้น เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการหมุนของล้อและการเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง
 
Mercedes-AMG GT R และ Mercedes-AMG GT C มาพร้อมกับระบบ AMG DYNAMIC SELECT ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดของเกียร์หลักได้ 3 แบบ คือ “C” (Comfort) สำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวัน ช่วยให้ผู้ขับขี่รู้สึกผ่อนคลายและสะดวกสบาย, “S” (Sport) และ “S+” (Sport Plus) เน้นความเร้าใจในการขับขี่ให้มากยิ่งขึ้น และ “I” (Individual) ที่สามารถช่วยจดจำรูปแบบการขับขี่ของผู้ขับได้ อีกทั้งยังมีโหมด “RACE” ที่เป็นโหมดเสริมสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการความแรงและเกียร์ที่เปลี่ยนได้รวดเร็วเหมือนอยู่ในสนามแข่งรถ ซึ่งจะมาพร้อมกับเสียงเครื่องยนต์ที่เร้าอารมณ์ 
 
รถยนต์ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ ความจุกระบอกสูบ 4 ลิตร ระบบไดเรค อินเจคชั่น และระบบเกียร์แบบคลัทช์คู่ 7 สปีด (seven-speed dual clutch transmission) ที่ช่วยทำให้รถมีความคล่องตัวยิ่งขึ้น และการตอบสนองของระบบเกียร์จะดีขึ้นตามจังหวะการเปลี่ยนเกียร์ของผู้ขับขี่
 

ติดตามข่าวรถยนต์ ราคารถยนต์ รีวิวรถยนต์ และจักรยานยนต์ทุกยี่ห้อ กับเรา Autospinn

แชร์ความคิดเห็นบนเว็บบอร์ด Autospinn คลิก webboard.autospinn.com  

เช็คโปรโมชั่นรถใหม่ เช็คราคารถใหม่ ได้ที่นี่ 

ราคารถมือสอง ซื้อรถมือสอง ขายรถมือสอง เชิญได้เลยที่ one2car

 

 


Tadsaneeya

Tadsaneeya

Content Developer

Tadsaneeya สายติ่งเกาหลี สาระไม่ค่อยมี หน้าตาดีไปวันๆ จากนิตยสาร สู่ทีวี จนมาสู่ออนไลน์ เราทำงานสื่อมาแล้วเกือบครบทุกรูปแบบ บอกได้ว่าการสื่อสารได้เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วจนบางคนอาจตามไม่ทัน อยากได้ความรวดเร็ว ฉับไว ตอนนี้ต้องสื่อออนไลน์


Featured

แนวโน้มรถยนต์ไฟฟ้า ‘ยังไงก็รอด’ ปี 2567 ต้นทุนแบตถูกลง 50%

แนวโน้มรถยนต์ไฟฟ้า ‘ยังไงก็รอด’ ปี 2567 ต้นทุนแบตถูกลง 50%

Car Guides
เจาะแนวโน้มรถยนต์ไฟฟ้า EV จะกลายเป็นรถยนต์แห่งอนาคตจริงหรือไม่ ? ปฏิวัติการขนส่งได้อย่างไร เคลียร์ความสงสัยได้ในบทความนี้ผ่าแนวโน้มอนาคตยานยนต์ไฟฟ้า ...
ในยุคของรถยนต์ไฟฟ้า รถสันดาปมือสองจะตายจากเราไปหรือไม่?

ในยุคของรถยนต์ไฟฟ้า รถสันดาปมือสองจะตายจากเราไปหรือไม่?

Car Guides
เมื่อรถยนต์ไฟฟ้ากำลังกลายเป็นกระแสหลักในประเทศไทย ด้วยราคาที่เข้าถึงง่ายพร้อมออปชั่นล้นๆ ก็ทำให้เกิดคำถามว่า ...
ฤกษ์ออกรถ เมษายน 2567 ตามวันเกิด พร้อมเวลาล้อหมุน

ฤกษ์ออกรถ เมษายน 2567 ตามวันเกิด พร้อมเวลาล้อหมุน

Car Guides
มาแล้ว! ฤกษ์ออกรถ เมษายน 2567 ใครยังไม่มีฤกษ์รับรถ รีบเข้ามา! ซินแสดูให้จริง อยากรู้เกิดวันนี้ควรออกรถวันเวลาไหนก็ย่อมได้ฤกษ์รับรถเดือนเมษายน ...

Comments

app-icon
app-icon
app-icon
View your Dream Cars
in the App
Download App Now