Ford Everest มือสอง รถครอบครัว 7 ที่นั่งที่ควรซื้อมากที่สุด

รู้หรือไม่ว่า Ford Everest มือสอง เป็นรถ PPV หรือ รถครอบครัว 7 ที่นั่งที่คุณควรซื้อมากที่สุดในตอนนี้ เรามาดูกันว่าเพราะอะไรถึงทำให้ Everest น่าซื้อกว่า PPV มือสองจากค่ายอื่น

Ford Everest ดีไหม น่าซื้อไหม?

Ford Everest เป็นรถ PPV ที่ขึ้นชื่อในเครื่องความดุดัน ไม่เกรงใจใคร ไม่แพ้ Ford Ranger เพราะเป็นรถยนต์อเนกประสงค์แบบ PPV ที่มีการดัดแปลงมาจากพื้นฐานของ Ford Ranger เพื่อเพิ่มความอเนกประสงค์ในการใช้งาน รองรับผู้โดยสารได้ 7 ที่นั่ง จึงมี DNA ของค่ายมาแบบจัดเต็ม

แม้จะถูกดัดแปลงมาจาก Ford Ranger ที่เป็นรถกระบะที่ใช้สำหรับการทำงานอย่างแท้จริง แต่ Everest ก็ยังเหมาะกับการใช้งานสำหรับครอบครัวเป็นอย่างมาก อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีที่พร้อมทำให้สมาชิกในครอบครัวเพลิดเพลินตลอดทั้งการเดินทาง และให้ความรู้สึกที่เป็นรถ SUV มากกว่ารถ PPV เสียอีก

การออกแบบ Ford Everest 

ดีไซน์ภายในของรถ PPV ทั่วไปจะให้ความรู้สึกราวกับว่าหยิบการออกแบบภายในของรถกระบะรุ่นพื้นฐานมาทั้งหมดโดยไม่มีการปรับเปลี่ยนอะไรมาก แต่กับ Ford Everest กลับแตกต่างออกไปเพราะมีการตกแต่งที่สวยขึ้นตามระดับรุ่นย่อย 4 รุ่น คือ Trend , Sport และ Titanium+ และล่าสุดพึ่งออกมาเผยโฉมสดๆ ร้อนๆ กับรุ่นย่อย Everest Wildtrak ที่มีความดุดันและหรูหรามีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากที่สุด

การออกแบบภายในของ Everest ที่มีการเพิ่มเติมจากรู้พื้นฐานจาก Ranger ทำให้ภายในมีความสวยงามดูมีระดับมากกว่า กำยำ บึกบึน แต่ก็ยังซ่อนความปอร์ตหรูหราเอาไว้ ดูแล้วภายในจะน่านั่งน่าโดยสารมากกว่า PPV จากค่ายอื่น และดูเหมือนรถ SUV ดีๆ รุ่นหนึ่งมากกว่าเป็นรถ PPV ดิบๆ แบบที่เราคุ้นตา 

การออกแบบภายนอกให้ความรู้สึกสปอร์ต กำยำ ลุยๆ เหมือนกับ Ranger แต่ก็ต้องยอมรับว่าเมื่อ Ranger ถูกจับแปลงร่างเป็น Everest แบบรถอเนกประสงค์ 5 ประตู 7 ที่นั่ง ด้านหลังของรถก็มีความสวยงามมากกว่ารถ Ford Ranger และมีพื้นที่กว้างขวางมาก ทำให้ภายในนั่งโดยสารค่อนข้างสบาย

อ่านเพิ่มเติม รถ SUV และ PPV แตกต่างกันอย่างไร

ทดลองขับ Ford Everest : รถ PPV ให้ความรู้สึกเหมือนขับรถ SUV

จากการออกแบบภายในที่สวยราวกับว่าไม่ใช่รถ PPV แล้ว การปรับจูนช่วงล่าง Everest ยังทำได้ดีราวกับว่าไม่ใช่รถ PPV ด้วยซ้ำไป เมื่อได้ลองขับก็จะรู้ได้เลยว่าการเกาะถนนทำได้ดีมาก ไม่ค่อยมีอาการโยนแบบรถ PPV ค่ายอื่น มีความนุ่มนวลขับขี่และนั่งโดยสารทางไกลค่อนข้างสบายมาก ทั้งเจเนอเรชันเก่าและใหม่

ในเจเนอเรชันใหม่จะมีความนุ่มมากขึ้นเพราะมีการปรับฐานล้อกว้างขึ้น 50 มม. พร้อมกับการปรับแต่งโช้กอัปใหม่ มีระบบกันสะเทือนหน้าแบบปีกนก 2 ชั้นพร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง ระบบกันสะเทือนหลังเป็นแบบคอยล์สปริงพร้อมวัตต์ลิงก์และเหล็กกันโคลงเช่นกัน ทำให้นุ่มนวลขึ้นราวกับว่าไม่ใช่รถ PPV เลย

แต่ในเมื่อ Everest เป็นรถ PPV ที่มาพร้อมระบบช่วงล่างที่ดีและแน่นหนึบนุ่มแบบนี้ นั่นจึงทำให้ตัวรถค่อนข้างมีน้ำหนักสูง แต่กลับน่าแปลกใจที่วลาขับแล้วกลับไม่ได้รู้สึกว่าตัวรถมีความหนักหรืออืดจนขับไม่สบายเลย นั่นเป็นเพราะเครื่องยนต์ พวงมาลัยไฟฟ้าที่ช่วยผ่อนแรง และ โหมดการขับขี่ที่ดี

Ford Everest รุ่นใหม่ ใช้เครื่องยนต์อะไร?

อย่างที่เรากล่าวไปว่านอกเหนือจากช่วงล่างที่ทำให้ Ford Everest เป็นรถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง ที่มีความนุ่มหนึบ แน่น แม้จะเป็นรถ PPV ก็จะมีเรื่องของเครื่องยนต์และโหมดการใช้งานที่ทำให้ตัวรถที่มีความหนักมากๆ แต่กลับขับได้สบายๆ ไม่มีอาการเหนื่อยล้าแม้ในระยะทางไกลๆ ก็ตาม โดยจะใช้เครื่องยนต์ตามรุ่นดังนี้

• รุ่น Trend 4X2 6AT ใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบเดี่ยว เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด 170 แรงม้า ที่ 3,500 รอบต่อนาที ให้แรงบิดสูงสุด 405 นิวตันเมตรที่ 1,750-2,500 รอบต่อนาที ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ
• รุ่น Sport 4x2 6AT ใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบเดี่ยว เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด 170 แรงม้า ที่ 3,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 405 นิวตันเมตรที่ 1,750-2,500 รอบต่อนาที ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ
• รุ่น Titanium+ 4X2 10AT ใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ เกียร์อัตโนมัติ SelectShift 10 สปีด 210 แรงม้า ที่ 3,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตรที่ 1,750-2,500 รอบต่อนาที ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ
• รุ่น Titanium+ 4X4 10AT ใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ เกียร์อัตโนมัติแบบ E-Shifter 10 สปีด 210 แรงม้า ที่ 3,750 รอบต่อนาที บิดสูงสุด 500 นิวตันเมตรที่ 1,750-2,000 รอบต่อนาที ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ

โหมดการขับขี่ของ Ford Everest

เรื่องโหมดการขับขี่ทั้ง 6 โหมด ก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ Ford Everest เป็นรถ PPV ที่ขับง่ายมากกว่า PPV ค่ายอื่น มีโหมดดังนี้ 

• โหมดปกติ (Normal) : สำหรับการขับขี่บนถนนในชีวิตประจำวัน
• โหมดประหยัด (Eco) : เพื่อการขับขี่ที่ประหยัดน้ำมันสูงสุด
• โหมดลากจูงและบรรทุก (Tow/Haul) : เหมาะสำหรับการลากจูงวัตถุที่มีน้ำหนักมาก โดยช่วยปรับอัตราทดเกียร์ให้เหมาะสม เพื่อการส่งกำลังและการหน่วงกำลังของเครื่องยนต์บนสภาพทางที่ลาดชัน พร้อมเพิ่มน้ำหนักพวงมาลัยเพื่อการควบคุมที่มีประสิทธิภาพสูงสุด 
• โหมดถนนลื่น (Slippery) : ใช้สำหรับการขับขี่บนสภาพถนนที่มีความลื่นสูง โดยระบบจะควบคุมการหมุนของล้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม พร้อมระบบป้องกันล้อหมุนฟรีที่ตอบสนองรวดเร็ว เพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนและการควบคุมให้กับคุณ
• โหมดโคลน (Mud/Ruts) : สำหรับขับลุยแบบ Off-Road ระบบจะช่วยรักษาสมดุลการเคลื่อนที่ของตัวรถ ขณะที่หมุนล้ออย่างรวดเร็วเพื่อตะกุยทาง
• โหมดทราย (Sand) : อีกโหมดสำหรับการขับขี่แบบ Off-Road โหมดทรายทำได้มากกว่าแค่ขับตะลุยทราย แต่ยังช่วยให้ขับลุยไปบนแอ่งทรายหรือสภาพทางที่ดินมีความร่วนสูงได้ โดยระบบจะปรับอัตราการส่งกำลัง อัตราการทดเกียร์ และ การทรงตัว เพื่อรักษาสมดุลการเคลื่อนที่ของตัวรถ พร้อมช่วยย่นระยะเบรก

ด้วยกำลังของเครื่องยนต์ โหมดการขับขี่ที่ดีและหลากหลาย ทำให้ Ford Everest เป็นรถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่งที่น่าซื้อและน่าคบหามากที่สุด และยิ่งไปกว่านั้นคือราคามือสองที่เริ่มต้นเพียง 6 แสนกลางๆ ก็ยิ่งทำให้รถยนต์รุ่นนี้น่าสนใจขึ้นไปอีก

ทำไม Ford Everest มือสองถึงน่าซื้อ

• Ford Everest เป็นรถ PPV ที่แรงและมีกำลังวังชาที่สุดในกลุ่มรถ PPV
• Ford Everest มีช่วงล่างดีที่สุดในกลุ่มรถ PPV ใช้งานได้ครอบคลุมสุด
• มีโหมดการขับขี่ที่ตอบโจทย์ทำให้ขับง่ายกว่ารถ PPV ทั่วไป
• มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย อุปกรณ์อำนวยความสะดวกเยอะ ทำให้ขับทางไกลไม่เบื่อ
• ระบบความปลอดภัยดีเยี่ยม มีออปชันหลากหลาย
• มีหลายรุ่นย่อยให้เลือกใช้งานตามความต้องการ
• ดีไซน์สวยทั้งภายนอกและภายใน มีเอกลักษณ์กว่ารถ PPV รุ่นอื่นๆ 
• ตัวถังแข็งแรง กำยำ ทนทาน ใช้งานหนักได้สบายๆ
• ภายในกว้างขวางนั่งสบายทั้งคนขับและผู้โดยสาร
• สามารถปรับให้เป็น 5 หรือ 7 ที่นั่งก็ได้
• พื้นที่ใช้สอยเยอะมาก เก็บของได้เยอะ บรรทุกของหนักได้ดี
• ราคามือสองถูกลงกว่าครึ่ง แต่ได้รถที่มีฟังก์ชันครบและตอบโจทย์การใช้งาน

Ford Everest มือสอง ใช้เป็นรถครอบครัวได้ไหม?

จากการทำการตลาดของ Ford Generation ใหม่ รวมถึง Everest Generation ใหม่ ทำให้ทุกคนติดภาพจำไปแล้วว่า มันคือรถ PPV สายลุย ซึ่งความจริงมันก็เป็นอย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่ในด้านการเป็นรถครอบครัว Ford Everest ก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน ทั้งการเป็นรถครอบครัวอย่างแท้จริง หรือการเป็นรถครอบครัวสายลุยก็ตาม 

เนื่องจาก Ford Everest มีฟังก์ชันหลากหลายที่ตอบโจทย์การใช้งานแบบครอบครัว เช่น ห้องโดยสารและพื้นที่เก็บสัมภาระที่กว้างขวางมาก สามารถพับเบาะผู้โดยสารแถว 3 ลงเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของได้ ช่องแอร์ขนาดใหญ่ทำให้อากาศภายในรถค่อนข้างหมุนเวียนได้ดีและทั่วถึง

มีจอภายในรถที่ค่อนข้างใหญ่และสามารถเชื่อมต่อไร้สายได้ทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto มีรูชาร์จไฟหลายตำแหน่ง หรือสามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเพื่อรับการแจ้งเตือนสถานะ ผ่าน Ford Pass Application เช่น ข้อมูลลมยาง ระบุที่อยู่ของรถ ปลดล็อกรถ และ สตาร์ตรถเพื่อเปิดระบบปรับอากาศ ได้ด้วย

ด้านการใช้งานสำหรับครอบครัวสายลุยที่ชอบกางเต็นท์ แคมป์ปิ้ง หรือ ลุยทางออฟโรด Ford Everest ก็สามารถลุยได้สบายๆ เลย อีกทั้งตัวถังของ Everest ยังมีความแข็งแรงมากกว่า PPV ค่ายอื่น ทำใหสามารถบรรทุกหนักหรือจะติดตั้งเต็นท์บนหลังคาไปได้แบบสบายๆ

ควรซื้อ Ford Everest มือสองหรือไม่ น่าใช้ไหม?

ด้วยราคามือหนึ่งที่ค่อนข้างสูสีกับรถ PPV และ SUV ค่ายอื่น ทำให้ผู้ซื้ออาจจะตัดสินใจเลือกยากไปหน่อยเพราะมีตัวเลือกเยอะมากๆ แต่กับ Ford Everest มือสอง ราคาค่อนข้างดีกว่า PPV ค่ายอื่น และเมื่อลองเทียบกับสิ่งที่ได้ ก็นับว่าได้รถดีๆ ในราคาที่ค่อนข้างคุ้มค่าเลยทีเดียว

โดยราคาของ Ford Everest มือสองจะเริ่มต้นอยู่ที่ 649,000 บาท เท่านั้น ในรุ่น Titanium ซึ่งก็ถือว่าราคา 6 แสนกับ Everest ในรุ่นย่อยกลางๆ บอกเลยว่าค่อนข้างคุ้มค่าแล้ว แต่ถ้าใครที่สนใจอยากหา Ford Everest รุ่นย่อยอื่น ทั้งปีใหม่และปีเก่าๆ สามารถค้นหากับเราได้เลย

ซื้อรถครอบครัวมือสอง Ford ทุกรุ่น ทุกแบบ ได้ที่ ฟอร์ด เอเวอร์เรส มือสอง

อ่านบทความที่น่าสนใจ

• 10 รถครอบครัวมือสอง ราคาถูก รุ่นไหนดีสุด นั่งสะดวก ผ่อนสบาย
• 10 อันดับ รถอเนกประสงค์ ที่คุณควรซื้อ (2023)
• รวมรถ 7 ที่นั่งมือสอง ราคาถูก (2023) รุ่นไหนน่าซื้อใช้ที่สุดในตอนนี้!

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com