ประชันออฟชั่น BMW series 3 แต่ละGen ศึกสายเลือดนี้จะเป็นไง

พูดถึงรถ BMW จัดว่าเป็นรถที่ขายดีมากๆ เราก็เลยจัดการประชันออฟชั่นของ BMW Series 3 น้องเล็กสุดของ BMW รุ่นต่อรุ่น โดยการจับเจ้าตัว Gen5(E90) กับ Gen6(F30) มาเทียบกันทั้งเครื่องเบนซินและดีเซล เดี๋ยวเรามาดูกันดีกว่าว่าแต่ละตัวเขามีโปรไฟล์ระดับไหนบ้าง

ประเดิมที่คันแรกเลยก็คือ BMW 320i SE เลขตัวถัง ( E90 ) Generation 5 มีการพัฒนาเครื่องยนต์ให้มันกำลังมากขึ้นแต่ประหยัดน้ำมันกว่าเดิม ช่วงแรกที่เปิดตัวจะมีรุ่นธรรมดากับรุ่น SE ซึ่งตัวนี้จะมีความพิเศษกว่าในเรื่องของออฟชั่น ไฟหน้า Xenon โคมแบบ Projector มีไฟตัดหมอกหน้า ภายในหรูหราด้วยคอนโซลลายไม้ พวงมาลัยจะมีปุ่มควบคุมมัลติฟังก์ชั่น และมีระบบ Park Tronic แต่ในส่วนของระบบ Cruise Control ได้ถูกตัดออกไป ถือว่านี่เป็นรุ่นแรร์หายากและ Gen5 เขาได้มีการพัฒนากำลังเครื่องยนต์ให้มากขึ้น แต่ประหยัดน้ำมันลงกว่าเดิม ซึ่งช่วยตอบโจทย์ในช่วงนั้นที่น้ำมันแพง จากผู้ใช้จริงยืนยันว่าช่วงล่างดีมาก เครื่องแน่นหนึบเกาะถนน ขับแล้วรู้สึกถึงความสะดวกสบายและ Luxury เพราะด้วยความที่มันคือ Special Edition เป็นเจ้าของได้ในราคา 3 แสนปลายๆ

ทีนี้เราจะขยับมาที่ Gen6 กันบ้างกับตัวถังรุ่น F30 กับ BMW 320i M Sport 2015 เครื่องเบนซินเทอร์โบ จุดเด่นของเขาทำออกมาเพื่อเอาใจผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่แบบสนุกให้อารมณ์สปอร์ต โฉมภายนอกก็จะดูโฉบเฉี่ยวขึ้นมากกว่าเดิมพร้อมชุดแต่ง มีการจัดวางเครื่องยนต์ใหม่ให้ใกล้ผู้ขับมายิ่งขึ้นเพื่อกระจายน้ำหนักให้ตัวรถสมดุล มีระบบ Contactless ใช้เท้าแสกนกับเซนเซอร์เพื่อเปิดฝาท้าย ภายในตกแต่งด้วยสีโทนดำแดงให้อารมณ์สปอร์ต พวงมาลัยมีปุ่มควบคุมมัลติฟังก์ชั่น เกียร์ไฟฟ้าปรับโหมดสปอร์ต มี iDrive หรือที่เรียกว่า Touch pad ที่ช่วยอำนวยความสะดวก แอร์ตั้งอุณหภูมิแยกฝั่งได้ เบาะหนังจะเป็นสีแดง ส่วนในเรื่องขับขี่ก็บอกเลยว่าถูกใจผู้ที่ชื่นชอบความเร็ว ขับสนุกให้อารมณ์สปอร์ตเต็มกำลัง โดยรวมคันนี้ก็เป็นสิ่งที่พัฒนาขึ้นมาจาก Gen5 ค่อนข้างเยอะทั้งหน้าตาและ Performance ซึ่งราคามือสองคุ้มมากเพราะคันนี้ ไม่ถึงล้าน

ถัดมาก็จะเป็นเครื่องยนต์ดีเซลกันบ้างกับ BMW 320d Sedan 2017 ซึ่งหลายคนมองว่าน่าใช้มากกว่าเครื่องเบนซินเพราะว่าสมรรถนะที่เหนือกว่า แรงกว่าแถมยังประหยัดน้ำมันกว่ารถญี่ปุ่นรุ่นเล็กบางค่าย และก็มาพร้อมกับชุดแต่ง จะเห็นได้ว่าอุปกรณ์และออฟชั่นต่างๆ ของรุ่นเก่าก็ยังใส่มาด้วย ภายในยังคงตกแต่งแบบให้อารมณ์ความสปอร์ตด้วยโทนสีดำแดง ภายในก็จะไม่ได้แตกต่างจากคันที่แล้ว แน่นอนว่าคันนี้ยังใหม่มาก ไมล์น้อย และการรีวิวกันแบบปากต่อปากเหมือนเดิมเลยก็คือช่วงล่างแน่นหนึบเกาะถนน อัตราเร่งดีแรงสะใจและประหยัดน้ำมันมากด้วยความเป็นดีเซลเทอโบ คุ้มมากในราคาล้านต้นๆ สำหรับมือสอง

ใครอยากยลโฉมความงดงามของเจ้าคันจริงก็สามารถกดดูคลิปวิดิโอนี้ได้เลย น้องพราวฟ้าได้ทำการอธิบายทุกอย่างเอาไว้หมดแล้ว ดีลเลอร์คุณภาพแห่งวันทูคาร์อย่าง Big Car จากฝั่งกาญจนา คุณ big (รังสรรค์ สฤษดิ์เวชวรกุล) เจ้าของโชว์รูมและยังดำรงตำแหน่งประธานชมรมรถสวยกาญจนา หนึ่งในสมาชิกสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว เขาใจดีคัดรถทั้ง 3 ปีมาให้เราเปรียบเทียบ จึงได้เห็นพัฒนาการของ BMW แต่ละ Gen อย่างชัดเจน ต้องบอกเลยว่าโชว์รูม Big Car มีแนวทางในการดำเนินธุรกิจด้วยความ” จริงใจ ซื่อสัตย์ สุจริต” และมีการพัฒนามาตรฐานในด้านต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ โดยเน้นคุณภาพ ราคาและบริการ อันเป็นสิ่งที่ลูกค้าพึงพอใจสูงสุดเป็นสำคัญ