ปิดโรงงานในไทย แต่ทำไม Subaru มือสอง ถึงยังน่าซื้ออยู่?

ทำไม Subaru มือสอง ถึงยังน่าซื้ออยู่ แม้จะมีประกาศหยุดผลิตรถยนต์ในไทยช่วงสิ้นปี แล้วจากนี้อนาคตของ Subie จะเป็นเช่นไร จะรุ่งโรจน์ดั่งดวงดาวบนโลโก้หรือเปล่า?

Subaru ประกาศปิดโรงงานผลิตในประเทศไทย เพราะอะไร?

ที่ผ่านมามีข่าวลือกันหนาหูว่าค่ายรถญี่ปุ่นค่ายหนึ่งอาจตายจากเราไป ซึ่งก็มีการคาดการณ์กันว่าน่าจะเป็น Suzuki เนื่องจากมีคลิปบนสื่อออนไลน์ออกมาพูดถึง ในเวลาต่อมา Suzuki มีประกาศอย่างเป็นทางการว่าไม่มีแผนจะเลิกทำตลาดในไทยและยังมีแผนจะวางจำหน่ายรถยนต์อีกหลายรุ่นในไทยด้วย

แน่นอนว่าในกลุ่มผู้รักรถยนต์ก็ยังมีอีกหลายเสียงที่คิดว่าน่าจะไม่ใช่ Suzuki หรอก เช่นเดียวกับกลุ่มผู้ใช้ Subaru ที่คิดว่าไม่น่าใช่ แต่ก็มีวลีที่เกิดขึ้นกันภายในกลุ่มว่า “ลืมไปแล้วหรือเปล่า ว่านอกจาก Suzuki แล้ว มันยังมีอีก Su นึงนะ” จากพูดเล่นกันขำๆ ไม่กี่วัน Subaru ก็ออกแถลง โดยมีเนื้อหาสรุปได้ว่า

บริษัทเจอกับปัญหาสภาวะแวดล้อมทางเศรษฐกิจและธุรกิจที่เปลี่ยนไป ทำให้รถยนต์ที่ผลิตออกไปไม่สามารถขายในราคาที่เหมาะสมได้ และบริษัทก็ไม่สามารถควบคุมราคาจำหน่ายได้อีกด้วย เมื่อเราลองย้อนดูก็จะพบว่า โรงงานซูบารุ ลาดกระบัง โดย ตัน จง ซูบารุ ออโตโมทีฟ ประเทศไทย (TCSAT) ขาดทุนต่อเนื่องตั้งแต่ปีแรกของการเปิดสายการผลิต

• ปี 2562 ขาดทุนสุทธิ 365,723,735 บาท
• ปี 2563 ขาดทุนสุทธิ 400,449,854 บาท
• ปี 2564 ขาดทุนสุทธิ 451,664,300 บาท
• ปี 2565 ขาดทุนสุทธิ 377,412,454 บาท
• ปี 2566 ขาดทุนสุทธิ 161,470,145 บาท

ทั้งนี้ในเรื่องยอดขายของ Subaru ในประเทศไทยก็ยังไม่สู้ดีนัก ถึงแม้ว่าบางปียอดจะพุ่งจนน่าตกใจ แต่ก็ใช่ว่าจะเยอะมากมายพอสู้ค่ายอื่นและรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนไหว ลองย้อนเวลากลับไปเมื่อ 13 ปีก่อน ยอดขาย Subaru ในไทยจนถึงปัจจุบันจะเป็นดังนี้

• ปี 2011 ขายได้ 136 คัน
• ปี 2012 ขายได้ 118 คัน
• ปี 2013 ขายได้ 2,619 คัน
• ปี 2014 ขายได้ 1,966 คัน
• ปี 2015 ขายได้ 2,641 คัน
• ปี 2016 ขายได้ 3,232 คัน
• ปี 2017 ขายได้ 2,123 คัน
• ปี 2018 ขายได้ 2,260 คัน
• ปี 2019 ขายได้ 3,952 คัน
• ปี 2020 ขายได้ 1,715 คัน
• ปี 2021 ขายได้ 2,953 คัน
• ปี 2022 ขายได้ 2,282 คัน
• ปี 2023 ขายได้ 1,682 คัน
• ปี 2024 ขายได้ 344 คัน (ไตรมาสแรก)

เมื่อดูแล้วไปต่อไม่ไหว แผนการทำตลาดจึงต้องเปลี่ยน ซึ่ง Subaru จะทำการปิดสายการผลิตในประเทศไทยอย่างถาวร โดยตั้งแต่วันประกาศก็จะยังผลิต Subaru Forester รุ่นปัจจุบัน ไปจนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2567 การปิดโรงงานครั้งนี้เป็นเพียงการปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์

Subaru จะยังคงทำตลาดในประเทศไทยอยู่เช่นเดิม โดยในปี 2568 เป็นต้นไป รถทุกรุ่นที่ Subaru จำหน่ายใน ไทย มาเลเซีย กัมพูชา และ เวียดนาม จะเป็นรถยนต์นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นทั้งหมด พูดง่ายๆ คือ Subaru เลือกกลับไปทำตลาดรูปแบบเดิมเหมือนช่วงแรกนั่นเอง

โดยการประกาศครั้งนี้ก็ยังมีการยืนยันที่สำคัญมากสำหรับผู้ใช้ Subaru ก็คือเรื่องการบริการหลังการขาย ซึ่งเขาบอกว่า ศูนย์บริการรถยนต์ Subaru ทั้ง 24 แห่งทั่วประเทศ กับดีลเลอร์อีก 21 ราย จะพร้อมดูแลลูกค้าชาวไทยอย่างต่อเนื่องเช่นเคยครับ

ทำไม Subaru มือสอง ยังน่าซื้ออยู่?

Subaru ขึ้นชื่อเรื่องของเพอฟอแมนซ์ของรถญี่ปุ่นที่เทียบชั้นกับรถยุโรปได้อย่างไม่อาย มีแต่การดีไซน์เท่านั้นที่ยังสู้รถยุโรปไม่ได้ เรื่องดีไซน์สวยหรูเท่ารถยุโรปต้องยกให้ Mazda ในยุคนี้แทน แต่ถ้าพูดถึงเรื่องสมรรถนะและความครอบคลุมอย่างแท้จริงคงไม่มีใครสู้ Subaru ได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ

อ่านเพิ่มเติม : รีวิว Subaru XV กับนิยาม รถดาวตะกุยดิน โดย กิติยาพร สมดอกแก้ว (USER REVIEW)

สิ่งที่ทำให้ Subaru มือสอง ในตอนนี้น่าซื้อ เรื่องแรกก็หนีไม่พ้นเรื่อง "ราคา" รู้หรือไม่ว่า Subaru XV โฉมแรก เมื่อปี 2012 ที่นำเข้ามาทำตลาดในบ้านเรามีราคาสูงถึง 1,350,000 บาท สำหรับรถยนต์ประเภท Crossover หรือ B-SUV ราคานี้ถือว่าโคตรเเพง แต่ปัจจุบันราคาเริ่มต้นอยู่แค่ 3 แสนกลางๆ เท่านั้น

ถึงเป็นรถเก่าแต่ก็ยังน่าเล่นเพราะเมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาด B-SUV มือสอง ไม่มีใครให้ได้อย่าง Subaru XV เลย มีทั้งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Full-Time (ขับ 4 ตลอดเวลา) มีช่วงล่างอิสระทั้งหน้าและหลัง มาพร้อมกับเครื่อง 2.0 ลิตร BOXER ที่มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ ทำให้รถที่ถูกยกสูงขึ้นมีบาลานซ์ของรถที่ดี ไม่มีอาการย้วยโยน เข้าโค้งและเกาะถนนเเน่นหนึบ และที่สำคัญคือรถปลอดภัยมาก ใช้ลุยได้ทุกทาง!

อ่านเพิ่มเติม : รีวิว Subaru XV รถ Crossover SUV ที่คุ้มที่สุดในตลาดมือสอง

แม้ใน Subaru XV โฉมปัจจุบัน ที่มีการปรับราคามือหนึ่งลง แต่ด้านมือสองเองก็ราคาดีมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว XV มือสอง โฉม 2017 ขึ้นไป เริ่มต้นเพียง 4 แสนกลางๆ เท่านั้น จากราคามือหนึ่งล่าสุดที่มีการปรับลดราคาเริ่มต้น 999,000 บาท ซึ่งโฉมนี้จะเป็นโฉมที่ดีขึ้นกว่าโฉมแรกเยอะ ทั้งแพลตฟอร์มตัวถังใหม่ ช่วงล่างที่นุ่มนวลขึ้น ออปชันและเทคโนโลยีที่อัดแน่นมาให้อย่างคุ้ม บอกเลยว่าน่าซื้อ

อีกหนึ่งความน่าซื้อคืออย่างที่เราบอกไปตั้งแต่แรกว่าในรถระดับ B-SUV ไม่มีใครให้เท่า Subaru เลย ซึ่งถ้าเรามองที่ออปชันแล้ว Subaru XV โฉมปัจจุบันจะได้บางอย่างที่มากกว่าคู่แข่งและบางอย่างที่คู่แข่งมีแต่เขาไม่มีเลยเพราะมันอาจไม่จำเป็นสำหรับ DNA ของเขา

แต่มีสิ่งหนึ่งที่ในคลาส B-SUV ที่คนอื่นให้ไม่ได้แน่ๆ คือ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Full-Time ที่มาพร้อมกับ X-Mode ซึ่งตอบโจทย์วัยรุ่นวัยทำงานยุคใหม่ที่เน้นใช้ชีวิตได้ค่อนข้างถูกจุด เพราะจะใช้ขับขี่ในเมืองก็ได้ขับไปทางฝุ่นก็ดีเอาไปลุยทางโคลนตมเละๆ ก็ไหว เพราะระบบ Symertrical AWD ที่จับคู่กับ X-Mode นั้นเป็นระบบขับเคลื่อนที่ติดท็อปของโลกเลยก็ว่าได้

เมื่อมองที่คู่แข่งในตลาดมือสองอย่าง Mazda CX-30, Toyota Corolla Cross, Honda HR-V หรือ Crossover รุ่นอื่น ล้วนมีแต่ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ กับเครื่องยนต์ต่ำกว่า 2.0 ลิตร ทั้งสิ้น มีแค่ CX-30 ที่ให้เครื่อง 2.0 ลิตร อีกทั้งเรื่องช่วงล่างยังเป็นแบบคานเเข็งไม่ได้เป็นแบบอิสระหน้าหลังเหมือน XV จะมีแค่ Toyota C-HR เท่านั้นที่เป็นช่วงล่างอิสสระหน้าหลังแบบเขา แต่ก็ยังเป็นขับสองอยู่ดี ถ้าเอาครอบคลุมทุกอย่างจริง XV ครอบคลุมสุด

นอกเหนือจาก Subaru XV แล้ว รุ่นอื่นๆ ก็ถือว่ามีจุดเด่นที่มากกว่าคู่แข่งในตลาดอยู่บ้าง เช่น Subaru Forester ที่เป็นรถ SUV ไซซ์เทียบเท่า Honda CR-V ก็มีจุดเด่นตรงที่เป็นรถครอบครัวที่ใช้ลุยได้แบบไม่ต้องเกรงกลัวอะไรเลย มั่นใจว่าปลอดภัยทั้งครอบครัวและเอาอยู่ทุกถนนหนทางแน่นอน

แน่นอนว่า Subaru มือสอง ยังมีอีกหลายรุ่นมากที่มีความน่าสนใจและน่าซื้อไม่น้อย ถ้าหากสนใจ Subaru รุ่นอื่นนอกจาก XV และ Forester กดที่ด้านล่างนี้ได้เลย

• Subaru BRZ มือสอง เริ่มต้น 1,197,000 บาท
• Subaru Impreza มือสอง เริ่มต้น 344,000 บาท
• Subaru Legacy มือสอง เริ่มต้น 219,000 บาท
• Subaru Levorg มือสอง เริ่มต้น 890,000 บาท
• Subaru Outback มือสอง เริ่มต้น 699,000 บาท
• Subaru WRX มือสอง เริ่มต้น 2,599,000 บาท

แต่ว่าเราขอบอกไว้ก่อนว่ารถดีที่สุดปลอดภัยที่สุดในรถญี่ปุ่นก็จริง แต่ด้วยความที่เขาไม่ใช่แบรนด์หลักในตลาด อะไหล่อาจหายากหรือมีราคาแพงกว่าค่ายอื่น แต่ว่ามันไม่แพงเท่ากับรถยุโรปแน่นอน เรื่องนี้มั่นใจได้

อีกทั้งทุกวันนี้ยังมีอู่นอกและอะไหล่ OEM ที่ใช้แทนกันได้เยอะมากแล้ว เพราะฉะนั้นจะใช้รถ Subaru มือสอง อุ่นใจได้ในระดับนึงเลย ไม่ต้องกังวลเรื่องอะไหล่เหมือนช่วงแรกๆ ที่เข้ามาทำตลาดแล้วแน่นอน

อ่านเพิ่มเติม : รีวิว Subaru BRZ รถขับหลังหนึ่งเดียวของค่ายดาวลูกไก่ มีอะไรดี

อนาคตของ Subaru ในไทย จะเป็นยังไงต่อ?

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าสำหรับการปิดโรงงานในไทย รุ่นที่กระทบมากที่สุดคือ Subaru Forester เพราะว่าในโรงงานไทยผลิตแค่เพียงรุ่นนี้รุ่นเดียว ในอนาคต Forester ราคาจะสูงกว่ารุ่นผลิตไทย ไปแตะอยู่ที่ 2 ล้านบาทแน่นอน ส่วน Subaru XV เป็นการนำเข้าจากมาเลเซียตั้งแต่แรก แต่ว่าโรงงานในมาเลเซียก็ปิดไปก่อนที่ไทยอีกนะ แปลว่า XV ในไทยก็ได้รับผลกระทบด้วย แต่ราคาก็อาจจะสูงขึ้นไม่มากเท่า Forester

โดยที่ผ่านมา Subaru ประเทศไทยจะขายสองรุ่นนี้เป็นหลักและมีการนำเข้ารุ่นอื่นๆ อีกหลายรุ่นจากญุี่ปุ่นมาเสริมความว้าวในไทย เช่นแต่ก่อนจะมีการนำเข้า Subaru Forester XT Turbo และ Subaru Impreza WRX โฉมหน้าเสือ และปีที่ผ่านมาก็จะเห็นว่ามีการนำ New Subaru WRX และ WRX Wagon จากประเทศญี่ปุ่นเข้ามา เป็นต้น

ต้องบอกก่อนว่าการเปลี่ยนแผนการทำการตลาดในครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องที่น่าตกใจอะไรเท่าไหร่ เพราะเป็นการเปลี่ยนไปนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นมาขายในไทยทั้งหมดเหมือนช่วงแรกที่ Subaru เคยทำ แต่เมื่อนำเข้าราคาก็ต้องสูงขึ้น และยิ่งเป็ฯในยุคที่เศรษฐกิจแบบนี้ด้วยแล้วบอกเลยขายยากขึ้นเยอะถ้าคนซื้อใจไม่รักจริง

แต่ทั้งนี้ก็ใช่ว่าจะมีแค่โรงงานในไทยที่ปิดตัว โรงงานในมาเลเซียก็บินไปก่อนหน้านี้แล้ว ทำให้ในแถวๆ เพื่อนบ้านเรานี้ไม่มีโรงงานผลิต XV และ Forester ซึ่งเป็นสองรุ่นหลักที่ขายไทย จึงกลายเป็นว่าต่อจากนี้ Subaru ในไทยจะนำเข้าจากญี่ปุ่นล้วนๆ เราจะได้เห็น Subaru ในไทยเปลี่ยนไปเลย

เปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง?

• Subaru ทุกรุ่นที่ขายไทยจะเป็น Japan Spec ทั้งหมด!
• Subaru เมืองนอกดียังไง ขายไทยก็จะได้แบบนั้น!
• ราคาของ Subaru ทุกรุ่นในไทย จะแพงขึ้น!
• จะมีอะไรใหม่ๆ ให้เราได้เห็นเยอะขึ้นสำหรับ Subaru ไทย!
• คุณภาพของรถยนต์ Subaru ในไทย หลังจากนี้จะดีขึ้น!
• อาจได้เห็นรถยนต์ตัวเทพๆ ของ Subaru เยอะขึ้น!

ที่ผ่านมาเราจะเห็นว่า Subaru ในบ้านเราไม่มีอะไรใหม่เลย ค่อนข้างเงียบเหงา แต่ที่ญี่ปุ่นหรือโซนอื่นๆ ก็มีอะไรใหม่ๆ ที่น่าสนใจมาเรื่อยๆ อย่างเช่นเครื่องยนต์ Hybrid แบบ e-BOXER ที่เพื่อนร่วมโลกเขาก็ได้ใช้กันเกือบหมดแล้ว การเปลี่ยนไปขายรถนำเข้า หรือ Complete Build Up (CBU) จากประเทศญี่ปุ่น ของ Subaru ไทยจะสามารถสามารถแนะนำรถรุ่นใหม่ๆ หรืออะไรใหม่ๆ ออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้นไม่เหมือนกับที่ผ่านมา

ขอบคุณภาพจาก Subaru Bangna house of subaru

ซึ่งถ้าเราลองดูจาก Facebook ของ Subaru Bangna house of subaru ที่ถือว่าเป็นตัวแทน Subaru เบอร์ต้นๆ ในไทย เราจะเห็นภาพโปรโมทเด็ดๆ พร้อมกับแคปชันที่เขียนว่า 2025 New chapter The legend is back ตำนานกลับมาแล้ว ปีหน้ามันส์กว่าเดิม SUBARU ประกอบญี่ปุ่นแท้ๆ นำเข้าแบบ CBU ทุกคัน สาย Performance เตรียมพบกันแน่นอนที่ SUBARU BANGNA

ถ้าดูจากโพสต์นี้ก็อาจคาดการณ์ได้ว่าในอนาคตเราอาจจะเริ่มเห็น Subaru มีรุ่นหล่ออย่าง Subaru Crosstrek หรือ XV ตัวนอก เข้ามาขายแน่ๆ หรือรุ่นที่มีการนำเข้ามาขายไทยอยู่แล้วอย่าง WRX และ BRZ ก็อาจจะได้เห็นตัวเทพอย่าง WRX STi และ BRZ tS เข้ามาขายเพิ่ม ที่สำคัญคือเราน่าจะได้เห็นเครื่องยนต์ e-BOXER ในไทยเพื่อตอบสนองกระแสรถยนต์ Hybrid ที่กำลังมาแรง

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้วการนำเข้า Subaru จากญี่ปุ่นเข้ามาทำตลาดก็ใช่ว่าทุกโชว์รูมหรือทุกดีลเลอร์จะมีรถทุกรุ่นเข้ามาเหมือนกันหมด มันขึ้นอยู่กับแผนการตลาดแต่นี้ต่อไปของ Subaru ไทย ซึ่งจะมีการเปลี่ยนมาจับกลุ่มตลาดเฉพาะที่ชื่นชอบในรถยนต์สมรรถนะสูง รถยนต์ที่มีความเฉพาะและยูนีค หรือ รถระดับเพอฟอร์แมนซ์

แต่นี่แน่ๆ เราจะเห็น Forester และ XV (Crosstrek) ในไทยต่อไปอย่างแน่นอน แต่จะมาหน้าตาแบบไหนหรือตัดอะไรออกไปไหมก็ต้องรอลุ้น นอกเหนือจากนี้จะเป็นอย่างไรต่อไปก็คงต้องติดตามกันต่อ แต่ที่แน่ๆ แฟนคลับ Subaru จริงๆ ต้องดีใจแน่ๆ เพราะจะได้รถ Japan Spec แท้! แต่แพงขึ้น!

อ่านเพิ่มเติม : Subaru Impreza อาวุธทำลายล้างทางฝุ่นจากค่ายดาวประกายฟ้า

โหลดหรือยัง? แอป one2car - NEXT GEN! CAR APP

• Smart Search: หารถง่าย ฟังก์ชันครบ ข้อมูลชัด!
• Qualified Car: รถคุณภาพ ตรวจสภาพแล้ว พร้อมรายงานรถ
• Most Trusted Seller: คัดผู้ขายให้แล้ว ไม่ต้องกลัวมิจฉาชีพ
• Hot Deals: พบกับ Big Sale ลดแรงทุกเดือน!
• My Garage: ระบบผู้จัดการส่วนตัวให้รถคุณ ทุกเรื่องรถ จบในที่เดียว
• Car Tax Renawal: ต่อภาษีรถยนต์สะดวกกว่าที่เคย ไม่ต้องกลัวลืม
• Car Price: อยากขายรถแต่ไม่รู้ราคา เช็กเลย! รู้ผลใน 1 นาที ต้องการขายก็ทำได้เลย
• Car Financing: สินเชื่อรถมือสอง จัดไฟแนนซ์ง่ายกับ Partner ของเรา พร้อมข้อเสนอพิเศษ
• Car Insurance: เปรียบเทียบเบี้ย ต่อประกันรถยนต์ พร้อมดีลสุดพิเศษจากบริษัทชั้นนำ
• Extended Warranty: ประกันอะไหล่รถ หมดห่วงเรื่องอะไหล่รถมือสอง
• one2car Story: คลิปรีวิวรถจากคนขาย คอนเทนต์เกี่ยวกับยานยนต์

Apple Store : https://bit.ly/o2c_apple_store

Google Play Store : https://bit.ly/o2c_Google_Play_Store

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง one2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com