รีวิว Honda CR-V Gen-3 ขับดีไหมจากผู้ใช้งานจริง (USER REVIEW)

รีวิว Honda CR-V Gen-3 ฉายา "เจ้าอ้วนยอดสมรรถนะ" ดีไหม ยังน่าใช้อยู่หรือเปล่า

บทความพิเศษจากประสบการณ์ของผู้ใช้งาน Honda CR-V โดยตรง โดย  'คุณเอ' ที่พร้อมจะส่งต่อความรู้สึกด้านการใช้งานให้กับผู้ที่กำลังตัดสินใจซื้อ Honda CR-V เจเนอเรชันที่ 3 คันนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง มาอ่านไปพร้อมกันครับ

เลือกอ่านหัวข้อที่คุณสนใจ

• เหตุผลที่ทำให้ตัดสินใจซื้อ Honda CR-V Gen 3
• ประสบการณ์การใช้งาน Honda CR-V ที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง
• สมรรถนะในการขับขี่ของ Honda CR-V
• ฟังก์ชันการใช้งานและความสะดวกสบายของ Honda CR-V Gen 3
• ดีไซน์การออกแบบของ Honda CR-V Gen 3
• สรุป Honda CR-V Gen 3 มีข้อดี-ข้อเสีย อะไรบ้าง
• คะแนนความพึงพอใจในการใช้งาน Honda CR-V Gen 3
• ซื้อ Honda CR-V Gen 3 มือสอง ที่ไหนดี

เหตุผลที่ทำให้ตัดสินใจซื้อ Honda CR-V Gen 3

ส่วนตัวใช้รถยนต์มาค่อนข้างหลากหลายค่าย แต่ที่ติดใจที่สุดคือรถยนต์จาก Honda เมื่อได้ลองสัมผัสและใช้รถของ Honda เช่น Honda Jazz, Honda CIVIC FD และ Honda CR-V ก็รู้สึกว่าไม่เคยผิดหวังกับรถค่ายนี้เลย ผมจึงตัดสินใจเลือกซื้อเป็น Honda CR-V Gen 3 ปี 2010 คันนี้มา เนื่องจากชอบในสมรรถนะและความอเนกประสงค์ของตัวรถ

จากประสบการณ์ที่เคยใช้งาน Honda CR-V ตั้งแต่โฉมแรกๆ ก็ยังคงติดใจและหลงใหลในรูปโฉมและสมรรถนะของรถรุ่นนี้ไม่เคยเปลี่ยนแปลง เช่น การออกแบบของรถโดยเฉพาะไฟคู่หน้าเรียวยาวสมส่วนกับกระจังหน้าและตัวรถ ไฟท้ายทรงยาวที่เป็นเอกลักษณ์ของ Honda CR-V ตั้งแต่ปล่อย CR-V Gen-1 ออกมาสู่ตลาด และสมรรถนะที่ขับได้อย่างนุ่มนวลและสบายมาก เป็นรถที่ส่งต่อเอกลักษณ์มาแบบรุ่นสู่รุ่นได้ดี

Honda CR-V ที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบันนี้เป็น CR-V Gen 3 ปี 2010 ซึ่งได้ซื้อมาเมื่อประมาณสี่ปีก่อนในราคาประมาณ 350,000 บาท กับอายุของรถประมาณ 8 ปี แต่ก็ต้องบอกเลยว่าไม่ผิดหวังที่ตัดสินใจซื้อรถคันนี้เพราะว่ามันคือตัวท็อปที่สุดของ CR-V Gen 3 และได้มาในราคานี้ก็ค่อนข้างคุ้ม แม้จะเป็นมือสองแต่สภาพตอนนั้นก็ยังสภาพดีและใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพทุกอย่าง

ประสบการณ์การใช้งาน Honda CR-V ที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง

ประสบการณ์การขับ CR-V ในชีวิตประจำวัน

ประสบการณ์ใช้รถที่ผ่านมาก็ค่อนข้างใช้ Honda CR-V คันนี้หลากหลายแบบพอสมควร ตั้งแต่การใช้ในชีวิตประจำวัน ใช้เดินทางไปกลับทำงานร่วมๆ วันละประมาณ 25 กม. ใช้เดินทางไปทำงานต่างจังหวัด และใช้เดินทางท่องเที่ยวไกลๆ ในช่วงวันหยุด

การขับขี่ในเมืองที่มีสภาพรถติดต้องบอกว่าค่อนข้างคล่องตัวพอสมควรเพราะได้เครื่อง 2.4 ลิตร ที่กำลังค่อนข้างดี ตัวรถจะดูหนักและออกแนวอ้วนๆ แบบ Vintage หน่อยๆ ก็เลยให้อัตราการกินน้ำมันที่ค่อนข้างตึงมือนิดนึง เฉลี่ยอยู่ประมาณ 11 กม./ลิตร ได้ แต่ก็แลกมากับความสบายนุ่มนวลและกำลังการออกตัวจากสถานการณ์รถติดใน กทม. ได้ดี ทำให้คนขับไม่เหนื่อนมาก สามารถ Relax ได้เมื่อขับขี่

ปกติแล้วตัวผมเป็นคนชอบการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ ถ้ามีวันหยุดยาวๆ เมื่อไรก็ไม่เคยจะพลาดในการพา “เจ้าอ้วน” คันนี้ออกเดินทาง Honda CR-V คันนี้คือรถคู่ใจที่เคยผ่านเส้นทาง เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน 4,088 โค้งพร้อมกับรับใบประกาศจากที่ว่าการจังหวัดแม่ฮ่องสอนมาแล้ว

ประสบการณ์ขับ CR-V ทางไกล

ในประสบการณ์การขับท่องเที่ยวแบบนี้ผมก็ได้สัมผัสถึงสมรรถนะของช่วงล่างจากหลายๆ เหตุการณ์ ตั้งแต่ช่วงขาขึ้นทาง อ.แม่แตง แยกแม่มาลัยผ่านทางอุทธยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง ซึ่งเป็นเส้นทางที่ชันและโค้งเยอะสุดๆ

ก่อนลงเขาถึงอำเภอปายและแวะเที่ยวตัวเมืองแม่ฮ่องสอนชมพระธาตุดอยกองมู ก็รู้สึกได้ว่าแม้ทางจะชันและโค้งจะเยอะแค่ไหน การควบคุมรถคันนี้ก็ทำได้ง่ายและสบายมาก ด้วยกำลังเครื่องยนต์ที่ดีทำให้ขับได้สนุกมาก

ในส่วนขากลับที่วิ่งกลับจากทางแม่สะเรียงถึง อ.ฮอด เพื่อแวะเที่ยวออบหลวงซึ่งเป็นทางลงดอยที่ชันสุดๆ จึงสลับมาใช้เกียร์ต่ำ ก็รู้สึกได้ว่าตัวรถมีกำลังดีให้ความรู้สึกที่ปลอดภัย แน่นๆ นุ่มๆ บังคับง่าย ได้กำลังเครื่องยนต์ที่ดีเยี่ยมเลย

อีกตัวอย่างจากประสบการณ์ที่เคยวิ่งย้อนจาก จ.เชียงราย ไป จ.น่าน โดยผ่านจังหวัดพะเยาวิ่งเส้นดอกคำใต้-เชียงม่วน โดยผ่านอุทธยานแห่งชาติแม่ยม ที่ติดอันดับความสวยงามแต่ก็มีสภาพเส้นทางที่คอนข้างสูงชัน คดเคี้ยว และโค้งเยอะมาก ก็ยังคงสัมผัสได้เลยว่าเครื่องยนต์และช่วงล่างที่ CR-V คันนี้ให้มามีกำลังที่ดีและช่วงล่างแน่นพอจะที่จะใช้งานลุยๆ ได้เลย แม้ตัวรถจะดูออกไปในทางรถครอบครัวขับสบายๆ ก็ตาม 

สมรรถนะในการขับขี่ของ Honda CR-V

ในภาพรวมในเรื่องของสมรรถนะรถ อัตราการกินน้ำมัน รวมถึงอัตราเร่งและความคล่องตัวของรถ ต้องขอบอกเลยว่าชอบและดีสุดๆ คุ้มค่ากับราคามือสอง ตอบโจทย์ผู้ใช้ได้ดีในทุกกิจกรรมการเดินทาง ครอบคลุมตั้งแต่ในชีวิตประจำวันจนถึงเดินทางไกล

สมรรถนะในการเดินทางไกลขึ้น-ลงเขา การเข้าโค้งท้ายไม่มีปัด ถึงแม้จะเจอโค้งหักศอกก็ไม่เคยมีปัญหาย้วยโยน การขับทางไกลก็เหยียบได้มันส์สุดๆ เพราะเครื่องยนต์ที่กำลังดีพร้อมกับมีระบบขับเคลื่อน AWD มีตัวช่วยสำคัญอย่าง Cruise Control ที่ทำให้คนขับค่อนข้างสบาย อัตราการกินน้ำมันเคยวัดได้ประมาณ 13-14 กม./ลิตร ก็ถือว่าทำได้ดีแล้วสำหรับรถยนต์ปี 2010 ค่อนข้างคุ้มค่าในมุมมองของตัวผมเอง

ส่วนการขับในสภาพเส้นทางที่เปียกๆ ตอนฝนตก หรือขับในทางลูกรังทางดินโคลนตัวรถมี Traction Control อยู่แล้ว หลายๆ คนก็มักจะบอกว่า Traction ของ CR-V มันจะทำงานดีเลย์ๆ บ้าง แต่ส่วนตัวเท่าที่ผมเคยสัมผัสมามันก็ไม่ได้ดีเลย์ขนาดนั้น การขับบนถนนเปียกๆ ตัวระบบก็ช่วยดึงรถกลับมาได้ค่อนข้างดีไม่ได้มีปัญหาอะไรเลยสำหรับผม

ฟังก์ชันการใช้งานและความสะดวกสบายของ Honda CR-V Gen 3

สำหรับตัวผมที่ชอบขับรถท่องเที่ยว ผมมองว่า Cruise Control และระบบขับเคลื่อน AWD ค่อนข้างเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้รถยนต์คันนี้มันขับสบาย ใช้กับทางราบระยะทางไกลๆ ได้แบบนิ่มสุดๆ ประกอบกับระบบเบาะปรับไฟฟ้าที่มีความนุ่มๆ และช่วงล่างที่แน่นๆ แต่นุ่มนวล ก็เป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ CR-V คันนี้มันขับดี

ส่วนอื่นๆ ผมว่าก็เหมือนกับรถ SUV รุ่นท็อปทั่วๆ ไปในปีนั้น อย่างเช่น มีพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน กระจกปรับไฟฟ้าสามารถปรับแต่งได้ตามอริยาบถของสภาพเส้นทางในการขับรถทางไกล มีระบบ Central Lock ที่หลังจากรถออกตัวสักระยะนึงจะล็อคประตูเองโดยอัตโนมัติ มีกุญแจรีโมท

มีห้องเก็บของด้านหลังที่กว้างมาก มีแผ่นปิดสำหรับแยกชั้นวางของแบ่งเป็น 2 ชั้นได้ และยังพับเบาะหลังลงเพื่อเพิ่มที่เก็บของได้อีกราวกับว่าใช้ย้ายบ้านได้ในรอบเดียวเลยก็ถือว่าตอนโจทย์สำหรับคนชอบเดินทางไกลมาก

ตัวเบาะที่นั่งด้านหน้ามีที่พักแขนส่วนตัวของแต่ละเบาะที่ได้องศากำลังดีและพับเก็บได้ให้อารมณ์เหมือนเบาะเครื่องบิน และสามารถปรับไฟฟ้าได้หลายตำแหน่งทำให้มันง่ายต่อการปรับท่าทางในการนั่งขับหรือตอนเมื่อยๆ ในการขับทางไกล

ดีไซน์การออกแบบของ Honda CR-V Gen 3

แม้ CR-V Gen 3 จะมีอายุค่อนข้างเยอะแล้ว แต่ด้วยการออกแบบที่ดูร่วมสมัยมีเค้าโครงมาจากทั้ง CR-V Gen 1 และ Gen 2 ที่มาในรูปแบบที่ใหญ่กว่า อ้วนกว่า กว้างกว่า ก็ทำให้ตัวรถมันดูน่าใช้งานมากกว่า และยังดูมีกลิ่นอายความสวยแบบสมัยใหม่ผสมกับความคลาสสิคของ Gen 2 อยู่ด้วย

ที่ผมค่อนข้างประทับใจคือการดีไซน์ของตัวถังกับไฟเรียวๆ คู่หน้าและคู่หลัง เวลาวิ่งและดูจากด้านหน้าจะดู Smart ดูจากด้านท้ายก็ยังดูสวยไม่ตกยุค เป็นโฉมที่ดูไม่เก่าเหมือน CR-V Gen 1 และ GR-V Gen 2 มีความสวยแบบเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองและเป็นต้นแบบให้ Gen ถัดๆ ไปได้แบบเป๊ะๆ

การออกแบบโดยรวมเป็นรถยนต์ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่หลากหลาย แต่น่าจะเหมาะกับกลุ่มคนที่มีครอบครัวหรือคนที่ชอบเดินทางเป็นหลักมากกว่า เส้นสายของรถพอมีให้เห็นบ้างแต่ด้วยตามสมัยนิยมในช่วงที่ Gen 3 ทำตลาดก็ทำให้ตัวมันดูออกไปทางกลมมนเป็นส่วนใหญ่

บางคนอาจจะบอกว่ามันดูเหมือนรถที่คนมีอายุขับ แต่ส่วนตัวผมมองว่ามันก็มีความสวยหรูในแบบของมันเองและยังเหมาะกับกลุ่มคนวัยทำงานอยู่ ไม่ได้เก่าแก่ตกยุคอะไรขนาดนั้น หน้าตาก็แอบคล้ายๆ Gen 4 อยู่ด้วย

ด้านในของตัวท็อปสุดคันนี้จะเป็นโทนสีครีมตัดดำนิดหน่อยทำให้มันดูสบายตา การวางตำแหน่งอุปกรณ์ต่างๆ ข้างในก็ทำให้ดูใช้งานง่าย อย่างหัวเกียร์ที่อยู่ชิดกับคอนโซลกลางเลยก็ทำให้พื้นที่ระหว่างเบาะมีเยอะขึ้นดูไม่อึดอัดหรือแบ่งสันส่วนจนเกินไป

เบรคมือปกติจะอยู่ข้างๆ เกียร์ก็ถูกย้ายไปเป็นแป้นเหยียบที่ข้างๆ แป้นเบรค การใช้เบรคมือที่เป็นแบบเหยียบหลายคนอาจจะดูว่ามันล้าสมัยแต่ส่วนตัวผมมองว่ามันก็ใช้ง่ายมากนะ แค่เหยียบให้ดังแก๊กพอไม่ใช้ก็เหยียบซ้ำอีกที ฟังก์ชันต่างๆ และอุปกรณ์อื่นๆ ก็ทำให้ดูเข้าใจง่ายและใช้งานง่าย เป็นรถที่ทำความรู้จักได้ไม่ยาก

สรุป Honda CR-V Gen 3 มีข้อดี ข้อเสีย อะไรบ้าง

• ข้อดีของ CR-V Gen 3 : ความคล่องตัวของรถ อัตราการเร่งขับทางไกลดี ขับทางไกลรถไหล ขับสบายไม่ต้องใช้แรงเยอะ ขับไม่ค่อยเหนื่อย ความอเนกประสงค์สูง รถกว้างมาก ที่เก็บของเยอะ ใช้งานได้หลายแบบ
• ข้อเสียของ CR-V Gen 3 : เคยเจอปัญหาเรื่องพัดลมระบายหม้อน้ำชอบทำงานแค่ตัวเดียวทำให้เครื่อง Heat รวมถึง Compressor Air ที่ต้องมีการตรวจเช็คเรื่องคลัช รวมถึงไดชาร์จหมดอายุ แต่ส่วนใหญ่มักจะเป็นปัญหาจากอายุการใช้งานมากกว่า ต้องศึกษาคู่มือรถและเข้าเช็คกับศูนย์บ่อยๆ

ความคิดเห็นเพิ่มเติมจากผู้ใช้งาน CR-V Gen 3

อีกเรื่องที่น่าจะมีประเด็นนิดนึงจากประสบการณ์และจากการถามเพื่อนๆ ในกลุ่มที่ใช้  คือเรื่องโช๊คคู่หลังอาจต้องมีการปรับแต่งหน่อย เนื่องจากเดิมๆ ทำให้ยางกินข้างและรถสั่นได้ ต้องมีการตั้งศูนย์ถ่วงล้อหลังจากปปรับแต่งโช๊คคู่หลัง หรือเข้าเช็คเรื่องศูนย์ล้อบ่อย กับโช๊คประตูท้ายที่อาจจะเสียบ่อยแต่ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งาน ถ้าใช้รถรุ่นนี้ก็ไม่ค่อยน่าเป็นห่วงเพราะราคาอะไหล่ถูกและหาได้ทั่วไปตามท้องตลาด

คะแนนความพึงพอใจในการใช้งาน Honda CR-V Gen 3

คะแนนความพึงพอใจจากการใช้งาน Honda CR-V Gen 3 ปี 2010 จาก 1-5 คะแนน โดย 5 คะแนน คือความพึงพอใจสูงสุด แบ่งเป็นแต่ละจุดได้ดังนี้

• ภาพรวม 4 คะแนน ค่อนข้างชอบเพราะเหมาะกับตัวเองดี
• สมรรถนะการขับขี่ 5 คะแนน ชอบในความคล่องตัวที่ทำได้ดีสำหรับรถคันใหญ่ๆ
• คุณภาพฟังก์ชันความสะดวกสบาย 4 คะแนน ในภาพรวมถือว่าโอเค ถึงแม้ฟังก์ชันต่างๆ จะยังไม่เยอะเหมือนรถรุ่นปัจจุบัน แต่ก็เพียงพอต่อการใช้งาน
• พื้นที่การใช้งานของตัวรถ 5 คะแนน กว้างขวางนั่งสบาย พื้นที่เก็บของเยอะมากๆ
• ประสิทธิภาพเครื่องยนต์ 4 คะแนน เครื่องยนต์ 2.4 ลิตร กับระบบ AWD ทำงานได้ดี แต่อาจจะไม่พุ่งหวือหว่าในช่วงต้น ช่วงกลางและปลายขับดีมาก
• ความประหยัดน้ำมัน 4 คะแนน ในเมือง 11 กม./ล. ภาพรวมผมถือว่าโอเคแล้วสำหรับรถยนต์ปี 2010
• ความคุ้มค่าของราคา 5 คะแนน ต้องบอกว่าคุ้มค่ากับราคาที่ได้มาแลกกับความอเนกประสงค์ที่สุด ในราคานี้ก็ตอบโจทย์การใช้งานได้ตรงจุดเลยทีเดียว

ผู้เขียน : คุณเอ

ซื้อ Honda CR-V Gen 3 มือสอง ที่ไหนดี

สำหรับคนที่อ่านรีวิวแล้วชื่นชอบ Honda CR-V Gen 3 คุณสามารถตามหารถมือสองรุ่นนี้ได้ง่าย ๆ เพียงเข้าไปที่ >> Honda CR-V ปี 2006-2012 ที่นี่มีรุ่นนี้ให้เลือกมากกว่า 130 คันเลยทีเดียว

หากสนใจฮอนด้า ซีอาร์-วี รุ่นใหม่กว่านี้ one2car ก็มีให้เลือกเช่นกัน ดูได้ที่

• Honda CR-V โฉมปี 2012-2016
• Honda CR-V โฉมปี 2017-2021

อ่านเพิ่มเติม Honda CR-V GEN 5 มือสอง ยังน่าซื้ออยู่ไหมในปี 2023

สำหรับคนที่ชอบความวินเทจ Honda CR-V โฉมเก่าค่อนข้างตอบโจทย์เลย เหมาะกับสายแคมป์ สายออฟโรด คนรักรถคลาสสิก แถมราคาถูกอีกด้วย ลองดูรถก่อนได้ >> Honda CR-V ปี 1995-2002 ราคาไม่ถึง 2 แสน

อ่านเพิ่มเติม 5 เหตุผลที่ทำให้ Honda CR-V Gen 1 น่าเล่น

ถ้าอยากได้รุ่นใหม่กว่านี้อีกนิด แต่ราคาใกล้เคียงกัน แนะนำเป็น Honda CR-V ปี 2002-2006

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง one2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com