รีวิว Subaru BRZ รถขับหลังหนึ่งเดียวของค่ายดาวลูกไก่ มีอะไรดี

Subaru BRZ รถขับหลังเพียงรุ่นเดียวของค่าย มีอะไรดีคนถึงชอบและให้ความสนใจกันในตลาดรถยนต์มือสอง วันนี้เรามาดูกัน!

ทำความรู้จักกับ Subaru BRZ

Subaru BRZ เป็นรถสปอร์ตแบบ 2+2 ที่นั่ง ซึ่งเอาเข้าจริงแล้วจะนับว่าเป็น 2 ที่นั่งเลยก็คงได้ เพราะด้านหลังนั้นเป็น Dog Seat พื้นที่วางขาแทบจะไม่มีเลยนอกจากว่าคนนั่งเบาะหน้าจะเลื่อนเบาะขึ้นไปสูง

ซึ่ง BRZ นั้นเป็นรถยนต์ของค่าย Subaru ที่ถูกพัฒนาร่วมกับ Toyota ทำให้ตัวรถออกมาในรูปแบบรถสปอร์ตคูเป้ที่สามารถขับซิ่งก็ได้ ขับหล่อในชีวิตประจำวันก็ดี

ทาง Subaru และ Toyota ก็ได้มีการแชร์พาร์ท แชร์แพลทฟอร์ม และ แชร์เทคโนโลยี ที่ใช้ผลิตรถรุ่นนี้ร่วมกัน ซึ่งถ้าเป็นในฝั่ง Toyota จะมาในรุ่น Toyota GT86 และ Toyota GR86 เพราะฉะนั้นเรื่องศูนย์บริการและอะไหล่รถยนต์ สองค่ายนี้จะสามารถใช้ร่วมกันได้ครับ

มิติตัวถังของ Subaru BRZ

• กว้าง 1,775 มิลลิเมตร
• ยาว 4,265 มิลลิเมตร
• สูง 1,310 มิลลิเมตร
• ระยะฐานล้อ 2,575 มิลลิเมตร
• น้ำหนักตัว รุ่นเกียร์ธรรมดา 1,289 – 1,291 กิโลกรัม
• น้ำหนักตัว รุ่นเกียร์อัตโนมัติ 1,310 – 1,312 กิโลกรัม

เครื่อยนต์ของ Subaru BRZ

ใน BRZ โฉมปัจจุบันที่ทำตลาดในประเทศไทยจะใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบนอน Boxer รหัส FA24 ขนาด 2.4 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 237 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด หรือ เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด

เครื่องยนต์ BOXER หรือเครื่องสูบนอนจะเป็นเครื่องยนต์ที่พบเจอได้ใน Subaru ทุกรุ่น แต่เมื่อมีการพัฒนาร่วมกับ Toyota เครื่องยนต์ตัวนี้ก็จะพบเจอได้ใน GR86 ด้วยเช่นกัน

เมื่อมีการพัฒนาร่วมกับ Toyota เครื่องยนต์บล็อคนี้ของ Subaru ก็จะมีเทคโนโลยีของ Toyota เพิ่มเติมเข้ามาด้วย คือ เทคโนโลยีหัวฉีด D-4S หรือ Direct Injection 4 Stroke ซึ่งเป็นระบบฉีดเชื้อเพลิงแบบยิงตรงสำหรับเครื่องยนต์สี่จังหวะ ซึ่งหัวฉีดตัวนี้ถูกพัฒนามาจากเครื่องยนต์ดีเซล D4D ของ Toyota เป็นแบบ 2 หัวฉีด ต่อ 1 ลูกสูบ 

เพราะฉนั้นเครื่องยนต์นี้จึงจะมีทั้งหมด 8 หัวฉีด ส่งผลให้ฉีดน้ำมันได้เป็นละอองฝอยมากขึ้น การเผาไหม้ ทำได้อย่างสมบูรณ์แบบขึ้น ได้อัตราเร่งและแรงบิดดีขึ้น และที่สำคัญคือมันทำให้เครื่องยนต์ประหยัดและได้ประสิทธิภาพสูง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเป็นเครื่อง NA ไม่มี Turbo แต่ก็ให้กำลังและความต่อเนื่องที่เร้าใจ จากเครื่อง Boxer ที่ดีอยู่แล้วกลับดีเพิ่มขึ้นไปอีก!

อ่านเพิ่มเติม : เครื่อง NA คืออะไร ต่างจากเครื่อง Turbo ไหม แบบไหนดีกว่ากัน?

ระบบขับเคลื่อนของ Subaru BRZ

เมื่อเป็นรถยนต์จากค่ายดาวลูกไก่ทุกท่านก็จะคิดว่าจะมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Full-Time ที่เป็นเอกลักษณ์อย่าง Symetrical All Wheel Drive แต่ว่าใน BRZ นั้นไม่มี กลายเป็นรถยนต์ขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง RWD ซิ่งๆ แทน

ระบบขับเคลื่อนของ Subaru BRZ เป็นแบบ RWD หรือ ขับเคลื่อนล้อหลัง ส่งกำลังจากเครื่องยนต์วางหน้าผ่านเพลากลางมาสู่เฟืองท้าย Torsen ลิมิเต็ดสลิป ทำให้รถรุ่นนี้มีความแม่นยำในการขับขี่ที่และทำให้ตัวรถมีความบาลานซ์สูง ทำอัตราเร่ง 0-100 ได้ภายใน 6.3 วินาที ทำ Top Speed ที่ 226 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

อ่านเพิ่มเติม : ระบบขับเคลื่อนรถยนต์แบบ FWD RWD AWD และ 4WD คืออะไร แตกต่างกันไหม

ความรู้สึกในการขับขี่ Subaru BRZ

ถ้าหากลองเทียบกับฝาฝดของเขาอย่าง Toyota GR86 หลายๆ คนที่ได้ลองสัมผัสมักจะบอกว่ามันไม่ได้ต่างกันแค่โลโก้นะ ความรู้สึกก็แตกต่าง Subaru BRZ จะให้ความรู้สึกที่แข็งๆ เฟิร์มๆ และสปอร์ตมากกว่า แต่ทาง Toyota จะทำให้มันมีความนุ่มๆ หนึบๆ เพื่อความเหมาะสมกับการเป็นรถสปอร์ตเดลี่ยูส ซึ่งนี่ก็คือข้อแตกต่างในการปรับแต่งช่วงล่างของทั้งสองคัน

อ่านรีวิว : รีวิว Toyota GR86 ผู้สืบทอดตระกูล 86 ในตำนานของ Sprinter Trueno

ช่วงล่างของ Subaru BRZ ช่วงล่างด้านหน้าใช้แบบอิสระแม็กเพอสันสตรัท lower L-arms คอล์ยสปริงพร้อมเหล็กกันโคลง ส่วนช่วงล่างด้านหลังใช้แบบอิสระดับเบิลวิชโบนคอล์ยสปริงพร้อมเหล็กกันโคลง ซึ่งแน่นอนว่าช่วงล่างเหมือนกับ GR86 เป๊ะ แต่ BRZ มีการปรับแต่งฟิลลิ่งให้ออกมาแบบสปอร์ตมากกว่า ให้ความรู้สึกคล้าย BMW เลย จะมีความเเข็งนิดหน่อย แต่พอในย่านความเร็วสูงมีความเฟิร์มๆ เอาถนนอยู่

ด้านการเข้าโค้งและการเกาะถนนต้องบอกว่าตามสไตล์รถเตี้ยเลียพื้นโลกที่ขนาดกระทัดรัดและฐานล้อกว้างแบบนี้มันเอาถนนอยู่ได้หมัด เกาะถนนดี พวงมาลัยเบากำลังดีและแม่นยำสูง เข้าโค้งได้แบบคมๆ ซึ่งส่วนหนึ่งก็เป็นผลมาจากเครื่อง Boxer ที่มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ และการบานลานซ์น้ำหนักรถที่ดีด้วย เป็นรถที่คล่องตัวกระฉับกระเฉงสูงเลยทีเดียว

ภายในถือว่านั่งสบายมาก (แค่เบาะคู่หน้า) สำหรับรถยนต์สไตล์ 2 ที่นั่ง มันเหมาะกับการเป็นรถสปอร์ตเดลี่ยูสอย่างแท้จริงที่พร้อมซิ่งได้ทุกเมื่อ และค่อนข้างประหยัดน้ำมันมากกว่ารถยนต์สปอร์ตทั่วๆ ไป ที่ 7.8 กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งแน่นอนว่านี่คือตัวเลขสำหรับในเมือง ขับทางไกลก็อาจทำได้ถึง 8 หรือ 9 กิโลเมตรต่อลิตรเลย ด้านฟังก์ชันการใช้งานอื่นๆ ต้องบอกว่ามีมาครบเพียงพอที่จะทำให้คุณเพลิดเพลินกับรถได้อย่างดีแล้ว

อ่านเพิ่มเติม : รถ Coupe คืออะไร ใช่รถสองประตูจริงหรือเปล่า?

ดีไซน์โดยรวมของ Subaru BRZ

การดีไซน์ภายนอกต้องบอกว่ามีความลงตัวสูงมากสำหรับโฉมล่าสุด โฉมเก่าจะดูซิ่งๆ กว่า มีทั้งความสวยร่วมสมัยด้วยการออกแบบตัวรถที่มีความโค้งมนและโป่งล้ออวบๆ ในบอดี้ที่กระชับทำใหรถดูเซ็กซี่ แต่ทั้งนี้ก็ยังมีสันเหลี่ยมเข้ามาเสริมในจุดต่างๆ ทำให้มันดูมีความสปอร์ตมากขึ้นด้วย ส่วนความต่างกับ GR86 ก็ต้องบอกว่า แค่โลโก้และกระจังหน้านิดหน่อยเท่านั้นเอง

กระจังหน้าออกแบบให้มีความแบนกระชับและมีช่องรับลมแบบแนวนอนที่ด้านล่างโลโก้เพื่อการรับลมไประบายความร้อนเครื่องได้ดี รวมถึงยังมีช่องรับลมไประบายความร้อนเบรคและมีช่องลมด้านหลังโป่งล้อหน้าเพื่อการไหลเวียนอากาศที่ดี อากาศที่ไหลผ่านจะตัดไปกับสเกิร์ตข้างรถและผ่านไปด้านหลังเลย ทำให้การออกแบบมันเป็นไปตามหลักการแอร์โรไดนามิคที่ดี

ด้านหลังมีความสปอร์ตด้วยโป่งล้อหลังอวบๆ ทำให้ท้ายรถดูมีมิติ รวมถึงไฟท้ายที่ดีไซน์เป็นรูปตัว C โคม LED สีแดงตัดดำที่อยู่ใต้ฝากระโปรงทรงดั๊กเทลก็ทำให้ท้ายรถนั้นดูสปอร์ตโฉบเฉี่ยวมากขึ้น อีกทั้งยังมีการเสริมด้วยกันชนหลังสีดำด้านที่มีท่อไอเสีย 2 ท่อ ทำให้ท้ายรถมันหล่อกว่าหน้าตาของเขาเสียอีก!

ต้องบอกว่าภายนอกเป็นรถยนต์ที่สวยและดูมีสเน่ห์มากๆ ดูครั้งแรกอาจไม่ค่อยเข้าตาแต่ครั้งต่อมามันก็เข้าไปอยู่ในดวงใจได้ง่ายๆ แล้ว ภายนอกจะมาพร้อมกับ

• ไฟหน้า LED
• ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน DRL รูปตัว C
• ไฟท้าย LED
• ไฟตัดหมอกหลัง
• กระจกมองข้างอัตโนมัติ
• กระจกป้องกันรังสี UV รอบคัน
• ล้อ 18 นิ้ว สี Matt dark Grey Metallic พร้อมยาง Michelin Pilot Sport 4 ขนาด 215/40 R18
• แผ่นปิดป้องกันเครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง และ ช่วงล่าง
• ช่องระบายลมที่กันชนหน้าแบบใช้งานได้จริง
• ช่องระบายอากาศด้านหน้าแบบใช้งานได้จริง
• สเกิร์ตด้านข้างช่วยรีดอากาศได้จริง
• สปอยเลอร์ด้านหลังทรงตูดเป็ด
• ครีบควบคุมลมบริเวณซุ้มล้อด้านหลัง
• เสาอากาศครีบฉลาม
• ท่อไอเสียคู่

ภายในเองต้องบอกว่ามันมีกลิ่นอายความผสมผสานระหว่าง Toyota และ Subaru ออกมาได้อย่างดุดัน ดูดี เดลี่ยูส ถึงแม้ภายในจะดูไม่มีอะไรมากแต่ก็เต็มไปด้วยฟังก์ชันการใช้งานและเทคโนโลยีที่เก็บซ่อนเอาไว้เยอะ

การออกแบบภายในจะดูเป็นกึ่งๆ รถสปอร์ต กึ่งๆ รถใช้งาน แต่ว่าการออกแบบในแต่ละจุดจะดูมีความล้ำและแสดงถึงความใส่ใจ เช่น เบาะที่เป็นทรงสปอร์ตบัคเก็ตซีทใช้วัสดุที่นุ่มสบายทำให้ขับแล้วไม่เมื่อยแม้ภายในรถจะแคบ การออกแบบคอนโซลที่เรียบหรูดูมีสเน่ห์และมีความร่วมสมัยเข้าใจง่าย และ โซนของปุ่มควบคุมตรงกลางที่ออกแบบมาค่อนข้างล้ำคล้ายแผงควบคุมของนักบินแต่ก็ใช้งานง่ายเข้าใจไม่ยาก

โดยรวมแล้วต้องบอกว่าภายในสวยดุดันและยังมีกลิ่นอายความร่วมสมัยสูงมาก แต่ก็เป็นการออกแบบที่คิดมาดีและใส่ใจรายละเอียดมากๆ วัสดุที่ใช้เองก็ค่อนข้างดีมากเช่นกัน โดยภายในจะมาพร้อม

• ชุดมาตรวัด แบบหน้าจอ TFT LCD ขนาด 7 นิ้ว
• หน้าจอกลาง 8 นิ้ว แบบ Capacitive
• ระบบควบคุมเสียงเครื่องยนต์ Active Sound Control โทนเสียงแปรผันตามความเร็วของเครื่องยนต์
• เดินตะเข็บตามจุดต่างๆ ในห้องโดยสารด้วยด้ายสีแดง
• เบรกมือหุ้มด้วยหนัง
• ช่องเสียง USB 2.1A 2 ช่อง
• ช่องจ่ายไฟ 12 V
• เครื่องปรับอากาศดิจิตัล แยกฝั่งซ้านขวา 2 โซน

ในส่วนของระบบความปลอดภัย ถึงแม้จะเป็นรถสปอร์ตคันเล็กๆ ที่ราคาเข้าถึงได้ง่ายแต่ก็มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยที่จัดมาให้อย่างดี เช่น

• ถุงลมนรภัยคู่หน้า
• ถุงลมนิรภัยด้านข้าง
• ม่านถุงลมนิรภัย
• ถุงลมนิรภัยบริเวณหัวเข่า
• ระบบควบคุมสเถียรภาพการทรงตัว VSC
• มี Track mode
• ระบบออกตัวบนทางลาดชัน
• Torsen LSD (limited slip differential)
• ไฟหน้าเลี้ยวตามพวงมาลัย (SRH)
• ระบบเตือนการจราจรด้านข้าง และด้านหลัง (SRVD)
• กล้องมองหลัง
• เข็มขัดนิรภัยด้านหน้ารั้งกลับอัตโนมัติและช่วยผ่อนแรงกระแทก
• ไฟเตือนเมื่อเบรคฉุกเฉิน

เทคโนโลยีความปลอดภัยของ Subaru BRZ

ในรุ่นเกียร์แมนนวลจะมีระบบความปลอดภัยพื้นฐานมาให้อย่างเต็มที่

• โหมดสปอร์ตอัจฉริยะ (sport mode with adaptive control)
• โหมดขับขี่บนหิมะ
• เทคโนโลยี EyeSight Advance Driver Assist 
• ระบบช่วยเบรคอัตโนมัติ (Pre-collision Braking)
• ระบบจัดการกำลังเครื่องยนต์ (Pre-collision Throttle Management)
• ระบบเตือนเมื่อรถออกจากเลน (Lane Departure Warning)
• ระบบแจ้งเตือนเมื่อรถส่ายไปมา (Lane sway warning)
• ระบบแปรผันความเร็วอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control)
• ระบบเตือนรถเคลื่อนที่ (Lead Vehicle Start Alert)
• ไฟหน้าปรับสูง/ต่ำอัตโนมัติ (AHB)
• ระบบช่วยเบรคอัตโนมัติเมื่อถอยหลัง (RAB)

Subaru BRZ น่าซื้อไหม?

ถามว่าน่าใช้ไหมต้องบอกว่า มันคือรถสปอร์ตหนึ่งคันที่น่าขับที่สุดในยุคนี้เลยก็ว่าได้ เพราะถึงไม่มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่เป็นของดีจาก Subaru แต่อย่าลืมว่ารถยนต์คันนี้เป็นรถยนต์เครื่องวางหน้าขับเคลื่อนล้อหลัง ซึ่ง Subaru ไม่เคยมีมาก่อน เราจะได้พบกับประสบการณ์การขับขี่ใหม่ๆ ที่ไม่อาจะพบได้ใน Subaru รุ่นอื่นๆ

การที่ Subaru พัฒนารถยนต์ร่วมกับ Toyota ออกมาเป็น BRZ ทำให้มันไม่จำเป็นต้องพึ่งพาระบบขับเคลื่อน 4 ล้อในการทำให้มันทรงตัวดี เพราะรถขับหลังเป็นรถยนต์ที่ให้กำลังและความบาลานซ์รถค่อนข้างดีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

เมื่อรวมเข้ากับระบบเฟืองท้ายที่เค้าให้มากับจุดศูนย์ถ่วงเครื่องยนต์ที่ต่ำและตัวรถที่เตี้ยจนเหมือนนั่งอยู่บนพื้นถนน มันทำให้ Subaru BRZ ขับขี่สนุก จุดศูนย์ถ่วงดี ขับทางไกลชวงล่างเฟิร์ม เกาะถนนแน่นหนึบเลยทีเดียว

ความพิเศษที่แตกต่างกันถึงแม้ว่า Subaru และ Toyota จะมีรถคันนี้ทำตลาดขายในรหัสรุ่นที่แตกต่างกัน ความแตกต่างของสองค่ายก็ยังมีอยู่ คือ Subaru BRZ จะมีการปรับเซ็ทช่วงล่างให้มีความแข็งๆ ดิบๆ สปอร์ตๆ มากกว่าทาง Toyota นั่นก็เพราะว่าเอกลักษณ์ของ Subaru มันต้องเป็นรถสปอร์ตสายลุยขั้นสุด! นั่นจึงทำให้ Subaru BRZ มีความน่าสนใจมากกว่าสำหรับสายสปอร์ต

ในเรื่องราคาสำหรับ BRZ มือหนึ่ง โฉมปัจจุบัน BRZ 2.4  6MT จะอยู่ที่ 2,699,000 บาท ส่วน BRZ 2.4 EyeSight 6AT ราคา 2,849,000 บาท ซึ่งในราคามือสองนั้นต้องบอกว่าเขายังเป็นรถปีใหม่ ราคาจึงจะยังไม่ลดลงมาก แต่ก็ถือว่าประหยัดไปได้พอสมควร อีกทั้งเรื่องการสึกหรอหรือเสื่อมสภาพก็ยังจะไม่พบเจอแน่ๆ

• Subaru BRZ โฉมล่าสุด มือสอง เกียร์ MT ราคาเริ่มต้น 2,380,000 บาท
• Subaru BRZ โฉมล่าสุด มือสอง เกียร์ AT ราคาเริ่มต้น 2,599,000 บาท

สำหรับใครที่มองว่าราคายังไม่ค่อยสวยเท่าไหร่เลย เราแนะนำเป็น Subaru BRZ โฉมแรก ปี 12-16 ราคากำลังดีและเข้าถึงได้ง่ายมาก อีกทั้งหน้าตาโฉมนี้ยังดูจะถูกใจสาย JDM มากกว่าด้วย เพราะหน้าตาของโฉมนี้จะดูเฟี้ยวๆ ซิ่งๆ มีเอกลักษณ์มากกว่าครับ

• Subaru BRZ โฉมปี 12-16 มือสอง ราคาเริ่มต้น 1,297,000 บาท

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง one2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com