Ford Ranger Wildtrak V6 ดีที่สุดของเครื่องดีเซลจริงเหรอ ?

Ford Ranger Wildtrak เดิมมันเอาต์ พี่ฟอร์ดเราเลยยัด V6 มาให้ใหม่ซะเลย รุ่นนี้ดีสุดในเครื่องดีเซลจริงไหม หรือเราควรข้ามไปมือสองรุ่นไหนดี?

ทำความรู้จักกับ Ford Ranger Wildtrak V6

Ranger Wildtrak เป็นรถกระบะรุ่นย่อยเกือบท็อปที่สุดของกระบะใช้งานค่าย Ford ซึ่งมีพื้นฐานแบบเดียวกันกับ Ford Ranger ตัวยกสูง แน่นอนว่าเครื่องยนต์ โครงสร้าง และระบบขับเคลื่อนเองก็เหมือนกัน แต่ในรุ่นย่อย Wildtrak จะเป็นรุ่นที่ถูกจับมาปรับแต่ง ปั้นหล่อแบบพิเศษ ให้ดุดันและสวยขึ้น พร้อมกับมีออปชันที่ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายขึ้นด้วย

ซึ่งแต่ก่อน Ranger Wildtrak จะถือว่าเป็นรุ่นท็อปที่สุดของกระบะใช้งาน และเป็นรองแค่เพียง Ford Ranger Raptor ที่เป็นกระบะสายดิบเถื่อนตัวเพอฟอร์เเมนซ์ของค่าย แต่เมื่อปี 2023 ที่ผ่านมา บัลลังก์นี้ก็ถูกแทนที่ด้วย Ford Ranger Stormtrak ซึ่งเป็นรุ่นย่อยใหม่ที่เบียดให้ Wildtrak นั้นลงไปอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าเขา

อ่านเพิ่มเติม : Ford Ranger Wildtrak มือสอง ลุยไหวไหม ควรข้ามไป Raptor รึเปล่า

แต่ตอนนี้พี่ Ford แกเล่นจัดเต็มมาให้กับเครื่องยนต์ตัวใหม่แบบเดียวกันกับของ Ford Everest Platinum V6 สเปกส่งออกออสซี่ อย่างเครื่องยนต์ V6 Turbo ที่ให้แรงบิดสูงมากในรอบต่ำ เพียงแค่เอาเท้าสะกิดคันเร่งเบาๆ เท่านั้น บอกเลยว่าแม้แต่บัลลังก์ของ Ranger Raptor ก็สั่นสะเทือนได้เลย

แต่ทั้งนี้แล้วต้องบอกว่าหน้าตาของเขาดูไม่ออกเลยว่าเป็น Renger Wildtrak V6 เพราะหน้าตาเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือหมกเครื่อง V6 มาให้ มีแค่จุดสังเกตไม่กี่จุดที่พอจะทำให้เรารู้ได้แบบไม่ต้องเปิดห้องเครื่อง เช่น

• เพลตที่แก้มโป่งล้อที่มีตัวอักษร V6 สีดำเงา
• ฝาท้ายหลังที่เอาโลโก้ 4X4 ออกไปเหลือทิ้งไว้แค่คำว่า Wildtrak
• ล้อที่ใหญ่ขึ้น

แต่รายละเอียดการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ก็มีเพิ่มมาอีกเช่นกัน มาดูกันว่าเขามีอะไรเพิ่มเติมเขามาอีกบ้าง

Ranger Wildtrak V6 มีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง?

สิ่งที่เปลี่ยนไปถึงตัวเครื่องยนต์ใหม่นี้จะถูกวางลงในโมเดล Ranger Wildtrak นั่นก็คือเรื่องของราคาที่สูงขึ้น แต่ไม่ต่างกันมาก มาดูราคากันดีกว่า ว่าทำไม Wildtrak V6 น่าสนใจ!

• Ranger Wildtrak 2.0L Bi-Turbo HR 10AT ราคา 1,189,000 บาท  
• Ranger Wildtrak 2.0L Bi-Turbo 4×4 10AT ราคา 1,329,000 บาท  
• Ranger Stormtrak 2.0L Bi-Turbo HR 10AT ราคา 1,279,000 บาท
• Ranger Stormtrak 2.0L Bi-Turbo 4×4 10AT ราคา 1,414,000 บาท
• Ranger Wildtrak V6 3.0 Turbo 10AT 4×4 ราคา 1,519,000 บาท ***
• Ranger Raptor 2.0L Bi-Turbo 4WD 10AT ราคา 1,799,000 บาท
• Ranger Raptor 3.0L V6 Twin-Turbo EcoBoost 4WD 10AT ราคา 1,949,000 บาท

คือมันน่าสนใจตรงที่ Ranger Wildtrak V6 มีราคาสูงกว่า Wildtrak 4X4 แค่แสนปลายๆ แพงกว่า Stormtrak 4X4 อยู่แค่แสนกับอีกห้าพันบาท และ ถูกกว่า Raptor 2.0 ลิตร Bi-Turbo แค่สองแสนปลายๆ บอกเลยว่าราคาแบบนี้ คนเล่นกระบะ Ford กุมขมับเลย ไม่รู้จะเลือกรุ่นไหนดี เพิ่มเงินนิดหน่อยได้รุ่นนั้น ลดเงินนิดๆ รุ่นนี้ก็น่าสนใจ

ออปชันที่เพิ่มมาใน Ranger Wildtrak V6

หลักๆ เลยก็คือเครื่องยนต์ดีเซล V6 3.0 ลิตร Turbo ที่ถูกวางมาใส่ในบอดี้ Wildtrak จากเดิมที่ใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร Bi-Turbo ตัวระบบขับเคลื่อนเองก็ได้แบบใหม่เป็นแบบ ขับเคลื่อน 4 ล้อ Full-time 4WD ที่มี Active Center Differential เพิ่มโหมดการขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบอัตโนมัติ 4A 4WD

อ่านเพิ่มเติม : ระบบขับเคลื่อน 4WD คืออะไร ใช้งานแบบไหนให้เหมาะสม

ด้วยเครื่องยนต์ที่เปลี่ยนไปจึงมีการเสริมฉากความแข็งแรงบริเวณจุดยึดเครื่องยนต์และแชสชีส์เพิ่มเติมเพื่อให้มันขับได้อย่างมีเสถียรภาพยิ่งขึ้น ใช้ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว รัดด้วยยางขนาด 255/55 R20 และแบชสัญลักษณ์ V6 บริเวณช่องระบายอากาศด้านข้างเพื่อบอกว่าเขาไม่ใช่ Wildtrak ทั่วไป นี่ V6 โว้ย! พร้อมกับการเพิ่มระบบไฟส่องสว่างภายนอกแบบแบ่งโซน Zone Lighting ราคาเพิ่มขึ้นนิดๆ กับออปชันที่เพิ่มมาถือว่าคุ้มอยู่นะเนี่ย

เครื่องยนต์ของ Ranger Wildtrak V6

Wildtrak V6 ใช้เครื่องยนต์ดีเซล V6 แบบ 24 วาล์ว 3.0 ลิตร 2,993 ซีซี พ่วงระบบอัดอากาศ Turbocharged กำลังสูงสุด 250 แรงม้า ที่ 3,250 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร ที่ 1,750 – 2,250 รอบ/นาที

จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ มากับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ใหม่แบบ Full-time 4A-4WD พร้อมระบบ Active Centre Differential และระบบล็อกเฟืองท้าย Diff-Lock ที่ล้อคู่หลัง รองรับน้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุด ดีเซล B20 ผ่านมาตรฐานไอเสีย Euro 5 เรียบร้อย

โหมดการขับขี่ Wildtrak V6 มี 6 โหมด

• Normal
• Eco
• Tow / Haul
• Slippery
• Mud / Ruts
• Sand

อ่านเพิ่มเติม : ซื้อรถมือสองเลือกเครื่องยนต์ 'ดีเซล' หรือ 'เบนซิน' ดี ?

การขับขี่เปลี่ยนไป Wildtrak V6 ดีขึ้นหรือแย่ลง?

สำหรับการขับขี่เราต้องมาดูเรื่องรายละเอียดที่เปลี่ยนไป คือ เครื่องยนต์ และ จุดยึด ซึ่งต้องบอกว่าการเปลี่ยนแปลงแค่นี้ ทำให้ Wildtrak เดิมๆ ที่ผมเคยขับที่มันดีอยู่แล้ว แต่ทางผู้ทดสอบจากทีม Autospinn บอกว่า "มันดีกว่า Wildtrak 2.0 Bi-Turbo ไปอีกระดับเลย"

ถึงแม้เรื่องช่วงล่างจะดูเหมือนเดิม คือ ด้านหน้า Double Wishbone พร้อมคอยล์สปริง และ เหล็กกันโคลง ด้านหลัง Leaf Spring แหนบซ้อน พร้อมระบบเบรกแบบดิสก์หน้าหลังพร้อมครีบระบายความร้อน แต่การเปลี่ยนเครื่องยนต์ครั้งนี้ทำให้ Wildtrak V6 มีการเสริมฉากความแข็งแรงบริเวณจุดยึดเครื่องยนต์และแชสชีส์เพิ่มเติมด้วย

ด้วยตัวเครื่องยนต์แบบ V6 ที่ใหญ่ขึ้นมากกว่า 2.0 Bi-Turbo ทำให้น้ำหนักของตัวรถเพิ่มขึ้น แต่ไม่เพิ่มเยอะ แค่ราวๆ 70 กิโลฯ เท่านั้น แต่เมื่อเปลี่ยนมาใช้เครื่อง V ก็ทำให้ตัวเครื่องนั้นถอยลงมาอยู่ด้านในได้เยอะขึ้น ตำแหน่งดีขึ้น พื้นที่ด้านหน้าในห้องเครื่องเหลือเยอะขึ้น การจัดวางเป็นระเบียบดีขึ้น มีการเปลี่ยนจุดยึดและเสริมแกร่งเพิ่ม อีกทั้งยังให้อัตราสิ้นเปลืองได้ที่ 11-12 กม./ล. คือ เครื่องใหญ่แต่กินน้ำมันเท่ากับเครื่องเดิมเลย

ด้วยสิ่งเหล่านี้มันทำให้บาลานซ์รถดีขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ อัตราเร่งให้ความรู้สึกที่ดีเกินคู่แข่งไปแล้ว จาก Wildtrak เดิมที่ดีมาก มารุ่นนี้ก็ดีขึ้นจริงๆ ความเเรงของเครื่องยนต์ V6 ที่ถูกวางมาให้ใหม่ ถือว่าแรง แต่… แรงแบบผู้ดีมีสกุลรุนชาติ ขับหล่อๆ แล้วค่อยแตะคันเร่งแซงไปแบบเรียบง่าย

มันไม่ได้แรงแบบกระชากเหมือนวัยรุ่น All New 1.9 แต่เป็นความแรงที่ต่อเนื่องจากการกดคันเร่งแบบค่อยๆ แรงขึ้นอย่างรวดเร็วและนุ่มนวล มันเป็นความรู้สึกที่เร้าใจแบบอ่อนๆ แอบเร้าใจและสบายใจ แต่เผลอชะล่าใจรถมันก็ไหลพุ่งไปแล้ว แรงบิดของเขาให้แรงที่สูงมากในรอบที่โคตรจะต่ำ เป็นเครื่องดีเซลที่พละกำลังมหาศาล แค่เอาเท้าเเตะคันเร่งพร้อมโหมดขับ 2 มันก็ขึ้นลงเขาชันๆ ได้สบายเลยนะ เข้าป่าหรือขึ้นทางออฟโรดจะเป็นยังไง "ก็ชิลล์ไง!"

นอกจากความนุ่มแน่นจากช่วงล่างเดิมๆ ที่เราได้มาแล้ว การเพิ่มหรือเสริมจุดต่างๆ เพื่อรองรับแรงของเครื่องและน้ำหนักของเครื่องยังส่งผลให้รถมีบาลานซ์ที่ดีขึ้น จากแต่ก่อนมีอาการย้วยโยนบ้างตามสไตล์รถกระบะสูงๆ แต่ตอนนี้โยนตัวค่อนข้างน้อยนะ บาลานซ์ดีขึ้นเกาะถนนแน่นขึ้น ส่วนตัวเครื่องยนต์ด้วยความเป็นเครื่องสูบ V ถึงจะเป็นดีเซลก็ให้ความนิ่งและเงียบมาก ไม่มีอาการสั่นหรือดังเลย ของเขาดี

ออปชันและระบบความปลอดภัยของ Wildtrak V6

ต้องบอกว่าจริงๆ ออปชันนั้นมีมาให้เหมือนเดิมไม่ถูกตัดทอนอะไรออกไป มีแต่เพิ่มเติมเข้ามาอย่างที่เราบอกไปด้านบน แต่เราจะพาทุกคนมาดูว่ารถกระบะระดับ 1.5 ล้านต้นๆ ที่ให้ฟิลลิ่งเหมือนรถ SUV แบบนี้มันให้อะไรมาบ้าง

ออปชันภายนอกของ Wildtrak V6

ภายนอกมากับล้ออัลลอย ขนาด 20 นิ้ว ดีไซน์ใหม่ พร้อมยางขนาด 255/55 R20 ใช้ไฟหน้าแบบ Matrix LED ระบบปรับมุมแสงอัตโนมัติ และ ระบบป้องกันไฟแยงตา มีระบบเปิดปิดไฟหน้าแบบอัตโนมัติ ไฟ Daytime Running Lights แบบ LED C-Clamp ไฟท้ายแบบ LED และ ไฟตัดหมอกคู่หน้า แบบ LED

ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ Rain Sensor มีมา กระจกมองข้างปรับพับด้วยไฟฟ้า แถมมีไฟส่องสว่างข้างตัวรถ Puddle Lamps มาด้วย มีบันไดข้างและบันไดเหยียบข้างกระบะท้ายพร้อมกับมีสปอร์ตบาร์และราวหลังคามาให้ มีพื้นปูกระบะท้ายพร้อมช่องต่อไฟ 12V/230V และเป็นฝาท้ายแบบผ่อนแรง Easy Lift มีระบบไฟส่องสว่างภายนอกรถแบบแบ่งโซน Zone Lighting มาให้สำหรับสายเอาท์ดอร์ด้วยนะ

ภายในของ Wildtrak V6

ภายในของ Wildtrak V6 จะดูเหมือนกับ Wildtrak ที่เคยมีมาแต่ว่ามีจุดแตกต่างเล็กน้อย มีระบบเลือกโหมดการขับขี่ Terrain Management แบบหมุน เบรกมือไฟฟ้า EPB พร้อมฟังก์ชั่น Auto Brake Hold มีระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย Wireless Charger

สำหรับเบาะนั่งคนขับจะปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้าปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง เบาะนั่งยังหุ้มด้วยหนังตามสไตล์ Wildtrak เช่นเคย ช่องต่อไฟมีมาให้ 12V 1 ช่อง 230V 1 ช่อง ใช้มาตรวัด Full Digital แบบสี ขนาด 8.0 นิ้ว มีระบบกุญแจ Smart Keyless Entry พร้อมระบบ Engine Remote Start หรือ ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start Button ก็มีมาเช่นเคย

ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแยกอิสระซ้ายขวา Dual Zone พร้อมกับมีระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง กระจกมองหลังเป็นแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ มีช่องเชื่อมต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าแบบ USB บนกระจกมองหลังด้วย ภายในรถยังมีไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร Ambient Light มาให้ และมีกระจกหน้าต่างไฟฟ้าพร้อมระบบ One-Touch สำหรับคู่หน้าด้วยครับ

ด้านด้ามบันเทิงภายในก็มาพร้อมกับหน้าจอกลางระบบ Touchscreen ระบบ Multi-touch ขนาด 12.0 นิ้ว ซึ่งรองรับทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย Wireless มีระบบเชื่อมต่อไร้สายแบบ Bluetooth ระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC 4A มีระบบ FordPass Connect ช่องเชื่อมต่อ USB 4 ตำแหน่ง และ ลำโพง 6 ตำแหน่งครับ

ระบบความปลอดภัยของ Wildtrak V6

ระบบความปลอดภัยก็มีมาให้แบบครบสมราคาของเขาเลย โดย Ford Ranger Wildtrak V6 จะมาพร้อมกับระบบความปลอดภัยดังนี้

• ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS
• ระบบกระจายแรงเบรก EBD
• ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP
• ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี Traction Control พร้อมระบบ Electric Brake Booster
• ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HLA
• ระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ ROM
• ระบบช่วยลงทางลาดชัน HDC
• ระบบช่วยโทรฉุกเฉิน Emergency Assistant
• ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่าง Adaptive Cruise Control พร้อมระบบ Stop & Go
• ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง Lane Centering
• ระบบเปิดปิดไฟสูงอัจฉริยะ Auto High Beams
• ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติพร้อมตรวจจับคนเดินถนน AEB
• ระบบเตือนการชนด้านหน้า Forward Collision Warning
• ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน Lane Keeping Assist
• ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน Lane Departure Warning
• ระบบเตือนมุมอับสายตา Blind Spot Information
• ระบบตรวจจับรถขณะก่อนออกจากช่อง Cross Traffic Alert
• ระบบป้องกันการชนเมื่อถอยหลัง Reverse Brake Assist
• ระบบช่วยหักพวงมาลัยเพื่อเลี่ยงการปะทะ Evasive Steering Assist
• ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง (คู่หน้า-ด้านข้าง-ม่านนิรภัย-หัวเข่าคนขับ)
• ระบบกล้องรอบคัน 360 องศา
• เซนเซอร์กะระยะช่วยจอดด้านหน้าและด้านหลัง

ซื้อ Ranger Wildtrak V6 หรือซื้อมือสองรุ่นอื่นดี?

ถ้าจะลองเทียบดูกับรถยนต์มือสองก็คงต้องเทียบกับกระบะสเปคใกล้ๆ กัน แต่ทว่าเครื่อง V6 ดีเซล Turbo นี่มันไม่มีคู่เปรียบเทียบในตลาดไทยเลยนะ จะมีก็แค่เพียง Ford Ranger Raptor มือสอง เครื่อง V6 Twin-Turbo แต่ก็เป็นเครื่องเบนซินอีก ไม่ใช่ดีเซล ก็จะเทียบกันไม่ค่อยได้

แต่ถ้าเรื่องราคา Raptor โฉมล่าสุด มือสอง นี่ราคาเริ่มต้นใกล้เคียงกับ Wildtrak V6 เลยนะ ถ้าเอาเรื่องความดิบ ความดุดัน ช่วงล่างเทพ เป็นกระบะเพอฟอร์แมนซ์ ไม่ซื้อ Wildtrak V6 ก็ข้ามมา Raptor V6 มือสอง ได้นะ (ถ้าทนเรื่องซดน้ำมันเหมือนถังรั่วไหว) Wildtrak V6 จะประหยัดมากกว่าราว 3-4 กม./ล. ด้วยความเป็นดีเซล ก็ขึ้นอยู่กับคุณแล้วครับว่าชอบคันไหน เพราะทั้งคู่ขับลุยได้ ขับในเมืองได้ แต่ Raptor ขับในเมืองแอบลำบากกว่า

ส่วนในเรื่องของพละกำลังและเรื่องไซซ์รถที่ใกล้กัน ก็อาจต้องเป็นคู่กัดเค้าอย่าง Toyota Hilux Revo Rocco มือสอง ที่น่าสนใจ ซึ่งจริงๆ แล้วเค้าต้องกัดกับ Wildtrak 2.0 Biturbo นะ แต่ถึงแม้แรงม้าและแรงบิดอาจต่ำกว่า Wildtrak V6 ไป 1 สเต็ป แต่เรื่องราคามือสองโฉมล่าสุดที่เริ่มต้น 7-9 แสน ก็น่าสนใจไม่น้อย

Toyota Hilux Revo Rocco ได้เครื่องยนต์ดีเซล Turbo 2.8 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,600 – 2,800 รอบ/นาที

• แรงม้าน้อยกว่า Wildtrak V6 ที่ 46 แรงม้า
• แรงบิดน้อยกว่า Wildtrak V6 ที่ 100 นิวตันเมตร

ถึง Toyota Hilux Revo Rocco มีแรงม้าและแรงบิดน้อยกว่า Wildtrak V6 แต่ก็ไม่ได้ถือว่าด้อยกว่าจนขี้ริ้วขี้เหร่อะไร เพราะแรงบิดเปิดมาเยอะที่รอบต่ำเหมือนกัน เรียกได้ว่าถ้าเข้าไม่ถึง Wildtrak V6 เจ้า Toyota Hilux Revo Rocco ก็ยังโอเคแบบพอดิบพอดีทั้งในชีวิตประจำวันและบนเส้นทางออฟโรด ออปชันก็ถือว่าให้มากำลังพอดี ลองเช็คราคา Revo Rocco มือสองกับเราได้ก่อนด้านล่างนี้

• Toyota Hilux Revo double cab 2.8 G Rocco 4WD เริ่มต้น 759,000 บาท
• Toyota Hilux Revo 2.8 G Rocco Dual Cab 4WD เริ่มต้น 789,000 บาท
• Toyota Hilux Revo double cab 2.8 Rocco Dual Cab 4WD เริ่มต้น 940,000 บาท

หรือว่าใครที่คิดว่า Wildtrak V6 นั้นมันแพงเกินไป ก็ลองมาดู Wiltrak โฉมใหม่เครื่อง 2.0 Bi-Turbo มือสอง ก็ได้นะ ผมมองว่าเป็นอีกทางเลือกที่ดีพอๆ กับ Rocco มือสอง เลย แต่จะดีกว่าตรงที่ Wiltrak 2.0 Bi-Turbo เป็นมิตรต่อการขับขี่ทั่วไปและการใช้งานแบบครอบครัวมากกว่าเพราะว่ามันนุ่มขับสบายกว่านะ ส่วน Rocco นี่ดูดิบเถื่อนไปเลยสำหรับรถกระบะใช้งานทั้งการออกแบบและช่วงล่าง แต่ถ้าใครชอบนี่ถือว่าเด็ด!

เรื่องพละกำลังของ Wildtrak 2.0 Bi-Turbo ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่า Rocco เลย เพราะเขาใช้เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 Bi-Turbo ขับเคลื่อน 4 ล้อ 4WD ที่ให้พละกำลังอยู่ที่ 210 แรงม้า ที่ 3,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตัวเมตร ที่ 1,750 – 2,000 รอบ/นาที แรงม้าเหนือกว่า Rocco และ แรงบิดเท่ากับ Rocco เลย มาดูราคา Wildtrak 2.0 Biturbo มือสอง กัน

• Ford Ranger double-cab WildTrak 4WD มือสอง เริ่มต้น 959,000 บาท
• Ford Ranger double-cab WildTrak Dual Cab 4WD มือสอง เริ่มต้น 988,000 บาท

สุดท้ายนี้แล้วเราอยากบอกว่า ถ้าได้มีโอกาสทดลองขับเราอยากให้ทุกคนได้ลองกันก่อนทั้ง 3 รุ่น ไม่ว่าจะเป็น Revo Rocco หรือ Wildtrak 2.0 Bi-Turbo ก็ตาม แล้วลองมาเปรียบเทียบกันดูกับ Ranger Wildtrak V6 ครับ เพราะความชอบของคนเราไม่เหมือนกัน

สำหรับผมแล้ว ผมมองว่า Wildtrak V6 ของเขาดีจริงไม่มีข้อติเลย ถ้ามีเงินก็คงได้ซื้อแหละ ส่วน Wildtrak หรือ Rocco เทียบสเปคโดยตรงกับเขาไม่ได้หรอก ตอนนี้ในไทยเขายังไม่มีคู่แข่ง แต่ถ้าผมงบน้อยมาก เข้าไม่ถึง Wildtrak V6 จริงๆ และไม่ได้ใช้รถแบบลุยมากมาย หรือ ไม่ได้ขับทางไกลบ่อย ซื้อ Wildtrak มือสอง หรือ Rocco มือสอง ก็โอเคแล้วนะเอาจริง!

โหลดหรือยัง? แอป one2car - NEXT GEN! CAR APP

• Smart Search: หารถง่าย ฟังก์ชันครบ ข้อมูลชัด!
• Qualified Car: รถคุณภาพ ตรวจสภาพแล้ว พร้อมรายงานรถ
• Most Trusted Seller: คัดผู้ขายให้แล้ว ไม่ต้องกลัวมิจฉาชีพ
• Hot Deals: พบกับ Big Sale ลดแรงทุกเดือน!
• My Garage: ระบบผู้จัดการส่วนตัวให้รถคุณ ทุกเรื่องรถ จบในที่เดียว
• Car Tax: ต่อภาษีรถยนต์สะดวกกว่าที่เคย ไม่ต้องกลัวลืม
• Car Price: อยากขายรถแต่ไม่รู้ราคา เช็กเลย! รู้ผลใน 1 นาที ต้องการขายก็ทำได้เลย
• Car Financing: สินเชื่อรถมือสอง จัดไฟแนนซ์ง่ายกับ Partner ของเรา พร้อมข้อเสนอพิเศษ
• Car Insurance: แจ้งเตือนต่อประกันรถยนต์ล่วงหน้า พร้อมดีลสุดพิเศษจากบริษัทชั้นนำ
• Extended Warranty: ประกันอะไหล่รถ หมดห่วงเรื่องอะไหล่รถมือสอง
• one2car Story: คลิปรีวิวรถจากคนขาย คอนเทนต์เกี่ยวกับยานยนต์

Apple Store : https://bit.ly/o2c_apple_store

Google Play Store : https://bit.ly/o2c_Google_Play_Store

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง one2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com