One2car.com
แอปพลิเคชัน One2Car
ทำนายราคารถของคุณ
4.5
21,133

ในยุคของรถยนต์ไฟฟ้า รถสันดาปมือสองจะตายจากเราไปหรือไม่?

เรื่องเด่น

ในยุคของรถยนต์ไฟฟ้า รถสันดาปมือสองจะตายจากเราไปหรือไม่?

เมื่อรถยนต์ไฟฟ้ากำลังกลายเป็นกระแสหลักในประเทศไทย ด้วยราคาที่เข้าถึงง่ายพร้อมออปชั่นล้นๆ ก็ทำให้เกิดคำถามว่า ในอนาคตรถยนต์สันดาปและรถมือสองจะตายจากเราไปหรอไม่?


รถยนต์ไฟฟ้าคืออะไร?

รถยนต์ไฟฟ้าคืออะไร?

อ้างอิงจาก สถาบันวิจัยและพัฒนาพลังงานนครพิงค์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้บอกว่า รถยนต์ไฟฟ้า หรือ รถ EV มีชื่อเรียกเต็มๆ ว่า Electric Vehicle คือ รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแทนการใช้เครื่องยนต์ที่มีการเผาไหม้แบบสันดาป

อ่านเพิ่มเติม : 10 ข้อดี-ข้อเสีย รถยนต์ไฟฟ้า อย่าเพิ่งซื้อถ้ายังไม่รู้สิ่งนี้

รถยนต์ไฟฟ้าดีกว่ารถสันดาปไหม?

รถยนต์ไฟฟ้าดีกว่ารถสันดาปไหม?

รถยนต์ไฟฟ้าจะใช้พลังจากไฟฟ้าแทนการใช้มันน้ำหรือพลังงานอื่นๆ โดยระบบรถยนต์ไฟฟ้าจะเก็บพลังงานเอาไว้ในแบตเตอรี่ที่สามารถชาร์จไฟได้และแปลงพลังงานจากแบตเตอรี่มาใช้ในการขับเคลื่อนรถ

รถ EV จึงไม่จำเป็นต้องมีกลไกลอะไรมากมายเหมือนกับรถน้ำมันที่ต้องอาศัยการเผาไหม้เพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงานในการขับเคลื่อน ทำให้รถยนต์ไฟฟ้ามีความเงียบและไม่มีการปล่อยมลพิษใดๆ

อีกทั้งการที่รถยนต์ไฟฟ้าไม่จำเป็นต้องมีกลไกลซับซ้อน นั่นจึงทำให้เรื่องความเสื่อมสภาพของชิ้นส่วนต่างๆ ก็จะน้อยตามลงไปด้วย มีเพียงแค่การเข้าเช็คระยะตามที่กำหนดเอาไว้ ไม่จำเป็นต้องซ่อมอะไรจุกจิกเท่ารถสันดาป ค่าใช้จ่ายในการเดินทางเองก็ประหยัดมากกว่ารถสันดาปเป็นเท่าตัว

อ่านเพิ่มเติม : รู้หรือไม่? รถยนต์ไฟฟ้า ไม่ใช่ทางเลือกเดียวในการประหยัดน้ำมัน

ทำไมคนถึงเลือกใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น?

ทำไมคนถึงเลือกใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น?

เหตุผลที่ปัจจุบันคนเริ่มใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้นก็เป็นไปด้วยปัจจัยหลายๆ อย่าง เช่น 

  • โครงข่ายสถานีชาร์จเริ่มมีความครอบคลุมมากขึ้น
  • ราคาของรถยนต์ไฟฟ้าจีนที่เขามาทำตลาดมีราคาถูกกว่ารถสันดาปในระดับเดียวกัน เช่น ORA 07 ที่ในรุ่นท็อปมีราคาสูสีกับ Honda Accord ตัวเริ่มต้น
  • การได้รับเงินอุดหนุนราคาจากภาครัฐ ทำให้ราคาเข้าถึงได้ง่ายขึ้น
  • มีประเภทตัวรถให้เลือกหลากหลายตามความต้องการแล้ว
  • การแข่งขันที่มากขึ้นทำให้ราคารถยนต์ไฟฟ้าที่เข้ามาทำตลาดในช่วงหลังมีราคาดีขึ้น
  • ออปชันแน่น ฟังก์ชันล้น และราคาคุ้มค่าตัว
  • ดีไซน์สวยล้ำสมัยมากกว่ารถยนต์เครื่องสันดาป
  • ความประหยัดที่มากกว่ารถสันดาป
  • การเสื่อมสภาพน้อยกว่ารถสันดาป
  • ราคาพลังงานที่แพงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้คนเลือกซ้อรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น
  • ระยะทางต่อการชาร์จเริ่มวิ่งได้ไลขึ้นเรื่อยๆ
  • เทคโนโลยีและนวัตกรรมของรถยนต์ไฟฟ้ามีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด

นอกจากนี้ก็ยังมีอีกหลากหลายปัจจัยที่ทำให้ปัจจุบันผู้คนเริ่มหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้น และการที่คนเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้นนี้เอง มันก็ทำให้รถยนต์เครื่องสันดาปทั้งมือหนึ่งและมือสองขายออกยากขึ้น และรถยนต์สันดาปในตลาดมือสองก็ล้นตลาดและขายออกยากเช่นกัน

ในอนาคตยังจะมีรถยนต์น้ำมันอยู่ไหม?

ในอนาคตยังจะมีรถยนต์น้ำมันอยู่ไหม?

ในความคิดเห็น ถึงแม้ว่าปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้าจะพึ่งเข้ามาตีตลาดในไทยได้ไม่นาน แต่ก็ต้องยอมรับว่ามีแน้วโน้มที่รถยนต์ไฟฟ้าจากจีนจะเข้ามาเป็นทางเลือกหลักได้ในระยะเวลาอันรวดเร็วแน่นอน เรียกได้ว่าต่อคิวเข้ามาเปิดตัวในประเทศไทยกันอย่างคึกคัก

ซึ่งเราก็จะเห็นว่ารถยนต์จากค่ายญี่ปุ่นเองก็เริ่มมีการขยับตัวที่จะพัฒนารถยนต์ไฟฟ้ากันแล้วด้วย เช่น ค่าย Honda ที่เริ่มผลิต Honda HR-V เวอร์ชันไฟฟ้าล้วนในโรงงานประเทศไทย และ Mazda ที่ประกาศว่ากำลังซุ่มผลิตรถ EV อยู่ ทั้งที่ในอดีตรถค่ายญี่ปุ่นมักจะให้ความสนใจกับการพัฒนารถ Hybird และ รถไฮโรเจน กันมากกว่า

แต่ในอีเว้นท์ที่ประเทศญี่ปุ่นในช่วงปีที่ผ่านมาก็จะเห็นว่าค่ายญี่ปุ่นก็เริ่มจะมีแนวทางในการคืนชีพรถยนต์ในตำนานมาโชว์ตัวกันในแบบรถคอนเซปต์ ซึ่งแหล่งข่าวจากหลายสำนักก็ต่างบอกว่ารถยนต์คอนเซปต์เหล่านี้จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าหรือรถไฮบริด

ในอนาคตยังจะมีรถยนต์น้ำมันอยู่ไหม?

ทางบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Toyota ก็มีการซุ่มพัฒนาแบตเตอรีที่สามารถวิ่งได้เกินพันกิโลเมตรอยู่ด้วย และที่ผ่านมา Toyota ก็พึ่งได้ออกมาประกาศว่าตนเองได้ประสบความสำเร็จในการพัฒนาแบต Solid State แล้วด้วย นั่นหมายความว่าค่ายญี่ปุ่นเริ่มปรับตัวและให้ความสำคัญกับรถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

จากข่าวคราวที่เราได้รับรู้มาตลอดช่วงปี 2023 ที่ผ่านมาก็ทำให้เราพอจะคาดการณ์ได้เลยว่าในอนาคตอันใกล้รถยนต์ไฟฟ้าจะมีมากขึ้นและมีหลากหลายรุ่นเพื่อให้ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการใช้งาน ส่วนรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปจะยังคงมีผลิตอยู่เรื่อยๆ แต่ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนครั้งยิ่งใหญ่เพื่อสอดรับกับมาตราน EURO

ในอนาคตยังจะมีรถยนต์น้ำมันอยู่ไหม?

รถยนต์น้ำมันจะยังไม่หายไป เพราะรถน้ำมันก็ยังมีข้อดีอีกหลายเรื่องที่สู้รถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบันได้ เช่น เรื่องระยะทางของรถยนต์ไฮบริดที่เติมเต็มถังแล้วสามารถวิ่งได้ไกลกว่า เป็นต้น อีกทั้งพฤติกรรมการใช้งานของคนส่วนใหญ่ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะเปลี่ยนกันได้ง่ายๆ ความคุ้นเคยกับรถน้ำมันของคนเยอะกว่าแน่นอนสำหรับประเทศไทย แปลว่ารถยนต์เครื่องสันดาปจะยังไม่ตายจากเราไปในระยะเวลาอันใกล้แน่นอน

เพียงแต่ว่ารถยนต์ที่ใช้เครื่องสันดาปจะเริ่มมีการปรับตัวกันมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งที่ผ่านมาเราก็จะเริ่มเห็นกันแล้วจากการที่มีการปรับเปลี่ยนขุมพลังของรถยนต์ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่อย่างเช่น Honda City, Honda Civic, Honda Accord และ Honda CR-V เป็นต้น ความคิดเห็นนี้สามารถยืนยันได้ด้วยมาตรฐาน EURO ครับ

อ่านเพิ่มเติม : ถ้าเติมน้ำมันเต็มถัง รถจะวิ่งได้ไกลแค่ไหน

มาตรฐาน EURO คืออะไร

มาตรฐาน EURO คืออะไร

มาตฐาน EURO ย่อมาจาก EUROPEAN EMISSION STANDARDS เป็นมาตรฐานการควบคุมมลพิษจากสหภาพในยุโรปที่ได้มีการวางมาตรการในการควบคุมมลพิษตั้งแต่ปี ค.ศ.1992 โดยนับเป็นมาตรฐานยูโร 1 (EURO 1) ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ซึ่งมีการควบคุมยานพาหนะที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงให้มีการเผาไหม้ไม่ให้เกินค่ามาตรฐานที่กำหนดด้วย ทำให้ผู้ผลิตทั่วโลกได้มีการพัฒนาเครื่องยนต์ให้ปล่อยมลพิษออกมาน้อยที่สุด มีการแบ่งออกเป็นประเภท และขนาดของเครื่องยนต์ โดยพื้นฐานจะมีการวัดจากค่าต่างๆ เช่น

  • คาร์บอนมอนนอกไซด์ (CO)
  • สารไฮโดรคาร์บอน (HC)
  • สารไนโตรเจนออกไซด์ (NOx)
  • สารมลพิษอนุภาคและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM)

ซึ่งในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาประเทศไทยเองก็มีการประกาศใชมาตรฐาน EURO 4 มาตั้งแต่ปี 2556 แล้ว และพึ่งจะมีการเปลี่ยนมาใช้มาตรฐาน EURO 5 ในวันที่ 1 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งในต่างประเทศเขามีการเริ่มใช้มาตรฐาน EURO 5 มาก่อนประเทศไทยแล้ว และตอนนี้บางประเทศเริ่มมีการเข้าสู่ช่วงการใช้มาตรฐาน EURO 6 กันแล้ว

ข้อบังคับมาตรฐาน EURO 4

ข้อบังคับมาตรฐาน EURO 4

เครื่องยนต์เบนซิน EURO 4 มีข้อกำหนดปริมาณการปล่อยมลพิษ โดยต้องไม่เกินค่าที่ตั้งเอาไว้ ดังนี้

  • คาร์บอนมอนนอกไซด์ (CO) ต้องไม่เกิน 1 กรัม/กม.
  • สารไฮโดรคาร์บอน (HC) ต้องไม่เกิน 0.1 กรัม/กม.
  • สารไนโตรเจนออกไซด์ (NOx) ต้องไม่เกิน 0.08 กรัม/กม.
  • สารมลพิษอนุภาคและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM) ต้องไม่เกิน – กรัม/กม.

ในส่วนของเครื่องยนต์ดีเซล EURO 4 มีข้อกำหนดปริมาณการปล่อยมลพิษ ดังนี้

  • คาร์บอนมอนนอกไซด์ (CO) ต้องไม่เกิน 0.5 กรัม/กม.
  • สารไฮโดรคาร์บอนและ สารไนโตรเจนออกไซด์ (HC+NOx) ต้องไม่เกิน 0.3 กรัม/กม.
  • สารไนโตรเจนออกไซด์ (NOx) ต้องไม่เกิน 0.25 กรัม/กม.
  • สารมลพิษอนุภาคและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM) ต้องไม่เกิน 0.025 กรัม/กม.

ข้อบังคับมาตรฐาน EURO 5

ข้อบังคับมาตรฐาน EURO 5

สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน EURO 5 มีข้อกำหนดปริมาณการปล่อยมลพิษ จะต้องไม่เกินค่าดังนี้ 

  • คาร์บอนมอนนอกไซด์ (CO) ต้องไม่เกิน 1 กรัม/กม.
  • สารไฮโดรคาร์บอน (HC) ต้องไม่เกิน 0.1 กรัม/กม.
  • สารไนโตรเจนออกไซด์ (NOx) ต้องไม่เกิน 0.06 กรัม/กม.
  • สารมลพิษอนุภาคและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM) ต้องไม่เกิน 0.005 กรัม/กม.

สำหรับเครื่องยนต์ดีเซล EURO 5 ต้องมีค่าไม่เกินค่าดังนี้

  • คาร์บอนมอนนอกไซด์ (CO) ต้องไม่เกิน 0.5 กรัม/กม.
  • สารไฮโดรคาร์บอนและ สารไนโตรเจนออกไซด์ (HC+NOx) ต้องไม่เกิน 0.23 กรัม/กม.
  • สารไนโตรเจนออกไซด์ (NOx) ต้องไม่เกิน 0.18 กรัม/กม.
  • สารมลพิษอนุภาคและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM) ต้องไม่เกิน 0.005 กรัม/กม.

สำหรับโรงกลั่นน้ำมัน ยกระดับจาก EURO 4 เป็น EURO 5 เช่นกัน โดยจะมีการ

  • ลดปล่อยกำมะถันลงจาก 100 PPM เหลือ 10 PPM ในน้ำมันเบนซินและดีเซล
  • ดีเซลจะลดปล่อยค่าสารโพลีไซคลิก อะโรมาติก ไฮโดรคาร์บอนจาก 11% เหลือ 8%

ข้อบังคับมาตรฐาน EURO

เมื่อต่างประเทศที่ก้าวขาเร็วกว่าเราเริ่มมีการใช้มาตรฐาน EURO 5 ไปก่อน และเริ่มจะเข้าสู่การใช้มาตรการ EURO 6 เราจึงเห็นว่าในช่วงปีสองปีที่ผ่านมารถยนต์เครื่องสันดาปมีการปรับปรุงและปรับเปลี่ยนขุมพลังกันมากขึ้น มีการใส่ใจเรื่องระบบเผาไหม้ให้มีความสมบูรณ์มากขึ้น และปล่อยมลพิษน้อยลงนั่นเอง นั่นเป็นเพราะผลพวงจากมาตรฐาน EURO

ปัจจุบันประเทศไทยพึ่งจะเริ่มใช้มาตรฐาน EURO 5 และต่างประเทศเริ่มขยับมาใช้มาตรฐาน EURO 6 กัน นั่นหมายความว่าในระยะเวลาอันใกล้เราอาจจะได้เห็นรถยนต์เครื่องสันดาปมีการปรับเปลี่ยนและพัฒนาไปอีกขั้น รถยนต์น้ำมันจะยังไม่ตายจากเราไปแต่จะถูกบีบให้ต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพราะผลจากมาตรฐาน EURO ที่มีการบังคับเกี่ยวกับข้อกำหนดเรื่องการปล่อยมลพิษ

ในอนาคตรถยนต์สันดาปจะเป็นแบบใด?

ในอนาคตรถยนต์สันดาปจะเป็นแบบใด?

อย่างที่เราบอกไปว่าจากการที่เราสังเกตในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเราจะรู้ได้เลยว่า ค่ายรถยนต์มักจะทำเครื่องยนต์ให้เล็กลงแต่แรงขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ค่าย Honda

ในอดีตเราจะเห็นว่ารถยอดนิยมของ Honda อย่าง Honda CR-V ในรุ่นก่อนๆ จะใช้เครื่องยนต์ขนาดใหญ่ ในรุ่นเริ่มต้นจะใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร และรุ่นท็อปจะใช้เครื่องยนต์ขนาด 2.4 ลิตร ซึ่งเป็นเครื่อง NA ที่ไม่มีระบบอัดอากาศเข้ามาช่วย

ในอนาคตรถยนต์สันดาปจะเป็นแบบใด?

แต่ปัจจุบัน Honda CR-V เจนเนอเรชันล่าสุด ก็มีการปรับเปลี่ยนขุมพลังโดยมีการหันมาใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Turbo นั่นก็เพราะระบบ Turbo เป็นระบบที่ช่วยให้นำอากาศเข้าสู่ห้องเผาไหม้ได้เยอะขึ้นกว่าเครื่อง NA ก็เลยทำให้การเผาไหม้สมบูรณ์ขึ้น ปล่อยมลพิษน้อยลง และ แรงขึ้นด้วย

ส่วนในรุ่นท็อปก็มีการเปลี่ยนมาใช้เป็นเครื่องยนต์ Hybrid ขนาด 2.0 ลิตร ที่มีการทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า (e:HEV) เนื่องจากรถยนต์ Hybrid สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ดีและ ได้ความแรงพอๆ กับเครื่องยนต์ใหญ่ อีกทั้งยังประหยัดน้ำมันมากกว่าเครื่อง NA ขนาดใหญ่

ในอนาคตรถยนต์สันดาปจะเป็นแบบใด?

แต่ผมคิดว่าในอนาคตเราอาจจะเห็นรถยนต์ Hybrid มากขึ้นในตลาดและอาจจะเห็นเครื่องยนต์ NA หรือ เครื่องยนต์ Turbo น้อยลงก็เป็นได้ เนื่องจากมาตรฐาน EURO จะเข้มงวดขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเราอาจจะเห็นภาพลางๆ มาแล้วจากการที่มีไลน์รถยนต์บางรุ่นเริ่มเปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์สันดาปทุกรุ่นย่อย เช่น Honda Accord เจเนอเรชันล่าสุด เป็นต้น

ซึ่งในอนาคตมาตรฐาน EURO จะบีบให้ผู้ผลิตต้องปรับเปรียนเป็นรถยนต์ไฟฟ้า ไม่ก็กลายเป็นรถยนต์พลังงานทางเลือกอีกลายรูปแบบอย่างแน่นอน แต่ไม่ใช่ในระยะเวลาอันใกล้สำหรับประเทศไทย เพราะประเทศเราค่อนข้างประกาศใช้มาตรฐาน EURO ช้ากว่าต่างประเทศอยู่พอสมควร

อ่านเพิ่มเติม : เครื่อง NA คืออะไร ต่างจาก Turbo ยังไง เลือกแบบไหนดี

ในอนาคตรถยนต์สันดาปจะเป็นแบบใด?

แต่ผมคิดว่าด้วยมาตรฐาน EURO ที่เข้มงวดมากๆ ทั้งเรื่องเครื่องยนต์และเรื่องการผลิตน้ำมัน บางทีอาจจะทำให้รถยนต์ที่ถูกผลิตออกมาจำเป็นต้องมีการเพิ่มระบบหรือเพิ่มอุปกรณ์ต่างๆ ไปในการผลิตรถยนต์มากขึ้นเพื่อลดการปล่อยมลพิษให้เป็นไปตามที่กำหนด ซึ่งอาจจะทำให้ราคารถน้ำมันแพงขึ้นตามด้วย แน่นอนว่าราคาน้ำมันก็เช่นกัน

หมายความว่าอนาคตอันใกล้นี้เราจะเห็นคนเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย จะไม่ใช่การเปลี่ยนมาใช้เพราะกระแสรถยนต์ไฟฟ้าที่มาแรงเหมือนช่วงแรกๆ แล้ว และเราจะเห็นได้เลยว่าในอนาคตรถน้ำมันจะเข้าสู่ยุคของระบบ Hybrid และ Plug in Hybid เต็มตัวแน่นอน และอาจมีรถยนต์ลูกผสมอย่าง Nissan Kicks e-Power มากขึ้นแน่ๆ แต่ก็ไม่ใช่ทุกรุ่นซะทีเดียวครับ

สถานการณ์รถยนต์มือสองจะเป็นอย่างไร?

สถานการณ์รถยนต์มือสองจะเป็นอย่างไร?

สำหรับสถานการณ์รถยนต์มือสองต้องบอกว่าล้นแน่ๆ การเข้ามาของรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมายในตลาดรถยนต์มือสอง รถยนต์น้ำมันทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่จะเยอะขึ้นมาก รุ่นที่เคยหาซื้อได้ยากก็จะหาซื้อได้ง่ายขึ้น รถยนต์มือสองใหม่ๆ สภาพดีๆ จะเยอะขึ้น และแน่นอนว่าในตลาดมือสองจะมีรถยนต์ไฟฟ้าเยอะมากขึ้นด้วย การแข่งขันทางราคาจะสูงขึ้น ซึ่งนี่ก็เป็นสิ่งที่ดีสำหรับผู้บริโภค

ถ้าหากถามว่าในเมื่อราคารถยนต์ไฟฟ้ามือหนึ่งมันเข้าถึงได้ง่ายมาก รถยนต์มือสองหรือรถยนต์ไฟฟ้ามือสองจะสามารถขายได้เหรอ? ต้องบอกว่าขายได้แน่นอนแต่อาจจะขายยากขึ้นนิดหน่อย แต่ก็ต้องบอกว่าในประเทศไทยถึงมือหนึ่งจะรถจะราคาถูกลง แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะเข้าถึงรถยนต์มือหนึ่งได้ง่าย

สถานการณ์รถยนต์มือสองจะเป็นอย่างไร?

รถยนต์มือสอง จะยังไม่ตายจากเราไปไหนแน่นอน เพราะยังมีกลุ่มคนที่เข้าถึงรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์มือหนึ่งได้ยาก และยังมีกลุ่มคนที่ต้องการเข้าถึงรถยนต์มือสองอยู่ เพราะรถยนต์มือสองมีราคาถูกกว่ามือหนึ่งเกือบครึ่งก็เลยทำให้การเข้าถึงนั้นง่ายกว่า ในอนาคตรถยนต์มือสองจะมีราคาถูกลงกว่านี้อีกแน่ๆ

อีกทั้งช่องทางในการจัดไฟแนนซ์ของรถยนต์มือสองก็มีหลากหลายมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มอาชีพใด มีฐานรายได้เท่าไหร่ก็สามารถจัดไฟแนนซ์ได้ (ขึ้นอยู่กับประวัติเครดิตด้วย) ก็ทำให้รถยนต์มือสองยังคงขายได้อยู่และไม่จากเราไปไหน

ตลาดรถยนต์มือสองในอนาคตจะมีการแข่งขันในเรื่องราคากันดุเดือดขึ้นอย่างแน่นอน ทำให้เป็นผลดีต่อกลุ่มคนรายได้น้อยจนถึงปานกลางที่จะสามารถเข้าถึงรถยนต์ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น และได้ใช้รถยนต์คุณภาพดีในราคาที่ดีอีกด้วยครับ

อ่านเพิ่มเติม : 7 สิ่งที่คนมองข้ามก่อนซื้อรถมือสอง ไม่อยากเสียใจต้องรู้อะไรบ้าง

สุดท้ายแล้วผมอยากจะบอกว่านี่เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวจากผู้เขียนเท่านั้น สถานการณ์ตลาดรถยนต์มือหนึ่งและมือสองในช่วงนี้มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราคาดการณ์นั้นอาจจะมีการคาดเคลื่อนได้ อีกทั้งเทคโนโลยีรถยนต์ยังมีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดด้วย นั่นหมายความว่าเราอาจจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วมากกว่าที่ผมคิดก็เป็นไปได้ครับ

อ่านเพิ่มเติม : ซื้อรถมือสอง [เงินสด เงินผ่อน] ใช้เอกสารอะไรบ้าง?

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง one2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com



Pakkawat Unchalee

Pakkawat Unchalee

Content Writer

เริ่มต้นจากการเป็นนักเขียนแห่งวงการจักรยานระดับไฮเอนด์ สู่การเป็นนักเขียนของเว็บไซต์รถยนต์มือสองอันดับหนึ่งอย่าง one2car ถึงแม้จะมีความถนัดเรื่องจักรยานระดับไฮเอนด์เป็นพิเศษ แต่เรื่องรถยนต์ก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน หวังว่าทุกท่านจะเพลิดเพลินไปกับบทความที่ถูกเขียนโดยการจิ้มแป้นพิมพ์ของผมครับ


ข่าวฟีเจอร์

โหรดังแนะ! ฤกษ์ออกรถ 2568 เคาะวันเงินปัง งานรุ่ง ชีวิตพุ่งแรง

โหรดังแนะ! ฤกษ์ออกรถ 2568 เคาะวันเงินปัง งานรุ่ง ชีวิตพุ่งแรง

ข่าววงการรถยนต์
one2car ร่วมกับ “อาจารย์วิช ธรรมสถิตบุณณ์” แนะนำ ฤกษ์ออกรถปี 2568 ครบทุกเดือน วันไหนมงคล เรียกทรัพย์ มารับฤกษ์ได้เลยออกรถวันไหนดีปี 2568 ซินแสเผย! ...
7 รถเก๋งประหยัดน้ำมัน ราคาถูก 2025 ลองขับแล้ว คุ้มสมชื่อ!

7 รถเก๋งประหยัดน้ำมัน ราคาถูก 2025 ลองขับแล้ว คุ้มสมชื่อ!

เรื่องเด่น
รถเก๋งรุ่นไหนประหยัดน้ำมัน คุ้มราคา น่าใช้ในปี 2568พูดถึงรถเก๋งประหยัดน้ำมัน หลายคนน่าจะนึกถึงรถเล็ก ไม่ก็ Eco car ...
Altis กับ Camry มือสอง คันไหนตอบโจทย์คุณมากกว่า

Altis กับ Camry มือสอง คันไหนตอบโจทย์คุณมากกว่า

เรื่องเด่น
Altis กับ Camry มือสอง คู่นี้เลือกไม่ยาก แต่ถ้าให้เลือกแค่คันเดียว จะเลือกคันไหนให้มันตอบโจทย์เราที่สุดล่ะ มาดูไปพร้อมๆ กันครับAltis กับ Camry ...
M-Flow จ่ายเงิน ไม่ลงทะเบียน ทำยังไง? ต้องจ่ายภายในกี่วัน?

M-Flow จ่ายเงิน ไม่ลงทะเบียน ทำยังไง? ต้องจ่ายภายในกี่วัน?

เรื่องเด่น
ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบขับรถไปต่างจังหวัดแน่นอนว่าคุณต้องเคยเจอ หรือ เคยผ่านด่าน M Flow มาแล้วบ้าง แต่สำหรับใครที่เผลอขับเข้าไปใน M Flow ...

เเสดงความคิดเห็น

app-icon
app-icon
app-icon
ดูรถในฝันของคุณในแอป
ดาวน์โหลดแอปตอนนี้