หน้าแรก บทความ เรื่องเด่น ในยุคของรถยนต์ไฟฟ้า รถสันดาปมือสองจะตายจากเราไปหรือไม่? ในยุคของรถยนต์ไฟฟ้า รถสันดาปมือสองจะตายจากเราไปหรือไม่? เรื่องเด่น Pakkawat Unchalee | 04 July 2567 14:38 เมื่อรถยนต์ไฟฟ้ากำลังกลายเป็นกระแสหลักในประเทศไทย ด้วยราคาที่เข้าถึงง่ายพร้อมออปชั่นล้นๆ ก็ทำให้เกิดคำถามว่า ในอนาคตรถยนต์สันดาปและรถมือสองจะตายจากเราไปหรอไม่? รถยนต์ไฟฟ้าคืออะไร? อ้างอิงจาก สถาบันวิจัยและพัฒนาพลังงานนครพิงค์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้บอกว่า รถยนต์ไฟฟ้า หรือ รถ EV มีชื่อเรียกเต็มๆ ว่า Electric Vehicle คือ รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแทนการใช้เครื่องยนต์ที่มีการเผาไหม้แบบสันดาป อ่านเพิ่มเติม : 10 ข้อดี-ข้อเสีย รถยนต์ไฟฟ้า อย่าเพิ่งซื้อถ้ายังไม่รู้สิ่งนี้ รถยนต์ไฟฟ้าดีกว่ารถสันดาปไหม? รถยนต์ไฟฟ้าจะใช้พลังจากไฟฟ้าแทนการใช้มันน้ำหรือพลังงานอื่นๆ โดยระบบรถยนต์ไฟฟ้าจะเก็บพลังงานเอาไว้ในแบตเตอรี่ที่สามารถชาร์จไฟได้และแปลงพลังงานจากแบตเตอรี่มาใช้ในการขับเคลื่อนรถ รถ EV จึงไม่จำเป็นต้องมีกลไกลอะไรมากมายเหมือนกับรถน้ำมันที่ต้องอาศัยการเผาไหม้เพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงานในการขับเคลื่อน ทำให้รถยนต์ไฟฟ้ามีความเงียบและไม่มีการปล่อยมลพิษใดๆ อีกทั้งการที่รถยนต์ไฟฟ้าไม่จำเป็นต้องมีกลไกลซับซ้อน นั่นจึงทำให้เรื่องความเสื่อมสภาพของชิ้นส่วนต่างๆ ก็จะน้อยตามลงไปด้วย มีเพียงแค่การเข้าเช็คระยะตามที่กำหนดเอาไว้ ไม่จำเป็นต้องซ่อมอะไรจุกจิกเท่ารถสันดาป ค่าใช้จ่ายในการเดินทางเองก็ประหยัดมากกว่ารถสันดาปเป็นเท่าตัว อ่านเพิ่มเติม : รู้หรือไม่? รถยนต์ไฟฟ้า ไม่ใช่ทางเลือกเดียวในการประหยัดน้ำมัน ทำไมคนถึงเลือกใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น? เหตุผลที่ปัจจุบันคนเริ่มใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้นก็เป็นไปด้วยปัจจัยหลายๆ อย่าง เช่น โครงข่ายสถานีชาร์จเริ่มมีความครอบคลุมมากขึ้น ราคาของรถยนต์ไฟฟ้าจีนที่เขามาทำตลาดมีราคาถูกกว่ารถสันดาปในระดับเดียวกัน เช่น ORA 07 ที่ในรุ่นท็อปมีราคาสูสีกับ Honda Accord ตัวเริ่มต้น การได้รับเงินอุดหนุนราคาจากภาครัฐ ทำให้ราคาเข้าถึงได้ง่ายขึ้น มีประเภทตัวรถให้เลือกหลากหลายตามความต้องการแล้ว การแข่งขันที่มากขึ้นทำให้ราคารถยนต์ไฟฟ้าที่เข้ามาทำตลาดในช่วงหลังมีราคาดีขึ้น ออปชันแน่น ฟังก์ชันล้น และราคาคุ้มค่าตัว ดีไซน์สวยล้ำสมัยมากกว่ารถยนต์เครื่องสันดาป ความประหยัดที่มากกว่ารถสันดาป การเสื่อมสภาพน้อยกว่ารถสันดาป ราคาพลังงานที่แพงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้คนเลือกซ้อรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ระยะทางต่อการชาร์จเริ่มวิ่งได้ไลขึ้นเรื่อยๆ เทคโนโลยีและนวัตกรรมของรถยนต์ไฟฟ้ามีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด นอกจากนี้ก็ยังมีอีกหลากหลายปัจจัยที่ทำให้ปัจจุบันผู้คนเริ่มหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้น และการที่คนเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้นนี้เอง มันก็ทำให้รถยนต์เครื่องสันดาปทั้งมือหนึ่งและมือสองขายออกยากขึ้น และรถยนต์สันดาปในตลาดมือสองก็ล้นตลาดและขายออกยากเช่นกัน ในอนาคตยังจะมีรถยนต์น้ำมันอยู่ไหม? ในความคิดเห็น ถึงแม้ว่าปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้าจะพึ่งเข้ามาตีตลาดในไทยได้ไม่นาน แต่ก็ต้องยอมรับว่ามีแน้วโน้มที่รถยนต์ไฟฟ้าจากจีนจะเข้ามาเป็นทางเลือกหลักได้ในระยะเวลาอันรวดเร็วแน่นอน เรียกได้ว่าต่อคิวเข้ามาเปิดตัวในประเทศไทยกันอย่างคึกคัก ซึ่งเราก็จะเห็นว่ารถยนต์จากค่ายญี่ปุ่นเองก็เริ่มมีการขยับตัวที่จะพัฒนารถยนต์ไฟฟ้ากันแล้วด้วย เช่น ค่าย Honda ที่เริ่มผลิต Honda HR-V เวอร์ชันไฟฟ้าล้วนในโรงงานประเทศไทย และ Mazda ที่ประกาศว่ากำลังซุ่มผลิตรถ EV อยู่ ทั้งที่ในอดีตรถค่ายญี่ปุ่นมักจะให้ความสนใจกับการพัฒนารถ Hybird และ รถไฮโรเจน กันมากกว่า แต่ในอีเว้นท์ที่ประเทศญี่ปุ่นในช่วงปีที่ผ่านมาก็จะเห็นว่าค่ายญี่ปุ่นก็เริ่มจะมีแนวทางในการคืนชีพรถยนต์ในตำนานมาโชว์ตัวกันในแบบรถคอนเซปต์ ซึ่งแหล่งข่าวจากหลายสำนักก็ต่างบอกว่ารถยนต์คอนเซปต์เหล่านี้จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าหรือรถไฮบริด ทางบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Toyota ก็มีการซุ่มพัฒนาแบตเตอรีที่สามารถวิ่งได้เกินพันกิโลเมตรอยู่ด้วย และที่ผ่านมา Toyota ก็พึ่งได้ออกมาประกาศว่าตนเองได้ประสบความสำเร็จในการพัฒนาแบต Solid State แล้วด้วย นั่นหมายความว่าค่ายญี่ปุ่นเริ่มปรับตัวและให้ความสำคัญกับรถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จากข่าวคราวที่เราได้รับรู้มาตลอดช่วงปี 2023 ที่ผ่านมาก็ทำให้เราพอจะคาดการณ์ได้เลยว่าในอนาคตอันใกล้รถยนต์ไฟฟ้าจะมีมากขึ้นและมีหลากหลายรุ่นเพื่อให้ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการใช้งาน ส่วนรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปจะยังคงมีผลิตอยู่เรื่อยๆ แต่ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนครั้งยิ่งใหญ่เพื่อสอดรับกับมาตราน EURO รถยนต์น้ำมันจะยังไม่หายไป เพราะรถน้ำมันก็ยังมีข้อดีอีกหลายเรื่องที่สู้รถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบันได้ เช่น เรื่องระยะทางของรถยนต์ไฮบริดที่เติมเต็มถังแล้วสามารถวิ่งได้ไกลกว่า เป็นต้น อีกทั้งพฤติกรรมการใช้งานของคนส่วนใหญ่ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะเปลี่ยนกันได้ง่ายๆ ความคุ้นเคยกับรถน้ำมันของคนเยอะกว่าแน่นอนสำหรับประเทศไทย แปลว่ารถยนต์เครื่องสันดาปจะยังไม่ตายจากเราไปในระยะเวลาอันใกล้แน่นอน เพียงแต่ว่ารถยนต์ที่ใช้เครื่องสันดาปจะเริ่มมีการปรับตัวกันมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งที่ผ่านมาเราก็จะเริ่มเห็นกันแล้วจากการที่มีการปรับเปลี่ยนขุมพลังของรถยนต์ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่อย่างเช่น Honda City, Honda Civic, Honda Accord และ Honda CR-V เป็นต้น ความคิดเห็นนี้สามารถยืนยันได้ด้วยมาตรฐาน EURO ครับ อ่านเพิ่มเติม : ถ้าเติมน้ำมันเต็มถัง รถจะวิ่งได้ไกลแค่ไหน มาตรฐาน EURO คืออะไร มาตฐาน EURO ย่อมาจาก EUROPEAN EMISSION STANDARDS เป็นมาตรฐานการควบคุมมลพิษจากสหภาพในยุโรปที่ได้มีการวางมาตรการในการควบคุมมลพิษตั้งแต่ปี ค.ศ.1992 โดยนับเป็นมาตรฐานยูโร 1 (EURO 1) ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ซึ่งมีการควบคุมยานพาหนะที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงให้มีการเผาไหม้ไม่ให้เกินค่ามาตรฐานที่กำหนดด้วย ทำให้ผู้ผลิตทั่วโลกได้มีการพัฒนาเครื่องยนต์ให้ปล่อยมลพิษออกมาน้อยที่สุด มีการแบ่งออกเป็นประเภท และขนาดของเครื่องยนต์ โดยพื้นฐานจะมีการวัดจากค่าต่างๆ เช่น คาร์บอนมอนนอกไซด์ (CO) สารไฮโดรคาร์บอน (HC) สารไนโตรเจนออกไซด์ (NOx) สารมลพิษอนุภาคและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM) ซึ่งในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาประเทศไทยเองก็มีการประกาศใชมาตรฐาน EURO 4 มาตั้งแต่ปี 2556 แล้ว และพึ่งจะมีการเปลี่ยนมาใช้มาตรฐาน EURO 5 ในวันที่ 1 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งในต่างประเทศเขามีการเริ่มใช้มาตรฐาน EURO 5 มาก่อนประเทศไทยแล้ว และตอนนี้บางประเทศเริ่มมีการเข้าสู่ช่วงการใช้มาตรฐาน EURO 6 กันแล้ว ข้อบังคับมาตรฐาน EURO 4 เครื่องยนต์เบนซิน EURO 4 มีข้อกำหนดปริมาณการปล่อยมลพิษ โดยต้องไม่เกินค่าที่ตั้งเอาไว้ ดังนี้ คาร์บอนมอนนอกไซด์ (CO) ต้องไม่เกิน 1 กรัม/กม. สารไฮโดรคาร์บอน (HC) ต้องไม่เกิน 0.1 กรัม/กม. สารไนโตรเจนออกไซด์ (NOx) ต้องไม่เกิน 0.08 กรัม/กม. สารมลพิษอนุภาคและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM) ต้องไม่เกิน – กรัม/กม. ในส่วนของเครื่องยนต์ดีเซล EURO 4 มีข้อกำหนดปริมาณการปล่อยมลพิษ ดังนี้ คาร์บอนมอนนอกไซด์ (CO) ต้องไม่เกิน 0.5 กรัม/กม. สารไฮโดรคาร์บอนและ สารไนโตรเจนออกไซด์ (HC+NOx) ต้องไม่เกิน 0.3 กรัม/กม. สารไนโตรเจนออกไซด์ (NOx) ต้องไม่เกิน 0.25 กรัม/กม. สารมลพิษอนุภาคและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM) ต้องไม่เกิน 0.025 กรัม/กม. ข้อบังคับมาตรฐาน EURO 5 สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน EURO 5 มีข้อกำหนดปริมาณการปล่อยมลพิษ จะต้องไม่เกินค่าดังนี้ คาร์บอนมอนนอกไซด์ (CO) ต้องไม่เกิน 1 กรัม/กม. สารไฮโดรคาร์บอน (HC) ต้องไม่เกิน 0.1 กรัม/กม. สารไนโตรเจนออกไซด์ (NOx) ต้องไม่เกิน 0.06 กรัม/กม. สารมลพิษอนุภาคและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM) ต้องไม่เกิน 0.005 กรัม/กม. สำหรับเครื่องยนต์ดีเซล EURO 5 ต้องมีค่าไม่เกินค่าดังนี้ คาร์บอนมอนนอกไซด์ (CO) ต้องไม่เกิน 0.5 กรัม/กม. สารไฮโดรคาร์บอนและ สารไนโตรเจนออกไซด์ (HC+NOx) ต้องไม่เกิน 0.23 กรัม/กม. สารไนโตรเจนออกไซด์ (NOx) ต้องไม่เกิน 0.18 กรัม/กม. สารมลพิษอนุภาคและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM) ต้องไม่เกิน 0.005 กรัม/กม. สำหรับโรงกลั่นน้ำมัน ยกระดับจาก EURO 4 เป็น EURO 5 เช่นกัน โดยจะมีการ ลดปล่อยกำมะถันลงจาก 100 PPM เหลือ 10 PPM ในน้ำมันเบนซินและดีเซล ดีเซลจะลดปล่อยค่าสารโพลีไซคลิก อะโรมาติก ไฮโดรคาร์บอนจาก 11% เหลือ 8% เมื่อต่างประเทศที่ก้าวขาเร็วกว่าเราเริ่มมีการใช้มาตรฐาน EURO 5 ไปก่อน และเริ่มจะเข้าสู่การใช้มาตรการ EURO 6 เราจึงเห็นว่าในช่วงปีสองปีที่ผ่านมารถยนต์เครื่องสันดาปมีการปรับปรุงและปรับเปลี่ยนขุมพลังกันมากขึ้น มีการใส่ใจเรื่องระบบเผาไหม้ให้มีความสมบูรณ์มากขึ้น และปล่อยมลพิษน้อยลงนั่นเอง นั่นเป็นเพราะผลพวงจากมาตรฐาน EURO ปัจจุบันประเทศไทยพึ่งจะเริ่มใช้มาตรฐาน EURO 5 และต่างประเทศเริ่มขยับมาใช้มาตรฐาน EURO 6 กัน นั่นหมายความว่าในระยะเวลาอันใกล้เราอาจจะได้เห็นรถยนต์เครื่องสันดาปมีการปรับเปลี่ยนและพัฒนาไปอีกขั้น รถยนต์น้ำมันจะยังไม่ตายจากเราไปแต่จะถูกบีบให้ต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพราะผลจากมาตรฐาน EURO ที่มีการบังคับเกี่ยวกับข้อกำหนดเรื่องการปล่อยมลพิษ ในอนาคตรถยนต์สันดาปจะเป็นแบบใด? อย่างที่เราบอกไปว่าจากการที่เราสังเกตในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเราจะรู้ได้เลยว่า ค่ายรถยนต์มักจะทำเครื่องยนต์ให้เล็กลงแต่แรงขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ค่าย Honda ในอดีตเราจะเห็นว่ารถยอดนิยมของ Honda อย่าง Honda CR-V ในรุ่นก่อนๆ จะใช้เครื่องยนต์ขนาดใหญ่ ในรุ่นเริ่มต้นจะใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร และรุ่นท็อปจะใช้เครื่องยนต์ขนาด 2.4 ลิตร ซึ่งเป็นเครื่อง NA ที่ไม่มีระบบอัดอากาศเข้ามาช่วย แต่ปัจจุบัน Honda CR-V เจนเนอเรชันล่าสุด ก็มีการปรับเปลี่ยนขุมพลังโดยมีการหันมาใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Turbo นั่นก็เพราะระบบ Turbo เป็นระบบที่ช่วยให้นำอากาศเข้าสู่ห้องเผาไหม้ได้เยอะขึ้นกว่าเครื่อง NA ก็เลยทำให้การเผาไหม้สมบูรณ์ขึ้น ปล่อยมลพิษน้อยลง และ แรงขึ้นด้วย ส่วนในรุ่นท็อปก็มีการเปลี่ยนมาใช้เป็นเครื่องยนต์ Hybrid ขนาด 2.0 ลิตร ที่มีการทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า (e:HEV) เนื่องจากรถยนต์ Hybrid สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ดีและ ได้ความแรงพอๆ กับเครื่องยนต์ใหญ่ อีกทั้งยังประหยัดน้ำมันมากกว่าเครื่อง NA ขนาดใหญ่ แต่ผมคิดว่าในอนาคตเราอาจจะเห็นรถยนต์ Hybrid มากขึ้นในตลาดและอาจจะเห็นเครื่องยนต์ NA หรือ เครื่องยนต์ Turbo น้อยลงก็เป็นได้ เนื่องจากมาตรฐาน EURO จะเข้มงวดขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเราอาจจะเห็นภาพลางๆ มาแล้วจากการที่มีไลน์รถยนต์บางรุ่นเริ่มเปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์สันดาปทุกรุ่นย่อย เช่น Honda Accord เจเนอเรชันล่าสุด เป็นต้น ซึ่งในอนาคตมาตรฐาน EURO จะบีบให้ผู้ผลิตต้องปรับเปรียนเป็นรถยนต์ไฟฟ้า ไม่ก็กลายเป็นรถยนต์พลังงานทางเลือกอีกลายรูปแบบอย่างแน่นอน แต่ไม่ใช่ในระยะเวลาอันใกล้สำหรับประเทศไทย เพราะประเทศเราค่อนข้างประกาศใช้มาตรฐาน EURO ช้ากว่าต่างประเทศอยู่พอสมควร อ่านเพิ่มเติม : เครื่อง NA คืออะไร ต่างจาก Turbo ยังไง เลือกแบบไหนดี แต่ผมคิดว่าด้วยมาตรฐาน EURO ที่เข้มงวดมากๆ ทั้งเรื่องเครื่องยนต์และเรื่องการผลิตน้ำมัน บางทีอาจจะทำให้รถยนต์ที่ถูกผลิตออกมาจำเป็นต้องมีการเพิ่มระบบหรือเพิ่มอุปกรณ์ต่างๆ ไปในการผลิตรถยนต์มากขึ้นเพื่อลดการปล่อยมลพิษให้เป็นไปตามที่กำหนด ซึ่งอาจจะทำให้ราคารถน้ำมันแพงขึ้นตามด้วย แน่นอนว่าราคาน้ำมันก็เช่นกัน หมายความว่าอนาคตอันใกล้นี้เราจะเห็นคนเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย จะไม่ใช่การเปลี่ยนมาใช้เพราะกระแสรถยนต์ไฟฟ้าที่มาแรงเหมือนช่วงแรกๆ แล้ว และเราจะเห็นได้เลยว่าในอนาคตรถน้ำมันจะเข้าสู่ยุคของระบบ Hybrid และ Plug in Hybid เต็มตัวแน่นอน และอาจมีรถยนต์ลูกผสมอย่าง Nissan Kicks e-Power มากขึ้นแน่ๆ แต่ก็ไม่ใช่ทุกรุ่นซะทีเดียวครับ สถานการณ์รถยนต์มือสองจะเป็นอย่างไร? สำหรับสถานการณ์รถยนต์มือสองต้องบอกว่าล้นแน่ๆ การเข้ามาของรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมายในตลาดรถยนต์มือสอง รถยนต์น้ำมันทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่จะเยอะขึ้นมาก รุ่นที่เคยหาซื้อได้ยากก็จะหาซื้อได้ง่ายขึ้น รถยนต์มือสองใหม่ๆ สภาพดีๆ จะเยอะขึ้น และแน่นอนว่าในตลาดมือสองจะมีรถยนต์ไฟฟ้าเยอะมากขึ้นด้วย การแข่งขันทางราคาจะสูงขึ้น ซึ่งนี่ก็เป็นสิ่งที่ดีสำหรับผู้บริโภค ถ้าหากถามว่าในเมื่อราคารถยนต์ไฟฟ้ามือหนึ่งมันเข้าถึงได้ง่ายมาก รถยนต์มือสองหรือรถยนต์ไฟฟ้ามือสองจะสามารถขายได้เหรอ? ต้องบอกว่าขายได้แน่นอนแต่อาจจะขายยากขึ้นนิดหน่อย แต่ก็ต้องบอกว่าในประเทศไทยถึงมือหนึ่งจะรถจะราคาถูกลง แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะเข้าถึงรถยนต์มือหนึ่งได้ง่าย รถยนต์มือสอง จะยังไม่ตายจากเราไปไหนแน่นอน เพราะยังมีกลุ่มคนที่เข้าถึงรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์มือหนึ่งได้ยาก และยังมีกลุ่มคนที่ต้องการเข้าถึงรถยนต์มือสองอยู่ เพราะรถยนต์มือสองมีราคาถูกกว่ามือหนึ่งเกือบครึ่งก็เลยทำให้การเข้าถึงนั้นง่ายกว่า ในอนาคตรถยนต์มือสองจะมีราคาถูกลงกว่านี้อีกแน่ๆ อีกทั้งช่องทางในการจัดไฟแนนซ์ของรถยนต์มือสองก็มีหลากหลายมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มอาชีพใด มีฐานรายได้เท่าไหร่ก็สามารถจัดไฟแนนซ์ได้ (ขึ้นอยู่กับประวัติเครดิตด้วย) ก็ทำให้รถยนต์มือสองยังคงขายได้อยู่และไม่จากเราไปไหน ตลาดรถยนต์มือสองในอนาคตจะมีการแข่งขันในเรื่องราคากันดุเดือดขึ้นอย่างแน่นอน ทำให้เป็นผลดีต่อกลุ่มคนรายได้น้อยจนถึงปานกลางที่จะสามารถเข้าถึงรถยนต์ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น และได้ใช้รถยนต์คุณภาพดีในราคาที่ดีอีกด้วยครับ อ่านเพิ่มเติม : 7 สิ่งที่คนมองข้ามก่อนซื้อรถมือสอง ไม่อยากเสียใจต้องรู้อะไรบ้าง สุดท้ายแล้วผมอยากจะบอกว่านี่เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวจากผู้เขียนเท่านั้น สถานการณ์ตลาดรถยนต์มือหนึ่งและมือสองในช่วงนี้มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราคาดการณ์นั้นอาจจะมีการคาดเคลื่อนได้ อีกทั้งเทคโนโลยีรถยนต์ยังมีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดด้วย นั่นหมายความว่าเราอาจจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วมากกว่าที่ผมคิดก็เป็นไปได้ครับ อ่านเพิ่มเติม : ซื้อรถมือสอง [เงินสด เงินผ่อน] ใช้เอกสารอะไรบ้าง? ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง one2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com ✕ ใช้การติดต่อผ่านไลน์ เราปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของคุณตาม PDPA ฉันยอมรับ ข้อกำหนดการใช้งาน และ นโยบายความเป็นส่วนตัว ของ One2car.com ฉันยินยอมให้ One2car.com และผู้ขายรายการประกาศติดต่อทางไลน์ ตรวจสอบข้อเสนอรถที่ดีที่สุด! Prev Next ข้อเสนอพิเศษ - โทรในขณะนี้! วัน ชม ราคาเฉลี่ย ทำไมไม่มีราคาที่ระบุไว้? ติดต่อโชว์รูมโดยตรงจะได้ราคาที่พิเศษที่สุด I ทำไมไม่มีราคาที่ระบุไว้? ติดต่อโชว์รูมโดยตรงจะได้ราคาที่พิเศษที่สุด แท็กที่เกี่ยวข้อง รถมือสอง รถยนต์มือสอง รถ ev รถยนต์ไฟฟ้า มาตรฐาน EURO มาตรฐานยูโร 5 มาตรฐานยูโร 4 รถ Hybrid รถ Plug i Hybrid รถ HEV รถ PHEV รถไฮบริด รถปลั๊กอินไฮบริด พิมพ์ Pakkawat Unchalee Content Writer เริ่มต้นจากการเป็นนักเขียนแห่งวงการจักรยานระดับไฮเอนด์ สู่การเป็นนักเขียนของเว็บไซต์รถยนต์มือสองอันดับหนึ่งอย่าง one2car ถึงแม้จะมีความถนัดเรื่องจักรยานระดับไฮเอนด์เป็นพิเศษ แต่เรื่องรถยนต์ก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน หวังว่าทุกท่านจะเพลิดเพลินไปกับบทความที่ถูกเขียนโดยการจิ้มแป้นพิมพ์ของผมครับ ข่าวฟีเจอร์ โหรดังแนะ! ฤกษ์ออกรถ 2568 เคาะวันเงินปัง งานรุ่ง ชีวิตพุ่งแรง ข่าววงการรถยนต์ Chuenkamon Phasuk | 26 November 2567 one2car ร่วมกับ “อาจารย์วิช ธรรมสถิตบุณณ์” แนะนำ ฤกษ์ออกรถปี 2568 ครบทุกเดือน วันไหนมงคล เรียกทรัพย์ มารับฤกษ์ได้เลยออกรถวันไหนดีปี 2568 ซินแสเผย! ... 7 รถเก๋งประหยัดน้ำมัน ราคาถูก 2025 ลองขับแล้ว คุ้มสมชื่อ! เรื่องเด่น Chuenkamon Phasuk | 26 November 2567 รถเก๋งรุ่นไหนประหยัดน้ำมัน คุ้มราคา น่าใช้ในปี 2568พูดถึงรถเก๋งประหยัดน้ำมัน หลายคนน่าจะนึกถึงรถเล็ก ไม่ก็ Eco car ... Altis กับ Camry มือสอง คันไหนตอบโจทย์คุณมากกว่า เรื่องเด่น Pakkawat Unchalee | 26 November 2567 Altis กับ Camry มือสอง คู่นี้เลือกไม่ยาก แต่ถ้าให้เลือกแค่คันเดียว จะเลือกคันไหนให้มันตอบโจทย์เราที่สุดล่ะ มาดูไปพร้อมๆ กันครับAltis กับ Camry ... M-Flow จ่ายเงิน ไม่ลงทะเบียน ทำยังไง? ต้องจ่ายภายในกี่วัน? เรื่องเด่น Kumpolpat Banlungrattana | 26 November 2567 ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบขับรถไปต่างจังหวัดแน่นอนว่าคุณต้องเคยเจอ หรือ เคยผ่านด่าน M Flow มาแล้วบ้าง แต่สำหรับใครที่เผลอขับเข้าไปใน M Flow ... เเสดงความคิดเห็น
ในยุคของรถยนต์ไฟฟ้า รถสันดาปมือสองจะตายจากเราไปหรือไม่? เรื่องเด่น Pakkawat Unchalee | 04 July 2567 14:38 เมื่อรถยนต์ไฟฟ้ากำลังกลายเป็นกระแสหลักในประเทศไทย ด้วยราคาที่เข้าถึงง่ายพร้อมออปชั่นล้นๆ ก็ทำให้เกิดคำถามว่า ในอนาคตรถยนต์สันดาปและรถมือสองจะตายจากเราไปหรอไม่? รถยนต์ไฟฟ้าคืออะไร? อ้างอิงจาก สถาบันวิจัยและพัฒนาพลังงานนครพิงค์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้บอกว่า รถยนต์ไฟฟ้า หรือ รถ EV มีชื่อเรียกเต็มๆ ว่า Electric Vehicle คือ รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแทนการใช้เครื่องยนต์ที่มีการเผาไหม้แบบสันดาป อ่านเพิ่มเติม : 10 ข้อดี-ข้อเสีย รถยนต์ไฟฟ้า อย่าเพิ่งซื้อถ้ายังไม่รู้สิ่งนี้ รถยนต์ไฟฟ้าดีกว่ารถสันดาปไหม? รถยนต์ไฟฟ้าจะใช้พลังจากไฟฟ้าแทนการใช้มันน้ำหรือพลังงานอื่นๆ โดยระบบรถยนต์ไฟฟ้าจะเก็บพลังงานเอาไว้ในแบตเตอรี่ที่สามารถชาร์จไฟได้และแปลงพลังงานจากแบตเตอรี่มาใช้ในการขับเคลื่อนรถ รถ EV จึงไม่จำเป็นต้องมีกลไกลอะไรมากมายเหมือนกับรถน้ำมันที่ต้องอาศัยการเผาไหม้เพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงานในการขับเคลื่อน ทำให้รถยนต์ไฟฟ้ามีความเงียบและไม่มีการปล่อยมลพิษใดๆ อีกทั้งการที่รถยนต์ไฟฟ้าไม่จำเป็นต้องมีกลไกลซับซ้อน นั่นจึงทำให้เรื่องความเสื่อมสภาพของชิ้นส่วนต่างๆ ก็จะน้อยตามลงไปด้วย มีเพียงแค่การเข้าเช็คระยะตามที่กำหนดเอาไว้ ไม่จำเป็นต้องซ่อมอะไรจุกจิกเท่ารถสันดาป ค่าใช้จ่ายในการเดินทางเองก็ประหยัดมากกว่ารถสันดาปเป็นเท่าตัว อ่านเพิ่มเติม : รู้หรือไม่? รถยนต์ไฟฟ้า ไม่ใช่ทางเลือกเดียวในการประหยัดน้ำมัน ทำไมคนถึงเลือกใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น? เหตุผลที่ปัจจุบันคนเริ่มใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้นก็เป็นไปด้วยปัจจัยหลายๆ อย่าง เช่น โครงข่ายสถานีชาร์จเริ่มมีความครอบคลุมมากขึ้น ราคาของรถยนต์ไฟฟ้าจีนที่เขามาทำตลาดมีราคาถูกกว่ารถสันดาปในระดับเดียวกัน เช่น ORA 07 ที่ในรุ่นท็อปมีราคาสูสีกับ Honda Accord ตัวเริ่มต้น การได้รับเงินอุดหนุนราคาจากภาครัฐ ทำให้ราคาเข้าถึงได้ง่ายขึ้น มีประเภทตัวรถให้เลือกหลากหลายตามความต้องการแล้ว การแข่งขันที่มากขึ้นทำให้ราคารถยนต์ไฟฟ้าที่เข้ามาทำตลาดในช่วงหลังมีราคาดีขึ้น ออปชันแน่น ฟังก์ชันล้น และราคาคุ้มค่าตัว ดีไซน์สวยล้ำสมัยมากกว่ารถยนต์เครื่องสันดาป ความประหยัดที่มากกว่ารถสันดาป การเสื่อมสภาพน้อยกว่ารถสันดาป ราคาพลังงานที่แพงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้คนเลือกซ้อรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ระยะทางต่อการชาร์จเริ่มวิ่งได้ไลขึ้นเรื่อยๆ เทคโนโลยีและนวัตกรรมของรถยนต์ไฟฟ้ามีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด นอกจากนี้ก็ยังมีอีกหลากหลายปัจจัยที่ทำให้ปัจจุบันผู้คนเริ่มหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้น และการที่คนเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้นนี้เอง มันก็ทำให้รถยนต์เครื่องสันดาปทั้งมือหนึ่งและมือสองขายออกยากขึ้น และรถยนต์สันดาปในตลาดมือสองก็ล้นตลาดและขายออกยากเช่นกัน ในอนาคตยังจะมีรถยนต์น้ำมันอยู่ไหม? ในความคิดเห็น ถึงแม้ว่าปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้าจะพึ่งเข้ามาตีตลาดในไทยได้ไม่นาน แต่ก็ต้องยอมรับว่ามีแน้วโน้มที่รถยนต์ไฟฟ้าจากจีนจะเข้ามาเป็นทางเลือกหลักได้ในระยะเวลาอันรวดเร็วแน่นอน เรียกได้ว่าต่อคิวเข้ามาเปิดตัวในประเทศไทยกันอย่างคึกคัก ซึ่งเราก็จะเห็นว่ารถยนต์จากค่ายญี่ปุ่นเองก็เริ่มมีการขยับตัวที่จะพัฒนารถยนต์ไฟฟ้ากันแล้วด้วย เช่น ค่าย Honda ที่เริ่มผลิต Honda HR-V เวอร์ชันไฟฟ้าล้วนในโรงงานประเทศไทย และ Mazda ที่ประกาศว่ากำลังซุ่มผลิตรถ EV อยู่ ทั้งที่ในอดีตรถค่ายญี่ปุ่นมักจะให้ความสนใจกับการพัฒนารถ Hybird และ รถไฮโรเจน กันมากกว่า แต่ในอีเว้นท์ที่ประเทศญี่ปุ่นในช่วงปีที่ผ่านมาก็จะเห็นว่าค่ายญี่ปุ่นก็เริ่มจะมีแนวทางในการคืนชีพรถยนต์ในตำนานมาโชว์ตัวกันในแบบรถคอนเซปต์ ซึ่งแหล่งข่าวจากหลายสำนักก็ต่างบอกว่ารถยนต์คอนเซปต์เหล่านี้จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าหรือรถไฮบริด ทางบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Toyota ก็มีการซุ่มพัฒนาแบตเตอรีที่สามารถวิ่งได้เกินพันกิโลเมตรอยู่ด้วย และที่ผ่านมา Toyota ก็พึ่งได้ออกมาประกาศว่าตนเองได้ประสบความสำเร็จในการพัฒนาแบต Solid State แล้วด้วย นั่นหมายความว่าค่ายญี่ปุ่นเริ่มปรับตัวและให้ความสำคัญกับรถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จากข่าวคราวที่เราได้รับรู้มาตลอดช่วงปี 2023 ที่ผ่านมาก็ทำให้เราพอจะคาดการณ์ได้เลยว่าในอนาคตอันใกล้รถยนต์ไฟฟ้าจะมีมากขึ้นและมีหลากหลายรุ่นเพื่อให้ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการใช้งาน ส่วนรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปจะยังคงมีผลิตอยู่เรื่อยๆ แต่ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนครั้งยิ่งใหญ่เพื่อสอดรับกับมาตราน EURO รถยนต์น้ำมันจะยังไม่หายไป เพราะรถน้ำมันก็ยังมีข้อดีอีกหลายเรื่องที่สู้รถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบันได้ เช่น เรื่องระยะทางของรถยนต์ไฮบริดที่เติมเต็มถังแล้วสามารถวิ่งได้ไกลกว่า เป็นต้น อีกทั้งพฤติกรรมการใช้งานของคนส่วนใหญ่ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะเปลี่ยนกันได้ง่ายๆ ความคุ้นเคยกับรถน้ำมันของคนเยอะกว่าแน่นอนสำหรับประเทศไทย แปลว่ารถยนต์เครื่องสันดาปจะยังไม่ตายจากเราไปในระยะเวลาอันใกล้แน่นอน เพียงแต่ว่ารถยนต์ที่ใช้เครื่องสันดาปจะเริ่มมีการปรับตัวกันมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งที่ผ่านมาเราก็จะเริ่มเห็นกันแล้วจากการที่มีการปรับเปลี่ยนขุมพลังของรถยนต์ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่อย่างเช่น Honda City, Honda Civic, Honda Accord และ Honda CR-V เป็นต้น ความคิดเห็นนี้สามารถยืนยันได้ด้วยมาตรฐาน EURO ครับ อ่านเพิ่มเติม : ถ้าเติมน้ำมันเต็มถัง รถจะวิ่งได้ไกลแค่ไหน มาตรฐาน EURO คืออะไร มาตฐาน EURO ย่อมาจาก EUROPEAN EMISSION STANDARDS เป็นมาตรฐานการควบคุมมลพิษจากสหภาพในยุโรปที่ได้มีการวางมาตรการในการควบคุมมลพิษตั้งแต่ปี ค.ศ.1992 โดยนับเป็นมาตรฐานยูโร 1 (EURO 1) ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ซึ่งมีการควบคุมยานพาหนะที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงให้มีการเผาไหม้ไม่ให้เกินค่ามาตรฐานที่กำหนดด้วย ทำให้ผู้ผลิตทั่วโลกได้มีการพัฒนาเครื่องยนต์ให้ปล่อยมลพิษออกมาน้อยที่สุด มีการแบ่งออกเป็นประเภท และขนาดของเครื่องยนต์ โดยพื้นฐานจะมีการวัดจากค่าต่างๆ เช่น คาร์บอนมอนนอกไซด์ (CO) สารไฮโดรคาร์บอน (HC) สารไนโตรเจนออกไซด์ (NOx) สารมลพิษอนุภาคและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM) ซึ่งในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาประเทศไทยเองก็มีการประกาศใชมาตรฐาน EURO 4 มาตั้งแต่ปี 2556 แล้ว และพึ่งจะมีการเปลี่ยนมาใช้มาตรฐาน EURO 5 ในวันที่ 1 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งในต่างประเทศเขามีการเริ่มใช้มาตรฐาน EURO 5 มาก่อนประเทศไทยแล้ว และตอนนี้บางประเทศเริ่มมีการเข้าสู่ช่วงการใช้มาตรฐาน EURO 6 กันแล้ว ข้อบังคับมาตรฐาน EURO 4 เครื่องยนต์เบนซิน EURO 4 มีข้อกำหนดปริมาณการปล่อยมลพิษ โดยต้องไม่เกินค่าที่ตั้งเอาไว้ ดังนี้ คาร์บอนมอนนอกไซด์ (CO) ต้องไม่เกิน 1 กรัม/กม. สารไฮโดรคาร์บอน (HC) ต้องไม่เกิน 0.1 กรัม/กม. สารไนโตรเจนออกไซด์ (NOx) ต้องไม่เกิน 0.08 กรัม/กม. สารมลพิษอนุภาคและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM) ต้องไม่เกิน – กรัม/กม. ในส่วนของเครื่องยนต์ดีเซล EURO 4 มีข้อกำหนดปริมาณการปล่อยมลพิษ ดังนี้ คาร์บอนมอนนอกไซด์ (CO) ต้องไม่เกิน 0.5 กรัม/กม. สารไฮโดรคาร์บอนและ สารไนโตรเจนออกไซด์ (HC+NOx) ต้องไม่เกิน 0.3 กรัม/กม. สารไนโตรเจนออกไซด์ (NOx) ต้องไม่เกิน 0.25 กรัม/กม. สารมลพิษอนุภาคและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM) ต้องไม่เกิน 0.025 กรัม/กม. ข้อบังคับมาตรฐาน EURO 5 สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน EURO 5 มีข้อกำหนดปริมาณการปล่อยมลพิษ จะต้องไม่เกินค่าดังนี้ คาร์บอนมอนนอกไซด์ (CO) ต้องไม่เกิน 1 กรัม/กม. สารไฮโดรคาร์บอน (HC) ต้องไม่เกิน 0.1 กรัม/กม. สารไนโตรเจนออกไซด์ (NOx) ต้องไม่เกิน 0.06 กรัม/กม. สารมลพิษอนุภาคและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM) ต้องไม่เกิน 0.005 กรัม/กม. สำหรับเครื่องยนต์ดีเซล EURO 5 ต้องมีค่าไม่เกินค่าดังนี้ คาร์บอนมอนนอกไซด์ (CO) ต้องไม่เกิน 0.5 กรัม/กม. สารไฮโดรคาร์บอนและ สารไนโตรเจนออกไซด์ (HC+NOx) ต้องไม่เกิน 0.23 กรัม/กม. สารไนโตรเจนออกไซด์ (NOx) ต้องไม่เกิน 0.18 กรัม/กม. สารมลพิษอนุภาคและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM) ต้องไม่เกิน 0.005 กรัม/กม. สำหรับโรงกลั่นน้ำมัน ยกระดับจาก EURO 4 เป็น EURO 5 เช่นกัน โดยจะมีการ ลดปล่อยกำมะถันลงจาก 100 PPM เหลือ 10 PPM ในน้ำมันเบนซินและดีเซล ดีเซลจะลดปล่อยค่าสารโพลีไซคลิก อะโรมาติก ไฮโดรคาร์บอนจาก 11% เหลือ 8% เมื่อต่างประเทศที่ก้าวขาเร็วกว่าเราเริ่มมีการใช้มาตรฐาน EURO 5 ไปก่อน และเริ่มจะเข้าสู่การใช้มาตรการ EURO 6 เราจึงเห็นว่าในช่วงปีสองปีที่ผ่านมารถยนต์เครื่องสันดาปมีการปรับปรุงและปรับเปลี่ยนขุมพลังกันมากขึ้น มีการใส่ใจเรื่องระบบเผาไหม้ให้มีความสมบูรณ์มากขึ้น และปล่อยมลพิษน้อยลงนั่นเอง นั่นเป็นเพราะผลพวงจากมาตรฐาน EURO ปัจจุบันประเทศไทยพึ่งจะเริ่มใช้มาตรฐาน EURO 5 และต่างประเทศเริ่มขยับมาใช้มาตรฐาน EURO 6 กัน นั่นหมายความว่าในระยะเวลาอันใกล้เราอาจจะได้เห็นรถยนต์เครื่องสันดาปมีการปรับเปลี่ยนและพัฒนาไปอีกขั้น รถยนต์น้ำมันจะยังไม่ตายจากเราไปแต่จะถูกบีบให้ต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพราะผลจากมาตรฐาน EURO ที่มีการบังคับเกี่ยวกับข้อกำหนดเรื่องการปล่อยมลพิษ ในอนาคตรถยนต์สันดาปจะเป็นแบบใด? อย่างที่เราบอกไปว่าจากการที่เราสังเกตในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเราจะรู้ได้เลยว่า ค่ายรถยนต์มักจะทำเครื่องยนต์ให้เล็กลงแต่แรงขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ค่าย Honda ในอดีตเราจะเห็นว่ารถยอดนิยมของ Honda อย่าง Honda CR-V ในรุ่นก่อนๆ จะใช้เครื่องยนต์ขนาดใหญ่ ในรุ่นเริ่มต้นจะใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร และรุ่นท็อปจะใช้เครื่องยนต์ขนาด 2.4 ลิตร ซึ่งเป็นเครื่อง NA ที่ไม่มีระบบอัดอากาศเข้ามาช่วย แต่ปัจจุบัน Honda CR-V เจนเนอเรชันล่าสุด ก็มีการปรับเปลี่ยนขุมพลังโดยมีการหันมาใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Turbo นั่นก็เพราะระบบ Turbo เป็นระบบที่ช่วยให้นำอากาศเข้าสู่ห้องเผาไหม้ได้เยอะขึ้นกว่าเครื่อง NA ก็เลยทำให้การเผาไหม้สมบูรณ์ขึ้น ปล่อยมลพิษน้อยลง และ แรงขึ้นด้วย ส่วนในรุ่นท็อปก็มีการเปลี่ยนมาใช้เป็นเครื่องยนต์ Hybrid ขนาด 2.0 ลิตร ที่มีการทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า (e:HEV) เนื่องจากรถยนต์ Hybrid สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ดีและ ได้ความแรงพอๆ กับเครื่องยนต์ใหญ่ อีกทั้งยังประหยัดน้ำมันมากกว่าเครื่อง NA ขนาดใหญ่ แต่ผมคิดว่าในอนาคตเราอาจจะเห็นรถยนต์ Hybrid มากขึ้นในตลาดและอาจจะเห็นเครื่องยนต์ NA หรือ เครื่องยนต์ Turbo น้อยลงก็เป็นได้ เนื่องจากมาตรฐาน EURO จะเข้มงวดขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเราอาจจะเห็นภาพลางๆ มาแล้วจากการที่มีไลน์รถยนต์บางรุ่นเริ่มเปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์สันดาปทุกรุ่นย่อย เช่น Honda Accord เจเนอเรชันล่าสุด เป็นต้น ซึ่งในอนาคตมาตรฐาน EURO จะบีบให้ผู้ผลิตต้องปรับเปรียนเป็นรถยนต์ไฟฟ้า ไม่ก็กลายเป็นรถยนต์พลังงานทางเลือกอีกลายรูปแบบอย่างแน่นอน แต่ไม่ใช่ในระยะเวลาอันใกล้สำหรับประเทศไทย เพราะประเทศเราค่อนข้างประกาศใช้มาตรฐาน EURO ช้ากว่าต่างประเทศอยู่พอสมควร อ่านเพิ่มเติม : เครื่อง NA คืออะไร ต่างจาก Turbo ยังไง เลือกแบบไหนดี แต่ผมคิดว่าด้วยมาตรฐาน EURO ที่เข้มงวดมากๆ ทั้งเรื่องเครื่องยนต์และเรื่องการผลิตน้ำมัน บางทีอาจจะทำให้รถยนต์ที่ถูกผลิตออกมาจำเป็นต้องมีการเพิ่มระบบหรือเพิ่มอุปกรณ์ต่างๆ ไปในการผลิตรถยนต์มากขึ้นเพื่อลดการปล่อยมลพิษให้เป็นไปตามที่กำหนด ซึ่งอาจจะทำให้ราคารถน้ำมันแพงขึ้นตามด้วย แน่นอนว่าราคาน้ำมันก็เช่นกัน หมายความว่าอนาคตอันใกล้นี้เราจะเห็นคนเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย จะไม่ใช่การเปลี่ยนมาใช้เพราะกระแสรถยนต์ไฟฟ้าที่มาแรงเหมือนช่วงแรกๆ แล้ว และเราจะเห็นได้เลยว่าในอนาคตรถน้ำมันจะเข้าสู่ยุคของระบบ Hybrid และ Plug in Hybid เต็มตัวแน่นอน และอาจมีรถยนต์ลูกผสมอย่าง Nissan Kicks e-Power มากขึ้นแน่ๆ แต่ก็ไม่ใช่ทุกรุ่นซะทีเดียวครับ สถานการณ์รถยนต์มือสองจะเป็นอย่างไร? สำหรับสถานการณ์รถยนต์มือสองต้องบอกว่าล้นแน่ๆ การเข้ามาของรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมายในตลาดรถยนต์มือสอง รถยนต์น้ำมันทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่จะเยอะขึ้นมาก รุ่นที่เคยหาซื้อได้ยากก็จะหาซื้อได้ง่ายขึ้น รถยนต์มือสองใหม่ๆ สภาพดีๆ จะเยอะขึ้น และแน่นอนว่าในตลาดมือสองจะมีรถยนต์ไฟฟ้าเยอะมากขึ้นด้วย การแข่งขันทางราคาจะสูงขึ้น ซึ่งนี่ก็เป็นสิ่งที่ดีสำหรับผู้บริโภค ถ้าหากถามว่าในเมื่อราคารถยนต์ไฟฟ้ามือหนึ่งมันเข้าถึงได้ง่ายมาก รถยนต์มือสองหรือรถยนต์ไฟฟ้ามือสองจะสามารถขายได้เหรอ? ต้องบอกว่าขายได้แน่นอนแต่อาจจะขายยากขึ้นนิดหน่อย แต่ก็ต้องบอกว่าในประเทศไทยถึงมือหนึ่งจะรถจะราคาถูกลง แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะเข้าถึงรถยนต์มือหนึ่งได้ง่าย รถยนต์มือสอง จะยังไม่ตายจากเราไปไหนแน่นอน เพราะยังมีกลุ่มคนที่เข้าถึงรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์มือหนึ่งได้ยาก และยังมีกลุ่มคนที่ต้องการเข้าถึงรถยนต์มือสองอยู่ เพราะรถยนต์มือสองมีราคาถูกกว่ามือหนึ่งเกือบครึ่งก็เลยทำให้การเข้าถึงนั้นง่ายกว่า ในอนาคตรถยนต์มือสองจะมีราคาถูกลงกว่านี้อีกแน่ๆ อีกทั้งช่องทางในการจัดไฟแนนซ์ของรถยนต์มือสองก็มีหลากหลายมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มอาชีพใด มีฐานรายได้เท่าไหร่ก็สามารถจัดไฟแนนซ์ได้ (ขึ้นอยู่กับประวัติเครดิตด้วย) ก็ทำให้รถยนต์มือสองยังคงขายได้อยู่และไม่จากเราไปไหน ตลาดรถยนต์มือสองในอนาคตจะมีการแข่งขันในเรื่องราคากันดุเดือดขึ้นอย่างแน่นอน ทำให้เป็นผลดีต่อกลุ่มคนรายได้น้อยจนถึงปานกลางที่จะสามารถเข้าถึงรถยนต์ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น และได้ใช้รถยนต์คุณภาพดีในราคาที่ดีอีกด้วยครับ อ่านเพิ่มเติม : 7 สิ่งที่คนมองข้ามก่อนซื้อรถมือสอง ไม่อยากเสียใจต้องรู้อะไรบ้าง สุดท้ายแล้วผมอยากจะบอกว่านี่เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวจากผู้เขียนเท่านั้น สถานการณ์ตลาดรถยนต์มือหนึ่งและมือสองในช่วงนี้มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราคาดการณ์นั้นอาจจะมีการคาดเคลื่อนได้ อีกทั้งเทคโนโลยีรถยนต์ยังมีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดด้วย นั่นหมายความว่าเราอาจจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วมากกว่าที่ผมคิดก็เป็นไปได้ครับ อ่านเพิ่มเติม : ซื้อรถมือสอง [เงินสด เงินผ่อน] ใช้เอกสารอะไรบ้าง? ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง one2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com ✕ ใช้การติดต่อผ่านไลน์ เราปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของคุณตาม PDPA ฉันยอมรับ ข้อกำหนดการใช้งาน และ นโยบายความเป็นส่วนตัว ของ One2car.com ฉันยินยอมให้ One2car.com และผู้ขายรายการประกาศติดต่อทางไลน์ ตรวจสอบข้อเสนอรถที่ดีที่สุด! Prev Next ข้อเสนอพิเศษ - โทรในขณะนี้! วัน ชม ราคาเฉลี่ย ทำไมไม่มีราคาที่ระบุไว้? ติดต่อโชว์รูมโดยตรงจะได้ราคาที่พิเศษที่สุด I ทำไมไม่มีราคาที่ระบุไว้? ติดต่อโชว์รูมโดยตรงจะได้ราคาที่พิเศษที่สุด แท็กที่เกี่ยวข้อง รถมือสอง รถยนต์มือสอง รถ ev รถยนต์ไฟฟ้า มาตรฐาน EURO มาตรฐานยูโร 5 มาตรฐานยูโร 4 รถ Hybrid รถ Plug i Hybrid รถ HEV รถ PHEV รถไฮบริด รถปลั๊กอินไฮบริด
ข้อเสนอพิเศษ - โทรในขณะนี้! วัน ชม ราคาเฉลี่ย ทำไมไม่มีราคาที่ระบุไว้? ติดต่อโชว์รูมโดยตรงจะได้ราคาที่พิเศษที่สุด I ทำไมไม่มีราคาที่ระบุไว้? ติดต่อโชว์รูมโดยตรงจะได้ราคาที่พิเศษที่สุด
โหรดังแนะ! ฤกษ์ออกรถ 2568 เคาะวันเงินปัง งานรุ่ง ชีวิตพุ่งแรง ข่าววงการรถยนต์ Chuenkamon Phasuk | 26 November 2567 one2car ร่วมกับ “อาจารย์วิช ธรรมสถิตบุณณ์” แนะนำ ฤกษ์ออกรถปี 2568 ครบทุกเดือน วันไหนมงคล เรียกทรัพย์ มารับฤกษ์ได้เลยออกรถวันไหนดีปี 2568 ซินแสเผย! ...
7 รถเก๋งประหยัดน้ำมัน ราคาถูก 2025 ลองขับแล้ว คุ้มสมชื่อ! เรื่องเด่น Chuenkamon Phasuk | 26 November 2567 รถเก๋งรุ่นไหนประหยัดน้ำมัน คุ้มราคา น่าใช้ในปี 2568พูดถึงรถเก๋งประหยัดน้ำมัน หลายคนน่าจะนึกถึงรถเล็ก ไม่ก็ Eco car ...
Altis กับ Camry มือสอง คันไหนตอบโจทย์คุณมากกว่า เรื่องเด่น Pakkawat Unchalee | 26 November 2567 Altis กับ Camry มือสอง คู่นี้เลือกไม่ยาก แต่ถ้าให้เลือกแค่คันเดียว จะเลือกคันไหนให้มันตอบโจทย์เราที่สุดล่ะ มาดูไปพร้อมๆ กันครับAltis กับ Camry ...
M-Flow จ่ายเงิน ไม่ลงทะเบียน ทำยังไง? ต้องจ่ายภายในกี่วัน? เรื่องเด่น Kumpolpat Banlungrattana | 26 November 2567 ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบขับรถไปต่างจังหวัดแน่นอนว่าคุณต้องเคยเจอ หรือ เคยผ่านด่าน M Flow มาแล้วบ้าง แต่สำหรับใครที่เผลอขับเข้าไปใน M Flow ...