รีวิว Civic Type R FL5 ขับดีไหม ใช้ในชีวิตประจำวันได้หรือเปล่า?

ชาว Honda ทุกคนต้องรู้จักตระกูล Type R กันดีอยู่แล้ว วันนี้เราจะมาแบ่งปันความรู้สึกที่ได้ทดสอบ Honda Civic Type R FL5 หรือ Type R ตัวล่าสุด ให้ทุกท่านได้อ่านไปพร้อมๆ กันครับ

ทำความรู้จักกับ Honda Civic Type R

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับตระกูล Type R กันก่อน เพราะไม่อย่างนั้นเดี๋ยวคุณจะมองว่ามันคือ Honda Civic รถบ้าน C-Segment ธรรมดาที่พบได้ตามท้องถนนในบ้านเรา ถ้าเป็นแบบนั้นก็ว้าวุ่นเลย

Honda Civic Type R เปิดตัวเมื่อปี 1997 โดย Type R จะถูกพัฒนาขึ้นมาจากประสบการณ์ที่ Honda คอยส่งรถเข้าแข่งขันรายการ F1 ซึ่งนั่นก็ทำให้ทีม Honda นั้นมีความเชี่ยวชาญในการสร้างรถยนต์สมรรถนtสูงเป็นอย่างดี แน่นอนว่าเขาจะไม่ยอมให้รถของเขาแรงแค่ F1 ความเร็วความแรงที่มาพร้อมกับบอดี้สีขาวและโลโก้ H แดงอันเป็นเอกลักษณ์นี้มันต้องถูกถ่ายทอดเพื่อเป็นตำนาน!

นั่นก็ทำให้ประสบการณ์ต่างๆ ที่ทีม Honda ได้เก็บสะสมมาตลอดหลายปีจากสนามแข่งขันเกิดขึ้นเป็นโปรเจ็กต์ที่ยิ่งใหญ่อย่างการพัฒนายานยนต์ที่เร็วและแรงที่สุดเปรียบดั่งรถสปอร์ต แต่ทว่ามาในรูปแบบของรถบ้านใช้งาน นั่นคือที่มาของตระกูล Type R และแน่นอนว่ามันต้องมาพร้อมกับเครื่องยนต์ VETC ตระกูล K อันเลื่องชื่อจนถึงปัจจุบัน และมันก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของรถสปอร์ตที่ใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างแท้จริง

โดย Type R รุ่นแรกของ Honda ที่ถือกำเนิดขึ้นมันจะไปอยู่ในบอดี้ไหนไม่ได้เลย นั่นก็คือการนำ Honda NSX มาปั้นเป็น Type R กลายเป็น Honda NSX Type R รถสปอร์ตที่เปรียบดั่ง La Ferrari แดนอาทิตย์อุทัย ซึ่งเขาเป็นรถสปอร์ต 2 ที่นั่ง ที่สามารถสร้างแรงม้าได้ถึง 276 แรงม้า เลยทีเดียว สมัยนั้นถือว่าโหดร้ายเอาเรื่อง

นอกจากความโหดตัวที่ลงสนามจริงก็ค่อนข้างมีความดิบเถื่อนมากๆ เพราะ NSX Type R มีการนำระบบความปลอดภัยที่ไม่จำเป็นออกทั้งหมด และมีการรีดน้ำหนักลงให้เหลือเพียง 120 กิโลกรัมเท่านั้น แถมเบาะนั่งก็ยังทำจากคาร์บอนเคฟล่าเพื่อลดน้ำหนักตัวรถให้เบา

แต่ในปัจจุบัน Type R ที่ผลิตขายจริงๆ จังๆ นั้นก็ยังคงความดิบเถื่อนของตระกูลเอาไว้ แต่ก็มาพร้อมความสบายและเทคโนโลยีที่ปลอดภัยหลายๆ อย่างครับ

ไทม์ไลน์ของตระกูล Type R แต่ละรุ่น

• Honda NSX Type R ในปี 1992-2005
• Honda Integra Type R (DC2) ในปี 1995-2001
• Honda Integra Type R (DC5) ในปี 2002-2006
• Honda Accord Type R (CH1) ในปี 1998-2001
• Honda Accord Type R (CL1) ในปี 2000-2008
• Honda Civic Type R (EK9) ในปี 1997-1999
• Honda Civic Type R (EP3) ในปี 2001-2005
• Honda Civic Type R (FD2) ในปี 2007-2011
• Honda Civic Type R (FN2) ในปี 2007-2011
• Honda Civic Type R (FK2) ในปี 2015-2017
• Honda Civic Type R (FK8) ในปี 2017-2021
• Honda Civic Type R (FL5) ปัจจุบัน

อ่านเพิ่มเติม Honda Civic Type R มีอะไรดี ทำไมคนถึงอยากได้

Honda Civic Type R FL5 ดีไหม?

ถ้าหากเทียบ FL5 กับ FK8 ที่เป็น Type R โฉมก่อนหน้านี้ก็ต้องบอกว่าภายนอกโดยรวมหน้าตาดูมินิมอลและหล่อเหลาเหมือนเป็นผู้ดีโซนยุโรปขึ้นมาอย่างชัดเจน แตกต่างจาก FK8 ที่หน้าตาดูดิบๆ ดุดันแบบตะโกนออกมาเลยว่าฉันนี่แหละ Civic Type R FK8 รถบ้านที่ร้อนแรงที่สุด แต่ถึง Civic Type R FL5 จะดูเรียบง่าย แต่ก็ต้องบอกว่าในความสงบเสงี่ยมนั้นซ่อนความร้อนแรงและสมรรถนะอันดุร้ายเอาไว้เยอะมาก

Honda Civic Type R FL5 ถือเป็น Civic ที่แรงที่สุดเท่าที่ Honda เคยมีมา

ขึ้นแท่นเป็นรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้า (FWD) ที่เร็วและแรงที่สุดในสนาม Nurburgring สนามแข่งรถที่โหดร้ายและอัตรายติดท็อป 3 ในโลก ฟังแล้วอาจจะดูเหมือนขี้โม้แต่ว่าเรื่องนี้คือเรื่องจริง เพราะองค์ประกอบหลายๆ ตั้งแต่ภายนอกยันภายในมันทำให้รถยนต์คันนี้เป็น Civic ที่ขับดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาเลย

การออกแบบภายนอกของ Civic Type R FL5

Honda Civic Type R FL5 ถูกพัฒนาขึ้นจากตัวถังของ Honda Civic เจเนอเรชันที่ 11 แบบ 5 ประตู Hatchback ซึ่งตัวถัง 5 ประตูนั้นจะไม่มีขายในปรtเทศไทย จะมีแค่เพียงแบบ Sedan เท่านั้น ทำให้ถึงแม้ด้านหน้าของ FL5 จะดูคล้ายๆ กับ Civic ตัวปกติบ้านๆ ไปบ้าง แต่ด้านท้ายนั้นไม่เหมือนแน่นอน โดยรวมสวยกว่าเยอะ

การออกแบบภายนอกจะเน้นเรื่องของความสปอร์ต ความแอร์โรไดนามิก และการสร้างแรงกดอากาศ ถ้ามองผ่านๆ อาจจะดูว่าตัวรถนั้นขนาดเท่ารุ่นปกติ แต่จริงๆ แล้ว FL5 จะยาวขึ้น กว้างขึ้น เตี้ยลง และถูกรีดน้ำหนักให้เบาลง ทำให้ Civic Type R FL5 มีหน้าตาที่ล่ำๆ มีน้ำมีนวลและโฉบเฉี่ยวแบบลงตัว หล่อแบบไม่ตะโกน และมีค่า Downforce หรือการสร้างแรงกดอากาศที่สมบูรณ์แบบ

ด้านหน้าของตัวรถส่วนบนอาจจะคล้ายๆ กับ Civic เจนฯ ปัจจุบัน แต่จะมาพร้อมกับช่องรับลมแบบรังผึ้ง โลโก้ H สีแดง และเพลท Type R แบบเป็นเนื้อเดียวกันกับช่องรับลม

ส่วนกันชนหน้ามีความแตกต่างกับ Civic ปกติอย่างชัดเจน เพราะมีช่องรับลมแบบตะแกรงขนาดใหญ่เพื่อใช้ระบายความร้อนของเครื่องยนต์และตัดผ่านทะลุขึ้นไปออกที่ช่องระบายอากาศบนฝากระโปรงด้านหน้า ทำให้มีแรงกดอากาศด้านหน้าตัวรถ

ด้านล่างสุดจะเจอกับสปอยเลอร์หน้าสีดำเงาที่ช่วยควบคุมการไหลของลม พร้อมกับการสร้างแรงกดอากาศให้กับตัวรถ เมื่อรถวิ่งอยู่ลมที่ปะทะข้างหน้าจะถูดจัดสรรอย่างเป็นระเบียบและช่วยลดแรงต้านอากาศได้ดี รวมไปถึงลมที่ม้วนในช่วงล้อหน้าเองก็จะถูกระบายออกทางด้านข้างหลังโป่งล้อหน้า ซึ่งมีช่องระบายอากาศทรงสปอร์ตอยู่ทำให้ลมนั้นไหลผ่านด้านข้างตัวรถตัดไปกับสปอยเลอร์ข้างที่มีครีบรีดอากาศเลย

มองด้านข้างเราจะรู้ได้ทันทีว่า Civic Type R FL5 นั้นกว้างใหญ่และอวบอั๋นกว่า เพราะว่าโป่งล้อที่ตีมาแบบมนๆ ขึ้นมานั้น แท้จริงแล้วก็ใหญ่เอาเรื่องเลย แต่การออกแบบบอดี้ของเขานั้นทำให้มันดูไม่ใหญ่มากและสวยลงตัว มองแล้วสบายตาสุดๆ หล่อเลยแหละ

ถ้าเทียบมิติตัวถัง Civic Gen 11 แบบ Sedan ที่ขายในบ้านเราจะยาว 4,678 มม. กว้าง 1,802 มม. สูง 1,415 มม. ฐานล้อ 2,733 มม.

Ground Clearance 126 มม. แต่ถ้านำ FL5 ที่มีความยาว 4,595 มม. ความกว้าง 1,890 มม. ความสูง 1,405 มม. ฐานล้อ 2,735 มม. และ Ground Clearance 121 มม. จะเห็นได้ทันทีว่า FL5 จะสั้นกว่า กว้างกว่า เตี้ยกว่า ฐานล้อกว้างกว่า และ Ground Clearance น้อยกว่า เบากว่าด้วยนะครับ

ในส่วนของล้อที่ได้เดิมๆ มาจากโรงงานจะได้เป็นล้อขนาด 19 นิ้ว ก้านแบบ Y-Spoke สีดำทมิฬ พร้อมโลโก้ H แดงดุๆ ซึ่งตัวก้านจะถูกออกแบบให้ยาวจนสุดขอบแม็กซ์ ก็เลยทำให้ตัวล้อดูมีขนาดที่ใหญ่และดุดันขึ้น

เบรกได้เป็น Brembo สีแดงมาจากโรงงาน หน้า 4 พอต หลัง 1 พอต สวยๆ แบรกหนึบๆ พอรวมเข้ากับยางซิ่งอย่าง Michelin Pilot Sport 4S ก็ยิ่งทำให้รถคันนี้เอาถนนได้อย่างอยู่หมัดเลย

ด้านหลังโดดเด่นด้วยบอดี้แบบ 5 ประตู Hatchback ที่ติดตั้งสปอยเลอร์ท้ายทรงสูงสีดำ Gloss Black ทำจากวัสดุอะลูมิเนียมน้ำหนักเบาที่ออกแบบตามหลักแอร์โรไดนามิค ช่วยเพิ่มแรงกดอากาศและช่วยลดแรงต้านอากาศให้ต่ำลง ทำให้เมื่อใช้ความเร็วที่สูงเกิน 190-200 กม./ชม. รถจะนิ่ง เร็ว แรง พุ่ง และขับสนุกสุดเหวี่ยงไปเลย

ดิฟฟิวเซอร์เองก็เป็นสีดำ Gloss Black ที่ออกแบบให้ลาดลึกลงไปถึงล้อหลังเพื่อช่วยสร้างแรงกดอากาศ รวมทั้งรูปทรงและตำแหน่งของครีบด้านในและนอกยังช่วยเรื่องการทรงตัว

ส่วนที่อยู่ใกล้กับล้อจะช่วยลดแรงดันที่เกิดขึ้นภายในซุ้มล้อหลังได้ดี และมีชุดท่อไอเสียแบบ Center Triple มาตรงกลางเสียงไพเราะกำลังดี น่าเสียดายที่มันเบาไปหน่อย ถ้าดังกว่านี้จะสะใจ

การออกแบบภายในของและความปลอดภัยของ FL5

ภายในห้องโดยสารของ Civic Type R FL5 ถูกออกแบบให้มีความสปอร์ตและร้อนแรงด้วยโทนสีแดงตัดดำตามแบบฉบับของ Type R

มาพร้อมเบาะนั่งบักเก็ตซีตทรงสปอร์ตแต่ให้ความรู้สึกที่นั่งสบาย ไม่มีความแข็งกระด้างให้สัมผัสแม้จะขับอยู่ในโหมดขับขี่ที่โหดร้ายที่สุดของเขา ค่อนข้างกระชับกับสรีระได้ดี นั่งสบายไม่แพ้เบาะรถระดับพรีเมียมเลยทีเดียว

ส่วนของคอนโซลหน้าจะถูกยกมาจาก Honda Civic Hatchback FL ทั้งหมด มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.2 นิ้ว เป็นสีแดงแสดงความร้อนแรงพร้อมอนิเมชัน Type R

ระบบเครื่องเสียงทรงพลัง มีหน้าจอสัมผัสแบบ Advanced Touch ขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สาย และ Android Auto พร้อมรองรับการเชื่อมต่อ Smartphone และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto

มีระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ Honda Smart Key System พร้อม Honda Smart Key Card และระบบเชื่อมต่อ Honda LogR ที่สามารถบอกรายละเอียดการขับขี่ของตัวรถได้ทั้งหมด มีระบบนำทางเนวิเกเตอร์ แท่นชาร์จ Wireless Charger และเบาะนั่งด้านหลังแยกพับแบบ 60:40 ด้วย

ระบบความปลอดภัยมากับระบบ Honda SENSING ทำงานผ่านกล้องด้านหน้า เช่น

• ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน
• ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ
• ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ
• ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ
• ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่
• ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่
• กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ
• ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ 

ถึงแม้ภายในจะเหมือนกับ Honda Civic เจนฯ ปัจจุบัน แต่ด้วยความเป็น Type R ก็จะมีการเพิ่มความร้อนแรงและพรีเมียม เบาะบัคเก็ตซีทสีแดงใช้วัสดุหนังอาคันทาร่าพร้อมกับการปั้มหัวหมอนเป็น Type R นอกจากนี้บริเวณด้านหลังเบาะก็มีการปั้มลาย Type R ไว้ด้วย

นอกจากเบาะหน้าแล้ววัสดุที่ใช้หุ้มพวงมาลัยและเบาะหลังก็ยังเป็นวัสดุหนังอาคันทาร่าด้วยเช่นกัน แต่จะใช้เป็นสีดำตัดตะเข็บด้ายสีแดงเพื่อความดุดันเช่นเดียวกับบนแผงประตูทั้ง 4 บาน พรมพื้นรถใช้เป็นสีแดงสะท้อนความเป็น Type R พร้อมกับการปั้มโลโก้ Type R ไว้อย่างชัดเจน ทำให้ภายในสวยดุดันและร้อนแรงเข้ากันมาก นอกจากนี้บริเวณคอนโซลยังมีเพลทซีเรียลนัมเบอร์ Type R ติดเอาไว้ด้วย

ที่โดดเด่นสำหรับ Civic Type R FL5 คันนี้คือ เกียร์แมนนวล 6 สปีด ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีใน Civic เจนฯ ปัจจุบัน นอกจาก FL5 ฉะนั้นหัวเกียร์ของเขาจะเป็นหัวเกียร์อลูมิเนียมสลักตำแหน่งเกียร์สีแดงสวยๆ พร้อมกรอบเฟรมช่องเกียร์สีเทาลายเคฟล่าที่มาพร้อมเพลท Type R ด้วย ในบริเวณนั้นก็จะมีโหมดการขับขี่ให้เลือกใช้ และ มีเบรกมือไฟฟ้าพร้อมออโต้เบรกโฮล์มาด้วย

ในเวลากลางคืนรถยนต์คันนี้จะมีไฟ Ambient Light ช่วยสร้างบรรยากาศอันร้อนแรงให้กับผู้ขับดีด้วย โดยไฟ Ambient Light นั้นจะเป็นสีแดงเช่นเดียวกับสีของ Type R อยู่ในบริเวณแผงประตูและในบริเวณใต้คอนโซลหรือช่วงที่วางเท้าของเรานั่นเอง

เครื่องยนต์ของ Honda Civic Type R FL5

ขุมพลังของ Honda Civic Type R FL5 จะมากับขุมพลังเครื่องยนต์ Direct Injection DOHC VTEC TURBO รหัส K20C ขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว ซึ่งพัฒนามาเพื่อ Type R โดยเฉพาะ ให้กำลังสูงสุด 330 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์ธรรมดาแบบ 6 สปีด

อ่านเพิ่มเติม เครื่อง NA คืออะไร ต่างจากเครื่อง Turbo ไหม แบบไหนดีกว่ากัน?

Civic Type R FL5 มีกี่โหมดการขับขี่

Civic Type R FL5 มาพร้อมโหมดการขับขี่ 4 โหมด (Drive Mode) ได้แก่ 

• COMFORT MODE
• SPORT MODE
• +R MODE (มีปุ่มเฉพาะสามารถกดใช้ได้ทันที)

มีโหมด INDIVIDUAL MODE ให้เลือกใช้งานเหมือนกับรถสปอร์ตราคาแพงด้วย ซึ่งในโหมดนี้เราจะสามารถตั้งค่าต่างๆ ของตัวรถยนต์คันนี้ได้หมด เช่น อยากได้พละกำลังที่โหดร้ายเหมือนโหมด +R แต่ว่าอยากได้ช่วงล่างที่นุ่มนวลนั่งสบายเหมือนโหมด Comfort เพื่อการขับขี่ที่เร้าใจและสบายไปในตัวก็สามารถทำได้ด้วย

Civic Type R FL5 ดีไหม เหมาะกับการขับในชีวิตประจำวันหรือไม่

สำหรับการขับขี่ที่เราได้ทดสอบมาต้องบอกว่ารถยนต์ Honda Civic Type R FL5 มันคือรถสปอร์ตในคราบรถบ้านที่สามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้แบบจริงๆ จังๆ เลยก็ว่าได้ อย่างแรกคือเรื่องของอัตราสิ้นเปลืองสำหรับเครื่องยนต์ K20C Turbo เฉลี่ยอยู่ที่ 12 กม./ลิตร สำหรับการขับขี่ทางไกล และอัตราสิ้นเปลืองในเมืองที่ 8.9 กม./ลิตร ซึ่งถือว่าประหยัดน้ำมันพอสมควรสำหรับรถที่แรงโหดร้ายแบบนี้

ช่วงล่างของ Civic Type R FL5 เป็นยังไง?

เรื่องของช่วงล่างและการเกาะถนน ด้วยตัวรถที่เตี้ยลงและหลักการออกแบบที่ดีทำให้รถ Civic Type R FL5 เป็นรถยนต์ที่ขับโวยวายได้ดีมาก แต่นั่งอยู่ภายในกลับรู้สึกสบาย มั่นคง และ ปลอดภัย ขับได้แบบมั่นใจทุกย่านความเร็ว การเกาะถนน Civic เดิมๆ ที่ทำได้ดีเยี่ยมอยู่แล้ว พอเป็น Type R ก็ต้องบอกว่ามันดีขึ้นหลายขุม แน่นหนึบเอาถนนเอาโค้งอยู่หมัด อีกทั้งพวงมาลัยเองยังเบาและแม่นยำสูงมาก

เกียร์ของ Civic Type R FL5 ดีไหม

เรื่องความกังวลเกี่ยวกับเกียร์ FL5 ซึ่งเป็นเกียร์แมนนวล 6 สปีด หลายคนที่ขับไม่คล่องอาจจะคิดว่ามันขับยาก แท้จริงแล้วตัวผมเองก็ขับเกียร์แมนนวลไม่คล่องแต่กลับขับได้ง่ายๆ เพราะคลัตช์เหยียบง่ายสบายขา อีกทั้งเกียร์ยังสับสนุกและสับค่อนข้างง่ายมาก สับไม่ลึกและเบามากไม่จำเป็นต้องใช้แรงเยอะๆ เพื่อเปลี่ยนเกียร์เลย การต่อเกียร์เองก็ทำได้แบบเนียนกริ๊บมาก ในเมืองก็สบายนอกเมืองยิ่งสนุก

ความรู้สึกตอนนั่ง Civic Type R FL5 เป็นยังไง

ความสบายอีกจุดนึงที่ตองยอมรับและให้คะแนนเต็มร้อยไปนั่นก็คือเรื่องการออกแบบภายในที่มีความสบายของ Civic เป็นทุนเดิม แต่เมื่อมาเป็นรถที่มีการออกแบบภายในให้มีความสปอร์ตก็แอบคิดว่ามันจะหล่อแต่ลำบาก แต่ก็ไม่เลย ถึงแม้ว่าจะดุดันมากแต่เบาะกลับให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลายอย่างน่าเหลือเชื่อ มันก็ทำให้รถคันนี้สามารถขับใช้งานได้ทุกวันแน่นอน

ส่วนเรื่องตัวถังแบบ 5 ประตู Hatchback เองก็มีความอเนกประสงค์สูงมาก เบาะยังพับได้แบบ 60:40 ด้วย แต่ความอเนกประสงค์นี้ก็มาพร้อมกับรถยนต์แบบ 5 ประตูแทบทุกรุ่น แต่ความพิเศษก็คือพื้นที่เก็บสัมภาระของ FL5 นั้นมีความกว้างและลึกมากจนแทบจะเท่ากับรถยนต์สไตล์ Wagon เลยก็ว่าได้ มันก็เลยทำให้เรามารถใช้รถคันนี้ได้หลากหลายแบบ จะแบกกระเป๋าไปตีกอล์ฟก็ยังได้เลย

ประสบการณ์การขับขี่ Civic Type R FL5 โดยรวมเป็นยังไง

การขับขี่เองต้องบอกว่ามันตอบโจทย์มากกว่ารุ่นธรรมดาไปหลายขุม ทั้งเรื่องรูปร่างหน้าตาและสมรรถนะ ที่สำคัญคือแม้จะเป็นรถแรงแต่ก็ขับใช้งานได้จริงๆ เพราะมีโหมดการขับขี่ใหเลือกปรับได้ถึง 4 แบบ

1. ใช้โหมด COMFORT ขับในเมืองก็สบายแน่นหนึบ
2. ใช้โหมด SPORT ขับในทางโล่งๆ ก็สนุกแต่ก็สบายกำลังพอดี
3. ใช้โหมด +R ขับซิ่งๆ ก็เร้าใจ
4. ใช้ INDIVIDUAL ปรับแต่งรถให้แรงแต่นุ่มสบายได้ด้วย เพื่อความสนุกตอนขับทางไกล

ออปชันของ Civic Type R FL5 ดีไหม คุ้มไหม

เรื่องฟังก์ชันและออปชันการใช้งานก็ต้องบอกว่ามันอยู่ในระดับท็อปที่สุดแล้ว สูงสุดของห่วงโซ่อาหารรถบ้านเลย จะบอกว่าเป็นรถบ้านตัวท็อปที่แรง 330 แรงม้า ก็ได้ มันมีทุกอย่างที่คุณต้องการและตอบโจทย์การใช้งานได้ในทุกๆ วัน รวมถึงใครที่อยากสนุกหรืออยากดูเพอร์ฟอร์แมนซ์การขับขี่ หรืออยากให้ตัวรถนั้นประเมินทักษะการขับขี่ของเรา Civic Type R FL5 นั้นทำได้ทั้งหมดเลย

สรุป Civic Type R FL5 น่าซื้อไหม

ต้องบอกว่า Honda Civic Type R FL5 เป็นรถสปอร์ตในคราบรถบ้านสมัยใหม่อีก 1 คันที่น่าซื้อมาใช้งานมาก ด้วยราคามือ 1 ที่ 3.99 ล้านบาท ก็ยังต้องบอกว่ามันไม่แพงเกินจริงเลยถ้าคุณได้ลองสัมผัสกับมัน เพียงแต่ว่าถ้าใครที่ชอบท่อเสียงดังๆ ก็อาจจะไม่ถูกใจกับเสียงท่อของ FL5 มันนุ่มเกินไป ทุ้มอยู่ในใจ ไม่โหวกเหวกโวยวายเลย เป็นข้อเสียเพียงหนึ่งเดียวของรถคันนี้เลยครับ

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง one2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com