เปิดตัวในประเทศไทยแล้ว Ferrari Roma Spider รถเปิดประทุนเครื่องวางหน้าคันแรกในรอบ 54 ปี ของ Ferrari

หลังจากที่ Ferrari Roma Spider เปิดตัวในต่างประเทศ แฟนคลับม้าลำพองก็ต่างรอคอยว่าจะทำตลาดในไทยไหม และวันนี้ก็เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าม้าตัวใหม่อย่าง Ferrari Roma Spider จะมีการทำตลาดในไทยแน่นอน!

เปิดตัว Ferrari Roma Spider ในประเทศไทย

วันอังคารที่ 6 มิถุนายน 2566 คาวาลลิโน มอเตอร์ ผู้นำเข้ารถยนต์แบรนด์ Ferrari อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ได้จัดงานเปิดตัว Ferrari Roma Spider ที่ La Chapelle Bangkok ท่ามกลางบรรยากาศที่หรูหราสุดคลาสสิคราวกับว่าได้มาชมการเปิดตัวรถยนต์สุดพรีเมียมที่ประเทศอิตาลีเลยทีเดียว

ซึ่ง Ferrari Roma Spider มาพร้อมคอนเซ็ปต์ “La Nuova Dolce Vita” เรื่องราวแห่งชีวิตที่เหนือระดับ

เมื่อเรามองที่การออกแบบของตัวรถยนต์ Ferrari Roma Spider เราก็จะรับรู้ได้ทันทีว่ารถยนต์คนนี้ถูกออกแบบโดยการถ่ายทอดคอนเซ็ปต์และเรื่องราวลงมาไว้ในรถได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้ความรู้สึกแรกที่เห็นจะสัมผัสได้ว่า การใช้ชีวิตอันเปี่ยมสุขกำลังจะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้งเมื่อได้ขับขี่ Ferrari Roma Spider

การออกแบบภายนอกของ Ferrari Roma Spider

Ferrari Roma Spider เป็นรถยนต์ที่ภายนอกมีความสง่างาม หรูหรา ตามสไตล์รถยนต์คูเป้แบบเปิดประทุนที่ผสมผสานความคลาสสิคกับความล้ำสมัยลงมาไว้ในรถคันนี้ได้อย่างลงตัว ทำให้เราได้หวนนึกถึงไลฟ์สไตล์ชีวิตของชาวอิตาเลี่ยนยุค 50s 60s ตั้งแต่เริ่มประสบพบเจอกับรถยนต์คันนี้

ตัวรถยนต์โดยรวมมาในสไตล์ของรถสปอร์ตคูเป้เปิดประทุนหลังคาแบบ Soft Top ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยมือมนุษย์และทำมาพิเศษเฉพาะ Ferrari Roma Spider เท่านั้น สามารถกันน้ำและป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอกได้ดีเยี่ยม ทำให้เราได้นึกถึง Roma รุ่นเก่าๆ หรือ Ferrari GT เครื่องวางหน้าในอดีต แต่มาในรูปแบบที่สมัยใหม่มากขึ้น หรูหรามากขึ้น

ด้านหน้าออกแบบในรูปลักษณ์ที่คล้ายกับจมูกฉลามซึ่งมีพื้นที่ขนาดใหญ่และยาวเพื่อใช้วางเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ได้ มีกระจังหน้าแบบตะแกรงรับกับการออกแบบโคมไฟหน้าซึ่งเป็นแบบ Full LED ที่มีความโฉบเฉี่ยวพร้อมไฟ DRL เป็นเส้นแนวยาว ทำให้รถยนต์คันนี้มีความหรูหรา มินิมอล และ ความร่วมสมัยสูงมาก

การออกแบบด้านข้างตัวรถแสดงให้เห็นถึงความปรานีตอย่างมากโดยการดีไซน์แบบคลื่นโค้งมนไล่ระดับต่อเนื่องตั้งแต่ส่วนหน้ารถตัดผ่านส่วนด้านข้างไปจนถึงด้านท้าย สันเหลี่ยมไม่มีให้เห็นแต่กลายเป็นความโค้งมนกลมกลืนกันไป มือเปิดประตูออกแบบให้เรียบเนียนลงไปกับประตูรถ ทำให้เมื่อตัวรถสะท้อนกับแสงพระอาทิตย์ก็จะสวย เรียบเนียน และ คลาสสิคมากเลยทีเดียว

ด้านท้ายรถเป็นแบบคูเป้ท้ายลาดที่มีความอวบอิ่มแต่แอบแฝงไปด้วยความสปอร์ตชนชั้นสูงด้วยไฟท้ายแบบ Full LED โคมดำตัดแดงสด แยก 4 ดวง ซ้ายสอง ขวาสอง มีสันเหลี่ยมเหมือนกับครีบปลาที่ทำให้ไฟทั้งสองข้างเชื่อมโยงเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัวและโฉบเฉี่ยวมาก

ด้านจุดเก็บหลังคา Soft Top มีการออกแบบเป็นพิเศษให้มีความเรียบเนียนไปกับฝากระโปรงห้องเก็บสัมภาระดานหลังแบบไร้รอยต่อ ราบเรียบเชื่อมต่อแบบเนี๊ยบๆ ไปกับโลโก้ Ferrari ที่วางอยู่บนพื้นผิววัสดุสีดำเงาด้านท้าย ทำให้รู้สึกกลมกลืนหรูหรามากเลยทีเดียว

การใช้หลังคาแบบ Soft Top ยังทำให้ Ferrari Roma Spider มีน้ำหนักเบากว่า Ferrari รุ่นหลังคาแบบ Hard Top และยังช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระได้มากขึ้นด้วย โดยเก็บสัมภาระได้ถึง 225 ลิตร ใส่กระเป๋าเดินทางไปท่องเที่ยวกับคู่รักที่ต่างจังหวัดได้อย่างสบายๆ

ส่วนหลังคามีการคำนึงถึงผู้ใช้งานเป็นหลัก เพราะตัวหลังคานั้นนอกจากจะทำแบบแฮนด์เมดแล้วก็ยังเป็นวัสดุผ้าแบบพิเศษที่มีชั้นผ้ามากถึง 5 ชั้น และมีสีให้เลือกถึง 5 สี เพื่อให้เข้ากับตัวรถที่สุดทำให้มันดูมีคุณค่ามากๆ นอกจากนี้ยังสามารถเปิดหรือพับเก็บได้ในระยะเวลาเพียง 13.5 วินาที และสามารถเปิดปิดได้ในความเร็วสูงสุดที่ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงอีกด้วย

แม้ว่าการออกแบบโดยรวมจะดูร่วมสมัย แต่หากลองก้มดูที่ด้านล่างรอบๆ คัน เราก็จะพบกับความสปอร์ตที่ถูกแอบซ่อนเอาไว้ ด้านหน้ามีลิ้นคาร์บอนไฟเบอร์รับกับหน้าตาที่สวยงาม ด้านข้างมีการออกแบบให้มีเส้นสายที่โฉบเฉี่ยวเหมือนชุดแต่งรถสปอร์ต กับด้านท้ายที่มาพร้อมกับปลายท่อ 4 ท่อ ที่ให้เสียงเร้าๆ กับกันชนสีดำที่รับเข้ากับด้านท้ายแล้วดูเป็นรถสปอร์ตของ Ferrari สุดๆ

ภายนอกโดยรวมบอกเลยว่าแบรนด์ม้าลำพองไม่ทำให้ผิดหวัง แต่กลับกัน Ferrari Roma Spider ตัวจริงนั้นสวยเกินความคาดหมายไปมาก มีทั้งความคลาสสิค ความสปอร์ต ความแอร์โรไดนามิค และ ดูเป็นรถยนต์ที่สามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้ เข้าถึงได้ง่ายทุกช่วงวัย

ต้องบอกว่าถึงแม้ทุกอย่างจะคล้ายคลึงกับ Ferrari Roma แต่การทำ Ferrari Roma Spider ออกมารูปแบบนี้มันกลับสวยงามและลงตัวมากกว่าเยอะ ราวกับว่าเป็นม้าที่มีความสง่ามากขึ้น เป็นม้าลำพองตัวใหม่ที่มีความสวยสมบูรณ์แบบเลยทีเดียว

การออกแบบภายในของ Ferrari Roma Spider

การออกแบบภายในของ Ferrari Roma Spider ต่างจากที่เราเห็นภายนอกลิบลับ คำที่ใช้นิยามได้ก็คงจะเป็นคำว่า “ความร้อนแรงที่อยู่ภายใต้ความเรียบหรู” เพราะด้านในมีความสปอร์ตแบบเต็มพิกัด ในสไตล์รถแบบ 2+2 ที่นั่ง มีการจัดวางห้องโดยสารแบบ Dual Cockpit ซึ่งคงเอกลักษณ์ของรถยนต์ Ferrari ตั้งแต่ยุค 70s มาได้ดีเลย

ห้องโดยสารแบบคู่ของ Ferrari เกิดขึ้นจากการต่อยอดดีไซน์แผงหน้าปัดไปยังทั้งสองฝั่งของห้องโดยสาร จนกลายเป็นสองโมดูลที่โอบล้อมกับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร อีกทั้งยังเชื่อมต่อไปยังเบาะหลังทั้งสองแบบสมมาตร ให้การกระจายน้ำหนักของตัวรถที่ดีเยี่ยม และทำให้ผู้โดยสารและผู้ขับขี่รู้สึกปลอดภัย เป็นส่วนหนึ่งกับรถยนต์ และ ให้ประสบการณ์ราวกับว่าผู้โดยสารได้มีส่วนร่วมกับการขับขี่รถยนต์คันนี้

ด้านหน้าคอนโซลโดดเด่นด้วยการออกแบบที่ดูเหมือนว่าเราอยู่บน Cockpit เครื่องบินรบ หรือ อยู่บนเรือสปีดโบ๊ทหรูๆ เลยทีเดียว มีหน้าจอแสดงผลดิจิตอลทั้งหมด 3 จอ ในส่วนฝั่งคนขับ หน้าจอกลาง และ หน้าจอฝั่งผู้โดยสารข้างคนขับ พร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบล้ำสมัยสุดๆ

มาตรวัดดิจิตอลที่ติดตั้งมีความกลมกลืนเป็นส่วนหนึ่งของแดชบอร์ด และป้องกันด้วยฝาครอบแบบลดการสะท้อนแสงซึ่งยื่นออกมาจากแดชบอร์ดอย่างแนบเนียน จอแสดงผลตรงกลางมีขนาด 8.4 นิ้ว ติดตั้งไว้ระหว่าง Cockpit ทั้งสองฝั่ง รวมระบบ Infotainment และการควบคุมระบบปรับอากาศไว้ในจอ ทำให้ส่วนนี้ดูเรียบหรูมากขึ้น

มีสวิตช์ควบคุมชุดเกียร์ F1 ที่ติดตั้งอยู่บนแผงโลหะที่ทันสมัยซึ่งมีดีไซน์อ้างอิงมาจากร่องคันเกียร์ของรถระดับตำนานในอดีต โดยอยู่บริเวณส่วนกลางของคอนโซล และมีองศาการเอียงที่ทำให้ผู้ขับขี่ใช้งานได้ง่ายมากขึ้น ทำให้มันยิ่งดูเหมือนเครื่องบินเข้าไปอีก

ระบบ HMI บนพวงมาลัย เป็นเวอร์ชั่นใหม่ไม่เหมือนกับ Ferrari Roma ปกติ มีระบบควบคุมแบบ Touch Controls บนก้านพวงมาลัยทั้งสองฝั่ง ฝั่งซ้ายมีการเล่นระดับเพื่อให้ผู้ขับสัมผัสได้ว่ากำลังใช้ปุ่มควบคุมระบบใดอยู่ ส่วนแป้น Track Pad ที่ก้านฝั่งขวาออกแบบให้มีส่วนเว้าโค้งเพื่อให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น

นอกจากการออกแบบห้องโดยสารที่มีรายละเอียดเยอะแล้ว Ferrari ก็ยังคำนึงถึงผู้ขับขี่ด้วย เพราะปัญหาของรถสปอร์ตคูเป้แบบเปิดประทุนก็คือเรื่องลมที่เข้ามาในขณะที่เปิดหลังคา

ทาง Ferrari มีการออกแบบแผ่นเบี่ยงเบนอากาศให้สามารถเด้งขึ้นมาไดเองตอนที่เราเปิดประทุนและนั่งโดยสาร 2 คน ทำให้เมื่อขับในความเร็วสูงลมจะถูกตัดผ่านแผ่นนี้ที่อยูบริเวณเบาะด้านหลังและพัดผ่านท้ายรถไปเลย ไม่ต้องมาลำบากใส่เองหรือยกเก็บแล้ว เปิดประทุนแบบหล่อๆ ไม่ต้องกลัวผมเสียทรงเลยทีเดียว

Ferrari Roma Spider น่าขับไหม?

ถึงแม้ว่าหน้าตาของ Ferrari Roma Spider จะดูคลาสสิคร่วมสมัย แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเป็นรถซุปเปอร์คาร์อยู่นะ เพราะว่า Ferrari Roma Spider ใช้เครื่องยนต์ V8 เทอร์โบ ที่ได้รับรางวัล International Engine of the Year 4 ปีซ้อน และยังถูกโหวตให้เป็น Best Engine of the Last 20 Years ในปี 2018 อีกด้วย

ขุมกำลัง V8 Turbo ขนาด 3.9 ลิตร ของ Ferrari Roma Spider ให้กำลังอยู่ที่ 620 แรงม้า กับแรงบิดอีก 760 นิวตันเมตร โดย 80% ของแรงบิดมีให้ใช้ตั้งแต่รอบต่ำเพียง 1,900 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์ DCT 8 สปีด มีการใช้ปั๊มน้ำมันเครื่องแบบใหม่ซึ่งช่วยลดเวลาในการสร้างแรงดันน้ำมันขณะเครื่องเย็นลงได้ถึง 70% ทั้งยังเพิ่มอัตราการไหลที่รอบเครื่องช่วงกลางได้ดีเยี่ยมอีกด้วย

ด้วยขุมกำลังแบบนี้ทำให้อัตราเร่งของ Ferrari Roma Spider ทำ 0-100 ได้ภายใน 3.4 วินาที เท่านั้น แถม Ferrari Roma Spider ยังเป็นรถยนต์แบบสปอร์ตคูเป้หลังคาเปิดประทุนที่มีเครื่องยนต์วางหน้าระบบขับเคลื่อนล้อหลังคันแรกในรอบ 54 ปี ของค่าย Ferrari ด้วย เเรงเอาเรื่องผิดกับรูปลักษณ์ที่ดูเป็นรถร่วมสมัยสไตล์รถยนต์ GT ในยุคก่อนๆ เลย

ด้านการใช้งาน Ferrari ออกแบบรถยนต์คันนี้ให้เป็นรถยนต์ที่สามารถใช้ได้ตั้งแต่การขับในชีวิตประจำวันไปจนถึงการเป็นรถยนต์ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ชีวิตให้มีความสุขเหมือนกับชาวอิตาเลี่ยนในยุคก่อนๆ เช่น การขับท่องเที่ยวกินลมชมวิวรับอากาศบริสุทธิ์ สัมผัสกับธรรมชาติที่งดงาม เพลินเพลินกับการขับรถยนต์ในชีวิตจริง

Ferrari Roma Spider ไม่ใช่เพียงรถสปอร์ตสุดหรูที่มีไว้แค่ขับหล่อๆ บางครั้งบางคราว แต่มันคือรถยนต์ที่พร้อมจะพาคุณไปสัมผัสกับประสบการณ์การใช้ชีวิตที่มีความสุขร่วมกับรถยนต์ที่คุณรักได้ทุกเมื่อ ทุกที่ และ ทุกเวลาของช่วงชีวิต เป็นรถที่จะทำให้คุณพบกับ “เรื่องราวแห่งชีวิตที่เหนือระดับ” ได้จริงๆ

เรื่องของราคาต้องบอกว่า ณ วันเปิดตัวในประเทศไทย ยังไม่ได้มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการ แต่คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ราวๆ 24-30 ล้านบาท เนื่องจากว่า Ferrari Roma รุ่นปกติมีราคาอยู่ที่ประมาณ 20 ล้าน แต่ทาง Ferrari Roma Spider ในต่างประเทศ มีราคาอยู่ที่ประมาณ 8 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งหากนำเข้ารวมกับภาษีประเทศไทย คูณ 3 เข้าไป ก็อาจจะตกอยู่ที่ประมาณ 24 ล้านบาท ครับ

ค้นหา Ferrari มือสอง

ระบบขับเคลื่อนรถยนต์แบบ FWD RWD AWD และ 4WD คืออะไร แตกต่างกันไหม

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com