ใบขับขี่ นับเป็นหนึ่งในหลักฐานที่สำคัญเป็นอย่างมากสำหรับผู้ที่เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว แต่ถ้าเกิดว่าบังเอิญทำใบขับขี่หายขึ้นมาล่ะ แบบนี้ต้องทำยังไง? ต้องแจ้งความหรือเปล่านะ?
ใจเย็นๆ เข้าไว้ ปัจจุบันการทำใบขับขี่ใหม่ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกต่อไปแล้ว โดยบทความนี้ one2car จะแนะนำขั้นตอนต่างๆ เมื่อทำใบขับขี่หายแบบละเอียดยิบ! มาดูกันเลยว่าต้องทำยังไงบ้าง
ใบขับขี่หายทำยังไง? ต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง?
สำหรับใครที่ทำใบขับขี่หาย แน่นอนว่าต้องไปดำเนินการออกใบอนุญาตใหม่ที่กรมการขนส่งทางบก แต่อย่างที่ทราบกันดีว่ากรมการขนส่งนั้นมีผู้มาใช้บริการเป็นจำนวนมาก จึงได้มีการพัฒนาแอปพลิเคชัน DLT SMART Q ขึ้นมาเพื่อทำการจองคิวเข้ารับบริการล่วงหน้า โดยสามารถดาวน์โหลดได้จาก Link ดังนี้
- ระบบปฏิบัติการ IOS >>> https://apple.co/3kVujb3
- ระบบปฏิบัติการ Android >>> https://bit.ly/3wfCqEv
- หรือสามารถทำการนัดหมายผ่านเว็บไซต์ >>> https://gecc.dlt.go.th
เมื่อทำการดาวน์โหลดแอปฯ เรียบร้อยแล้ว โดยเบื้องต้นสามารถแยกการดำเนินการออกเป็น 3 กรณี ซึ่งแต่ละกรณีก็จะการดำเนินการที่แตกต่างกัน ดังนี้
กรณีที่ 1 ใบขับขี่หาย แต่ยังไม่หมดอายุ
สำหรับกรณีที่ใบขับขี่หายแต่ยังไม่หมดอายุ รวมถึงกรณีที่ใบขับขี่ตลอดชีพหายเช่นเดียวกัน คุณสามารถจองคิวล่วงหน้าผ่านแอปฯ DLT SMART Q และดำเนินการตามขั้นตอนดังนี้ได้เลย!
- เลือกสำนักงานขนส่งที่สะดวกเข้าใช้บริการ
- เลือก “งานใบอนุญาต”
- เลือก “ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล”
- เลือก “อื่นๆ”
- เลือกยานพาหนะที่ต้องการ และทำการกรอกข้อมูลให้ครบถ้วน
- เลือก “ใบอนุญาตส่วนบุคคล: ใบแทนชำรุดหรือสูญหาย”
จากนั้นให้ไปที่กรมการขนส่งตามเวลา และสถานที่ที่ทำการเลือกไว้ โดยนำบัตรประชาชนตัวจริงไปด้วย (ไม่จำเป็นต้องแจ้งความ) จากนั้นรอเจ้าหน้าที่ดำเนินการ และชำระค่าธรรมเนียม 105 บาท เป็นอันเรียบร้อย
กรณีที่ 2 ใบขับขี่หาย และหมดอายุไม่เกิน 1 ปี
ในกรณีที่ใบขับขี่หาย และหมดอายุไม่เกิน 1 ปี จะมีขั้นตอนการดำเนินการที่มากขึ้นเล็กน้อย โดยอันดับแรกให้ทำการจองคิวล่วงหน้าผ่านแอปฯ DLT SMART Q ตามขั้นตอนดังนี้
- เลือกสำนักงานขนส่งที่สะดวกเข้าใช้บริการ
- เลือก “งานใบอนุญาต”
- เลือก “ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล”
- เลือก “ต่อใบอนุญาตขับรถ”
- เลือกยานพาหนะที่ต้องการ และติ๊ก ✓ ในช่อง “ใบอนุญาตขับรถสูญหาย”
- เลือกประเภทการต่อใบขับขี่ให้ถูกต้อง (หมดอายุไม่เกิน 1 ปี)
สำหรับผู้ที่ใบขับขี่หมดอายุไม่เกิน 1 ปีนั้น จะต้องเตรียมเอกสาร 2 อย่าง ได้แก่บัตรประชาชน (ฉบับจริง) และใบรับรองแพทย์ (อายุไม่เกิน 1 เดือน) โดยจะมีการทดสอบสมรรถภาพร่างกาย 4 ประการ ได้แก่ ทดสอบอาการตาบอดสี วัดสายตาทางกว้าง ทางลึก และตรวจการตอบสนอง
จากนั้นให้ทำการชำระค่าธรรมเนียมจึงเป็นอันเสร็จสิ้น (ค่าธรรมเนียมสำหรับรถยนต์ 505 บาท สำหรับรถจักรยานยนต์ 255 บาท)
กรณีที่ 3 ใบขับขี่หาย และหมดอายุเกิน 1 ปี
สำหรับผู้ที่ใบขับขี่หาย และหมดอายุเกิน 1 ปีนั้น จะมีขั้นตอนการจองคิวผ่าน DLT SMART Q แบบเดียวกับกรณีที่ 2 แต่ผู้ขอใบอนุญาตจะต้องทำการอบรมต่อใบขับขี่ และทำการทดสอบเพิ่มเติม ดังนี้
- สำหรับผู้ที่ใบขับขี่หมดอายุเกิน 1 ปีขึ้นไป แต่ไม่เกิน 3 ปี จะต้องทำการอบรม 5 ชั่วโมง และทดสอบข้อเขียนเพิ่มเติม
- สำหรับผู้ที่ใบขับขี่หมดอายุเกิน 3 ปีขึ้นไป จะต้องทำการอบรม 5 ชั่วโมง ทดสอบข้อเขียน รวมไปถึงทดสอบการขับรถ
โดยในวันนัดหมายทำใบขับขี่นั้น จะต้องเตรียมเอกสารมาด้วยกันดังนี้
- บัตรประชาชน (ฉบับจริง)
- ใบรับรองแพทย์อายุไม่เกิน 1 เดือน
- หลักฐานผ่านการอบรมใบขับขี่
- หลักฐานผ่านการทดสอบขับรถ (สำหรับกรณีที่ใบขับขี่หมดอายุเกิน 3 ปี)
จากนั้นให้ทำการชำระค่าธรรมเนียมจึงเป็นอันเสร็จสิ้น (ค่าธรรมเนียมสำหรับรถยนต์ 505 บาท สำหรับรถจักรยานยนต์ 255 บาท)
***ผู้ขอใบอนุญาตสามารถอบรมออนไลน์ผ่านระบบ e-Learning ของกรมการขนส่งทางบกได้ที่ >>> https://www.dlt-elearning.com/ เมื่ออบรมเสร็จสิ้นแล้วให้ทำการบันทึกผลผ่านการอบรมเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
เอกสารที่ต้องเตรียมเมื่อใบขับขี่หาย
- บัตรประชาชน (ฉบับจริง)
- หลักฐานการเปลี่ยนชื่อ คำนำหน้าชื่อ ยศ วันเกิด หรือถิ่นที่อยู่ (เฉพาะกรณีที่ต้องการแก้ไขรายการในใบขับขี่)
- ใบรับรองแพทย์อายุไม่เกิน 1 เดือน (สำหรับผู้ที่ใบขับขี่หมดอายุ)
- หลักฐานผ่านการอบรมใบขับขี่ (สำหรับผู้ที่ใบขับขี่หมดอายุเกิน 1 ปีขึ้นไป)
- หลักฐานผ่านการทดสอบขับรถ (สำหรับผู้ที่ใบขับขี่หมดอายุเกิน 3 ปี)
ใบขับขี่หายจำเป็นต้องแจ้งความไหม?
คำตอบคือ ไม่จำเป็น เนื่องจากทางกรมการขนส่งทางบกนั้นจะมีแบบฟอร์มระบุการสูญหายให้เรากรอกอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเตรียมเอกสารที่จำเป็นอื่นๆ แล้วจองคิวเข้าใช้บริการได้เลย!
ในแอปฯ คิวเต็ม Walk-In ไปทำใบขับขี่ได้หรือไม่?
สำหรับคนที่โหลดแอปฯ DLT SMART Q เรียบร้อยอาจจะเห็นกันแล้วว่า คิวทำใบขับขี่ในหลายๆ วันนั้นเต็มเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ถ้าเราต้องรีบใช้ใบขับขี่มากๆ ล่ะ สามารถ Walk-in ไปที่กรมการขนส่งแต่เช้าตรู่เพื่อรอคิวได้มั้ยนะ?
one2car แนะนำว่าให้ติดต่อสอบถามกับกรมการขนส่งก่อนจะดีที่สุด! เพราะว่าในบางสาขานั้นจะมีผู้มาใช้บริการเป็นจำนวนมาก จึงไม่เปิดรับบริการแบบ Walk-in ไม่อย่างนั้นอาจจะไปเสียเที่ยวเอาได้ โดยสามารถติดต่อได้ผ่านช่องทางดังนี้
- แนะนำ ติดดต่อโดยตรงผ่านเบอร์โทรศัพท์ของกรมการขนส่งสาขาที่คุณต้องการใช้บริการ
- โทรศัพท์ : 0-2271-8888 (หมายเลขกลาง)
- Call Center และศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารสาธารณะ : โทรศัพท์ 1584
- Email : webmaster@dlt.mail.go.th
สรุป
เท่านี้ทุกคนก็น่าจะได้ทราบกันแล้วว่าเมื่อใบขับขี่หายแล้วสามารถดำเนินการอย่างไรได้บ้าง แต่ one2car แนะนำว่าถ้าหายปุ๊บให้รีบไปทำโดยเร็วที่สุดจะดีกว่า เพราะถ้าขับรถโดยไม่มีใบขับขี่จะสร้างปัญหาให้คุณมากมายเลยทีเดียว แถมยังถือว่ามีความผิดทางกฎหมาย มีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท จำคุก 1 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับเลยทีเดียว
=====================
Autospinn เว็บไซต์รายงานข่าวรถยนต์ รถยนต์ไฟฟ้า รถมอเตอร์ไซค์ เช็ควันเปิดตัวรถใหม่ ราคารถ ตารางผ่อน และรีวิวรถยนต์ รถจักรยานยนต์ โดยทีมงานมืออาชีพ
ซื้อ-ขาย รถมือสอง ได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัยชัวร์ ต้องที่ ตลาดรถ one2car
ข่าวฟีเจอร์

วิธีไหว้แม่ย่านางรถ พร้อมคาถา (2566) ใช้อะไรบ้าง ไหว้กี่โมงดี
เรื่องเด่น
ต่อใบขับขี่หมดอายุ หรือหาย 2566 ทำยังไง ใช้เอกสารอะไรบ้าง
เรื่องเด่น
รวมรถยนต์ไฟฟ้า EV มือสอง ราคาถูก น่าซื้อที่สุดในปี 2023
รถยนต์ไฟฟ้า