พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43(9) ระบุว่า ห้ามผู้ขับขี่ใช้โทรศัพท์หรือเครื่องมือสื่อสารอื่นใดในขณะที่รถเคลื่อนที่ เว้นแต่การใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่โดยใช้อุปกรณ์เสริมสำหรับการสนทนา โดยผู้ขับขี่ไม่ต้องถือหรือจับโทรศัพท์เคลื่อนที่นั้น เช่น สมอลล์ทอล์ค หรือบูลทูธ ทั้งนี้กำหนดโทษผู้ฝ่าฝืนต้องระวางโทษ ปรับตั้งแต่ 400-1,000 บาท
การใช้โทรศัพท์ในกรณีรถติดหรือติดไฟแดงนั้น ก็ถือว่ามีความผิดในทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็นการกดหมายเลขโทรออก รับสาย เล่นเกม ดูหรือพิมพ์ข้อความ ดูภาพ และกิจกรรมอื่น ๆ ที่โทรศัพท์สามารถทำได้ เพราะถือว่ายังอยู่ระหว่างการขับขี่ เครื่องยนต์ยังติดอยู่ ผู้ขับยังต้องควบคุมรถอยู่
หากผู้ใดมีความจำเป็นต้องใช้โทรศัพท์ให้จอดข้างทางในบริเวณที่จอดได้หรือจอดในปั๊มน้ำมัน แล้วจัดการธุระทางโทรศัพท์ให้เรียบร้อยก่อนออกสู่ถนนอีกครั้ง หรือให้ใช้อุปกรณ์เสริมช่วยคุยโทรศัพท์ เช่น หูฟังบลูทูธ หรือใช้วิธีวางโทรศัพท์แล้วเปิดลำโพงคุยได้ แต่ห้ามคุยโทรศัพท์แบบหนีบไว้กับคอหรือให้ผู้อื่นถือให้
ส่วนเรื่องพฤติกรรมอื่นๆ ที่กระทำกับโทรศัพท์มือถือ นอกจากการคุยโทรศัพท์และการแชทแล้ว การดูข้อมูลใด ๆ จากอินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือก็มีความผิดเช่นกัน รวมถึงการใช้แสตนดี้ยึดโทรศัพท์กับพวงมาลัยเพื่อใช้โทรศัพท์ก็เข้าข่ายกระทำผิด เพราะเป็นการรบกวนสมาธิขณะขับรถเป็นอย่างมาก เนื่องจากต้องละสายตาจากท้องถนนและยังต้องละมือจากควบคุมพวงมาลัยรถไปจิ้มหน้าจอ
อยากให้ทุกคนตระหนักถึงความปลอดภัยในขณะขับขี่รถ โดยเริ่มต้นจากการงดใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ เพราะทำให้เกิดปัญหาต่อส่วนรวม โดยหลายครั้งทำให้เกิดปัญหารถติด เนื่องจากผู้ขับขี่ไม่สามารถใช้ความเร็วที่เหมาะสมได้ตามสถานการณ์จริง และมีบางเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
ข่าวฟีเจอร์

ซื้อรถมือสองต้องตรวจให้มั่นใจ one2car Inspection ช่วยได้! (สำคัญมาก)
วีดีโอ
VOLT City EV ราคาเริ่มต้น 3.25 แสน ค่าไฟแค่ 30 สตางค์/กม.
รถยนต์ไฟฟ้า
รถเก๋งรุ่นไหนดี รวม 12 รถเก๋งน่าใช้ที่สุดในปี 2022
เรื่องเด่น