One2car.com
แอปพลิเคชัน One2Car
ทำนายราคารถของคุณ
4.5
21,133

รวมเทคนิคขับรถทางไกล เดินทางอย่างไรให้ปลอดภัยในช่วงหยุดยาว

เรื่องเด่น

รวมเทคนิคขับรถทางไกล เดินทางอย่างไรให้ปลอดภัยในช่วงหยุดยาว

หากพูดถึงวันหยุดยาวตามเทศกาลต่าง ๆ ที่กำลังจะมาถึงแล้ว หลายคนคงมีทริปหรือแผนเดินทางไปต่างจังหวัดเพื่อพักผ่อนหลังจากที่ทำงานหนักมาตลอดทั้งปี บ้างก็เลือกเดินทางด้วยรถส่วนตัว บ้างก็เลือกเดินทางด้วยรถทัวร์ รถไฟ หรือเครื่องบิน แต่ไม่ว่าจะเลือกเดินทางด้วยวิธีไหน ความปลอดภัยก็เป็นสิ่งที่เราควรให้ความสำคัญมากที่สุด โดยเฉพาะกับคนที่เลือกขับรถไปเองอาจต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะการขับรถไปในเส้นทางหรือสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยนั้น อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุด้วยกัน

วันนี้เราจึงได้รวบรวมเทคนิคการขับรถทางไกล มาให้ทุกคนที่กำลังจะเดินทางได้ลองอ่านและศึกษากันดูครับ ว่ามีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยให้ทริปของคุณราบรื่นไม่มีปัญหาน่าปวดหัวมากวนใจ

1.ตรวจเช็กสภาพรถให้เรียบร้อยก่อนออกเดินทาง

ขับรถทางไกล

การเตรียมรถให้พร้อมก่อนออกเดินทางถือเป็นเรื่องสำคัญอันดับหนึ่งที่เราไม่ควรมองข้าม คุณควรนำรถไปตรวจเช็กสภาพหรือตรวจสอบด้วยตัวเองทุกครั้ง ว่าระบบการทำงานภายในยังสามารถใช้งานได้ตามปกติหรือไม่ หากพบว่ามีปัญหาคุณก็ควรแก้ไขให้เรียบร้อยก่อนออกเดินทาง เพราะถ้าหากคุณปล่อยปละละเลยไม่ตรวจเช็กสภาพรถให้ดี คุณก็อาจพบเจอปัญหาน่าปวดหัวระหว่างเดินทางได้ 

ดังนั้นทางที่ดีคุณจึงควรดูแลรักษารถอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้รถพร้อมเดินทางไม่ติดปัญหากวนใจ เช่น หากคุณเป็นเจ้าของรถสายจอด คุณก็ควรใช้เครื่องชาร์จแบตเตอรี่คอยชาร์จไฟให้เต็มอยู่เสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้แบตเตอรี่เสื่อมจากการจอดนาน ช่วยแก้ไขปัญหารถสตาร์ทไม่ติดที่ต้นเหตุได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ต้องสิ้นเปลืองเปลี่ยนแบตเตอรี่บ่อย ๆ ให้เสียเวลาครับ

2.เตรียมเครื่องมือและอุปกรณ์ฉุกเฉินให้พร้อม

นอกจากสัมภาระ เสื้อผ้า และของใช้ส่วนตัวแล้ว เครื่องมือและอุปกรณ์ฉุกเฉินอย่างเครื่องมือช่าง ไฟฉาย หรือชุดปะยาง ก็เป็นสิ่งสำคัญที่เราควรพกติดรถไปด้วย เพราะเราไม่มีทางรู้ว่าตลอดทริปการเดินทางจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง หากเกิดเรื่องฉุกเฉินหรือเกิดอุบัติเหตุขึ้น อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เราพกไปจะช่วยให้เรารับมือกับปัญหาที่เกิดได้ดียิ่งขึ้น และนอกจากอุปกรณ์ฉุกเฉินหรือเครื่องมือช่างแล้ว เอกสารสำคัญอย่างใบขับขี่หรือพ.ร.บ.รถยนต์ ก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เช่นกันครับ 

3.เตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนออกเดินทาง

ถัดจากตัวรถและอุปกรณ์ฉุกเฉินที่จำเป็น การเตรียมร่างกายของตัวเอง(คนขับ)ให้พร้อมก็เป็นสิ่งสำคัญที่เราไม่ควรมองข้าม เพราะการขับรถเป็นระยะเวลานาน ๆ อาจส่งผลให้ร่างกายของเราเหนื่อยล้าจนทำให้ศักยภาพในการขับขี่ลดลงจนอาจเกิดอุบัติเหตุได้ ดังนั้นหากคุณรู้ตัวว่าต้องขับรถไปไหนไกล ๆ คุณก็ควรพักผ่อนให้เต็มที่ก่อนออกเดินทาง ไม่อดหลับอดนอน ไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และไม่ใช้สารเสพติดทุกชนิด 

4.ศึกษาเส้นทางก่อนออกเดินทาง

ขับรถทางไกล

หากคุณรู้ตัวว่าต้องเดินทางไปยังสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย คุณควรศึกษารายละเอียดของเส้นทางที่จะไปล่วงหน้า เพื่อให้การเดินทางของคุณราบรื่นและไม่มีปัญหาตามมา เช่น ลักษณะของถนน ตรอกซอกซอย ทางลัด ทางเลี้ยว ทางกลับรถ หรือแยกไฟแดง เป็นต้น สิ่งเหล่านี้คือข้อมูลสำคัญที่เราควรรู้หากต้องขับรถเดินทางไปเอง เพราะนอกจากจะหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันได้แล้ว มันยังช่วยให้เราประหยัดเวลาและไม่หลงทางอีกด้วย

5.หมั่นสังเกตป้ายเตือนและรักษากฎจราจรอยู่เสมอ

ไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหนคุณก็ควรเคารพกฎจราจรเสมอ เพราะอุบัติเหตุและเรื่องไม่คาดฝันมักเกิดขึ้นกับผู้ขับขี่ที่ชอบฝ่าฝืนกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นการขับรถเร็วเกินกำหนด การขับย้อนศร หรือแม้กระทั่งการจอดรถในที่ห้ามจอด หากคุณไม่แน่ใจว่าอะไรทำได้ไม่ได้ คุณก็ควรหมั่นสังเกตป้ายเตือนตามทางว่ามีการห้ามหรือเตือนอะไรบ้าง แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยแต่เราก็ไม่ควรฝ่าฝืน จำไว้ว่าความปลอดภัยคือสิ่งที่สำคัญที่สุดครับ

6.ใช้ความเร็วที่เหมาะสม ไม่มากเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด

การขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดถือเป็นสาเหตุสำคัญของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทั่วโลก ดังนั้นไม่ว่าคุณจะขับรถเดินทางไปที่ไหน คุณก็ควรใช้ความเร็วที่เหมาะสม ไม่ซิ่ง ไม่แซง หรือขับรถปาดไปมา โดยเฉพาะบนเส้นทางที่คดเคี้ยวหรือเต็มไปด้วยอุปสรรค เพราะถ้าหากคุณพลาดเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา นอกจากตัวคุณที่จะเดือดร้อนแล้ว มันก็อาจทำให้ผู้อื่นเกิดอันตรายขึ้นด้วย

7.พักบ้างเป็นระยะ ๆ อย่าฝืนขับต่อถ้ารู้สึกเหนื่อย

ขับรถทางไกล

หากเรารู้สึกเพลียจากการขับรถเป็นเวลานาน เราควรจอดรถแวะพักบ้างเป็นระยะ ๆ เพราะยิ่งเราเหนื่อยและล้ามากเท่าไหร่ ประสิทธิภาพในการขับขี่และความสามารถในการตัดสินใจก็จะแย่ลงมากเท่านั้น ซึ่งนอกจากร่างกายของเราที่ควรพักแล้ว ตัวรถที่เราขับก็จำเป็นที่จะต้องมีการพักจอดบ้างเช่นเดียวกัน เพื่อไม่ให้เครื่องยนต์ร้อนและทำงานหนักจนเกินไป 

และเมื่อเรากลับมาถึงบ้านหลังจากจบทริปแล้ว เราก็ควรนำรถไปตรวจเช็กสภาพอีกครั้ง ว่ามีอะไรที่สึกหรอหรือไม่ เพราะการขับรถเดินทางไปในที่ไกล ๆ นั้นมีโอกาสสูงที่เครื่องยนต์และชิ้นส่วนภายในจะเกิดความเสียหายได้ ถือเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนการดูแลรักษารถที่เราไม่ควรมองข้าม หลังจากนำรถไปใช้งานมาอย่างหนักครับ

แท็กที่เกี่ยวข้อง


ข่าวฟีเจอร์

โหรดังแนะ! ฤกษ์ออกรถ 2568 เคาะวันเงินปัง งานรุ่ง ชีวิตพุ่งแรง

โหรดังแนะ! ฤกษ์ออกรถ 2568 เคาะวันเงินปัง งานรุ่ง ชีวิตพุ่งแรง

ข่าววงการรถยนต์
one2car ร่วมกับ “อาจารย์วิช ธรรมสถิตบุณณ์” แนะนำ ฤกษ์ออกรถปี 2568 ครบทุกเดือน วันไหนมงคล เรียกทรัพย์ มารับฤกษ์ได้เลยออกรถวันไหนดีปี 2568 ซินแสเผย! ...
7 รถเก๋งประหยัดน้ำมัน ราคาถูก 2025 ลองขับแล้ว คุ้มสมชื่อ!

7 รถเก๋งประหยัดน้ำมัน ราคาถูก 2025 ลองขับแล้ว คุ้มสมชื่อ!

เรื่องเด่น
รถเก๋งรุ่นไหนประหยัดน้ำมัน คุ้มราคา น่าใช้ในปี 2568พูดถึงรถเก๋งประหยัดน้ำมัน หลายคนน่าจะนึกถึงรถเล็ก ไม่ก็ Eco car ...
Altis กับ Camry มือสอง คันไหนตอบโจทย์คุณมากกว่า

Altis กับ Camry มือสอง คันไหนตอบโจทย์คุณมากกว่า

เรื่องเด่น
Altis กับ Camry มือสอง คู่นี้เลือกไม่ยาก แต่ถ้าให้เลือกแค่คันเดียว จะเลือกคันไหนให้มันตอบโจทย์เราที่สุดล่ะ มาดูไปพร้อมๆ กันครับAltis กับ Camry ...
M-Flow จ่ายเงิน ไม่ลงทะเบียน ทำยังไง? ต้องจ่ายภายในกี่วัน?

M-Flow จ่ายเงิน ไม่ลงทะเบียน ทำยังไง? ต้องจ่ายภายในกี่วัน?

เรื่องเด่น
ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบขับรถไปต่างจังหวัดแน่นอนว่าคุณต้องเคยเจอ หรือ เคยผ่านด่าน M Flow มาแล้วบ้าง แต่สำหรับใครที่เผลอขับเข้าไปใน M Flow ...

เเสดงความคิดเห็น

app-icon
app-icon
app-icon
ดูรถในฝันของคุณในแอป
ดาวน์โหลดแอปตอนนี้