One2car.com
แอปพลิเคชัน One2Car
ทำนายราคารถของคุณ
4.5
21,133

ข่าวยอดนิยม

โหรดังแนะ! ฤกษ์ออกรถ 2568 เคาะวันเงินปัง งานรุ่ง ชีวิตพุ่งแรง
ข่าวฟีเจอร์

โหรดังแนะ! ฤกษ์ออกรถ 2568 เคาะวันเงินปัง งานรุ่ง ชีวิตพุ่งแรง

ข่าววงการรถยนต์

one2car ร่วมกับ “อาจารย์วิช ธรรมสถิตบุณณ์” แนะนำ ฤกษ์ออกรถปี 2568 ครบทุกเดือน วันไหนมงคล เรียกทรัพย์ มารับฤกษ์ได้เลย

ออกรถวันไหนดีปี 2568 ซินแสเผย! ฤกษ์ออกรถ ม.ค. - ธ.ค. เช็กเลย 

“สายมู” คำนี้กลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตคนไทยไปแล้ว หากเป็นเรื่องรถจะเห็นว่าคนไทยให้ความสำคัญกับสีรถถูกโฉลก ฤกษ์ออกรถ และการไหว้แม่ย่านางรถ เพราะเชื่อกันว่าจะนำมาซึ่งความเป็นสิริมงคลและความสำเร็จ ทางเราเลยไม่รอช้าที่จะนำเสนอฤกษ์ดีออกรถ 2568

Exclusive! อาจารย์วิช ธรรมสถิตบุณณ์ ซินแสผู้มีประสบการณ์ด้านโหราศาสตร์จีน ได้ตอบรับคำเชิญวิเคราะห์ฤกษ์ออกรถ 2025 ของทีมงาน one2car

10 ปีแห่งประสบการณ์ อาจารย์คำนวณฤกษ์มาอย่างดีเพื่อให้ได้วันมงคล มาดูกันว่าวันไหนปัง กราฟชีวิตพุ่ง

หากคุณมีเดือนในใจที่ต้องการออกรถแล้ว แต่ยังไม่รู้วันไหนดี คลิกดูฤกษ์เดือนนั้น ๆ ได้เลย

ฤกษ์ออกรถ ออกรถวันไหนดีปี 2568

ฤกษ์ออกรถ 2568 มกราคม

ในเดือนมกราคม ปี 2568 เป็นช่วงเวลาแห่งการเริ่มต้นใหม่ มีฤกษ์ออกรถถึง 13 วัน คือ

  • วันศุกร์ที่ 3 มกราคม 2568
  • วันเสาร์ที่ 4 มกราคม 2568
  • วันจันทร์ที่ 6 มกราคม 2568
  • วันพฤหัสบดีที่ 9 มกราคม 2568
  • วันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2568
  • วันพฤหัสบดีที่ 16 มกราคม 2568
  • วันศุกร์ที่ 17 มกราคม 2568
  • วันเสาร์ที่ 18 มกราคม 2568
  • วันอังคารที่ 21 มกราคม 2568
  • วันพฤหัสบดีที่ 23 มกราคม 2568
  • วันอังคารที่ 28 มกราคม 2568
  • วันพุธที่ 29 มกราคม 2568
  • วันพฤหัสบดีที่ 30 มกราคม 2568

ฤกษ์ออกรถ 2568 มกราคม

ฤกษ์ออกรถ 2568 กุมภาพันธ์

ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2568 แนะนำให้ออกรถตามวันต่อไปนี้

  • วันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2568
  • วันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568
  • วันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568
  • วันอังคารที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568
  • วันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568
  • วันเสาร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568
  • วันจันทร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568
  • วันเสาร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2568
  • วันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2568
  • วันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568
  • วันพฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568

ฤกษ์ออกรถ 2568 กุมภาพันธ์

ฤกษ์ออกรถ 2568 มีนาคม

ในเดือนมีนาคม ปี 2568 มีวันดีหลายวัน แนะนำให้ออกรถตามวันที่ต่อไปนี้

  • วันเสาร์ที่ 1 มีนาคม 2568
  • วันศุกร์ที่ 7 มีนาคม 2568
  • วันเสาร์ที่ 8 มีนาคม 2568
  • วันอาทิตย์ที่ 9 มีนาคม 2568
  • วันพุธที่ 12 มีนาคม 2568
  • วันศุกร์ที่ 14 มีนาคม 2568
  • วันพุธที่ 19 มีนาคม 2568
  • วันพฤหัสบดีที่ 20 มีนาคม 2568
  • วันศุกร์ที่ 21 มีนาคม 2568
  • วันจันทร์ที่ 24 มีนาคม 2568
  • วันพุธที่ 26 มีนาคม 2568
  • วันจันทร์ที่ 31 มีนาคม 2568

ฤกษ์ออกรถ 2568 มีนาคม

ฤกษ์ออกรถ 2568 เมษายน

ในเดือนเมษายน ปี 2568 ควรออกรถตามฤกษ์ต่อไปนี้

  • วันอังคารที่ 1 เมษายน 2568
  • วันพุธที่ 2 เมษายน 2568
  • วันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน 2568
  • วันอังคารที่ 8 เมษายน 2568
  • วันจันทร์ที่ 14 เมษายน 2568
  • วันอังคารที่ 15 เมษายน 2568
  • วันศุกร์ที่ 18 เมษายน 2568
  • วันอาทิตย์ที่ 20 เมษายน 2568
  • วันศุกร์ที่ 25 เมษายน 2568
  • วันเสาร์ที่ 26 เมษายน 2568
  • วันอาทิตย์ที่ 27 เมษายน 2568
  • วันพุธที่ 30 เมษายน 2568

ฤกษ์ออกรถ 2568 เมษายน

ฤกษ์ออกรถ 2568 พฤษภาคม

ในเดือนพฤษภาคม ปี 2568 มีฤกษ์ออกรถทั้งหมด 11 วัน คือ

  • วันศุกร์ที่ 2 พฤษภาคม 2568
  • วันพฤหัสบดีที่ 8 พฤษภาคม 2568
  • วันศุกร์ที่ 9 พฤษภาคม 2568
  • วันเสาร์ที่ 10 พฤษภาคม 2568
  • วันอังคารที่ 13 พฤษภาคม 2568
  • วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤษภาคม 2568
  • วันอังคารที่ 20 พฤษภาคม 2568
  • วันพุธที่ 21 พฤษภาคม 2568
  • วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤษภาคม 2568
  • วันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคม 2568
  • วันอังคารที่ 27 พฤษภาคม 2568

ฤกษ์ออกรถ 2568 พฤษภาคม

ฤกษ์ออกรถ 2568 มิถุนายน

ในเดือนมิถุนายน ปี 2568 มีฤกษ์ดีออกรถหลายวัน แนะนำให้รับรถตามวันต่อไปนี้

  • วันอาทิตย์ที่ 1 มิถุนายน 2568
  • วันจันทร์ที่ 2 มิถุนายน 2568
  • วันอังคารที่ 3 มิถุนายน 2568
  • วันเสาร์ที่ 7 มิถุนายน 2568
  • วันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน 2568
  • วันเสาร์ที่ 14 มิถุนายน 2568
  • วันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน 2568
  • วันจันทร์ที่ 16 มิถุนายน 2568
  • วันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายน 2568
  • วันเสาร์ที่ 21 มิถุนายน 2568
  • วันพฤหัสบดีที่ 26 มิถุนายน 2568
  • วันศุกร์ที่ 27 มิถุนายน 2568
  • วันเสาร์ที่ 28 มิถุนายน 2568

ฤกษ์ออกรถ 2568 มิถุนายน

ฤกษ์ออกรถ 2568 กรกฎาคม

ในเดือนกรกฎาคม ปี 2568 วันที่ควรออกรถมากที่สุดมีหลายวัน ได้แก่

  • วันอังคารที่ 1 กรกฎาคม 2568
  • วันพฤหัสบดีที่ 3 กรกฎาคม 2568
  • วันพุธที่ 9 กรกฎาคม 2568
  • วันพฤหัสบดีที่ 10 กรกฎาคม 2568
  • วันศุกร์ที่ 11 กรกฎาคม 2568
  • วันจันทร์ที่ 14 กรกฎาคม 2568
  • วันพุธที่ 16 กรกฎาคม 2568
  • วันจันทร์ที่ 21 กรกฎาคม 2568
  • วันอังคารที่ 22 กรกฎาคม 2568
  • วันพุธที่ 23 กรกฎาคม 2568
  • วันเสาร์ที่ 26 กรกฎาคม 2568
  • วันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม 2568

ฤกษ์ออกรถ 2568 กรกฎาคม

ฤกษ์ออกรถ 2568 สิงหาคม

ในเดือนสิงหาคม ปี 2568 มีวันที่ควรออกรถมากถึง 13 วัน ดังนี้

  • วันเสาร์ที่ 2 สิงหาคม 2568
  • วันอาทิตย์ที่ 3 สิงหาคม 2568
  • วันจันทร์ที่ 4 สิงหาคม 2568
  • วันศุกร์ที่ 8 สิงหาคม 2568
  • วันอาทิตย์ที่ 10 สิงหาคม 2568
  • วันศุกร์ที่ 15 สิงหาคม 2568
  • วันเสาร์ที่ 16 สิงหาคม 2568
  • วันอาทิตย์ที่ 17 สิงหาคม 2568
  • วันพุธที่ 20 สิงหาคม 2568
  • วันศุกร์ที่ 22 สิงหาคม 2568
  • วันพุธที่ 27 สิงหาคม 2568
  • วันพฤหัสบดีที่ 28 สิงหาคม 2568
  • วันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม 2568

ฤกษ์ออกรถ 2568 สิงหาคม

ฤกษ์ออกรถ 2568 กันยายน

เดือนกันยายน 2568 แนะนำให้ออกรถตามฤกษ์ดังต่อไปนี้

  • วันจันทร์ที่ 1 กันยายน 2568
  • วันพุธที่ 3 กันยายน 2568
  • วันอังคารที่ 9 กันยายน 2568
  • วันพุธที่ 10 กันยายน 2568
  • วันพฤหัสบดีที่ 11 กันยายน 2568
  • วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน 2568
  • วันอังคารที่ 16 กันยายน 2568
  • วันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน 2568
  • วันจันทร์ที่ 22 กันยายน 2568
  • วันอังคารที่ 23 กันยายน 2568
  • วันศุกร์ที่ 26 กันยายน 2568
  • วันอาทิตย์ที่ 28 กันยายน 2568

ฤกษ์ออกรถ 2568 กันยายน

ฤกษ์ออกรถ 2568 ตุลาคม

ในเดือนตุลาคม ปี 2568 มีฤกษ์ดีออกรถทั้งหมด 13 วัน ได้แก่

  • วันศุกร์ที่ 3 ตุลาคม 2568
  • วันเสาร์ที่ 4 ตุลาคม 2568
  • วันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม 2568
  • วันพฤหัสบดีที่ 9 ตุลาคม 2568
  • วันเสาร์ที่ 11 ตุลาคม 2568
  • วันพฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม 2568
  • วันศุกร์ที่ 17 ตุลาคม 2568
  • วันเสาร์ที่ 18 ตุลาคม 2568
  • วันอังคารที่ 21 ตุลาคม 2568
  • วันพฤหัสบดีที่ 23 ตุลาคม 2568
  • วันอังคารที่ 28 ตุลาคม 2568
  • วันพุธที่ 29 ตุลาคม 2568
  • วันพฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคม 2568

ฤกษ์ออกรถ 2568 ตุลาคม

ฤกษ์ออกรถ 2568 พฤศจิกายน

ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2568 วันที่แนะนำออกรถ คือ

  • วันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายน 2568
  • วันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน 2568
  • วันจันทร์ที่ 10 พฤศจิกายน 2568
  • วันอังคารที่ 11 พฤศจิกายน 2568
  • วันพุธที่ 12 พฤศจิกายน 2568
  • วันเสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2568
  • วันจันทร์ที่ 17 พฤศจิกายน 2568
  • วันเสาร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2568
  • วันอาทิตย์ที่ 23 พฤศจิกายน 2568
  • วันจันทร์ที่ 24 พฤศจิกายน 2568
  • วันพฤหัสบดีที่ 27 พฤศจิกายน 2568
  • วันเสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2568

ฤกษ์ออกรถ 2568 พฤศจิกายน

ฤกษ์ออกรถ 2568 ธันวาคม

ในเดือนธันวาคม ปี 2568 แนะนำให้ออกรถตามวันต่อไปนี้

  • วันพฤหัสบดีที่ 4 ธันวาคม 2568
  • วันศุกร์ที่ 5 ธันวาคม 2568
  • วันเสาร์ที่ 6 ธันวาคม 2568
  • วันพุธที่ 10 ธันวาคม 2568
  • วันศุกร์ที่ 12 ธันวาคม 2568
  • วันพุธที่ 17 ธันวาคม 2568
  • วันพฤหัสบดีที่ 18 ธันวาคม 2568
  • วันศุกร์ที่ 19 ธันวาคม 2568
  • วันจันทร์ที่ 22 ธันวาคม 2568
  • วันพุธที่ 24 ธันวาคม 2568
  • วันจันทร์ที่ 29 ธันวาคม 2568
  • วันอังคารที่ 30 ธันวาคม 2568
  • วันพุธที่ 31 ธันวาคม 2568

ฤกษ์ออกรถ 2568 ธันวาคม

ต้องการ ฤกษ์ออกรถ เฉพาะบุคคล ปรึกษาอาจารย์วิช ธรรมสถิตบุณณ์ ได้ที่

การมูเป็นเรื่องความเชื่อส่วนบุคคล ไม่ได้ผิดหรือถูก แต่สิ่งสำคัญคือการใช้สติและวิจารณญาณในการตัดสินใจ และไม่ควรหลงใหลจนเกินไป ควรใช้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตควบคู่ไปกับการพัฒนาตนเอง ถึงจะได้ผลดีที่สุด

รถมือสอง one2car

โหลดหรือยัง? แอป one2car - NEXT GEN! CAR APP

  • Smart Search: หารถง่าย ฟังก์ชันครบ ข้อมูลชัด!

  • Qualified Car: รถคุณภาพ ตรวจสภาพแล้ว พร้อมรายงานรถ

  • Most Trusted Seller: คัดผู้ขายให้แล้ว ไม่ต้องกลัวมิจฉาชีพ

  • Hot Deals: พบกับ Big Sale ลดแรงทุกเดือน!

  • My Garage: ระบบผู้จัดการส่วนตัวให้รถคุณ ทุกเรื่องรถ จบในที่เดียว

  • Car Tax Renawal: ต่อภาษีรถยนต์สะดวกกว่าที่เคย ไม่ต้องกลัวลืม

  • Car Price: อยากขายรถแต่ไม่รู้ราคา เช็กเลย! รู้ผลใน 1 นาที ต้องการขายก็ทำได้เลย

  • Car Financing: สินเชื่อรถมือสอง จัดไฟแนนซ์ง่ายกับ Partner ของเรา พร้อมข้อเสนอพิเศษ

  • Car Insurance: เปรียบเทียบเบี้ย ต่อประกันรถยนต์ พร้อมดีลสุดพิเศษจากบริษัทชั้นนำ

  • Extended Warranty: ประกันอะไหล่รถ หมดห่วงเรื่องอะไหล่รถมือสอง

  • one2car Story: คลิปรีวิวรถจากคนขาย คอนเทนต์เกี่ยวกับยานยนต์

Apple Store : https://bit.ly/o2c_apple_store

Google Play Store : https://bit.ly/o2c_Google_Play_Store

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง one2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com

7 รถเก๋งประหยัดน้ำมัน ราคาถูก 2025 ลองขับแล้ว คุ้มสมชื่อ!
ข่าวฟีเจอร์

7 รถเก๋งประหยัดน้ำมัน ราคาถูก 2025 ลองขับแล้ว คุ้มสมชื่อ!

เรื่องเด่น

รถเก๋งรุ่นไหนประหยัดน้ำมัน คุ้มราคา น่าใช้ในปี 2568

พูดถึงรถเก๋งประหยัดน้ำมัน หลายคนน่าจะนึกถึงรถเล็ก ไม่ก็ Eco car เพราะกลุ่มนี้มักเป็นรถประหยัดน้ำมันอยู่แล้ว และบางรุ่นยังจัดอยู่ในรถยนต์ราคาถูกด้วย แน่นอนว่ามีหลายแบรนด์ให้เลือก แต่จะเลือกรุ่นไหนดีนี่สิ คิดหนัก! one2car จึงรวบรวมรถเก๋งประหยัดน้ำมันรุ่นที่คุ้มค่าน่าใช้มาฝากทุกคนในบทความนี้

Toyota Yaris Ativ

  • Toyota Yaris Ativ อัตราสิ้นเปลือง: 23.3 กม./ลิตร

นี่คือ รถเก๋งประหยัดน้ำมัน ราคาถูก จากค่ายโตโยต้าที่เสียงตอบรับดีมากตอนเปิดตัว เพราะทำได้ดีตั้งแต่หน้าตายันราคา ออปชันที่ไม่คิดว่าจะให้..ก็ให้ ลบภาพจำ “โตโยต้าชอบกั๊กของ” ไปได้เลย ถ้าใครถามว่ารถเก๋งรุ่นไหนดี รุ่นที่เรานึกขึ้นได้แรก ๆ ก็เป็นรุ่นนี้แหละ

ทดลองขับจริง กดคันเร่งแบบไม่ประหยัด กินน้ำมันประมาณ 16 km/L ถ้าวิ่งแบบประหยัดได้ประมาณ 20 km/L ถือว่าไม่แย่เลยค่ะสำหรับรุ่นนี้

  • พละกำลัง: 94 แรงม้า แรงบิด 110 นิวตันเมตร

รถเก๋งประหยัดน้ำมัน ราคาถูก โตโยต้า ยาริส เอทีฟ

จุดเด่น

  • ราคาเข้าถึงง่าย แต่คุ้มค่าหลายด้าน

  • ออปชันและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกดีขึ้นเยอะ ไม่กั๊กแล้ว!

  • มีระบบควบคุมความเร็วแบบอัตโนมัติในความเร็วต่ำ รถกลุ่มเดียวกันไม่เคยมีมาก่อน

  • เก็บเสียงได้ดีมาก วิ่งเกิน 120 km/hr ถึงจะได้ยินเสียงเข้าห้องโดยสาร

  • ขับแล้วมั่นใจ เกาะถนนเยี่ยม ซับแรงกระแทกได้ดี

ราคา

  • Toyota Yaris Ativ Sport ราคา 549,000 บาท

  • Toyota Yaris Ativ Smart ราคา 594,000 บาท

  • Toyota Yaris Ativ Premium ราคา 669,000 บาท

  • Toyota Yaris Ativ NIGHTSHADE ราคา 699,000 บาท

  • Toyota Yaris Ativ Premium Luxury ราคา 699,000 บาท

ตัวท็อปมือสองราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 549,000 บาท ถูกกว่ามือหนึ่ง 150,000 บาท สนใจคลิกที่ Toyota Yaris Ativ มือสอง

อ่านเพิ่มเติม รีวิว Yaris Ativ มือสอง (ตัวใหม่) ซื้อตอนนี้จะคุ้มไหม

Honda City

  • Honda City 1.0 Turbo อัตราสิ้นเปลือง: 23.3 กม./ลิตร
  • Honda City 1.5 e:HEV อัตราสิ้นเปลือง: 27.8 กม./ลิตร

Honda City 1.0 มีเทอร์โบ แต่กลับเป็น รถเก๋งที่ประหยัดน้ำมัน ลองขับด้วยความเร็ว 100-110 km/hr กินน้ำมันประมาณ 17 km/L ถ้าใช้โหมด ECON น่าจะประหยัดขึ้นใกล้เคียงกับตัวเลขที่เคลมไว้

ส่วนรุ่นไฮบริด เราทดลองขับ City Hatchback e:HEV RS ใช้งานจริงได้ประมาณ 24 km/L ได้เท่านี้ถือว่าพอใจมาก ๆ ถ้าเป็นโฉมซีดานอาจจะได้มากกว่านี้นิดหน่อย เพราะรูปทรงเพรียวลมกว่าและเบากว่า

สำหรับซิตี้โฉมนี้ ยอมรับว่าตัวท็อปแพงกว่าคู่แข่ง แต่ยอดขายตัวท็อปกลับดีกว่ารุ่นย่อยอื่น ๆ เพราะหลายอย่างก็ดีเหนือคู่แข่งด้วย โดยเฉพาะเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ล้ำสมัย ให้เยอะแบบจุก ๆ

  • พละกำลัง City 1.0 Turbo: 122 แรงม้า แรงบิด 173 นิวตันเมตร
  • พละกำลัง City 1.5 e:HEV: 109 แรงม้า แรงบิด 253 นิวตันเมตร

รถเก๋งที่ประหยัดน้ำมัน ฮอนด้าซิตี้

จุดเด่น

  • เครื่องยนต์ 1.0 เล็กที่สุด แต่แรงสุดในกลุ่ม Eco Car

  • ดีไซน์ภายนอกและภายในลงตัวยิ่งขึ้น ฟังก์ชันและระบบดิจิทัลต่าง ๆ ใช้งานง่าย

  • รุ่นเครื่องยนต์ 1.0 ตอบสนองดีทั้งความเร็วต่ำและความเร็วสูง ฟีลเหมือนขับเครื่อง 1.8 การเร่งแซงดีกว่าเครื่อง 1.5 อย่างเห็นได้ชัด

  • ช่วงล่างที่เซ็ตมาใหม่ดีกว่าตัวเดิมมาก ๆ กระฉับกระเฉงขึ้น น้ำหนักพวงมาลัยดีมากกกก! เลี้ยวแล้วมั่นใจ

  • ของแต่งเพียบ! ตกแต่งง่าย

  • กว้างขวางและเงียบกว่ารุ่นเดิมมาก

ราคา

  • Honda City รุ่น S ราคา 599,000 บาท 

  • Honda City รุ่น V ราคา 629,000 บาท

  • Honda City รุ่น SV ราคา 679,000 บาท

  • Honda City รุ่น RS ราคา 749,000 บาท

  • Honda City รุ่น e:HEV SV ราคา 729,000 บาท

  • Honda City รุ่น e:HEV RS ราคา 799,000 บาท

ตอนนี้รุ่น 1.0 RS มือสอง ราคาอยู่ที่ 449,000 - 590,000 บาท ถูกกว่ามือหนึ่งประมาณ 159,000 - 300,000 บาท สนใจคลิกที่ Honda City มือสอง

อ่านเพิ่มเติม Mazda 2 กับ Honda city : อีโคคาร์ตัวแม่ ใครแน่กว่ากัน?

Mazda 2

  • Mazda 2 (เบนซิน 1.3 ลิตร) อัตราสิ้นเปลือง: 23.3 กม./ลิตร
  • Mazda 2 (ดีเซล 1.5 ลิตร) อัตราสิ้นเปลือง: 26.3 กม./ลิตร

มาสด้า 2 จัดว่าเป็น รถเก๋งประหยัดน้ำมันของแท้! ถ้าเครื่องเบนซินจะเน้นใช้งานทั่วไป ไม่แรงแต่ประหยัด วิ่งนอกเมืองแอบอืดนิด ๆ แต่อยู่เกณฑ์ที่รับได้ แซงได้แต่ต้องเผื่อเอาไว้หน่อย ส่วนเครื่องดีเซลได้ทั้งความแรงและประหยัดเลย

ที่น่าสนใจคือ เขาคว้ารางวัลสุดยอดสินค้าและบริการที่มีนวัตกรรมแห่งปี 2566 (Product Innovation Awards 2023) ด้วย

  • พละกำลัง Mazda 2 (เบนซิน 1.3 ลิตร): 93 แรงม้า แรงบิด 123 นิวตันเมตร
  • พละกำลัง Mazda 2(ดีเซล 1.5 ลิตร): 105 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตร

จุดเด่น

  • ดีไซน์โดดเด่น สปอร์ต ทันสมัย มีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร

  • มีระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง G-Vectoring Control Plus (GVC Plus) และระบบความปลอดภัย i-Activsense ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น

  • มีระบบช่วยประหยัดน้ำมัน i-STOP และประหยัดพลังงาน i-ELOOP ทุกรุ่นย่อย

  • มีนวัตกรรมเกียร์ SKYACTIV-Drive ที่ทำให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น แต่ขับแล้วยังสนุกสนานเร้าใจ ช่วยเพิ่มกำลังแรงบิดตั้งแต่รอบต่ำถึงปานกลาง ที่สำคัญ มาในราคาที่เหมาะสม

  • เงียบมาก! กระจกหน้ามีนวัตกรรมลดเสียงรบกวน ห้องโดยสารใช้วัสดุเก็บเสียง

  • ช่วงล่างโดดเด่น ควบคุมได้ดีทั้งความเร็วต่ำและความเร็วสูง ระบบเบรกเฉียบคม 

ราคา

  • Mazda 2 1.3 C (เบนซิน) ราคา 599,000 บาท

  • Mazda 2 1.3 S (เบนซิน) ราคา 680,000 บาท

  • Mazda 2 1.3 SP (เบนซิน) ราคา 730,000 บาท

  • Mazda 2 XD (ดีเซล) ราคา 720,000 บาท

  • Mazda 2 XDL (ดีเซล) ราคา 830,000 บาท

สำหรับมาสด้า 2 เล่นมือสองนี่ดีเลย ดีไซน์ยังสวยอยู่ ราคาก็ดีด้วย ตัวท็อปเบนซินรุ่น SP ปี 2020 เริ่ม 390,000 บาท ถูกกว่ามือหนึ่ง 340,000 บาท สำหรับเรามันเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าจริง ๆ ถ้าคุณสนใจมือสองเหมือนกัน คลิกที่ Mazda 2 มือสอง

อย่าเพิ่งเชื่อ ตามไปอ่านบทความนี้ดูก่อน >> 10 เหตุผลที่ควรซื้อมาสด้า 2 มือสอง Eco Car อันดับ 1 ในไทย

Nissan Almera

  • Nissan Almera อัตราสิ้นเปลือง: 23.3 กม./ลิตร

นี่คือ รถเก๋งที่ประหยัดทั้งน้ำมันและราคา เลยก็ว่าได้ ก่อนอื่นต้องขอชมว่าตัวใหม่ 2024 นี้ทำมาดี ตอบโจทย์คนยุคใหม่มากขึ้น ซึ่งเราเองก็ชอบอะไรหลาย ๆ อย่างในคันนี้ ไม่ว่าจะเป็นออปชัน อุปกรณ์อำนวยความสะดวก และระบบความปลอดภัยที่ใส่มาให้แบบจัดเต็ม เมื่อเราได้ทดลอง Nissan Almera 1.0 VL เพื่อดูอัตราสิ้นเปลืองเมื่อใช้งานจริง ก็พบว่า…

- ขับในเมือง รถไม่ติดมาก กินน้ำมันประมาณ 16 km/L โอเคเลยนะ

- ขับนอกเมือง ถนนโล่ง ๆ หน่อย กินน้ำมัน 22 km/L ใกล้เคียงกับที่เคลมไว้มาก

- ขับขึ้นเขา กินน้ำมันประมาณ 12 km/L ไม่แย่เลยสำหรับสภาพเส้นทางแบบนี้

  • พละกำลัง Nissan Almera: 100 แรงม้า แรงบิด 152 นิวตันเมตร

Nissan Almera 2024 รถเก๋งประหยัดน้ำมัน

จุดเด่น

  • อัตราเร่งแรงและรวดเร็วจากแรงบิดต่อเนื่อง

  • มีระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์อัตโนมัติเมื่อรถหยุดนิ่ง (Idling Stop) ช่วยประหยัดน้ำมันมากขึ้น

  • เครื่องยนต์เทอร์โบ 1.0 ลิตร มีเทคโนโลยีเคลือบบนกระบอกสูบแบบ Mirror Bore Coating แบบเดียวกับนิสสัน จีที-อาร์ ช่วยเพิ่มความทนทาน ลดการสึกหรอและน้ำหนักของกระบอกสูบ ระบายความร้อนและการเผาไหม้ได้ดีขึ้น

  • มีระบบส่งกำลังแบบ XTRONIC CVT พร้อม D-Step Logic ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์นุ่มนวล แต่ให้อัตราเร่งต่อเนื่อง ทันใจ

  • พื้นที่ใช้สอยสำหรับผู้โดยสารและพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังกว้างขวาง นั่งสบาย

ราคา

  • Nissan Almera 1.0L Turbo E CVT ราคา 549,000 บาท

  • Nissan Almera 1.0L Turbo EL CVT ราคา 589,000 บาท

  • Nissan Almera 1.0L Turbo V CVT ราคา 669,000 บาท

  • Nissan Almera 1.0L Turbo VL CVT ราคา 699,000 บาท

สำหรับ Nissan Almera ด้วยความที่เป็นแบรนด์รองทำให้ราคาตกมากกว่าคู่แข่ง ถ้าซื้อไปใช้งานมันคุ้มมาก แต่ถ้ากะขายต่อ ราคามันไม่ดีเท่าเพื่อน ๆ เขา แม้ว่าจะปรับตัวให้บางอย่างเหนือกว่าแล้วก็ตาม ตัวท็อป VL 2020 ราคาเริ่มที่ 320,000 บาทเอง หายจากมือหนึ่งมากกว่าครึ่งต่อครึ่ง เอาเป็นว่าถ้าใครสนใจ เข้าไปดูรถได้ที่ Nissan Almera มือสอง  

อ่านเพิ่มเติม เหตุผลที่ควรซื้อ นิสสัน อัลเมร่า มือสอง “รถดีที่ถูกลืม”

MG 5

  • MG5 อัตราสิ้นเปลือง: 17.9 กม./ลิตร

สำหรับใครที่ชอบรถเก๋งดีไซน์สปอร์ต ทรงคูเป้ ออปชันฉ่ำ ๆ ประหยัดน้ำมันพอได้ เรามองว่า MG5 ตอบโจทย์นะ มันอาจจะไม่ได้ประหยัดเท่าอีโคคาร์ แต่ก็ถือว่าโอเคในระดับหนึ่ง ควรกรอคันเร่งไปเรื่อย ๆ ช่วยเซฟน้ำมันมากขึ้น เมื่อเทียบกับราคา ความหรูหรา และหลายอย่างที่ให้มาคือเกินคุ้ม! พูดง่าย ๆ คือขนาดเท่า C-Segment แต่ราคา B-Segment

- เรื่องอัตราสิ้นเปลือง วิ่งช่วงรถติดมาก ๆ เราได้ 11-12 km/L

- วิ่งถนนโล่ง ๆ ออกต่างจังหวัด ได้ประมาณ 15-16 km/L แต่นั่งเต็มรถนะ ผู้โดยสาร 5 คน ของเต็มหลังรถด้วย อาจไม่ได้ประหยัดมากก็จริง แต่ไม่ได้ซดดุจนรับไม่ไหว

  • พละกำลัง: 114 แรงม้า แรงบิด 150 นิวตันเมตร

จุดเด่น

  • ออปชันแน่นมากกก มีซันรูฟที่รถกลุ่มเดียวกันไม่มี

  • ภายในหรูหราหมาเห่าเวอร์ เทียบกับคู่แข่งคือทำออกมาได้เด่นเหนือใครจริง ๆ

  • ช่วงออกตัวอาจจะช้าหน่อย แต่ถ้าเดินคันเร่งอย่างต่อเนื่อง เครื่องยนต์ทำงานได้ดีมาก เกียร์ CVT ทำงานได้ราบเรียบ เหมาะกับการขับขี่แบบไม่เร่งรีบ

  • ช่วงล่างดีมาก ๆ เกาะถนนเริ่ด! แต่ก็ยังนุ่มนวล ขับสนุก เก็บเสียงได้โอเคเลย

  • ราคาถูก (ไม่เกรงใจเพื่อนเลยคุณพี่) งบ 7 แสน ก็มีตัวจบได้!

ราคา

  • MG5 2024 รุ่น 10TH SE ราคา 589,900 บาท

  • MG5 2024 รุ่น PRO D ราคา 629,900 บาท

  • MG5 2024 รุ่น PRO X ราคา 669,900 บาท

สำหรับราคา MG5 มือสอง ตอนนี้ราคาเฉลี่ยของตัวท็อปอยู่ที่ 370,000-410,000 บาท ถูกกว่ามือหนึ่งราว ๆ 3 แสนเลย มันคุ้มนะถ้าซื้อไปใช้ เพราะปรับแค่ดีไซน์ใหม่ เครื่องยนต์เหมือนเดิมเลย ใครสนใจคลิกที่ MG5 มือสอง

MG3 HYBRID+

  • อัตราสิ้นเปลือง MG3 HYBRID+: 26.2 กม./ลิตร

รถเก๋ง 5 ประตูที่โดดเด่นเรื่องประหยัดน้ำมันในตอนนี้ เห็นทีคงเป็น MG3 HYBRID+ บอกเลยว่าคันนี้ “แรง + ประหยัด ในคันเดียว” ทุกอย่างสร้างใหม่หมด ลืมภาพ MG3 เก่ากับเครื่องไฮบริดเก่าของ MG ไปได้เลย แถมราคาถูกเมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้ ทั้งออปชัน อุปกรณ์ภายใน และระบบความปลอดภัย ใส่มาแน่นเอี้ยด! คุ้มสุด ๆ

  • พละกำลังเครื่องยนต์ + แบตเตอรี: 194 แรงม้า

รถเก๋ง 5 ประตูประหยัดน้ำมัน

จุดเด่น

  • กว้างที่สุดในคลาสเดียวกัน

  • แรงที่สุดในกลุ่ม B-Segment

  • การออกแบบภายในและวัสดุที่ใช้ดูดีมีราคา

  • ช่วงล่างปรับมาดีมาก นุ่มนวลแต่ไม่นิ่มไป เกาะถนนดี

  • ระบบช่วยเหลือการขับขี่ให้มาแบบจัดเต็ม

ราคา

  • MG3 HYBRID+ รุ่น D ราคา 579,000 บาท

  • MG3 HYBRID+ รุ่น X ราคา 619,900 บาท

Mitsubishi Attrage

  • Mitsubishi Attrage อัตราสิ้นเปลือง: 23.3 กม./ลิตร

รถเก๋งรุ่นไหนประหยัดน้ำมันที่สุด นึกถึงใครไม่ได้นอกจากน้องแอททราจ ตัวเล็ก! พละกำลังค่อนข้างดี ราคาไม่แรง ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันมาก ๆ แรงม้าไม่ต้องหวือหวา แต่เรื่องการประหยัดต้องยกให้เขา อึกนิดจะประหยัดเท่ากับขี่มอเตอร์ไซค์ละ

  • พละกำลัง Mitsubishi Attrage: 78 แรงม้า แรงบิด 100 นิวตันเมตร

จุดเด่น

  • ราคาจับต้องง่ายมาก ๆ ตัวท็อปไม่ถึง 6 แสน

  • ดีไซน์ทันสมัย ออปชันเยอะ ถือว่าสมราคา

  • ระบบความปลอดภัยไม่ได้มีแค่พื้นฐาน แต่ใส่ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (ที่ความเร็วต่ำ) ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะเมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็วมาให้ด้วย ราคาน่ารักแต่ไม่กั๊กนะเธอ…

  • มีระบบวาล์วแฝรผันด้านไอดี MIVEC ทำให้แรงบิดดีขึ้นในรอบต่ำ อัตราเร่งดีขึ้น ประหยัดน้ำมัน และลดมลพิษ

  • รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 4.8 เมตร คล่องตัวสูง

  • ค่าบำรุงรักษาถูก อะไหล่หาง่าย

  • พื้นที่ภายในกว้างขวาง ไม่ได้เล็กอย่างที่คิด

ราคา

  • Mitsubishi Attrage รุ่น ACTIVE ราคา 529,000 บาท

  • Mitsubishi Attrage รุ่น SMART ราคา 584,000 บาท

ใครมองหารถเก๋งประหยัดน้ำมัน มือสอง ราคาถูก อย่าพลาดน้องคนนี้ พูดอย่างไม่อายคือราคามันตกกว่ารุ่นอื่นจริง ๆ นั่นแหละ แต่ไม่ได้หมายความว่ารถไม่ดีน้าาา เอาเป็นว่าใครมีงบ 200,000 ขึ้นไป จัดตัวท็อปได้ชิล ๆ อยากดูรถคลิกที่ Attrage มือสอง

อ่านเพิ่มเติม เหตุผลที่ไม่ควรมองข้าม Mitsubishi Attrage มือสอง

รถมือสอง one2car

โหลดหรือยัง? แอป one2car - NEXT GEN! CAR APP

  • Smart Search: หารถง่าย ฟังก์ชันครบ ข้อมูลชัด!

  • Qualified Car: รถคุณภาพ ตรวจสภาพแล้ว พร้อมรายงานรถ

  • Most Trusted Seller: คัดผู้ขายให้แล้ว ไม่ต้องกลัวมิจฉาชีพ

  • Hot Deals: พบกับ Big Sale ลดแรงทุกเดือน!

  • My Garage: ระบบผู้จัดการส่วนตัวให้รถคุณ ทุกเรื่องรถ จบในที่เดียว

  • Car Tax Renawal: ต่อภาษีรถยนต์สะดวกกว่าที่เคย ไม่ต้องกลัวลืม

  • Car Price: อยากขายรถแต่ไม่รู้ราคา เช็กเลย! รู้ผลใน 1 นาที ต้องการขายก็ทำได้เลย

  • Car Financing: สินเชื่อรถมือสอง จัดไฟแนนซ์ง่ายกับ Partner ของเรา พร้อมข้อเสนอพิเศษ

  • Car Insurance: เปรียบเทียบเบี้ย ต่อประกันรถยนต์ พร้อมดีลสุดพิเศษจากบริษัทชั้นนำ

  • Extended Warranty: ประกันอะไหล่รถ หมดห่วงเรื่องอะไหล่รถมือสอง

  • one2car Story: คลิปรีวิวรถจากคนขาย คอนเทนต์เกี่ยวกับยานยนต์

Apple Store : https://bit.ly/o2c_apple_store

Google Play Store : https://bit.ly/o2c_Google_Play_Store

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง one2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com

Altis กับ Camry มือสอง คันไหนตอบโจทย์คุณมากกว่า
ข่าวฟีเจอร์

Altis กับ Camry มือสอง คันไหนตอบโจทย์คุณมากกว่า

เรื่องเด่น

Altis กับ Camry มือสอง คู่นี้เลือกไม่ยาก แต่ถ้าให้เลือกแค่คันเดียว จะเลือกคันไหนให้มันตอบโจทย์เราที่สุดล่ะ มาดูไปพร้อมๆ กันครับ


Altis กับ Camry มือสอง คันไหนตอบโจทย์คุณมากกว่า

Altis กับ Camry คือรถยนต์ประเภทไหน?

สำหรับ Altis หรือ Toyota Corolla Altis จะเป็นรถ Sedan C-Segment ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับ Honda Civic และ Mazda 3 Sedan เรียกได้ว่าเป็นรถเก๋ง 4 ประตูขนาดกลางนั่นเอง แต่ Camry จะเป็นรถ Sedan ไซซ์ใหญ่ขึ้นมาอีก 

สำหรับ Toyota Camry จะมีพิกัดเป็นรถ Sedan D-Segment จัดยู่ในกลุ่มเดียวกับ Honda Accord และในอดีตกลุ่มนี้จะมี Nissan Teana อยู่ด้วย ซึ่งกลุ่มนี้จะเป็นเก๋งไซซ์ใหญ่ระดับผู้บริหาร มาดูกันว่าขนาดตัวรถต่างกันมากไหม

Altis กับ Camry มือสอง คันไหนตอบโจทย์คุณมากกว่า

มิติตัวถังของ Altis และ Camry

ในบทความนี้เราพูดถึง Toyota Camry และ Toyota Altis มือสอง เพราะฉะนั้นเราจะต้องอ้างอิงข้อมูลทุกอย่างจาก Toyota Camry ปี 18-24 และ Toyota Corolla Altis ปี 19-24 ซึ่งทั้งสองรุ่นจะมีมิติตัวถังดังนี้

มิติตัวถัง (มม.)

Toyota Corolla Altis

Toyota Camry

ยาว

4,630

4,885

กว้าง

1,780

1,840

สูง

1,435

1,445

ฐานล้อ

2,700

2,825

แน่นอนว่าเมื่อ Camry เป็นรถ D-Segment ก็ต้องใหญ่โตโอ่อ่ากว่าอยู่แล้ว โดย Camry จะยาวกว่า 255 มม. กว้างกว่า 60 มม. สูงกว่า 10 มม. ฐานล้อมากกว่า 125 มม. ระยะต่างๆ ที่มากกว่าพอสมควรทำให้ Camry นั้นขับดีกว่าและนั่งสบายกว่านั่นเอง

Altis VS Camry ใครขับดีกว่ากัน

Altis VS Camry ใครขับดีกว่ากัน

สิ่งแรกที่ส่งผลต่อการขับขี่และความรู้สึกของผู้โดยสารโดยตรงก็คงต้องพูดถึงเรื่องของช่วงล่างและแพลทฟอร์มตัวถังของทั้งสองรุ่นกันก่อน

แพลทฟอร์มนั้นใช้เป็น TNGA กันทั้งคู่ เป็นแพลทฟอร์มตัวถังที่มีความแข็งแรง จุดศูนย์ถ่วงต่ำทำให้มีความมั่นคงเวลาใช้ความเร็วสูง และทุกๆ คนต่างบอกว่ามันขับขี่ดี แต่สิ่งที่แตกต่างกันคือการปรับเซ็ทช่วงล่างถึงแม้ว่าจะเหมือนกันก็ตาม

รุ่นรถยนต์

Toyota Corolla Altis

Toyota Camry

ช่วงล่างด้านหน้า

MacPherson Struts

MacPherson Struts

ช่วงล่างด้านหลัง

Double Wishbone

Double Wishbone

โครงสร้างตัวถัง

TNGA

TNGA

Altis VS Camry ใครขับดีกว่ากัน

ถึงแม้ว่าช่วงล่างจะเป็นแบบอิสระเหมือนกันเป๊ะ แต่เชื่อไหมว่าการปรับเซ็ทมันทำให้ความรู้สึกที่ได้แตกต่างกัน ซึ่งเอาเข้าจริงถามว่าต่างกันชัดเจนไหม ก็ไม่ได้ขนาดนั้น แต่ด้วยความที่ตัวถัง Camry ใหญ่กว่ามันเลยทำให้เซ็ทช่วงล่างได้เกาะถนนมากกว่า ขับแล้วนุ่มนวลมากกว่า ขับได้แบบเพลินๆ สบายๆ

ในส่วนของ Corolla Altis ถามว่าด้อยไปกว่า Camry ไหมเรื่องช่วงล่างก็ไม่ได้ด้อยกว่า มีความนุ่มเหมือนกันแต่ Altis จะออกไปทางนุ่มหนึบ แต่มีอาการเด้งดึ๋งๆ มากกว่าถ้าวิ่งบนถนนที่ไม่เรียบ ใครเคยนั่ง Taxi จะรู้ได้เลย แต่ถ้าทางเรียบ Altis ขับดีเกือบเท่า Camry ถ้าทางไม่เรียบ Camry กินขาดอยู่แล้ว

เครื่องยนต์ของ Altis และ Camry 

เครื่องยนต์ของ Altis และ Camry

เครื่องยนต์ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่จะทำให้เราสัมผัสได้ถึงความแตกต่างของแต่ละรุ่นและประสบการณ์การขับขี่ที่เราจะได้จากรถ ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อเป็นรถยนต์คนละ Segment ตัวเครื่องยนต์ที่ทาง Toyota เลือกใช้ในแต่ละรุ่นก็จะมีขนาดความจุที่แตกต่างกันด้วย มาดูกัน

เครื่องยนต์ Toyota Corolla Altis

เครื่องยนต์ Toyota Corolla Altis

สำหรับเครื่องยนต์ของ Toyota Corolla Altis จะแบ่งออกเป็น 3 แบบ คือ 1.6 ลิตร 1.8 ลิตร และ 1.8 ลิตร Hybrid ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร 4 สูบ รหัส 1ZR-FBE ขนาด 1.6 ลิตร Dual VVT-i กำลังสูงสุด 125 แรงม้า ที่ 6,050 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 156 นิวตันเมตร ที่ 5,200 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i ทำงานคู่กับระบบ G AI Shift Control พร้อม Sequential Shift โหมด +/- ล็อคอัตราทด 7 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า

เครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร 4 สูบ รหัส 2ZR-FBE ขนาด 1.8 ลิตร Dual VVT-i กำลังสูงสุด 140 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 177 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i ทำงานคู่กับระบบ G AI Shift Control พร้อม Sequential Shift โหมด +/- ล็อคอัตราทด 7 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า

เครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร Hybrid 4 สูบ รหัส 2ZR-FXE Atkinson cycle VVT-i ให้กำลังสูงสุด 98 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 142 นิวตันเมตร ที่ 3,600 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor แรงดันไฟฟ้า 600 โวลต์ ให้กำลังสูงสุด 72 แรงม้า แรงบิด 163 นิวตันเมตร

แบตเตอรี่แบบ Nickel metal Hydride (Ni-MH) แรงดันไฟฟ้า 201.6 โวลต์ 28 Modules 6.5 Ah รวมพละกำลังจากทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าให้ กำลังสูงสุด 122 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ แบบ E-CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า ความจุถังน้ำมัน 43 ลิตร

เครื่องยนต์ Toyota Camry

เครื่องยนต์ Toyota Camry

สำหรับ Toyota Camry ใน Gen 8 จะแบ่งเครื่องยนต์ออกเป็น 3 แบบ คือ 2.0 ลิตร 2.5 ลิตร และ 2.5 Hybrid ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

เครื่องยนต์เบนซิน  4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร รหัส 6AR-FSE VVT-iw & D-4S กำลังสูงสุด 169 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 199 นิวตันเมตร ที่ 4,600 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ

เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร รหัส A25A-FKS VVT-ie ให้กำลังสูงสุด 208 แรงม้า ที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 252 นิวตันเมตร ที่ 5,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ

เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร Hybrid รหัส A25A-FXS ให้กำลังสูงสุด 178 แรงม้า ที่ 5,700 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 221 นิวตันเมตร ที่ 3,600 – 5,200 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 120 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 202 นิวตันเมตร

เมื่อเครื่องยนต์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า จะได้พละกำลังสูงสุดรวม 211 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ E-CVT แบตเตอรี่แบบ Nickel metal Hydride (Ni-MH)

Altis VS Camry ใครขับดีกว่ากัน?

Altis VS Camry ใครขับดีกว่ากัน?

เครื่องยนต์ของ Toyota ทุกเครื่องให้ความรู้สึกที่คล้ายคลึงกันคือจะไม่ได้มีความหวือหวาอะไร แต่จะให้พละกำลังที่ต่อเนื่องในการขับขี่ที่ค่อนข้างดีเยี่ยม จะตื้อหรือพุ่งกว่ากันมากน้อยเพียงใดก็ขึ้นอยู่กับขนาดเครื่องยนต์และระบบ Hybrid ที่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

ในส่วนของ Altis เครื่องยนต์ 1.6 ลิตรจะได้ความพุ่งที่มากกว่าในช่วงต้น แต่ถามว่าพุ่งขนาดนั้นไหม ก็ไม่ได้ขนาดนั้นเรียกได้ว่าช่วงต้นและกลางขับได้ดี เหมาะกับการเป็นรถยนต์ที่ใช้ขับขี่ในเมือง ส่วนเครื่องยนต์ 1.8 จะตื้อต้นนิดหน่อยแต่ได้กำลังในช่วงกลางที่ดีกว่าซึ่งจะเหมาะกับการขับทางไกลมากขึ้นด้วย

ในส่วนเครื่องยนต์ Hybrid 1.8 ลิตร ใน Altis ไม่เน้นแรงแม้มีมอเตอร์ไฟฟ้าเข้ามาช่วยเหลือแล้ว แต่ถามว่ามีความตื้อไหมก็ไม่ได้มี คือเป็นฟิลลิ่งที่เน้นการขับขี่แบบต่อเนื่องและประหยัดน้ำมันมากกว่า อารมณ์จะคล้ายเครื่อง 1.8 ลิตร แต่ต้นจะดีพอๆ กับเครื่อง 1.6 ลิตร เหมาะกับขับทั้งในและนอกเมือง

Altis VS Camry ใครขับดีกว่ากัน?

ส่วน Toyota Camry แน่นอนว่าได้เครื่องยนต์บล็อกใหญ่กว่าทั้ง 2.0 และ 2.5 ลิตร พละกำลังต้องมากกว่าอยู่แล้ว แต่ด้วยเอกลักษณ์ของเครื่องบล็อกใหญ่ มันก็ทำให้ต้นตื้อต้น แต่กำลังจะมาดีในช่วงกลางจนถึงปลาย เร่งแซงแบบนวลๆ เท้า ฟิลลิ่งต่อเนื่องนุ่มสบาย เหยียบติดเท้าดีในช่วงกลาง แต่ตัวเครื่อง 2.5 ลิตร กำลังจะดีกว่ามาก และไหลดีกว่าตอนขับทางไกล

ส่วนตัวเครื่อง 2.5 Hybrid ของ Camry อันนี้ต้องบอกว่าดี เป็นเครื่องยนต์ที่นุ่มนวล เนียนเท้า ขับเพลินมากๆ ด้วยความที่มีมอเตอร์ไฟฟ้ามาช่วยก็ทำให้กลบความตื้อช่วงต้นได้ดี ทำให้การขับขี่มันต่อเนื่องและได้ความนุ่มนวลจากช่วงล่างที่ดี เร่งแซงดีติดเท้าตั้งแต่ช่วงต้นๆ แต่กดหนักหน่อยนะ ช่วงปลายจะขับค่อนข้างติดเท้า

ถามว่าใครดีกว่ากันมันก็ชัดอยู่แล้วว่า Camry ต้องขับดีกว่า Altis แต่มันก็ขึ้นอยู่กันว่าคุณต้องการรถเอาไว้ขับขี่แบบไหนด้วยนะ ความเป็นรถ D-Segment ของ Camry สบายกว่าแต่มันอาจเทอะทะเกินไป Altis อาจจะตอบโจทย์คุณมากกว่าก็ได้ แต่ถ้าชอบความนุ่มเนียนๆ แบบ Camry แต่ไม่ได้ต้องการกำลัง คุณก็อาจเลือก Altis HEV แล้วไปใส่โช๊คดีๆ สักชุดมันก็ได้เหมือนกัน ผมว่าเรื่องนี้ขึ้นอยู่ที่คนชอบเลย

Altis VS Camry มือสอง ใครราคาดีกว่า

Altis VS Camry มือสอง ใครราคาดีกว่า

เมื่อเป็นรถยนต์คนละ Segment แน่นอนว่าราคาคงต้องต่างกันอยู่แล้วแม้จะเป็นมือสอง แต่ถ้าพูดถึงเรื่องราคาที่แข็งโป๊ก Toyota Camry จะราคาแข็งกว่ามาก จะมีความได้เปรียบเรื่องการซื้อมาขายไปมากกว่า Altis แต่คนซื้อมือสอง Altis จะซื้อแล้วคุ้มกว่าเพราะราคาเข้าถึงง่าย มาดูราคามือสองของแต่ละรุ่นกันดีกว่า

Toyota Corolla Altis มือสอง ราคา

Toyota Corolla Altis มือสอง ราคา

Toyota Camry มือสอง ราคา

Toyota Camry มือสอง ราคา

Altis มือสอง และ Camry มือสอง เลือกคันไหนดี

Altis มือสอง และ Camry มือสอง เลือกคันไหนดี

ต้องบอกก่อนว่าในส่วนของออปชันและความรู้สึกในการนั่งโดยสาร ในบทความนี้เราอาจไม่ได้เทียบกันให้ดูมากนัก เนื่องจากว่า Camry และ Altis เป็นรถยนต์คนละ Segment และเจาะกลุ่มลูกค้าคนละแบบ ออปชั่นที่ให้มามันเลยแตกต่างกันตาม Segment

ถ้าพูดถึงออปชั่นยังไง Camry มือสองก็โดดเด่นกว่าอยู่แล้ว และเมื่อพูดถึงความสบาย Camry ก็ย่อมสบายมากกว่าอยู่ดี ถ้าเทียบกันไปเยอะคงจะบูลี่ Altis ไปหน่อย แต่ก็ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าการออกแบบภายในของ Toyota Corolla Altis ก็ไม่ได้แย่นะ

Altis มือสอง และ Camry มือสอง เลือกคันไหนดี

โดยรวมของ Altis ถือว่าออกแบบมาให้มีความโปร่งโล่งสบาย นั่งโดยสารสบายไม่แพ้ Toyota Camry เพียงแต่ขนาดห้องโดยสารจะเล็กกว่า และออปชั่นไม่เยอะเท่า Camry แต่มีให้ใช้งานอย่างเพียงพอตามสไตล์รถ C-Segment หรือรถเก๋งขนาดกลาง

ส่วนเรื่องภาพลักษณ์ถ้าใครไม่ติดว่า Altis เป็นรถ Taxi ซะเยอะ ผมว่ามันก็โอเค คือดีไซน์มีกลิ่นอายความสปอร์ตมากกว่า Camry ดูเหมาะกับวัยรุ่นมากกว่า ส่วน Camry จะให้ความรู้สึกว่าเป็นผู้ใหญ่ จริงๆ ก็ดูแก่นั่นแหละ แต่ภาพลักษณ์เขาเป็นรถผู้บริหารไงก็เลยดูดี

สรุปแล้วทั้ง Altis และ Camry ไม่ได้มีใครดีใครด้อยไปกว่าใครนัก เพียงแต่รายละเอียดต่างๆ และเรื่องออปชั่นต่างๆ ที่ดูว่าดีด้อยต่างกัน มันคือสิ่งที่รถยนต์ C-Segment และ รถยนต์ D-Segment ควรจะเป็น และมันขึ้นอยู่กับว่าเราต้องการรถยนต์ไปใช้งานแบบไหนและมีงบแค่ไหนเท่านั้นเอง

ใครที่งบน้อย ไม่ต้องการรถที่ออปชั่นเยอะแต่ขับได้ดีและนุ่มนวลไม่แพ้กัน ออปชั่นมีเพียงพอต่อการใช้งาน ใช้งานในเมืองเป็นหลักและใช้งานนอกเมืองได้ด้วย ผมว่า Toyota Corolla Altis มือสอง ไม่ใช่ตัวเลือกที่แย่ คล่องตัวกว่า และมันจะเป็นตัวเลือกที่ดีมากสำหรับนักศึกษาจบใหม่และวัยรุ่นวัยทำงานที่ต้องการรถใช้งานจริงๆ

Altis มือสอง และ Camry มือสอง เลือกคันไหนดี

ส่วนใครที่มีงบเยอะขึ้นมาหน่อยอยากจะกระโดดข้ามขั้นมา Toyota Camry มือสอง ก็เป็นอีกทางเลือกที่ดีในการใช้งาน เพราะออปชั่นค่อนข้างเยอะ ขับดีนั่งโดยสารสบาย ครอบคลุมทั้งในเมืองและนอกเมือง แต่ก็นะ Camry มือสองสองปีใหม่ๆ ราคาก็ยังแรงจะเท่ามือหนึ่งอยู่เลย

แต่ถ้าบอกว่าจะข้ามจาก Altis รุ่นสูงๆ หรือเพิ่มเงินมา Camry ในงบเท่ากันหรือมากกว่านิดหน่อยก็จะได้ Camry ตัวเริ่มต้น แนะนำเพิ่มเงินเอาตัวรองท็อปไปเลยจะดีกว่า แต่ก็อย่างว่าข้ามมาอีก Segment จะเสียอย่างตรงที่รถมันใหญ่ บางคนอาจไม่ชอบ Camry มันเลยเหมาะกับกลุ่มคนวัยทำงานและคนที่มีครอบครัวแล้วมากกว่าครับ

ทั้งนี้แล้วผมก็ยังย้ำเหมือนเดิมว่า จะเลือกคันไหนก็ดีหมด ถ้ามันคือรถที่คุณชอบและพอใจกับมัน แค่นี้เราก็ขับรถได้อย่างมีความสุขแล้ว สำหรับใครที่อยากอ่านรายละเอียดสเปคและออปชันของ Altis และ Camry เพิ่มเติมเพื่อประกอบการตัดสินใจ สามารถอ่านบทความจากพี่ๆ Autospinn ได้ที่ด้านล่างนี้ครับ

รถมือสอง one2car

โหลดหรือยัง? แอป one2car - NEXT GEN! CAR APP

  • Smart Search: หารถง่าย ฟังก์ชันครบ ข้อมูลชัด!
  • Qualified Car: รถคุณภาพ ตรวจสภาพแล้ว พร้อมรายงานรถ
  • Most Trusted Seller: คัดผู้ขายให้แล้ว ไม่ต้องกลัวมิจฉาชีพ
  • Hot Deals: พบกับ Big Sale ลดแรงทุกเดือน!
  • My Garage: ระบบผู้จัดการส่วนตัวให้รถคุณ ทุกเรื่องรถ จบในที่เดียว
  • Car Tax Renawal: ต่อภาษีรถยนต์สะดวกกว่าที่เคย ไม่ต้องกลัวลืม
  • Car Price: อยากขายรถแต่ไม่รู้ราคา เช็กเลย! รู้ผลใน 1 นาที ต้องการขายก็ทำได้เลย
  • Car Financing: สินเชื่อรถมือสอง จัดไฟแนนซ์ง่ายกับ Partner ของเรา พร้อมข้อเสนอพิเศษ
  • Car Insurance: เปรียบเทียบเบี้ย ต่อประกันรถยนต์ พร้อมดีลสุดพิเศษจากบริษัทชั้นนำ
  • Extended Warranty: ประกันอะไหล่รถ หมดห่วงเรื่องอะไหล่รถมือสอง
  • one2car Story: คลิปรีวิวรถจากคนขาย คอนเทนต์เกี่ยวกับยานยนต์

Apple Store : https://bit.ly/o2c_apple_store

Google Play Store : https://bit.ly/o2c_Google_Play_Store

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง one2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com

M-Flow จ่ายเงิน ไม่ลงทะเบียน ทำยังไง? ต้องจ่ายภายในกี่วัน?
ข่าวฟีเจอร์

M-Flow จ่ายเงิน ไม่ลงทะเบียน ทำยังไง? ต้องจ่ายภายในกี่วัน?

เรื่องเด่น

ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบขับรถไปต่างจังหวัดแน่นอนว่าคุณต้องเคยเจอ หรือ เคยผ่านด่าน M Flow มาแล้วบ้าง แต่สำหรับใครที่เผลอขับเข้าไปใน M Flow โดยที่ไม่ได้ลงทะเบียนล่วงหน้า ไม่ต้องกังวลเลย คุณยังสามารถจ่ายค่าผ่านทางได้ง่ายๆ แต่ต้องจ่ายให้ตรงเวลาเพื่อหลีกเลี่ยงค่าปรับด้วยนะ

M-Flow คืออะไร และ ทำงานยังไง

M-Flow คือระบบเก็บค่าผ่านทางด่วนแบบใหม่ที่ไม่ต้องหยุดรถที่ด่าน เมื่อคุณขับรถผ่านด่านที่มีระบบ M-Flow ระบบจะใช้กล้องและเซ็นเซอร์จับภาพหมายเลขทะเบียนรถของคุณโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องหยุดรถ ไม่มีไม้กั้น ทำให้การขับผ่านด่านเร็วขึ้น ช่วยลดรถติดบริเวณด่านเพราะไม่ต้องจ่ายเงินสดหรือใช้ Easy Pass ระบบจะถ่ายภาพทะเบียนรถของคุณและเรียกเก็บเงินทีหลัง

วิธีจ่ายเงิน M-Flow โดยไม่ต้องลงทะเบียน

1. จ่ายผ่านเว็บไซต์ M-Flow

  • เข้าไปที่ https://mflowthai.com แล้วเลือกเมนู "ชำระค่าผ่านทาง" โดยไม่ต้องสมัครสมาชิกหรือเข้าสู่ระบบ
  • จากนั้นกรอกหมายเลขทะเบียนรถของคุณ ระบบจะค้นหาค่าผ่านทางที่คุณต้องจ่าย จากนั้นก็ชำระได้เลยง่ายๆ

2. จ่ายผ่านแอปพลิเคชั่น M-Flow

  • ดาวน์โหลดแอป M-Flow แล้วค้นหาค่าผ่านทางด้วยหมายเลขทะเบียนรถ ชำระผ่านแอปได้ทันที

3. ช่องทางอื่นๆ

  • หากสะดวกไป 7-Eleven คุณสามารถชำระค่าผ่านทางได้ที่เคาน์เตอร์เซอร์วิส หรือที่ตู้ ATM และธนาคารที่รองรับ M-Flow

จ่าย M-Flow ได้ภายในกี่วัน

ต้องชำระค่าผ่านทาง M-Flow ภายใน 48 ชั่วโมง หรือ 2 วัน หลังจากที่คุณผ่านด่านไปแล้ว หากเลยเวลาไปก็จะมีค่าปรับตามมานะ และถ้าปล่อยไว้นานอาจถึงขั้นต้องเจอขั้นตอนทางกฎหมายได้ ดังนั้นแนะนำว่าควรรีบเช็กและจ่ายให้ทันเวลา

สรุปง่ายๆก็คือ ถ้าไม่ได้ลงทะเบียน M Flow แต่ขับผ่านด่านแล้ว คุณยังสามารถจ่ายได้โดยวิธีที่ได้แจ้งในเบื้องต้น แต่ต้องจ่ายให้ทันใน 48 ชั่วโมงเพื่อหลีกเลี่ยงค่าปรับนะ

ยุคทองรถไฮบริดมือสอง เมื่อ EV ร่วง แต่ Hybrid กลับมาผงาด!
ข่าวฟีเจอร์

ยุคทองรถไฮบริดมือสอง เมื่อ EV ร่วง แต่ Hybrid กลับมาผงาด!

เรื่องเด่น

เซอร์ไพรส์! ปี 2024 ยอดขาย Hybrid แซงโค้ง EV อะไรคือสาเหตุ แล้วทำไม รถไฮบริดมือสอง เป็นที่ต้องการของตลาดมากขึ้น มาดูเหตุผลกันครับ

กระแสรถยนต์ Hybrid มาแรงแซง EV จริงไหม?

ยอดขายรถ Hybrid มาแรงแซงโค้ง EV จริงเหรอ?

ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์กันไว้ว่า แนวโน้มรถยนต์ไฟฟ้า ‘ยังไงก็รอด’ ปี 2567 ต้นทุนแบตถูกลง 50% แต่ถ้าคุณเสพข่าวยานยนต์ช่วงนี้หลายๆ สำนักมักจะบอกตรงกันว่ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้า หรือ รถ BEV ชะลอตัวลง ผู้คนให้ความสนใจกับรถ Hybrid กันมากขึ้น เนื่องด้วยปัจจัยด้านระยะทางและสงครามราคาที่ยืดเยื้อ

“Hybrids, yes. Electrics, maybe not.”

สำหรับในสหรัญอเมริกา เว็บไซต์ Autoblog เองก็ได้บอกว่าผลสำรวจผู้ใช้รถยนต์ในสหรัฐฯ ว่าในปัจจุบันคนอเมริกันส่วนใหญ่มั่นใจในรถ EV น้อยลง และเบนเข็มไปหารถ Hybrid กันมากขึ้น ไม่ใช่แค่เพียงสหรัฐฯ แต่ประเทศผู้ผลิตรถ EV รายใหญ่อย่างจีนก็เริ่มเบนเข็มไปหารถ Hybrid เช่นกัน

กระแสรถยนต์ Hybrid มาแรงแซง EV จริงไหม?

จีนเริ่มขยาดกับรถ EV แล้ว

ทาง NEWS1 ได้เผยแพร่ข่าวจาก South China Morning Post ว่าในประเทศจีนก็เริ่มขยาดกับรถ EV แล้วหันมาสนใจรถ Hybrid กันมากขึ้น เนื่องจากระยะทางต่อการชาร์จที่ทำได้น้อยและค่าบำรุงรักษาที่ค่อนข้างสูงในอนาคต และมีภาพข่าวรถยนต์ไฟฟ้าจอดดับกลางถนนหลายคันเนื่องจากไฟฟ้าหมดท่ามกลางหิมะในช่วงเทศกาลตรุษจีนด้วย ซึ่งเป็นภาพที่สะท้อนปัญหาของรถ EV ในช่วงเทศกาลได้อย่างดี

กระแสรถยนต์ Hybrid มาแรงแซง EV จริงไหม?

Hybrid VS EV ใครจะครองตลาดรถยนต์ไทย

ในประเทศไทยคนหันมาสนใจรถไฮบริด HEV และ PHEV มากขึ้นจริงหรือไม่ เรามีข้อมูลยืนยันได้จาก FTI Automotive Industry Club ที่เป็นการเปรียบเทียบยอดขายรถยนต์ระหว่างเดือน มกราคม-กรกฏาคม ในปี 2566 และ 2567 ครับ

จากข้อมูลด้านบนเราแบ่งออกเป็นรถยนต์ 4 ประเภท คือ

  1. รถยนต์นั่ง ICE คือ รถยนต์สันดาปภายใน
  2. รถยนต์นั่ง BEV คือรถยนต์ไฟฟ้า
  3. รถยนต์นั่ง PHEV คือรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด
  4. รถยนต์นั่ง HEV ก็คือรถยนต์ไฮบริด

มาลองดูในส่วนของรถ HEV PHEV และ BEV กันครับ

จากภาพเราจะเห็นว่ารถยนต์นั่ง BEV หรือรถยนต์ไฟฟ้า ยอดขายเดือน ม.ค. - ก.ค. ของปี 2566 ได้ไป 35,781 คัน

มาในปี 2567 มียอดขายที่ 40,343 คัน ก็ถือว่าเพิ่มขึ้นแต่ชะลอตัวมากถ้าเทียบกับปีสองปีก่อน ซึ่งในส่วนของรถ PHEV เองก็เหมือนจะลดลง จากปี 2566 ที่ขายได้ 1,454 คัน 2567 ได้เพียง 1,363 คัน ที่น่าสนใจก็คือรถ HEV หรือรถ Hybrid

จากยอดขายเดือน ม.ค. - ก.ค. ของปี 2566 และปี 2567 เราจะเห็นได้ว่ายอดจำหน่ายรถ Hybrid นั้นสูงขึ้นอย่างชัดเจนจากปี 2566 ยอดขายรถ HEV อยู่ที่ 45,862 คัน

แต่มาในปี 2567 ในช่วงเดียวกัน รถยนต์ Hybrid มียอดขายโตขึ้นอย่างน่าตกใจ อยู่ที่ 76,014 คัน ถือว่าเติมโตขึ้น 65.75% เลยทีเดียว

ข้อมูลส่วนนี้เป็นเครื่องยืนยันได้อย่างดีว่ารถ Hybrid นั้นได้รับความเชื่อมั่นและมัดใจคนทั่วโลกรวมถึงคนไทยได้มากกว่ารถยนต์ไฟฟ้าที่กระแสกำลังชะลอลง อีกข้อสังเกตคือเราก็จะเห็นได้ว่ารถยนต์รุ่นใหม่ๆ ทั้งค่ายจีนและค่ายญี่ปุ่นเริ่มจะเปิดตัวโดยการเน้นไปที่ขุมพลังแบบ HEV และ PHEV กันมากขึ้นแล้ว นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ยืนยันได้ว่ากระแสรถยนต์ Hybrid นั้นกำลังมา!

ที่น่าตกใจ คือ พอยอดขายรถไฮบริดสูงขึ้น รถไฮบริดมือสองก็ได้รับอานิสงส์ไปด้วย

ใครที่ยังลังเลว่า รถไฮบริด กับ รถยนต์ไฟฟ้า เวลานี้ควรเลือกอะไรดี เห็นแบบนี้ น่าจะมีคำตอบในใจแล้วใช่ไหมล่ะครับ

อ่านเพิ่มเติม : รู้หรือไม่? รถยนต์ไฟฟ้า ไม่ใช่ทางเลือกเดียวในการประหยัดน้ำมัน

รถ Hybrid มือสอง น่าซื้อหรือเปล่า?

เจาะลึกเหตุผลที่ทำให้รถ Hybrid มือสองเป็นที่ต้องการของตลาด

ถ้าเอาตามสถานการณ์ในปัจจุบันที่เศรษฐกิจไม่ค่อยดีนักและราคาพลังงานค่อนข้างแพง พูดตามตรงว่าถ้างบเราไม่สูงมาก รถยนต์ Hybrid มือสอง หรือ รถยนต์ Plug-in Hybrid มือสอง เป็นอะไรที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่อยากจะซื้อรถมาใช้งานในช่วงนี้มากเลยก็ว่าได้

นั่นเพราะว่ารายได้เข้ากระเป๋าเราก็จำเป็นต้องใช้จ่ายในชีวิตประจำวันให้เพียงพอ อีกทั้งราคาพลังงานก็ยังคงแพงอยู่ การเติมน้ำมันเต็มถัง 1 ครั้ง แล้ววิ่งได้ไกลจากกรุงเทพฯ ถึงเชียงใหม่ ก็เป็นเรื่องที่เรียกได้ว่าคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม ถ้าใช้ในชีวิตประจำวันเพียงอย่างเดียวก็ยิ่งประหยัดเข้าไปใหญ่ นี่คือสิ่งที่รถยนต์ HEV หรือ PHEV ให้ได้มากกว่ารถ EV หรือ รถ ICE

อีกอย่างคือมันจะช่วยเซฟค่าใช้จ่ายคุณได้มากกว่าเมื่อเราเลือกรถยนต์ Hybrid มือสอง หรือ รถยนต์ Plug-in Hybrid มือสอง เพราะได้รถใหม่ที่ราคาหายจากมือหนึ่งไปหลายแสน ประหยัดพลังงานได้ดี และที่สำคัญเลยก็คือนอกจากราคาจะต่ำกว่ามือหนึ่งแล้ว เรื่องการผ่อนก็มียอดน้อยกว่ามือหนึ่งด้วย สรุป หลักๆ เลย การที่รถ Hybrid มือสองเป็นที่ต้องการของตลาด มันคือเรื่องของความคุ้มค่าล้วนๆ

อ่านเพิ่มเติม รถไฮบริดมือสอง น่าใช้ไหม?

รถ Hybrid มือสอง น่าซื้อหรือเปล่า?

ปัจจัยที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อรถ Hybrid มือสอง

การซื้อรถยนต์ Hybrid มือสอง มีข้อควรระวังนอกเหนือจากสภาพรถโดยรวม นั่นก็คือ เรื่องของแบตเตอรี่รถยนต์ไฮบริดนั่นเอง เพราะโดยเฉลี่ยแล้วอายุการใช้ของแบตเตอรี่รถยนต์ไฮบริดจะอยู่ที่ประมาณ 80,000 – 150,000 กิโลเมตร หรือประมาณ 10 ปี (แล้วแต่ประเภทแบตฯ รุ่นรถ และขนาดแบตฯ)

หมายความว่าการเลือกซื้อรถยนต์ Hybrid มือสอง เราควรเลือกรุ่นที่ปีไม่ลึกมาก หรือถ้าอยากได้รุ่นที่ราคาดีและเราชอบจริงๆ ก็ต้องดูว่ารถยนต์ Hybrid มือสองรุ่นนั้นๆ แบตเตอรี่ยังอยู่ในระยะประกันหรือเปล่า เพราะสมัยนี้การรับประกันแบตฯ ค่อนข้างมีระยะเวลายาวนาน

อีกอย่างคือดูว่ามีการเปลี่ยนแบตฯ มาแล้วหรือยัง ถ้าหากมีการเปลี่ยนแบตเตอรี่ไฮบริดมาแล้วก็หมดความกังวลไปได้ราวๆ 60% เลย ที่เหลือก็แค่เช็กสภาพรถยนต์และระบบการทำงานเท่านั้นเอง

สิ่งที่กังวลสำหรับคนที่กำลังจะซื้อรถยนต์ Hybrid มือสอง อีกเรื่องคือ เปลี่ยนแบตฯ มาให้แล้วรถจะโอเคไหม ต้องบอกว่าดีเสียด้วยซ้ำไป เพราะแบตฯ มันก็เหมือนอะไหล่ส่วนหนึ่งที่เสื่อมสภาพได้ ถ้าถูกเปลี่ยนใหม่ มันก็ทำให้รถอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ขึ้น ใช้งานได้ยาวนานขึ้น เพราะฉะนั้นถ้าเจอว่ารถ Hybrid มือสอง มีการเปลี่ยนแบตมาแล้วก็หมดกังวลไปได้ส่วนหนึ่งเลย

แนะนำรถยนต์ Hybrid และ Plug-in Hybrid มือสอง ที่น่าสนใจ

แนะนำรถยนต์ Hybrid และ Plug-in Hybrid มือสอง ที่น่าสนใจ

เรามาดูกันว่ามีรถยนต์ Hybrid และ Plug-in Hybrid มือสอง รุ่นไหนที่น่าสนใจ และราคาดีบ้าง โดยเราจะหามาให้ประเภทละ 1 รุ่น มีดังนี้

Mitsubishi Outlander PHEV มือสอง

รถ SUV เราแนะนำ Mitsubishi Outlander PHEV มือสอง

ที่เราแนะนำ Mitsubishi Outlander PHEV เนื่องจากว่าตอนมือหนึ่งนั้นเขามีราคาพุ่งแรงแพงเกือบไปแตะ 2 ล้านบาท แต่สำหรับมือสอง Mitsubishi Outlander PHEV ราคาเริ่มต้นที่ 799,000 บาท เท่านั้น เป็นรถครอบครัวที่มีข้อดีหลากหลาย และขับโคตรดี!

Mitsubishi Outlander PHEV ใช้ขุมพลังที่ทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ MIVEC ขนาด 2.4 ลิตร พละกำลังสูงสุด 128 แรงม้า ที่ 4,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 199 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที

ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า AC Synchronous Permanent Magnetic Motor 2 ตัว ด้านหน้า S61 กำลังสูงสุด 82 แรงม้า 137 นิวตันเมตร และ ด้านหลัง Y61 กำลังสูงสุด 95 แรงม้า 195 นิวตันเมตร

เมื่อเครื่องยนต์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า พละกำลังรวมจะสูงถึง 305 แรงม้า เลยทีเดียว ถือว่าเป็น SUV ที่มีพละกำลังค่อนข้างสูง และยังมาพร้อมแบตเตอรี่ Lithium-ion 300 volts ความจุ 13.8 kWh ขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD ประหยัดน้ำมันเฉลี่ย 10-20 กม./ล. แต่ Mitsubishi เครมว่าประหยัดได้มากถึง 52.6 กม./ล. เลยทีเดียว

อ่านเพิ่มเติม : รีวิว Mitsubishi Outlander ปลั๊กอินไฮบริดหน้าลุง ราคามือสองน่ารัก

Honda City e:HEV มือสอง

รถ Eco Car เราแนะนำ Honda City e:HEV มือสอง

Honda City เป็นรถ Eco Car ที่ได้รับความนิยมในทุกเจเนอเรชัน มาในรุ่นล่าสุด Honda City e:HEV ก็ประหยัดน้ำมันและมีประสิทธิภาพในการขับขี่ที่เหนือระดับขึ้นไปอีก และเป็นรถยนต์คันเล็กรุ่นแรกๆ ในไทยที่มาพร้อมกับระบบ Full Hybrid ใครสนใจ Honda City e:HEV มือสอง ราคาเริ่มต้นเพียง 505,000 บาท เท่านั้น

Honda City e:HEV ใช้เครื่องยนต์รหัส LEB-MMD เบนซิน 4 สูบ Atkinson Cycle ขนาด 1.5 ลิตร พละกำลังสูงสุด 98 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 127 นิวตันเมตร

ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว พละกำลังสูงสุด 109 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 253 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ e-CVT ปล่อย CO2 ที่ 85g./km. แบตเตอรี่ Lithium-ion รองรับน้ำมันสูงสุด E20 อัตราสิ้นเปลือง 27.8 กม./ลิตร ถือว่าประหยัดมาก!

Toyota Corolla Altis HEV มือสอง

รถเก๋ง Sedan เราแนะนำ Toyota Corolla Altis HEV มือสอง

รถเก๋ง Hybrid ที่ประหยัดมากต้องค่าย Toyota เลย เราแนะนำ Toyota Corolla Altis มือสอง ปี 19-24 ที่ราคาเริ่มต้น 389,000 บาท ในรุ่น Hybrid ทำอัตราสิ้นเปลืองได้อยู่ที่ 23 กม./ล. ถือว่าทำได้ดีมากเลยทีเดียว และยังมีข้อดีในเรื่องของการซ่อมบำรุงที่ง่ายดายและราคาอะไหล่ถูกมากด้วย

Toyota Corolla Altis HEV จะใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ รหัส 2ZR-FXE Atkinson cycle ขนาด 1.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 98 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 142 นิวตันเมตร

ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor แรงดันไฟฟ้า 600 โวลต์ ให้กำลังสูงสุด 72 แรงม้า แรงบิด 163 นิวตันเมตร แบตเตอรี่แบบ Nickel metal Hydride (Ni-MH) แรงดันไฟฟ้า 201.6 โวลต์ 28 Modules 6.5 Ah

ซึ่งถ้าหากรวมพละกำลังจากทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าแล้วจะให้กำลังสูงสุดที่ 122 แรงม้า มาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติแบบ E-CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า ก็จะทำใหขับขี่ได้แบบไหลลื่นและประหยัดมากเลยทีเดียวสำหรับรุ่นนี้

แต่ว่าในรุ่น HEV ของ Corolla Altis ปี 19-24 มีรุ่นย่อยที่หลากหลายและหลายราคามาก แบ่งได้ดังนี้

อ่านเพิ่มเติม : 5 เหตุผลที่ Toyota มือสอง Hybrid น่าเล่นกว่ารถ EV ในตอนนี้

Toyota C-HR HEV มือสอง

รถ Crossover SUV เราแนะนำ Toyota C-HR HEV มือสอง

รถยนต์ Crossover SUV ที่ช่วงล่างดีที่สุดอีก 1 รุ่นของ Toyota ขับดีที่สุดและประหยัดน้ำมันที่สุด ได้รับความนิยมในหมู่คนที่ซื้อรถยนต์ Hybrid มือสองมาจนถึงปัจจุบัน คันนี้เลย Toyota C-HR HEV ที่ทำอัตราสิ้นเปลืองในรุ่น HEV ได้ที่ 23.3 กม./ล. และ C-HR มือสอง ราคาเริ่มต้น 419,000 บาท เท่านั้น

Toyota C-HR HEV จะใช้เครื่องยนต์เบนซิน Hybrid รหัส 2ZR-FXE DOHC 4 สูบแถวเรียง DOHC Atkinson cycle 16 วาล์ว VVT-i ขนาด 1.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 98 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 142 นิวตันเมตร

ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor แรงดันไฟฟ้า 600 โวลต์ ให้กำลังสูงสุด 72 แรงม้า แรงบิด 163 นิวตันเมตร แบตเตอรี่แบบ Nickel metal Hydride (Ni-MH) แรงดันไฟฟ้า 201.6 โวลต์ 28 Modules 6.5 Ah

ซึ่งเมื่อรวมพละกำลังจากทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าจะให้กำลังสูงสุดที่ 122 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ แบบ E-CVT รองรับน้ำมันสูงสุด E20 ปล่อย CO2 100 g./km. อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยอยู่ที่ 23.3 กม./ล.

ราคาของ Toyota C-HR HEV มือสอง แบ่งได้เป็นหลายรุ่น โดยมีราคาดังนี้

อ่านเพิ่มเติม : รถ Hybrid มือสอง 5 รุ่น ราคาตก! ถูกกว่าอีโคคาร์ งบ 4 แสนซื้อได้

ทำความเข้าใจเกี่ยวกับรถ HYBRID

ส่วนใหญ่แล้วเรามักจะคิดว่ารถ Hybrid นั้นมีประเภทเดียว แต่ความจริงแล้วรถยนต์ Hybrid แบ่งออกได้มากถึง 4 ประเภท และแน่นอนว่าแต่ละประเภทก็มีความเหมาะสมกับผู้ใช้งานที่ต่างกัน ซึ่ง 4 ประเภทนี้จะประกอบไปด้วย

รถ Hybrid แบบอนุกรม คืออะไร?

รถ Hybrid แบบอนุกรม คืออะไร?

รถ Hybrid ระบบไฮบริดแบบอนุกรม หรือ Series Hybrid จะใช้การขับเคลื่อนหลักจากมอเตอร์ไฟฟ้า โดยจะมีเครื่องยนต์สันดาปทำหน้าที่เป็นตัวปั่นกระแสไฟฟ้าเพื่อนำมาเก็บในตัวแบตเตอรี่และจ่ายกำลังไฟฟ้าไปยังมอเตอร์เพื่อขับเคลื่อน

ข้อดีของระบบ Series Hybrid คือ มันสามารถผลิตและจ่ายไฟฟ้าไปยังมอเตอร์และยังชาร์จไฟแบตเตอรีไปด้วยในตัวด้วย เรียกได้ว่า 1 ถังสามารถวิ่งได้ไกลมาก และยังให้อารมณ์เหมือนกับขับรถยนต์ไฟฟ้าอีกด้วย

รถ Hybrid แบบคู่ขนาน คืออะไร?

รถ Hybrid แบบคู่ขนาน คืออะไร?

รถ Hybrid ระบบไฮบริดแบบคู่ขนาน หรือ Parallel Hybrid เป็นการใช้เครื่องยนต์สันดาปและมอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อเชื่อมกับระบบส่งกำลังและสามารถส่งกำลังให้กับล้อได้โดยตรง โดยระบบจะสลับระหว่างแหล่งพลังงานทั้งสองขึ้นอยู่กับสภาพการขับขี่และความต้องการใช้พลังงานของผู้ใช้งาน

ข้อดีของระบบ Parallel Hybrid คือ ไม่ซับซ้อน เรียกใช้พลังงานได้เยอะ แต่มีข้อด้อยตรงที่ในช่วงชาร์จไฟฟ้าอยู่จะไม่สามารถส่งกำลังไปขับเคลื่อนล้อได้ ความแรงของรถก็จะดรอปลงเลย

รถ Hybrid แบบผสม คืออะไร?

รถ Hybrid แบบผสม คืออะไร?

รถ Hybrid ระบบไฮบริดแบบผสม หรือ Series-Parallel Hybrid ระบบนี้จะรวมข้อดีของไฮบริดแบบอนุกรมและแบบขนานไว้ด้วยกัน ซึ่งช่วยให้เกิดความยืดหยุ่นมากขึ้นในการจ่ายพลังงานและจัดการพลังงาน โดยเราสามารถเลือกได้ว่าจะใช้กำลังจากมอเตอร์อย่างเดียว หรือขับเคลื่อนจากทั้งมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ก็ได้

ข้อดีของระบบ Series-Parallel Hybrid ของระบบนี้สามารถส่งกำลังไปขับเคลื่อนล้อได้ขณะที่เจเนอเรเตอร์สร้างกระแสไฟฟ้าอยู่ ให้ความยืดหยุ่นในการใช้งานที่สูง สามารถจัดการพลังงานได้ดี ฟิลลิ่งในการขับขี่ดี

รถ Hybrid แบบปลั๊กอิน คืออะไร?

รถ Hybrid แบบปลั๊กอิน คืออะไร?

รถ Hybrid แบบปลั๊กอิน หรือ Plug-in Hybrid เรียกง่ายๆ ว่ารถยนต์น้ำมันเสียบปลั๊กชาร์จไฟก็ได้ เป็นรถยนต์ไฮบริดที่มีชุดแบตเตอรี่ขนาดใหญ่กว่ารถไฮบริดทั่วไป จำเป็นต้องมีการชาร์จไฟจากตู้ชาร์จ EV ซึ่งมีระบบรีเจนไฟเข้าแบตเตอรีได้ในขณะที่เรากำลังขับด้วย

ข้อดีของระบบ Plug-in Hybrid คือวิ่งได้ไกลกว่า พละกำลังดีกว่า เลือกรูปแบบการขับขี่ได้ ขับขี่โหมดไฟฟ้าล้วนทางไกลได้ก่อนที่จะสลับมาใช้เครื่องยนต์ จึงช่วยประหยัดน้ำมันได้เยอะ

รถมือสอง one2car

โหลดหรือยัง? แอป one2car - NEXT GEN! CAR APP

  • Smart Search: หารถง่าย ฟังก์ชันครบ ข้อมูลชัด!
  • Qualified Car: รถคุณภาพ ตรวจสภาพแล้ว พร้อมรายงานรถ
  • Most Trusted Seller: คัดผู้ขายให้แล้ว ไม่ต้องกลัวมิจฉาชีพ
  • Hot Deals: พบกับ Big Sale ลดแรงทุกเดือน!
  • My Garage: ระบบผู้จัดการส่วนตัวให้รถคุณ ทุกเรื่องรถ จบในที่เดียว
  • Car Tax Renawal: ต่อภาษีรถยนต์สะดวกกว่าที่เคย ไม่ต้องกลัวลืม
  • Car Price: อยากขายรถแต่ไม่รู้ราคา เช็กเลย! รู้ผลใน 1 นาที ต้องการขายก็ทำได้เลย
  • Car Financing: สินเชื่อรถมือสอง จัดไฟแนนซ์ง่ายกับ Partner ของเรา พร้อมข้อเสนอพิเศษ
  • Car Insurance: เปรียบเทียบเบี้ย ต่อประกันรถยนต์ พร้อมดีลสุดพิเศษจากบริษัทชั้นนำ
  • Extended Warranty: ประกันอะไหล่รถ หมดห่วงเรื่องอะไหล่รถมือสอง
  • one2car Story: คลิปรีวิวรถจากคนขาย คอนเทนต์เกี่ยวกับยานยนต์

Apple Store : https://bit.ly/o2c_apple_store

Google Play Store : https://bit.ly/o2c_Google_Play_Store

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง one2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com


ตารางผ่อน Honda Civic 2024-2025 ปรับโฉมใหม่

ตารางผ่อน Honda Civic 2024-2025 ปรับโฉมใหม่

ราคาและตารางผ่อน
ฮอนด้า เปิดจำหน่าย  ซีวิค ใหม่ อย่างเป็นทางการ อัปลุคความสปอร์ตพรีเมียม พร้อมยกระดับความคุ้มค่าในทุกด้าน ราคาเริ่มต้น 1,039,000 บาทตารางผ่อน Honda ...
การโอนรถ เปลี่ยนเจ้าของ โอนรถข้ามจังหวัด ทำยังไง ใช้อะไรบ้าง 2567

การโอนรถ เปลี่ยนเจ้าของ โอนรถข้ามจังหวัด ทำยังไง ใช้อะไรบ้าง 2567

เรื่องเด่น
การโอนรถ เปลี่ยนเจ้าของ โอนรถมือสอง โอนรถข้ามจังหวัด ทำยังไง ใช้เอกสารอะไรบ้าง มีขั้นตอนอย่างไร ...
รวมค่าจอดรถห้างดังทุกย่านในกรุงเทพฯ อัปเดตปี 2567

รวมค่าจอดรถห้างดังทุกย่านในกรุงเทพฯ อัปเดตปี 2567

เรื่องเด่น
ชาว Shopaholic ทั้งหลาย ถ้าไม่อยากให้ค่าจอดรถบานปลายมารวมตัวกันตรงนี้ one2car อัปเดตค่าที่จอดรถห้างในกรุงเทพฯ ปี 2567 เอาไว้ให้แล้ว มีครบทุกย่าน ...
ฤกษ์ออกรถ ธันวาคม 2567 วันไหนมงคล พารวย เคาะให้แล้ว!

ฤกษ์ออกรถ ธันวาคม 2567 วันไหนมงคล พารวย เคาะให้แล้ว!

เรื่องเด่น
เดือนธันวาคมออกรถวันไหนดี 2567 วันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม 2567 วันจันทร์ที่ 2 ธันวาคม 2567 วันอังคารที่ 3 ธันวาคม 2567 วันพุธที่ 4 ธันวาคม ...
วิเคราะห์เลขทะเบียนรถมงคล ตามวันเกิด ดูดวงทะเบียนรถแม่นที่สุด

วิเคราะห์เลขทะเบียนรถมงคล ตามวันเกิด ดูดวงทะเบียนรถแม่นที่สุด

เรื่องเด่น
วิเคราะห์ เลขทะเบียนรถมงคล 2568 ด้วยตัวเองง่ายๆ ผลรวมเลขทะเบียนรถ เท่าไรถึงจะดี เลขไหนควรมี เลขไหนควรเลี่ยง ตัวอักษรอะไรไม่ควรมีในทะเบียนรถวิเคราะห์ ...
อัปเดต! อบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์ 2568 ทำยังไง ใครอบรมได้ / ไม่ได้

อัปเดต! อบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์ 2568 ทำยังไง ใครอบรมได้ / ไม่ได้

เรื่องเด่น
อบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์ www.dlt-elearning.com ทำยังไง อบรมเสร็จแล้วทําไงต่อ ใบขับขี่หมดอายุเกิน 1 ปีขึ้นไป ...
สีรถถูกโฉลกตามวันเกิด 2568 ออกรถสีอะไรดี ห้ามใช้สีไหนบ้าง

สีรถถูกโฉลกตามวันเกิด 2568 ออกรถสีอะไรดี ห้ามใช้สีไหนบ้าง

เรื่องเด่น
สายมูตัวจริงก่อนจะซื้อรถก็ต้องดู สีรถถูกโฉลกตามวันเกิด 2568 ฤกษ์ออกรถ, เลขทะเบียนมงคล เพื่อเป็นการเพิ่มความสบายใจและเสริมสิริมงคลให้กับตัวเรา ...
ต่อใบขับขี่หมดอายุ ใบขับขี่หาย 2568 ทำยังไง ใช้เอกสารอะไรบ้าง

ต่อใบขับขี่หมดอายุ ใบขับขี่หาย 2568 ทำยังไง ใช้เอกสารอะไรบ้าง

เรื่องเด่น
ต่อใบขับขี่ 2568 ทำยังไง ต่ออายุใบขับขี่ 2 ปี เป็น 5 ปี กับ 5 ปี เป็น 5 ปี ต่างกันตรงไหน ใช้เอกสารอะไรบ้าง ...
วิธีจองคิวทำใบขับขี่ออนไลน์ 2568 ผ่าน DLT Smart Queue

วิธีจองคิวทำใบขับขี่ออนไลน์ 2568 ผ่าน DLT Smart Queue

เรื่องเด่น
อยากต่อใบขับขี่ ไม่ต้องไปต่อคิวยาวเหยียดอีกต่อไป เพราะเขาให้จองคิวทำใบขับขี่ออนไลน์ได้แล้ว ไม่ต้องเสียเวลาทั้งวัน ...