ผู้บริหาร Ford ชี้การใช้ขุมพลัง 4 สูบ เทอร์โบคู่ใน Ranger Raptor คือการตัดสินใจที่ถูกต้อง

การเปิดตัวฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทยไม่เพียงเรียกเสียงฮือฮาในบ้านเรา แต่ยังเป็นที่สนใจในอีกหลายตลาดทั่วโลก โดยเฉพาะขุมพลังขับเคลื่อน

รถกระบะพันธุ์โหดรุ่นนี้มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบคู่ บล็อก 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร รีดพละกำลังถึง 213 แรงม้า แรงบิดมหาศาล 500 นิวตันเมตร ซึ่งเท่ากับเชฟโรเลต โคโลราโด แซดอาร์2 ซึ่งจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีดลูกใหม่เอี่ยม

แต่กระนั้น นักเลงรถกระบะหลายคนมองว่า ฟอร์ดยังสามารถเลือกใช้เครื่องยนต์อีโคบูสต์ 2.3 ลิตรที่วางอยู่ในมัสแตงได้ แต่ฟอร์ดกลับเลือกขุมพลังดีเซลที่มีขนาดเล็กกว่า ปีเตอร์ ฟลีต รองประธานบริหารของฟอร์ด เอเชีย แปซิฟิกเผยว่า การใช้เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบคือการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุด

“เราปรับปรุงเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรรุ่นนี้ให้มีความเหมาะสมที่สุดและเลือกใช้เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีดเพื่อสร้างสมดุลระหว่างสมรรถนะและความทนทาน” ฟลีตกล่าว

“เราอัพเกรดลูกสูบและประสิทธิภาพด้านการควบคุมอุณภูมิของใบเทอร์โบเพื่อให้เครื่องยนต์มีสมรรถนะดีขึ้น เราทำการทดสอบอย่างหนักหน่วงซึ่งรวมถึงการปรับแรงดันเทอร์โบสูงสุด และการทดสอบท่ามกลางสภาพอาการร้อนจัดและเย็นจัด ซึ่งประสบความสำเร็จด้วยดี” ผู้บริหารของค่ายรถยักษ์อเมริกันกล่าวเพิ่มเติม

ฟลีตระบุด้วยว่า เรนเจอร์ แร็พเตอร์มีการตอบสนองต่อคันเร่งที่เฉียบคมมาก พร้อมกับแย้มว่าเครื่องยนต์รุ่นนี้มีศักยภาพสูงมากและยังสามารถรองรับปรับจูนเพิ่มเติมเพื่อรีดแรงม้าและแรงบิดได้อีกด้วย ฟังแล้วก็แอบลุ้นว่าฟอร์ดจะมีปล่อยทีเด็ดอัพเรี่ยวแรงเพิ่มเติมอีกในอนาคตหรือไม่

ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่