ประเทศที่ใช้รถเยอะเบอร์นี้ การจราจร ของเขาจะเป็นยังไงนะ?

ว่ากันว่า ประเทศที่ตลาดการซื้อขายรถกว้าง มีคนซื้อรถจำนวนมากและคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ การจราจร ย่ำแย่ เกิดปัญหารถติด ต่างจากประเทศเหล่านี้เพราะต่อให้เป็นประเทศที่มีอัตราซื้อขายรถสูง แต่กลับไม่ประสบปัญหารถติดเลย

ประเทศที่ตลาดซื้อขายรถคึกคัก ทุกบ้านต้องมีรถ

ขอบคุณภาพจาก : deborahguber.com

• Italy

สาธารณรัฐอิตาลี เป็นประเทศในทวีปยุโรป อยู่บริเวณยุโรปทางตอนใต้ ตั้งอยู่ในคาบสมุทรอิตาลี มีเนื่อที่ 301,338 ตร.กม. จำนวนประชากรอยู่ที่ 60,665,551 คน

ด้วยความที่เป็นประเทศทางเศรษฐกิจ ผู้คนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้มีจำนวนผู้ใช้รถอยู่ประมณ 620 คัน ต่อ ประชากร 1,000 คน ซึ่งถือว่าเยอะมากเลยนะคะ

• Iceland

ประเทศไอซ์แลนด์ เป็นประเทศนอร์ดิกในยุโรปเหนือ ตั้งอยู่บนเกาะในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ระหว่างกรีนเเลนด์ นอร์เวย์ และสหราชอาณาจักร ไอซ์แลนด์มีจำนวนประชากรประมาณ 300,000 คน มีพื้นที่ 102,775 ตร.กม.

ทำให้จำนวนผู้ใช้รถของประเทศไอซ์แลนด์ ประมาณ 646 คัน ต่อจำนวนประชากร 1,000 คน

ขอบคุณภาพจาก : we12travel.com

• San Marino

สาธารณรัฐซานมาริโน ประเทศเล็กๆ ที่อยู่ทางยุโรปตอนใต้บนเทือกเขาแอเพนไนน์ ล้อมรอบด้วยประเทศอิตาลี มีพื้นที่เพียงแค่ 61.2 ตร.กม. และมีประชากรอยู่ประมาณ 34,000 คนเท่านั้น แต่กลับมีจำนวนการใช้รถยนต์สูงถึง 1,139 คัน

• Monaco

ราชรัฐโมนาโก เป็นนครรัฐในยุโรปทางตะวันตก ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศสติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มีพื้นที่เพียง 1.95 ตร.กม. และมีจำนวนผู้อยู่อาศัยประมาณ 38,000 คน

ในส่วนตลาดการซื้อขายรถของประเทศนี้ อยู่ที่ 729 คัน ต่อประชากร 1,000 คน ด้วยขนาดพื้นที่ของประเทศที่เล็ก และจำนวนประชากรที่อาศัยไม่ได้มาก ทำให้ราชรัฐโมนาโก เป็นประเทศที่มีคนใช้รถมากที่สุดในโลก

ประเทศที่ใช้รถเยอะเบอร์นี้ การจราจร ของเขาจะเป็นอย่างไร

เรามักจะเคยเห็น ผลสำรวจประเทศที่รถติดมากที่สุดในโลกกันใช่ไหมคะ  อย่างเช่น United Kingdom, Brazil, United State และที่ขาดไม่ได้เลย Thailand !

ทั้งนี้ประเทศที่ประสบปัญหารถติด ก็ไม่ได้ถูกจัดอันดับว่า เป็นประเทศที่ใช้รถเยอะที่สุด แต่ก็ยังเจอปัญหารถติดอยู่ดี แล้วแบบนี้ประเทศที่ใช้รถเยอะ แต่ไม่ติดอันดับสภาพการจราจรย่ำแย่ เขามีวิธีจัดการอย่างไร เราไปดูกันค่ะ

ขอบคุณภาพจาก : deviantart.com

• Italy

ด้วยขนาดประเทศที่เล็ก ระบบขนส่งที่หน่วยงานของประเทศอิตาลีได้จัดเอาไว้มีทั้ง รถประจำทาง และรถไฟใต้ดิน ครอบคลุมทั่วเมือง โดยราคาตั๋วรถประจำทางอยู่ที่ €1 ถึง €2 ส่วนรถไฟใต้ดินจะอยู่ที่ €50 และ €110 ตกใจราคาค่าโดยสารใช่ไหมคะ

เเต่สวัสดิการ ค่าครองชีพอิตาลีอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ค่าโดยสารเท่านี้ไม่เดือดร้อนเงินในกระเป๋าคนอิตาลีค่ะ แถมประเทศอิตาลียังเป็นต้นกำเนิด Vespa คนอิตาลีเลยนิยมใช้ Vespa ในการเดินทางเช่นกัน ทำให้ลดปัญหาการจราจรลงไป

• Iceland

เนื่องจากประเทศไอซ์แลนด์มีถนนที่ใช้ในการสัญจรขนาดเล็ก มีพื้นที่สำหรับจอดรถอยู่มาก ทำให้ไม่เจอปัญหาการจราจรติดขัด รวมถึงประเทศไอซ์แลนด์เป็นประเทศเล็กๆ เงียบสงบ

แถมระบบขนส่งท้องถิ่นก็มีให้บริการ ไม่ว่าจะเป็นเมืองหลวง ชานเมือง ระบบขนส่งสามารถเข้าถึงได้ทุกซอกทุกมุม

ขอบคุณภาพจาก : cityoutmonaco.com

• San Marino

เมืองนี้มีขนาดเล็ก ทำให้ขนาดถนนมีขนาดเล็กตามไปด้วย แต่ก็ไม่ใช้อุปสรรคในการไปไหนมาไหน เพราะที่นี่มีระบบขนส่งสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นแท็กซี่ที่ให้บริการ หรือแม้กระทั่งรถโดยสารประจำทางที่ให้บริการระหว่างเมือง San Marino ไปเมือง Rimini

นอกจากรถโดยสารแล้ว ที่เมือง San Marino ยังมีบริการรถรางภายในเมือง และด้วยเมืองนี้เป็นเมืองที่มีพื้นที่ทั้งที่ราบและเนินสูง ทำให้ทางการมีบริการกระเช้า เพื่อง่ายต่อการไปไหนมาไหนค่ะ

• Monaco

อีกเมืองแห่งความสงบอย่างโมนาโก ถึงแม้เส้นทางการจราจรจะเล็ก มีคนใช้รถเป็นจำนวนมาก แต่ก็ไม่ละทิ้งผู้ที่ขับรถไม่เป็นนะคะ เพราะที่นี่มีรถโดยสารสาธารณะ ทั้ง 6 เส้นทาง ที่กระจายทั่วทั้งเมือง ซึ่งราคาแต่ละเที่ยวตกอยู่ €2

นอกจากนี้ถ้าใครอยากเดินทางไปเมืองอื่นๆ ก็มีบริการขนส่งสาธารณะอย่างรถไฟ ที่เกิดจากการร่วมมือของสหภาพยุโรปกันค่ะ

จากที่ยกตัวอย่างทั้ง 5 เมือง ล้วนอยู่ในทวีปยุโรปทั้งสิ้น ด้วยความที่เป็นสหภาพยุโรป ทำให้การเดินทางไปไหนมาไหนค่อนข้างสะดวก มีระบบขนส่งมวลชนเข้าถึงทุกสถานที่

อีกทั้งประเทศในยุโรปมีนโยบาย ยืมรถ หรือนำรถไปส่งอีกเมือง โดยเราจะทำหน้าที่เหมือนพนักงานส่งรถ แต่เป็นการส่งรถที่เราได้ไปยังจุดหมายที่เราต้องการไปค่ะ แถมเสียเงินนิดเดียว เผลอๆ ถูกกว่าค่าน้ำมันอีกค่ะ

หรือแม้กระทั่งมีแอปพลิเคชั่น ที่ให้ผู้ใช้รถลงทะเบียน บอกจุดหมายปลายทางของคุณ หากผู้ใช้คนอื่นต้องการไปทางเดียวกับคุณก็สามารถขอขึ้นรถไปทางเดียวกับเราได้

ซึ่งนโยบายและการจัดการเหล่านี้ ทำให้สภาพการจราจรของทั้ง 5 ประเทศ แทบจะไม่มีปัญหาการจราจร หากเมืองไทยอยากลดปัญหาการจราจรติดขัด ก็ลองนำนโยบาย หรือการจัดการระบบขนส่งมาปรับและแก้ไข ให้การสัญจรสะดวกยิ่งขึ้น เพราะถ้ารถสาธารณะมีสภาพดี ราคาถูก แถมช่วยประหยัดเวลาหาที่จอดรถได้ ใครจะไม่อยากใช้บริการล่ะคะ? 

เช็คราคารถใหม่ และโปรโมชั่น ได้ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
มาร่วมแชร์ความเห็นของคุณบนเวบบอร์ด Autospinn คลิกที่นี