ยางรถยนต์เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญต่อตัวรถอย่างมาก ซึ่งปริมาณของลมที่อยู่ภายในตัวยางนั้นเป็นสิ่งที่ควรใส่ใจให้ดี เพราะถ้าหากปริมาณของลมมีมากหรือน้อยเกินไปอาจส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้นั่นเอง
บทความนี้ one2car จึงมาชี้แจงให้ทราบว่าเราควรเติมลมยางรถยนต์เท่าไหร่จึงจะพอดี? ควรเติมบ่อยแค่ไหน และมีวิธีเช็กลมยางอย่างไรได้บ้าง หาคำตอบได้ที่บทความนี้เลย!
เติมลมยางรถยนต์เท่าไหร่ดี
รถยนต์แต่ละคันนั้นมีปริมาณการเติมลมยางที่แตกต่างกันออกไป โดยปริมาณที่เหมาะสมสำหรับรถแต่ละแบบนั้น จะมีด้วยกันดังนี้
- เติมลมรถเก๋ง หรือรถขนาดเล็ก : ควรเติมที่ 30-32 PSI
- วิธีเติมลมยางรถยนต์ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่: ควรเติมแรงดันลมยางที่ 30-35 PSI
- เติมลมรถ 7 ที่นั่ง : ควรเติมแรงดันลมยางที่ 30-36 PSI ถ้านั่งเต็มคันหรือรรทุกของหนักควรเติมมากกว่านี้หน่อย
- วิธีเติมลมยางรถกระบะ : สำหรับล้อหน้าควรเติมแรงดันลมที่ประมาณ 36-38 PSI และล้อหลังที่ 40-42 PSI แต่ถ้าหากบรรทุกของเต็มกระบะหลัง สามารถเพิ่มเติมแรงดันลมได้มากถึง 47-51 PSI เพื่อรองรับน้ำหนักที่มากขึ้น
- เติมลมรถตู้ : ควรเติมที่ 40-46 PSI
คุณสามารถเติมลมยางรถยนต์มากกว่าที่ทางเราแนะนำ 2-3 PSI ได้ตามความเหมาะสมถ้าหากว่ารถของคุณต้องขนสัมภาระเป็นจำนวนมาก หรือต้องเดินทางไกล และถ้าอยากรู้ว่าเติมลมแบบไหนดีกว่า แนะนำให้อ่าน เติมลมไนโตรเจน VS เติมลมธรรมดา มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร
วิธีดูปริมาณลมยางรถยนต์ ที่เหมาะกับรถของเรามากที่สุด
หากคุณต้องการทราบแบบเป๊ะๆ ว่ารถยนต์ของคุณควรเติมลมยางเท่าไรถึงจะดีที่สุด ให้คุณสังเกตที่ด้านข้างของประตูฝั่งคนขับจะมีสติกเกอร์แสดงแรงดันลมที่เหมาะสมแปะเอาไว้ ซึ่งสามารถเติมตามที่สติกเกอร์แจ้งเอาไว้ก็ได้เช่นกัน
ควรลมยางรถยนต์ควรเติมบ่อยแค่ไหน?
โดยปกติแล้ว แรงดันยางจะลดลงเฉลี่ยเดือนละ 2-3 PSI จึงแนะนำว่าเติมลมยางรถยนต์เฉลี่ยเดือนละครั้ง แต่ถ้าหากไม่ค่อยได้ใช้งานรถยนต์บ่อยมากนัก อาจจะเว้นช่วงเป็น 2 เดือนครั้งก็ได้ แต่ one2car แนะนำว่าให้เช็กลมยางทุกๆ เดือนจะดีที่สุด เพราะรถที่จอดทิ้งไว้เฉย ๆ มีโอกาสที่ยางจะแบน
วิธีเช็กลมยางรถยนต์ต้องทำอย่างไร?
หลายๆ คนอาจจะคิดว่าการเช็กลมยางเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก แต่จริงๆ แล้วสามารถทำได้ง่ายแถมใช้เวลาน้อยมากๆ จึงขอแนะนำให้พยายามเช็กทุกๆ เดือนเพื่อสุขภาพของยาง และป้องกันการเกิดอุบัติเหตุอีกด้วย!
- หมุนจุกยางล้อออก
- เสียบเกจ์วัดความดันเข้าไป โดยเกจ์จะแสดงผลค่า PSI ออกมาให้เราได้ทราบ หากค่าความดันน้อยกว่าที่เราได้แนะนำ ก็สามารถทำการเติมเพิ่มได้เลย
ข้อแนะนำ: การวัดความดันลมยางนั้นควรทำในขณะที่ยางเย็นอยู่เพื่อให้ค่าความดันที่ออกมานั้นตรงที่สุด หมายความว่าเราควรเช็กความดันก่อนที่จะออกเดินทางนั่นเอง
***สำหรับใครที่กำลังจะหาซื้อเกจ์วัดลมยางเป็นของตัวเอง เราขอแนะนำวิธีการเลือกซื้อเกจ์วัดลมยางจากบทความ >>> จบทุกปัญหา ยางอ่อน ยางรั่ว! เลือกเกจ์วัดลมยางแบบไหนดีนะ?
เติมลมยางรถยนต์ไม่พอดี จะมีผลกระทบอย่างไรบ้าง
อย่างที่ได้บอกไปว่าการเติมลมยางที่ไม่ถูกต้องนั้นสร้างความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ แต่จะเกิดได้อย่างไรนั้น มาดูเหตุผลตามนี้เลย!
เติมลมยางรถยนต์ “มากเกินไป” มีข้อเสียอะไรบ้าง
หากเติมลมยางรถยนต์มากจนเกินไป จะทำให้ยางตึงจนประสิทธิภาพในการยึดเกาะกับถนนลดลง อาจทำให้รถเบรกไม่อยู่หรือเกิดลื่นไถลเอาได้ง่ายๆ โดยเฉพาะในวันฝนตกถนนเปียกก็ยิ่งอันตราย
นอกจากนี้ หากขับรถตกหลุมและล้อกระแทกแล้วล่ะก็ อาจทำให้ยางระเบิดได้เช่นกัน จึงต้องระวังให้มากๆ เลยทีเดียว
เติมลมยางรถยนต์ “น้อยเกินไป” จะเกิดอะไรขึ้น
หากเติมลมยางรถยนต์น้อยเกินไป จะส่งผลให้ตัวยางนั้นย้วยและเสียดสีกับท้องถนนมากเกินกว่าที่จำเป็น ส่งผลให้ตัวยางเสื่อมสภาพเร็ว กินน้ำมัน อีกทั้งยังมีโอกาสยางแตกได้ง่ายๆ อีกด้วย
สรุป
เท่านี้ทุกคนก็น่าจะได้ทราบกันแล้วว่าการเติมลมยางรถยนต์ให้ถูกต้องนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญขนาดไหน นอกจากนี้ราคาของยางเส้นนึงก็แพงไม่ใช่เล่น ซึ่งวิธีนี้จะช่วยรักษาคุณภาพและอายุการใช้งานของยางเอาไว้ให้ใช้งานได้นานๆ อีกด้วย!
อ่านเพิ่มเติม รถแต่ละประเภท ต้องเติมลมยางเท่าไหร่
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ข่าวฟีเจอร์
![[VDO] ความเหมือนที่แตกต่าง ระหว่าง Ford Ranger Wildtrak และ Ford Ranger Raptor](https://i.ytimg.com/vi/_FK9a6laWEU/mqdefault.jpg)
[VDO] ความเหมือนที่แตกต่าง ระหว่าง Ford Ranger Wildtrak และ Ford Ranger Raptor
วีดีโอ
รถยนต์ซีดาน มือสอง รุ่นไหนดี ควรค่าแก่การซื้อที่สุด (2566)
ข่าววงการรถยนต์